มาร์คัสเดินลงมาทานอาหารในช่วงบ่ายของวันด้วยชุดเสื้อโปโลสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงผ้าเนื้อดีสีดำสนิทซึ่งเป็นชุดลำลองง่าย ๆ ในวันสบาย
นัยน์ตาคมมองไปยังผนังกระจกที่กั้นระหว่างห้องโถงโอ่อ่ากับห้องรับประทานอาหารซึ่งเป็นจุดที่เขาได้แทรกเข้าไปในร่องอ่อนนุ่มของหญิงสาวคนหนึ่ง ทั้งที่เขาควรจะได้เจอเธอหลังจากวันนั้น แต่มาร์คัสก็ต้องยืดเวลาออกไปเป็นสัปดาห์เพราะงานด่วนทำให้เขาต้องเดินทางไปต่างประเทศ
มาร์คัสกวาดตามองรอบห้องอาหารแต่ไม่ยักจะเจอคนที่ต้องการ จะว่าไปเขาก็ไม่เคยเห็นเธอในเรือนใหญ่เลยสักครั้ง
“ป้าแก้ว”
“ค่ะนายท่าน”
“บอกสาวใช้ที่ชื่อนินเอาของว่างขึ้นไปให้ฉันที่ห้องทำงานด้วย”
“นินหรือคะ”
“ใช่ มีอะไรหรือเปล่า”
ลางสังหรณ์ไม่ดีคืบคลานเข้ามาในใจ ทั้งที่แก้วใจพยายามกันคนที่เปรียบเสมือนหลานสาวออกห่างจากผู้เป็นนาย แต่ทำไมนายท่านมาร์คัสถึงได้เรียกหาหลานเธอ
แก้วใจทำงานที่คฤหาสน์นี้มาหลายสิบปีเธอจึงรู้จักนิสัยของเจ้านายเป็นอย่างดี ถ้ามาร์คัสถูกใจไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะยอมปล่อยไปง่าย ๆ และเธอก็มั่นใจว่ารูปร่างหน้าตาของญานินต้องเป็นที่เตะตาต้องใจผู้เป็นนายอย่างแน่นอน
“ปะ...เปล่าค่ะ”
“นายท่านมีอะไรเรียกใช้ธิดาได้เลยนะคะ” ธิดาเสนอตัวเธออยากอยู่ใกล้ชิดผู้เป็นนาย นั่นก็เพราะเธออยากถวายตัวให้เขายังไงล่ะ
“อยากรับใช้ฉันเหรอ”
“ค่ะ ไม่ว่านายท่านต้องการอะไรธิดาก็สามารถทำได้ทุกอย่างเลยนะคะ” ธิดาไม่พูดเปล่า เธอส่งยิ้มเย้ายวนไปให้อีกคนอย่างสื่อความหมาย
“ถ้ามีอะไรฉันจะเรียกแล้วกัน” มาร์คัสไม่คิดให้ความหวัง เขาได้รับสายตาแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนจึงเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการเป็นอย่างดี แต่ตอนนี้เขามีสิ่งที่อยากลิ้มลองมากกว่า
รสชาติหวานหอมและกลิ่นกายไร้เดียงสาจนอยากทำให้แปดเปื้อนนั่นแหละคือสิ่งที่มาร์คัสกำลังตามหาอยู่...
หลังจากช่วยงานที่ครัวเสร็จญานินก็พอมีเวลาว่างเล็กน้อย เธอหยิบเอาหนังสือเรียนระดับมัธยมปลายที่ยืมจากบัวสาวใช้ที่สนิทกันมาอ่านใต้ร่มไม้ใหญ่ข้างหลังเรือนใหญ่ ญานินตั้งใจจะเรียนกศน.เพราะความฝันของเธอคือการได้ใบปริญญามาให้ยายผู้ล่วงลับไปแล้ว
ยายปลูกฝังและพูดตลอดว่าอยากให้ญานินได้รับการศึกษาเหมือนเด็กคนอื่น ยายทำงานหนักเพื่อส่งเธอเรียน กระทั่งจบมัธยมศึกษาชั้นปีที่สามท่านก็ล้มหมอนนอนเสื่อ เธอจึงเลือกที่จะไม่เรียนต่อแล้วเอาเวลาทั้งหมดมาทำงานหาเงินซื้อข้าวซื้อยารักษาผู้เป็นยาย และก่อนที่ท่านจะสิ้นลมก็ยังคงพร่ำบอกให้ญานินใช้ชีวิตเพื่อตัวเองและมีอนาคตที่ดี
“นิน”
“จ๋าป้า”
“คุณท่านเรียก”
“จ๊ะ ? หนูเข้าไปในเรือนใหญ่ได้แล้วหรือจ๊ะ”
“อือ เอาของว่างไปด้วย รีบไปอย่างให้นายท่านรอนาน” ป้าแก้วพูดแค่นั้นก่อนจะเดินนำออกไป
ญานินเดินตามหลังหญิงวัยกลางคน ใจที่เริ่มสงบลงจากเหตุการณ์สุดสยิววันนั้นเปลี่ยนเป็นร้อนรน จากวันนั้นก็ผ่านมากว่าสัปดาห์แล้วญานินจึงเบาใจ อีกทั้งชายที่เจอกันก็ดูไม่ใช่คนขี้ฟ้องทว่าการที่จู่ ๆ นายท่านเรียกหาเธอทำให้ญานินอดกลัวไม่ได้
เธอถือถาดที่มีชาร้อนและผลไม้ไม่กี่ชิ้นไว้ในมือ แต่ไม่ทันจะได้เดินออกไปก็ได้รับสายตาไม่พอใจจากธิดาที่มักจะเขม่นเธออยู่บ่อย ๆ ญานินทำเป็นไม่สนใจเพราะรู้ว่าหญิงสาวไม่ใคร่จะชอบตนอยู่แล้ว
“ให้ฉันเอาขึ้นไปไม่ดีกว่าหรือป้า” ธิดาก็เป็นอีกคนที่ไม่ต้องการให้ญานินได้พบเจอกับนายท่าน เพราะใบหน้าและผิวพรรณที่ต่างจากคนชนชั้นเดียวกันทำให้เธอกลัวว่าตำแหน่งที่ถวิลหาจะตกไปอยู่ในมือคนอื่น
“นายท่านไม่ได้ใช้เอ็ง ส่วนนินเอาเข้าไปให้แล้วก็รีบลงมา อย่าลีลาอยู่ในนั้นเข้าใจไหม” ป้าแก้วย้ำอีกรอบ
“เข้าใจจ้ะ”
ญานินสูดลมหายใจเพื่อให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะตรงขึ้นไปยังห้องทำงานที่ป้าแก้วบอกก่อนหน้านี้
ก๊อก ๆ
“เข้ามา” เสียงเข้มที่อยู่อีกฝั่งของประตูทำคนตัวเล็กรู้สึกหวิวในใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เธอก็ระงับความตื่นเต้นก่อนจะหมุนลูกบิดเข้าไปด้านใน
โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง ด้านหลังคือชั้นหนังสือหลายเล่ม ทางฝั่งด้านขวาของห้องคือผนังสีครีมเช่นเดียวกับส่วนอื่นของบ้าน ส่วนด้านซ้ายคือบานเลื่อนกระจกความสูงตั้งแต่ฝ้าจรดพื้นที่มองเห็นสวนสไตล์อังกฤษที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
“ของว่างจ้ะ” ญานินวางถาดลงบนโต๊ะแผ่วเบา เธอลอบมองคนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไร ญานินจึงโค้งศีรษะให้ผู้เป็นเจ้านายก่อนจะเดินถอยหลังออกมาแต่ไม่ทันจะได้หมุนตัวออกจากห้องเสียงของคนด้านหลังก็เอ่ยรั้งกันไว้ก่อน
“เดี๋ยว”
“...” ขาเรียวชะงักทันที คิ้วสวยขมวดมุ่นเพราะรู้สึกว่าเสียงที่ได้ยินมันคุ้นหูชอบกล
“เงยหน้าขึ้นสิ”
“...” ญานินทำตามที่อีกคนบอก และเมื่อได้สบกับนัยน์ตาสีอ่อนร่างเล็กก็แข็งทื่อ !
“จำฉันไม่ได้เหรอ”
“...”
“น่าหงุดหงิดชะมัด”
“นะ...นายท่าน หนูขอโทษ” ร่างเล็กคุกเข่าลงทันที เพราะคนตรงหน้าคือชายที่ทำให้เธอกระสับกระส่ายเพราะความวาบหวิวตลอดหลายคืน!!
และที่อีกฝ่ายเรียกเธอมาคงไม่พ้นเรื่องที่เธอขโมยของ เมื่อหลักฐานมัดตัวญานินจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาสำนึกผิด
“หนูขอโทษค่ะ นายท่านอย่าไล่หนูออกเลยนะคะ”
“ลุกขึ้น”
“...”
“ฉันไม่ชอบเด็กดื้อ”
ญานินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหนึ่งร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตรของตัวเอง แต่มิวายก้มหน้าก้มตาอยู่เหมือนเดิม
นัยน์ตาคมจับจ้องดวงหน้าหวาน เมื่อได้เห็นเต็มสองตาและแสงสว่างเพียงพอคนตรงหน้าสวยกว่าที่จินตนาการเสียอีก ปากหยักยกยิ้มพอใจเมื่อมีของดีอยู่ใกล้ตัว
“อย่าไล่หนูออกเลยนะคะ”
“ฉันบอกเหรอว่าจะไล่ออก เงยหน้า”
“จะไม่ไล่หนูออกจริง ๆ นะคะ”
“อื้ม ถ้าเธอยอมช่วยอะไรฉันสักอย่าง”
“หนูช่วยได้หมดเลยจ้ะ”
ญานินตอบอย่างกระตือรือร้น แม้เธอจะเป็นเพียงสาวใช้ แต่เงินเดือนและสวัสดิการของคฤหาสน์แห่งนี้ดีกว่าบางบริษัทเสียอีก และยังมีวันลาหยุดเพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัวด้วย แม้เธอจะไม่มีครอบครัวให้กลับไปหาก็เถอะ
และเพียงญานินเงยหน้าประสานสายตาอีกฝ่ายก็นึกขึ้นได้ว่าเรื่องน่าอายไม่ได้มีแค่นี้ !!
ดวงหน้าหวานแดงเถือกในเสี้ยววินาที ญานินเม้มปากแน่น สองมือประสานกันไว้ตรงหน้า และขาเรียวที่หนีบเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว
“มาตรงนี้ ได้ยินป้าแก้วบอกว่านวดเก่ง”
“จ้ะ”
“มานวดให้ฉันหน่อย”
“ขออนุญาตนะจ๊ะ” ในเมื่อเขาไม่พูดเรื่องน่าอายญานินก็แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่ามันจะเสียวกระสันจนยากที่จะลืมเลือน...
มือเล็กวางบนบ่ากว้างทั้งที่ยังสั่นเทา ก่อนจะค่อย ๆ ออกแรงนวด เมื่ออีกฝ่ายใจดีไม่ไล่เธอออกญานินก็อยากทำให้ดีที่สุด
“นมเธอจะชนหน้าฉันแล้วนะ”
“นะ...หนูขอโทษจ้ะ”
ญานินขอโทษเสียงเลิ่กลั่กเพราะเมื่อกี้ตั้งใจเกินไปจึงไม่ทันระวังตัว ร่างเล็กถอยห่างหลายก้าวขณะที่ดวงหน้ายังก้มงุดอย่างอับอาย แต่เมื่อหลุบตามองด้านล่างกลับเป็นเธอที่ต้องตระหนกมากกว่าเดิม เพราะนายท่านมาร์คัสสวมใส่เพียงกางเกงวอร์ม ทำให้เธอเห็นลำเอ็นใหญ่ที่กำลังขยายตัวอย่างชัดเจน
“ต่อไปเธอต้องนวดให้ฉันทุกวันทั้งเช้าเย็น”
“แต่ว่า-” ญานินอยากขัดเพราะป้าแก้วบอกไม่ให้เธอขึ้นมาบนนี้ มาร์คัสมองสีหน้าลำบากใจอย่างสงสัยแต่ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องสนใจ
“หรือจะให้ฉันแจ้งตำรวจ” ญานินส่ายหัวจนเส้นผมสะบัดก่อนจะตอบรับหน้าที่พิเศษอย่างจำยอม
“ดีมาก ออกไปได้แล้ว” เสียงเข้มพูดแค่นั้นญานินก็กลับออกไป
เมื่อไร้ร่างบางชายหนุ่มก็หลุบมองเป้ากางเกงตุง ก่อนจะปลดเปลื้องอารมณ์ในตอนกลางวันแสก ๆ ...