ตอนที่ 3

3890 Words
“เขาว่ายังไงบ้าง” “ตามที่พี่แววบอกว่าคุณนภารับโทรศัพท์แล้วรีบออกไปจากบ้านเพราะมีคนส่งภาพคุณกายกับคุณพอลลีนมาให้ครับ ตอนนี้ทางตำรวจเขากู้ไฟล์ภาพในโทรศัพท์ของคุณนภาได้แล้ครับ” มนัสบอกเจ้านายที่เงียบไปแล้วส่งภาพที่เขาปริ้น ภาพออกมาให้เจ้านายดู “แล้วใครเป็นคนส่ง” อชิระขบกรามแน่นมองภาพของเขาที่มีตั้งแต่ติดต่องานกับพอลลีน มิน่าล่ะระยะหลังมานี้ภรรยาของเขาออกอาการหึงหวงเขาอย่างไม่รู้สาเหตุทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากไปทำงานเพราะเรื่องนี้เองเหรอ “ตามไม่ได้ครับเพราะคนส่งใช้ซิมครั้งเดียวแล้วทิ้งครับ ทางตำรวจพยายามตามหาอยู่ครับ” มนัสบอกเจ้านายตอนนี้ข้อมูลการเสียชีวิตของโสภิตนภาที่ทุกคนรู้คือเกิดอุบัติเหตุและเธอกำลังจะไปหาสามีเท่านั้น “นายไปบอกตำรวจว่าหาตัวคนส่งภาพให้เจอฉันจ่ายไม่อั้นถึงกฎหมายจะทำอะไรมันไม่ได้แต่ฉันจะจัดการมันเอง” อชิระพูดด้วยความเจ็บแค้น เขาคิดได้แค่คนเดียวว่าต้องเป็นพอลลีนเพราะมีภาพของเขากับเธอแต่ภาพที่นอนด้วยนั้นเป็นภาพตัดต่อเพราะอย่างนี้ภรรยาของเขาถึงได้รีบร้อนออกจากบ้านจนเกิดอุบัติเหตุ “ครับคุณกาย ตอนนี้ผมให้นักสืบเขาติดตามคุณพอลลีนกับเลขาทั้งสองอยู่ครับ” มนัสรายงานเจ้านายเพราะเขาทำไปแล้วโดยที่เจ้านายไม่ได้สั่ง “ขอบใจมากมนัส นายจัดการไปเลยมีทางไหนพอจะได้เรื่องเร็วฉันจ่ายไม่อั้นเพื่อคนที่ฉันรัก” อชิระบอกเลขาส่วนตัวที่ทำงานกับเขามาตั้งแต่กลับมาเริ่มทำงานและรู้ใจเขาดี “ครับคุณกาย งั้นผมขอตัวนะครับ อ้อ คืนนี้มีงานเลี้ยงของบริษัทเอสซีเอสคุณกายจะไปร่วมงานมั้ยครับ” มนัสถามเจ้านายตั้งแต่ภรรยาเสียยังไม่เคยออกงาน “นายเอากระเช้าไปแสดงความยินดีให้หน่อยละกันเจ้าของงานเขาคงเข้าใจ” เขาไม่มีกระจิตกระใจจะออกไปไหนตั้งแต่ภรรยาจากไปเขาทำงานเสร็จก็รีบกลับบ้านเพื่อไปดูแลลูกชายที่ตอนนี้ยังไม่รู้เรื่องเลยว่าแม่จากไปแล้ว “ครับคุณกาย” มนัสรับคำสั่งเจ้านายแล้วออกไปทำงานต่อ อชิระเลิกงานสี่โมงครึ่งชายหนุ่มก็กลับบ้านตามปกติไม่ได้แวะไปไหนเพราะอยากดูแลลูกชายด้วยตัวเอง “ตู้ดดๆ ตู้ดดๆๆ.” “ว่าไงเชน” ร่างสูงเอนตัวพิงเบาะเมื่อนายทองสุกเปิดประตูรถให้ “แกโอเคนะกาย” รามันฉายาหนุ่มตี๋อินเตอร์จบปริญญาโทจากอังกฤษเหมือนอชิระแต่เรียนคนละมหาลัยและพวกเขาเรียนที่วิทยาลัยอีตันเป็นโรงเรียนชายล้วนมาด้วยกันจนจบเกรดสิบสองและเป็นทายาทนักธุรกิจบริษัทผู้ผลิตเครื่องหนังนำเข้าและส่งออก “ฮืม,ขอบใจมากเพื่อน” “แล้วเรื่องอุบัติเหตุล่ะไปถึงไหนแล้ว มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะเพื่อนพวกฉันเต็มใจหลายหัวดีกว่าหัวเดียวนะ” ราเชนบอกเพื่อนรัก “ได้เพื่อน ขอบใจแกอีกครั้งนะเชน” “ไม่เป็นไรน่าแก เพื่อนกันก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว” อชิระคุยกับรามันเสร็จก็บอกคนขับรถให้กลับบ้านเลยเมื่อถึงบ้านก็เห็นลูกชายเล่นเตะบอลกับน้องชายน้องสาวและพี่เลี้ยงที่สนามหน้าบ้าน “ปะป๊าใครมาน้า” อัสมา ธนวัชรกุล หรืออาเกลของอีตั้นน้องสาวคนเล็กวัย 28 ปีของอชิระถามหลานชายเมื่อพี่ชายลงจากรถแล้วเดินมาหาลูกชาย “ปะ ปะ” เด็กน้อยเรียกพ่อด้วยความดีใจจึงทิ้งลูกบอลวิ่งตุ๊บปัดตุ๊บเป๋ไปหาอย่างรวดเร็ว “อีตั้นระวังหน่อยสิครับลูก” อชิระก้าวขายาวๆไม่กี่ก้าวก็ยกตัวลูกชายชูขึ้นแล้วเหวี่ยงไปรอบๆเสียงหัวเราะชอบใจดังกังวานทำให้ทุกคนยิ้มเศร้าๆ “เด็กเอ๋ยเด็กน้อยของอาเกล” คนเป็นอารำพึงเบาๆด้วยความสงสารหลานชายที่กำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเล็ก “ยัยเกลแกอย่าทำหน้าเศร้าให้พี่กายเห็นสิ” อธิคุณ ธนวัชรกุล หรืออาก็อตน้องชายคนรองวัย30ปีบอกน้องสาวเบาๆ “ค่ะพี่ก็อต” อัสมาตอบเบาๆแล้วยิ้มให้พี่ชายคนโตที่อุ้มลูกชายมานั่งบนพื้นสนามหญ้ากับพวกเธอ “วันนี้ตัวแสบเป็นไงบ้างครับพี่แวว” อชิระถามพี่เลี้ยงของลูกชาย “ไม่งอแงค่ะ พี่พาออกมาเดินเล่นดูนกดูปลาพอกินนมอิ่มก็หลับไปแล้วออกมาเล่นบอลกับคุณอานี่แหละค่ะคุณกาย” แววดาวไม่อยากบอกว่าน้องอีตั้นอยู่กับเธอตลอดตอนที่โศภิตนภายังมีชีวิตอยู่ เด็กน้อยก็แค่กินนอนเล่นเท่านั้นอีกสักพักก็จะลืมแม่หากสักสองสามขวบรู้เรื่องแล้วก็อาจจะยากหน่อย “อีตั้นยังเล็กมากไม่รู้สึกเหมือนผู้ใหญ่อย่างพวกเรา อีตั้นเล่นบอลกับปะป๊ามั้ยลูก” อชิระถามลูกชายที่นั่งบนตักพอพ่อบอกว่าเล่นเท่านั้นเด็กน้อยก็ลุกขึ้นใช้เท้าเตะบอลแล้วหัวเราะเอิ้กอ้ากก่อนจะวิ่งเซหลุนล้มลุกคลุกคลานตามประสาเด็กที่กำลังหัดเดินและสนามหญ้านี่ดีที่สุดสำหรับเด็กน้อยวิ่งเล่นเวลาล้มจะได้ไม่เจ็บเพราะมีหญ้านุ่มรองรับ จากนั้นอชิระกับอธิคุณก็ลุกขึ้นไปเล่นด้วยส่งเสียงหัวเราะกันดังลั่น “พี่ไปดูอาหารให้น้องอีตั้นก่อนนะคะคุณเกล” แววดาวบอกอาสาวของคุณหนู “ตามสบายค่ะพี่แวว ดูท่าว่าเจ้าตัวแสบจะไม่หยุดเล่นง่ายๆหรอกค่ะ” อัสมามองพี่ชายที่หัวเราะเป็นครั้งแรกตั้งแต่พี่สะใภ้จากไป สองคนโตกับหนึ่งคนตัวเล็กที่วิ่งหลุนๆตามลูกบอลบางทีก็ล้มแล้วลุกใหม่ไม่ร้องไห้กลับหัวเราะชอบใจจนคนโตเหงื่อแตกยอมแพ้แล้วนั่งลง “ผมไม่ไหวแล้ว พี่กายเล่นกับอีตั้นต่อเถอะครับ” อธิคุณบอกพี่ชายที่ทรุดลงนั่งข้างเขา “พี่ก็ไม่ไหวว่ะ สงสัยต้องไปออกกำลังกายบ้างแล้วอีตั้นพลังเยอะจริง” อชิระพูดถึงลูกชายแล้วยิ้มเมื่ออีตั้นเอาลูกบอลมาให้ “ปะ ปะ” ร่างเล็กจ้อยชวนพ่อเล่นต่อเขากำลังสนุกแต่พ่อกับอาก็อตเลิกเล่นแล้วนี่สิ “อาเกลว่าเราไปอาบน้ำกับพี่เป็ดกันดีกว่านะครับอีตั้น” อัสมาพูดกับหลานชายที่ตาลุกวาวทันทีเมื่ออาสาวบอกว่าไปอาบน้ำเขาก็คิดถึงพี่เป็ดทันที “ปา ปา..” เด็กน้อยร้องเสียงแล้วโถมตัวไปหาอาสาวเพื่อจะไปเล่นกันพี่เป็ด “เดี๋ยวพี่พาอีตั้นไปอาบเอง ขอบใจเกลกับก็อตมากนะน้องรัก” อชิระขอบใจน้องสาวน้องชายที่ช่วยดูลูกชายให้เขาและคอยปลอบใจเขามาตั้งแต่ภรรยาจากไปได้เดือนกว่า “ก็เราเป็นพี่น้องกันนี่นา พี่กายมีอะไรก็บอกผมได้อีตั้นก็เป็นหลานผมนะครับ” อชิระบอกพี่ชายเพราะคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายทั้งหลายก็โอ๋หลานชายคนแรกกันทั้งบ้าน พี่น้องของพ่ออยู่ในบริเวณเดียวกันคุณปู่ปลูกบ้านให้ลูกๆทุกคนให้อยู่ในรั้วเดียวกันทั้งสี่หลังทรงเดียวกันหมดและงบประมาณก็เท่ากันไม่มีใครได้มากได้น้อยกว่ากันส่วนครอบครัวของเขาอยู่บ้านใหญ่เพราะคุณลุงแหกคอกไม่สานต่อธุรกิจของครอบครัวแต่ไปทำโรงแรมรีสอร์ททั้งที่กรุงเทพและเชียงรายพ่อของพวกเขาจึงเป็นหัวเรือใหญ่และตอนนี้ก็มีนิลลนีลูกสาวของลุงมาช่วยดูการตลาดทำให้ปู่พอใจ “กินข้าวเสร็จเราค่อยคุยกันนะก็อต” “ครับพี่กาย” อชิระอุ้มลูกชายไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดด้วยตัวเองต่อไปนี้เขาจะทุ่มเทความรักให้ลูกชายคนเดียวจะทำทุกอย่างเพื่อให้อีตั้น มีความสุขแม้จะขาดแม่เขาก็จะเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ให้ลูกชาย ที่ห้องอาหารมีเจ้าสัวอนันท์ กวิน โยษิตา อัสมา อธิคุณ อยู่กันพร้อมหน้าจะขาดแต่สองพ่อลูกที่กำลังลงบันไดมา “น้องอีตั้นมาแล้ว หิวหรือยังลูกวันนี้ย่าทำไข่ตุ๋นแครอทให้สุดฝีมือเลยลูก” โยษิตาบอกหลานชายเมื่อลูกชายวางน้องอีตั้นนั่งข้างเธอ “อีตั้นขอบคุณคุณย่าก่อนครับ” อชิระบอกลูกชายแล้วจับมือไหว้คุณย่า “น่ารักจริงๆหลานย่า กินเยอะๆนะลูก กายด้วยนะลูกผอมไปเยอะเลยอย่าโหมงานมากพักผ่อนบ้างตอนนี้น้องอีตั้นต้องการกายนะลูก” เธอรู้ว่าลูกชายเสียใจแต่แม่ของหลานชายจากไปแล้วหากพ่อเอาแต่ทำงานแล้วละเลยลูกอีกหลานชายเธอจะเป็นยังไง “ผมรู้ครับแม่ ไม่ต้องห่วงผมดีขึ้นแล้วครับ” ตอนนี้จิตใจเขาดีขึ้นเพราะมีลูกชายเป็นกำลังใจ “กินข้าวกันเถอะ” เจ้าสัวบอกทุกคน เมื่อกินอาหารค่ำอิ่มแล้วทุกคนก็ไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นที่มีของเล่นของหลานชายตัวน้อยอยู่มุมห้องซึ่งเจ้าตัวเข้ามาก็ตรงปรี่ไปมีอาเกลตามไปเล่นด้วย “เดี๋ยวผมมานะครับ” อชิระพยักหน้ากับน้องชายแล้วเดินไปที่ห้องทำงานของเขา เมื่อเข้ามาในห้องอชิระก็ล็อคประตูแล้วเดินมานั่งที่โซฟากับน้องชาย “พี่กายมีอะไรครับ” “พี่อยากให้นายยกเลิกทำธุรกิจกับผู้หญิงคนนั้นให้หมด พี่ไม่อยากให้คนแบบนั้นมาร่วมธุรกิจด้วย” ชายหนุ่มบอกน้องชาย “ผมคิดไว้แล้วครับ หากเธอติดต่อมาผมจะคุยกันให้รู้เรื่องไปเลย” อธิคุณคิดไว้แล้วเขาไม่อยากร่วมงานกับคนเห็นแก่ตัวอย่างพอลลีนเขารู้ว่าเธอชอบพี่ชายถึงได้รอให้เขาไปติดต่องานที่ต่างประเทศก่อนแล้วก็โทรมาหาพี่ชายของเขาเพื่อจะได้ใกล้ชิดหากพอลลีนไม่ส่งภาพไปให้พี่สะใภ้ป่านนี้อีตั้นคงมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว “ถึงกฎหมายเอาผิดผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ พี่นี่แหละจะลงโทษเธอเอง” อชิระกัดฟันกรอดเขาปักใจว่าต้องเป็นพอลลีนถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันว่าเป็นพอลลีนแต่วันหนึ่งก็ต้องได้ ความลับมันไม่มีในโลก “พี่กายอย่าเอาตัวไปพัวพันกับผู้หญิงคนนั้นนะครับ” “พี่ไม่เอาตัวไปเกือกกลั้วหรอกเอาไว้ถึงเวลาแล้วก็อตจะรู้เอง” ชายหนุ่มไม่บอกน้องชายว่าเขาจะทำยังไงกับพอลลีน “พรุ่งนี้ผมจะบอกเลขาว่าจะไปญี่ปุ่นอาทิตย์หนึ่งแล้วจะดูว่าผู้หญิงคนนั้นเขาจะติดต่อพี่กายหรือเปล่าจะได้จบปัญหาไป ผมไม่อยากเห็นหน้าหล่อนเลยให้ตายสิ” คนเป็นน้องก็โกรธไม่แพ้คนเป็นพี่ที่สูญเสียภรรยาสุดที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ “จัดการเลยนะก็อต” อชิระบอกน้องชาย เมื่อคุยกันเสร็จแล้วทั้งสองก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นและเห็นคนตัวเล็กนอนดูดขวดนมจ๊วบๆบนโซฟาข้างคุณทวดดวงตาโตหรี่ปรือง่วงนอนเต็มที่แต่ยังห่วงเล่น “ผมพาตัวแสบไปนอนก่อนนะครับ” อชิระบอกทุกคนแล้วอุ้มลูกชายขึ้นไปที่ห้องนอนของเขา ตั้งแต่ภรรยาจากไปเขาก็นอนกับลูกชายทุกคืนช่วงนี้เขาไม่ได้ไปคุยงานที่ต่างประเทศแต่ให้น้องสาวน้องชายและญาติผู้น้องไปแทนทุกคนก็เต็มใจและเข้าใจว่าพี่ชายใหญ่ของตระกูลเสียใจที่สูญเสียภรรยายังอยู่ในระยะทำใจ อชิระวางร่างเล็กลงบนเตียงที่เขาขยับไปชิดผนังห้องเพื่อกันลูกชายตกปกติอีตั้นจะนอนห้องเล็กติดกับห้องของเขา ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกฝั่งกั้นไว้กอดลูกชายไว้ให้ความอบอุ่นและคิดถึงภรรยาถึงแม้จะทะเลาะกันบ้างแต่เขาก็รักโสภิตนภาเมื่อไหร่หนอเขาจะทำใจได้เข้ามาในห้องเมื่อไหร่มันก็มีแต่ภาพของโสภิตนภาอยู่ทั่วห้องก่อนจะหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ช่วงอาทิตย์แรกเขาต้องใช้เหล้าช่วยไม่งั้นนอนไม่หลับตอนนี้ดีขึ้นเพราะมีร่างเล็กในอ้อมกอดทำให้เขาคิดได้ว่าต้องอยู่เป็นเสาหลักให้ลูกชายสุดที่รัก เวลาผ่านไปอีกหนึ่งเดือน 15 พ.ค60 วันนี้อชิระรับนัดเพื่อนๆทั้งสามคนหลังจากที่ภรรยาจากไปเขายังไม่ได้นัดเจอเพื่อนๆนอกบ้านเลยสักครั้งนอกจากมาหาเขาที่บ้านเพราะรู้ว่าอชิระต้องดูแลลูกชายแต่วันนี้เป็นวันเกิดของรามันทำให้เขาต้องไปจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาน้องสาว “ตู้ดดๆ ตู้ดดๆ” “ค่ะพี่กาย” อัสมารับสายของพี่ชาย “เกลจะกลับบ้านหรือยัง” “กำลังจะกลับค่ะ พี่กายมีอะไรหรือเปล่าคะ” “พี่ฝากเกลดูอีตั้นให้หน่อยพอดีวันนี้เป็นวันเกิดนายเชนพี่จะแวะไปงานมันหน่อยน่ะ” อชิระบอกน้องสาว “ไม่มีปัญหาค่ะ พี่กายไปสังสรรค์กับเพื่อนตามสบาย เกลจะแวะไปซื้อของโปรดให้ตัวแสบก่อนแค่นี้นะคะ” คนเป็นน้องอยากให้พี่ชายได้ไปเปิดหูเปิดตาบ้างตั้งแต่พี่สะใภ้จากไปก็เก็บตัวเงียบอยู่กับลูกจนเธอกลัวจะเป็นโรคซึมเศร้าเวลาอยู่คนเดียวพี่ชายมักจะเหม่อลอย “ขอบใจมากน้องรัก” เมื่อคุยกับน้องสาวเสร็จอชิระก็ชวนน้องชายไปงานคล้ายวันเกิดของรามันวันนี้ที่ฟอร์เรสผับแอนด์เรสเทอรองท์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทของชนาเทพ เมื่อสองพี่น้องไปถึงผับหรูย่านสาธรก็เจอกับเจ้าของผับ “หวัดดีเทพ” “หวัดดีเพื่อน หวัดดีก็อตเชิญในร้านเลยน้องชาย” ชนเทพบอกน้องชายของเพื่อนแล้วเดินกอดคออชิระเดินขึ้นไปโซนชั้นสองที่กันไว้สำหรับงานเลี้ยงวันเกิดของรามันก็มีเพื่อนๆมากันนับยี่สิบคนแล้วแต่เจ้าของงานยังไม่มาต่างก็ทักทายกันก่อนสองพี่น้องจะไปนั่งโต้ะในสุด “ดื่มอะไรดีวะกาย ก็อตล่ะจะดื่มวิสกี้หรือไวน์” ชนเทพถามสองพี่น้อง “ฉันขอวิสกี้” “ผมขอเหมือนพี่กายครับ” อธิคุณตอบเพื่อนพี่ชาย “รอเดี๋ยวนะ” ชนเทพเดินไปอีกฝั่งที่เป็นห้องทำงานของเขาและมีเหล้าไวน์ราคาแพงเกินหมื่นอยู่ในห้องเก็บเหล้าไวน์หลังโต้ะทำงานของเขาส่วนราคาไม่ถึงหมื่นเขาจะเก็บไว้ที่ห้องที่อุณหภูมิอย่างดี ไว้รับรองลูกค้าเศรษฐีดารานางแบบไฮโซไฮซ้อคนดังนักการเมืองก็เป็นลูกค้าของฟอร์เรสผับแอนด์เรสเทอรองท์กันเยอะแยะมากมาย ชนเทพหายไปไม่ถึงห้านาทีก็กลับมาพร้อมวิสกี้ขวดใหญ่ราคาไม่ต้องพูดถึงคือหลักหมื่นที่บ่มนานรสชาติของมันก็ยิ่งนุ่มลิ้นทั้งกลิ่นและสี “ฉันสั่งอาหารให้แล้ว โน่นไอ้เจ้าภาพมันมาแล้ว” ชนเทพบอกเพื่อเมื่อเห็นเจ้าของวันเกิดเดินมาพร้อมภรรยาที่กำลังตั้งท้องลูกคนที่สองได้ห้าเดือนคนแรกเป็นผู้หญิงน้องริมาหรือมาริษาวัย2ขวบ “สุขสันต์วันเกิดเชนขอให้รวยวันรวยคืนนะเพื่อน” อชิระอวยพรให้เพื่อนและรับไหว้แจ่มใสภรรยาของรามัน “หวัดดีแจ่ม หลานพี่คลอดเมื่อไหร่ครับ” “อีกสี่เดือนค่ะพี่กาย ตอนนี้น้องมาริเห่อน้องมากถามหาทุกวันและบ่นไม่เจอน้องอีตั้นกับน้องแบม แจ่มว่าจะชวนไปเที่ยวทะเลกันค่ะ” แจ่มใสคุยกับเพื่อนสามีและอดสงสารไม่ได้แต่เธอไม่ได้แสดงออก “ดีเหมือนกันครับ แจ่มจะไปเมื่อไหร่ก็นัดมาเลยเจ้าตัวแสบของพี่คงจะดีใจ” อชิระพูดถึงลูกชายแล้วยิ้มทำให้ชนเทพกับรามันมองหน้ากันแล้วยิ้มที่เพื่อนทำใจได้บ้างแล้วอย่างน้อยก็มีรอยยิ้มให้เห็น “เมื่อไหร่ฉันจะมีลูกเหมือนพวกแกวะ อุตส่าห์ตั้งใจทำการบ้านทุกคืนเมียยังไม่ท้องอีกไม่รู้ว่าแม่คุณแอบกินยาคุมหรือเปล่าสงสัยฉันต้องพาไปตรวจแล้วว่ะ” ชนเทพบ่นเขาเพิ่งแต่งงานกับจิตติมานางแบบสาวชื่อดังเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง “ตัวเองไม่มีฝีมือแล้วมาว่าเกด” จิตติมายกมือทุบหลังสามีที่โทษเธอว่าแอบกินยาคุมและเธอก็กินยาคุมจริงตอนที่แต่งงานกันใหม่และเพิ่งหยุดไปเมื่อสามเดือนก่อนตอนนี้ประจำเดือนของเธอไม่มาสองเดือนแล้วแต่ยังไม่ได้ตรวจและคิดว่าน่าจะท้องแล้วเธอก็ไม่ได้บอกสามีรอตรวจให้แน่ใจก่อนไม่อยากเห็นเขาผิดหวัง “มันจริมั้ยล่ะ โอ้ยย ผัวเจ็บนะที่รัก” ชนเทพร้องอีกครั้งเมื่อภรรยาทุบไหล่เขาอย่างแรง “ใครเขามาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนี้เล่าคุณเทพ” จิตติมาว่าสามีเธอก็อายเป็นเหมือนกันนี่นา “โอเค โอเค ไม่พูดแล้วครับ แต่คืนนี้เตรียมตัวให้ดีล่ะหึๆๆ..” ชนเทพยังหยอกเย้าภรรยาแล้วจิตติมาก็ไปนั่งข้างแจ่มใส่ “น้องแจ่มเป็นยังไงบ้างหายแพ้ท้องหรือยังคะ” จิตติมาถามแจ่มใสที่อายุน้อยกว่าเธอสองปี “หายแพ้แล้วค่ะพี่เกด ท้องนี้ไม่ยักกะมีใครมาแพ้ท้องแทนสงสัยจะหมดรักไปแล้วมั้งคะ” แจ่มใสอดคิดไม่ได้เพราะท้องแรกสามีแพ้หนักมาส่วนเธอไม่เป็นอะไรเลยแต่ท้องนี้เธอแพ้จนถึงสี่เดือนถึงหยุดแพ้ก็อดคิดไม่ได้ “พี่รักแจ่มที่สุดในโลกครับลูกชายเราออกมาแจ่มจัดการเลยนะครับโทษฐานมาแกล้งแม่” รามันล้อภรรยา “พี่เชนคนบ้า,อย่ามาว่าลูกขอแจ่มนะ ฮือๆ ฮือๆๆ” แจ่มใสพูดจบก็ร้องไห้โฮออกมาราวกับเด็กๆทำให้ทุกคนตกใจ “น้องแจ่มคะ” จิตติมาจับมือแจ่มใสไว้อย่างปลอบใจ “โอ๋ๆ,ที่รักครับ พี่ล้อเล่นครับ” รามันปลอบภรรยาทำเอาทุกคนขำที่ล้อเมียจนได้เรื่อง “มีอะไรกันวะ” ภูเบศ ศานติทรัพย์มณีควงกรรณิกาภรรยาสาวมาถึงช้ากว่าใคร “ก็เพื่อนเชนมันว่าเมียน่ะสิ แกมานั่งเลยครับคุณพูมมาช้ากว่าใครรับผิดชอบด้วย ฉันนับแก้วไว้รอเลยเพื่อน” ชนเทพบอกพนักงานเสิร์ฟให้ไปหยิบแก้วช็อตมาให้และรินวิสกี้ใส่แก้วให้เพื่อนรักห้าแก้วสาเหตุที่มาช้า “อะไรวะเทพ แกนับผิดหรือเปล่าฉันมาช้าแค่นิดหน่อยเองนะ” ภูเบศโวยวายใส่เพื่อนทำให้ทุกคนขำ “มังคุดจะช่วยนายพูมก็ได้นะครับ” ชนเทพบอกภรรยาของเพื่อนแล้วยิ้ม “มังคุดต้องของผ่านค่ะพี่เทพ ถ้าไวน์ว่าไปอย่าง” กรรณิกาตอบเพื่อนสามีแล้วแก้วไวน์ก็วางตรงหน้าเธอทันที“แหม,คุณเกดเร็วเชียวนะคะ” “ไม่ได้หรอกค่ะ คุณมังคุดมาช้าเดี๋ยวตามพวกเราไม่ทัน” จิตติมาพูดแล้วยิ้ม “สมกับเป็นผัวเมียกันจังคู่นี้” ภูเบศพูดแล้วก็ยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มจากนั้นทุกคนก็คุยกันจนสี่ทุ่ม “พี่ว่าเรามาเป่าเค้กให้ไอ้เชนมันดีกว่าครับทุกคน” ชนเทพบอกทุกคน “ดีค่ะ แจ่มอยากกินเค้กไหนคะพี่เทพ” แจ่มใสถามหาเค้กวันเกิดของสามีตาเป็นประกาย “รอแป้บนะครับพี่บอกพนักงานก่อนครับ” รามันขำคนท้องที่พูดถึงเค้กก็อยากกินแต่ไม่มีใครถือสา อชิระมองเพื่อนและภรรยาแล้วยิ้มสำหรับเขาคงไม่มีอีกแล้วต่อไปก็มีแต่ลูกชายที่เขาจะรักและดูแลตัวแทนของผู้หญิงที่เขารัก ก่อนจะยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มวันนี้เขามากับน้องชายจึงดื่มได้ถ้าเมาอธิคุณก็แบกเขากลับเอง “เฮ้ๆ วิสกี้นะกายไม่ใช่น้ำเบาๆหน่อยเดี๋ยวก็เมาก่อนหรอก” รามันว่าเพื่อนที่เอาแต่ยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มยังกะดื่มน้ำ “วันนี้ขอเมาหน่อยเพื่อน” อชิระพูดตรงๆกับเพื่อน “งั้นตามสบายเลย ก็อตก็แบกพี่นายกลับละกัน” รามันหันไปบอกน้องชายของเพื่อน “ไม่มีปัญหาครับพี่เชน.” “เอ้าดื่มให้เจ้าภาพหน่อยพวกเรา เซี๊ยสสส..” ชนเทพยกแก้ววิสกี้ชูขึ้นให้เพื่อนๆที่มาร่วมวันเกิดของรามัน เสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดดังลั่นร้านเมื่อนักดนตรีร้องนำแล้วเพื่อนๆก็ร้องตามจนจบเจ้าของวันเกิดก็เป่าเค้กก้อนโตตรงหน้า “เดี๋ยวสิวะ แกยังไม่ได้อธิฐานเลยนะเชน” ชนเทพท้วงเพื่อน “ฉันอธิฐานในใจแล้วโว้ย ฟู่ๆฟู่ๆๆ อะไรวะทำไมไม่ดับ..”รามันเป่าเทียนไม่ดับจึงดึงมาเอาจุ่มในแก้วน้ำ “ฮ่าๆๆ/ คิกกๆๆ ..” ทุกคนหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็ตัดเค้กแจกจ่ายเพื่อนๆแล้วดื่มกินคุยกันกระเซ้าเย้าแหย่กันด้วยความสนุกสนานเพื่อนแยกย้ายกันไปแต่งงานมีครอบครัวและทำงานไกลนานๆจะเจอกันก็งานวันเกิดหรืองานสำคัญเท่านั้น “เดี๋ยวมา” อชิระบอกเพื่อนแล้วลุกขึ้นไปห้องน้ำเพราะเขาเอาแต่ดื่มจนรู้สึกมึนและเซไปเล็กน้อย “เฮ้ยกายไหวมั้ยเพื่อน ป่ะฉันไปด้วย” ชนเทพลุกขึ้นกอดคอเพื่อนไปห้องน้ำ “ขอบใจเพื่อน” อชิระยืนตัวเอียงจนทำธุระเสร็จก็เดินมาล้างมือแล้ววักน้ำล้างหน้า “แกโอเคนะกาย” “ฮื่อ,โอเคสิฉันโอเค” ชายหนุ่มตบไหล่เพื่อเบาๆเป็นอันเข้าใจไม่ต้องพูดเยอะ “ฉันกลับดีกว่าว่ะ เมาแล้วว่ะ” “ยังดีที่รู้ว่าเมา.” “อ้าว,วันเกิดเพื่อนทั้งทีก็ต้องดื่มสิวะ..” อชิระพูดเสียงยานคางเล็กน้อยก่อนจะเดินกอดคอกันกลับไปนั่งที่โต้ะแล้วขอน้ำเปล่ามาดื่มก่อนจะถามน้องชายว่าจะอยู่ต่อหรือจะกลับพร้อมเขา อธิคุณก็จะกลับพร้อมพี่ชาย “ฉันกลับก่อนนะเชน ขอให้มีความสุขนะเพื่อน” ร่างสูงลุกขึ้นแล้วบอกเพื่อน “ขอบใจมาก แกก็เหมือนกันนะกาย” สองหนุ่มกอดกันให้กำลังใจกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD