เช้าวันต่อมา
เช้านี้เธอออกจากเพนท์เฮ้าส์ค่อนข้างเร็ว จะบอกว่าเธอไม่อยากให้เฮียป่าไปส่งมันก็ใช่ แต่จริงๆแล้วเธอไม่อยากโกหกเพื่อนๆที่ทำงานมากกว่าถ้าหากว่าเพื่อนที่ทำงานเห็นว่ามีรถมาส่งหลายๆวันเข้าคงจะถามเธอแน่ๆ เพราะอย่างนี้เธอเลยเลือกที่จะไปทำงานเองด้วยการนั่งรถเมล์แล้วไปต่อรถไฟใต้ดินเหมือนกับในทุกๆวัน แต่ทว่าเธอย้ายมาอยู่เพนท์เฮ้าส์ทำให้เธอสะดวกขึ้นอีกนิด เดินไปไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงรถไฟใต้ดินถือว่าประหยัดไปอีกหนึ่ง
"น่านฟ้าล่ะ" ทันทีที่น้ำป่าเดินลงบันไดเขาก็ถามหาน่านฟ้ากับอเลสซิโอ
"เธอออกไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้วครับนาย"
"อืม"
หลังจากที่น่านฟ้ามาถึงบริษัท เธอก็รีบเอากระดาษลอกลายลงไปแผนกกราฟิกดีไซให้ดูแลเรื่องนี้ต่อ ก่อนจะเดินดูความเรียบร้อยของเครื่องทอผ้าแต่ละเครื่องแล้วจึงขึ้นด้านบนในส่วนของออฟฟิค
"น่าน!"
"คะพี่รสา" น่านฟ้าหันไปตามเสียงเรียก ก็เห็นว่าเป็นรสา เจ้าของบริษัทที่กำลังเดินมาหาเธอ
"เมื่อวานคุณอองเดร์โทรมาหาพี่ เขาบอกว่าเราไปกับผู้ชายที่ชื่อน้ำป่า..." รสาเว้นระยะเอาไว้เพื่อดูว่าน่านฟ้าอยากจะเล่าให้เธอฟังหรือไม่
"ค่ะ เป็นอย่างที่คุณอองเดร์เล่าให้พี่รสาฟังค่ะ"
"ทำไมกะทันหันแบบนั้นล่ะ เกิดอะไรหรือเปล่าหรือเขาบังคับเธอ" รสาที่รู้จากปากน่านฟ้าเธอถึงกลับตกใจแทบจะไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
"เปล่าค่ะ น่านเต็มใจคุณน้ำป่าไม่ได้บังคับอะไรหรอกคะ" รสาดูจากท่าทางของน่านฟ้า และเธอก็เข้าใจภาษากายของน่านฟ้าดี
"ไม่เป็นไร พี่จะไม่ถามอะไร แต่หาว่าวันไหนที่น่านฟ้าต้องการความช่วยเหลือก็บอกพี่ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เข้าใจไหม"
"ค่ะ น่านขอบคุณพี่รสามากๆนะคะที่เข้าใจน่าน"
"แต่เดี๋ยวอองเดร์ก็คงมาหาเธอแน่ๆ พี่พนันได้เลย" และพูดยังไม่ทันขาดคำ อองเดร์ก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางที่รีบร้อน เขานอนไม่หลับเลยทั้งคืนเขาเอาแต่คิดเรื่องของน่านฟ้า พอเช้าเขาก็รีบอาบน้ำแต่งตัวมาหาน่านฟ้าทันที
"สวัสดีครับคุณรสา คุณน่านฟ้า"
"สวัสดีค่ะคุณอองเดร์ ดิฉันขอตัวก่อนดีกว่า พี่ลงไปตรวจงานด้านล่างก่อนนะ" รสาเธอเข้าใจดีว่าอองเดร์กับน่านฟ้าคงจะมีเรื่องส่วนตัวคุยกันและเธอก็ยินดีจะปล่อยให้คนทั้งสองได้คุยกันจะได้ไม่ต้องมีอะไรที่ค้างคาต่อกัน
"ค่ะพี่รสา"
รสาเดินออกจากห้องออกแบบ ตอนนี้ในห้องเลยมีแค่น่านฟ้ากับอองเดร์เท่านั้นเพราะห้องนี้เป็นห้องทำงานของน่านฟ้าแค่คนเดียว
"คุณน่านฟ้า คุณแต่งงานแล้วจริงๆเหรอครับ ทำไมผมกับคุณรสาไม่เห็นรู้เรื่องเลย หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ" อองเดร์มีท่าทีที่สงสัยในตัวน่านฟ้า แต่ก็ยังไม่ได้จี้ถามอะไรมากไปกว่านี้
"คือ...ค่ะ น่านฟ้าแต่งงานแล้วและก็ขอโทษนะคะที่ไม่ได้เชิญคุณอองเดร์ พอดีเราไม่ได้จัดงานอะไรใหญ่โตค่ะ เชิญแค่ญาติผู้ใหญ่เท่านั้นเองค่ะ" น่านฟ้ารู้ดีและเธอก็จำเป็นที่จะต้องโกหก อย่างน้อยการแต่งงานจอมปลอมนี้มันก็มีข้อดีอยู่ข้อหนึ่งเหมือนกัน เธอไม่จำเป็นต้องปฏิเสธความรักที่อองเดร์มีให้กับเธอโดยตรง เพราะสิ่งที่อองเดร์ได้ฟังมีคือการปฏิเสธที่ดีที่สุดสำหรับเธอ
เป็นคำตอบที่ตอกย้ำลงลึกเข้าไปในหัวใจของอองเดร์ เขาค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับเธอ สายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและผิดหวังยังคงมองใบหน้ากลมที่ไร้การแต่งเติมแต่อย่างใดแต่นั่นมันกลับทำให้เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับเธอ
"เขา...รักคุณดูแลคุณดีใช่ไหมครับน่านฟ้า" ในความผิดหวังและเจ็บปวดก็ยังคงมีความเป็นห่วง และน่านฟ้าก็รับรู้ได้จากแววตาที่อองเดร์สื่อให้กับเธอ
"ค่ะ"
"ดีแล้วครับ ผมขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ผมยังเป็นเพื่อนกับคุณน่านฟ้าได้ใช่ไหมครับ"
"เราเป็นเพื่อนกันมาตลอดนี่คะคุณอองเดร์ และเราก็จะเป็นเพื่อนกันตลอดไปค่ะ" น่านฟ้ามองอองเดร์ด้วยความรู้สึกผิด เป็นเพราะเธอไม่ปฏิเสธอองเดร์ให้มันชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่ม และคนที่รู้สึกเจ็บมากที่สุดในตอนนี้ก็คืออองเดร์
ราวกับว่าอองเดร์จะรู้ถึงความคิดของน่านฟ้า มือใหญ่เอื้อมมือไปกุมมือเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างหลวมๆ ก่อนจะพูดให้เธอได้คิดตาม
"อย่าโทษตัวเอง หรือว่ารู้สึกผิดแต่อย่างใด คุณน่านฟ้าไม่ผิด ผมไม่ผิดสิ่งที่ผมทำให้กับคุณน่านฟ้ามันคือมิตรภาพที่ผมมีให้กับคุณ หวังว่าคุณน่านฟ้าจะมีความสุขกับเขา...ผมคงไม่มาไทยสักพัก สิ่งที่ผมอยากพูดกับคุณก็มีเท่านี้ล่ะครับ ผม...กลับก่อนนะครับคุณน่านฟ้า"
อองเดร์พูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องทำงานของน่านฟ้าไปโดยที่ไม่ได้หันหลังกลับมามอง
"น่านขอให้คุณอองเดร์โชคดีเช่นกันค่ะ"
ช่วงบ่ายในวันนี้ น่านฟ้าต้องแวะไปดูสีย้อมที่เธอได้สั่งทำเอาไว้ เธอจึงใช้เวลาในช่วงบ่ายนี้แวะไปร้านจิวเวอรี่ที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทที่เธอทำงาน เป็นร้านเล็กๆ ส่วนใหญ่ที่ร้านจะทำเม็ดพลอยต่างๆและอาจจะมีเพชรราคาถูกขายรวมอยู่ด้วยกัน
น่านฟ้าใช้เวลาไม่นานในการเลือกซื้อแหวนสองวง...มูนสโตน...เพอริดอท...
แรงสั่นของโทรศัพท์มือถือ เรียกความสนใจทำให้เธอที่กำลังคุยอยู่กับโปรดักซ์ดีไซน์ต้องหยุดคุยชั่วคราว แล้วออกมารับคุยโทรศัพท์ที่ด้านนอกของห้อง
"ทำไมรับช้า" น้ำเสียงปนหงุดหงิดทำให้น่านฟ้าพ่นลมหายใจออกมาเบาๆก่อนจะตอบออกไป
"คุยงานอยู่ค่ะ เฮียป่ามีอะไรด่วนเหรอคะ"
"น่านไม่ได้ใส่แหวนแต่งงานและน่านก็ลืมแหวนแต่งงานวางทิ้งไว้ในห้องน้ำ..." สิ่งที่น้ำป่าพูดทำให้น่านฟ้านึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า เธอถอดแหวนแต่งงานออกแล้ววางเอาไว้ที่หน้ากระจกเพราะกลัวว่าเวลาอาบน้ำมันลื่นหลุดออกจากนิ้วแล้วจะทำให้เพชรหลุดหรือเสียหาย เพราะราคาค่อนข้างสูง ที่แน่ๆ เธอไม่อยากใส่เพราะมันแพงเกินไป
"ขอโทษค่ะ" น่านฟ้าเอ่ยคำขอโทษเบาๆด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ
"เฮียไม่ได้ต้องการคำขอโทษ ขอเหตุผลที่น่านไม่ใส่" ที่เขารู้เป็นเพราะแม่บ้านต้องเข้าไปทำความสะอาดในช่วงเช้าของทุกวัน แล้วแม่บ้านก็เรียกคนที่ดูแลให้มาช่วยดูจะได้เป็นพยานกัน แล้วลูกน้องของเขาก็โทรมารายงาน
"รอไปคุยที่เพนท์เฮ้าส์ได้ไหมคะ ตอนนี้น่านยุ่งอยู่ค่ะ"
"เฮียจะไปรับ ตอนนี้น่านอยู่ไหน"
"ที่ตึกxxค่ะ"
"เฮียจะรอที่ลานจอดรถชั้นหนึ่งก็แล้วกัน" น้ำป่าวางสายทันทีหลังบอกน่านฟ้าว่าจะจอดรถรอตรงไหน ส่วนน่านฟ้าก็ได้แต่นึกว่าจะทำยังไงให้น้ำป่าหายโกรธ เพราะฟังจากเสียงแล้วคงจะโกรธมากแน่ๆเลย
ภายในห้องทำงานของน้ำป่า ร่างสูงยืนมองไปข้างนอกหน้าต่างอย่างใช้ความคิด ว่าเขาควรทำยังไงดีเพราะแม่ของเขาจะส่งคนมาดูแลเขาเพิ่มอีกหนึ่งคน หลังจากที่แม่ของเขาโทรมาต่อว่า แต่งงานทั้งทีทำไมไม่จัดงาน แล้วก็บ่นยาวจนหูของเขาร้อนและแดงไปหมด
"นายครับ ให้คนขนของจากห้องคุณน่านฟ้าไปห้องของนายเลยไหมครับ" อเลสซิโอเอ่ยถามน้ำป่าหลังจากที่เห็นยืนเงียบไปนาน
"ฉันยังไม่ได้บอกเธอเลย เธอยุ่งอยู่...แต่เดี๋ยว!! ย้ายเลยก็แล้วกัน เพราะมันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วไม่อย่างงั้นคนที่แม่ส่งมามีหวังต้องโทรไปฟ้องแม่แน่ๆ"
"ครับนาย"
หนึ่งชั่วโมงต่อมารถยนต์คันหรูก็มาจอดอยู่ที่ลานจอดรถ ระหว่างที่รอน่านฟ้า น้ำป่าก็ได้แต่มองนาฬิกาที่ข้อมือ ในใจของเขาตอนนี้ได้แต่ภาวนาขออย่างเดียวอย่าเพิ่งให้คนของคุณแม่ไปถึงเพนท์เฮ้าส์ก่อนที่คนของเขาจะย้ายของเสร็จ
"คุณน่านฟ้าเดินมาโน้นแล้วครับนาย"
ยากุที่รอเปิดประตูรถอยู่ก่อน พอเปิดให้น่านฟ้าขึ้นตัวเองก็รีบกลับขึ้นรถและเหยียบคันเร่งออกไปทันที
"มีอะไรคะเฮียป่า"
"แม่ของเฮียรู้เรื่องแต่งงานของเราแล้ว น่าน! เธอจำเป็นต้องย้ายเข้าไปอยู่กับเฮียในห้อง...เข้าใจใช่ไหม"
เมื่อน่านฟ้าได้ยินแบบนั้นเธอเลยตัดสินใจหยิบกล่องแหวนขึ้นมา ก่อนจะยื่นให้น้ำป่า
"กล่องแหวน ทำไม?" น้ำป่าไม่ได้เปิดดูหรือมีท่าทีจะสนใจ สิ่งที่เขาทำก็คือ ใบหน้าที่แสดงออกถึงความแปลกใจและมองหน้าน่านฟ้าอยู่แบบนั้น
เมื่อน้ำป่าไม่เปิดกล่องแหวนดู น่านฟ้าจึงตัดสินใจดึงกล่องแหวนกลับมาแล้วเปิดเอาออกมา แล้วจัดการสวมแหวนเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขาทันที ในขณะที่น้ำป่าตกใจกับการกระทำของน่านฟ้า
"แหวนวงนี้ราคาไม่ได้แพงเหมือนแหวนเพชรของเฮียป่า แต่มันก็มีความหมายดีๆหวังว่าเฮียจะชอบนะคะ"
น่านฟ้าพูดจบเธอก็หยิบกล่องแหวนอีกกล่องแล้วเปิดออกมาก่อนจะสวมแหวนด้วยตัวเอง