‘ทำไมคุณยายต้องนอนคลุมโปงด้วยคะ?’
‘ยายหนาวจ้ะหลาน’
‘ทำไมคุณยายเสียงแหบจังคะ?’
‘ยายเจ็บคอ เสียงเลยแหบจ้ะ’
‘แล้วทำไม... เขี้ยวคุณยายถึงยาวขนาดนั้นคะ?’
‘ยายเขี้ยวยาวเพราะ...ยายมีเขี้ยวไว้เคี้ยวหลานไงจ๊ะ!’
----------------
นิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงผุดขึ้นมาในหัวของรุธิราทันทีหลังจากที่สาวน้อยจรดปลายปากกาเซ็นชื่อตัวเองลงในสัญญาธุรกรรมที่ธนบัตรส่งให้ ความรู้สึกของเธอตอนนี้มันก้ำกึ่งระหว่างเชื่อใจพวกเขาและเกรงกลัวพวกเขาจะเป็นหมาป่าในคราบลาบราดอร์ตัวใหญ่น่ารัก
ข้อสงสัยในใจของเด็กสาวมีนับร้อยนับพัน แต่ทุกอย่างก็ถูกปัดตกเพราะความรีบร้อนในการใช้เงินบวกกับจดหมายที่คุณย่าของเธอได้ฝากฝังเธอให้สองหนุ่มดูแล
“สัญญาเรียบร้อยครับ เรื่องเงินพี่จะเป็นคนจ่ายตรงให้กับโรงพยาบาลเอง หากมียอดเกินสองล้าน พี่จะบอกให้เร้ดรู้ล่วงหน้า เดี๋ยวพี่จะถ่ายสำเนาสัญญาส่งให้ทางอีเมลนะครับ ส่วนนี่... เงินเดือนต่างหากของหนู” ธนบัตรบอกเธอแล้วยื่นเช็คเงินสดฉบับหนึ่งให้เธอ ระบุจำนวนเงิน 100,000 บาท ก่อนจะหยิบสัญญาที่รุธิราเซ็นมาอ่านทวนอีกรอบจากนั้นจึงยกโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาสแกนสัญญาเก็บไว้
รุธิรารับเช็คมาถือแล้วทำตาโต
“ทำไมพี่ธนให้เงินหนูมาอีกตั้งแสนหนึ่งคะ?” สาวน้อยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ก็คุณนิดาป่วย เงินที่ได้จากค่าตัวน้องก็เก็บไว้จ่ายค่ารักษาคุณนิดา แล้วน้องจะเอาเงินที่ไหนใช้? พวกพี่ก็ต้องให้เงินหรือเปล่าวะ? อย่ามาทำเป็นนางเอกแล้วบอกว่าไม่เอานะ พวกพี่ไม่ชอบให้เด็กของพวกพี่อยู่แบบซอมซ่อ รับ ๆ ไปเสีย ถือว่าเป็นเงินค่าขนมพิเศษจากพวกพี่” ชนกชนตอบแทนเพื่อนรัก
“ดะ... เด็ก... เด็กของพวกพี่?” รุธิราทวนคำเขาแล้วหน้าแดง เกิดมายังไม่เคยมีแฟน แต่ตอนนี้เธอดันกลายเป็น ‘เด็ก’ ของพวกเขาที่เธอเพิ่งเจอหน้าแค่วันเดียวไปเสียแล้ว
“วันนี้ถ้าเร้ดจะอยู่เฝ้าคุณนิดาก็อยู่ได้นะครับแค่ห้ามค้างคืนเพราะคุณนิดาถือเป็นผู้ป่วยโคม่า โรงพยาบาลไม่ให้คนนอนเฝ้า เดี๋ยวแลกเบอร์กัน แล้วเมื่อไหร่พวกพี่ว่างพี่จะติดต่อนัดวันไปอีกทีนะครับ” ธนบัตรยกนาฬิกาข้อมือสุดหรูขึ้นมาดูเวลา เห็นว่าใช้เวลากับเหยื่อไปนานพอสมควรจึงรีบรวบรัดทุกอย่างให้เร็วขึ้น
“หือ? นัดวันอะไรเหรอคะ?” รุธิราเลิกคิ้วขึ้นแล้วถามด้วยความสงสัย
"ก็ที่น้องโฆษณาตัวเองไว้ไง พวกพี่ต้องนัดดูสินค้าก่อนซื้อสิ เผื่อสินค้าไม่ดีจะได้ขอคืนได้” ชนกชนพูดแล้วยักคิ้วให้เธอด้วยท่าทียียวน
“หา?! หนูโฆษณาอะไรไว้คะ?”
“ก็เร้ดบอกว่าตัวเองเป็นลาเต้ หนูมัน ไม่ขม และนมเยอะไง พวกพี่ต้องเช็กดูก่อนว่าจริงไหม?” หนุ่มแว่นหล่อยกยิ้มที่มุมปากแล้วตอบ
“พี่อยากรู้ว่าน้องนมเยอะจริงไหม? เดี๋ยวถ้าพี่และไอ้ธนหาวันว่างตรงกันได้จะโทรไปนัดน้องอีกทีนะ” หนุ่มหล่อหน้าหวานพูดจากนั้นจึงฉวยโทรศัพท์ของน้องที่วางไว้บนโต๊ะมากดเบอร์ของตัวเองลงไปแล้วโทรออกก่อนจะส่งให้เพื่อนรักทำแบบเดียวกัน
“เออ... พวกพี่เข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่าคะ? ที่หนูบอกว่าหนูนมเยอะ... หนูหมายถึงผิวหนูขาวเหมือนน้ำนมน่ะค่ะ ตอนที่พูดหนูไม่ได้คิดว่าหนูจะต้องขายตัวแบบ ‘ขายตัว’ จริง ๆ ให้พวกพี่” สาวน้อยแก้ตัวพัลวันแต่สองหนุ่มหล่อก็เหมือนจะไม่หยุดฟังเธอเลย
พวกเขาพากันลุกขึ้นจากโต๊ะ ชนกชนวางธนบัตรสีเทาไว้บนโต๊ะเป็นค่ากาแฟหนึ่งใบก่อนจะทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ให้รุธิรา
“พี่ไม่สนว่าน้องจะหมายถึงอะไร วันที่พวกพี่นัด น้องต้องมาเท่านั้น ไม่งั้นค่ารักษาพยาบาลของคุณนิดาก็จะไม่ถูกจ่ายหากมีการเก็บเรียก พวกพี่ไปแล้วนะ ไว้เจอกันนะหนูน้อย”
รุธิรามองตามร่างสูงใหญ่กว่า 180 ของสองหนุ่มออกไปอย่างไม่วางตา พวกเขาดูเป็นคนนิสัยแปลก ๆ แบบที่เธอไม่เคยเจอ ที่สำคัญตอนนี้เธอหลงเซ็นสัญญาบ้าบอกับพวกเขาไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอก็ต้องเตรียมใจ ‘บริการ’ พวกเขาให้คุ้มกับเงินสองล้านที่พวกเขาจะให้เพราะชีวิตของคุณย่านิดของเธอสำคัญที่สุด
******************
Thon: กินข้าวหรือยังครับเร้ด?
ข้อความสั้น ๆ จากพี่ธนทำให้รุธิราต้องยกยิ้มที่มุมปาก สองหนุ่มหล่อที่ตกลงจะซื้อเธอด้วยเงินสองล้านทิ้งระยะห่างให้เธอได้มีเวลาดูแลคุณย่าและไม่ได้เร่งรัดเรื่องที่พวกเขาต้องได้ตัวเธอแม้เวลาจะล่วงไปเกือบเดือนแล้ว ทุกวันพวกเขาสองคนต่างส่งข้อความสั้น ๆ แสดงความห่วงใยมาให้เธอ บางวันก็สับเปลี่ยนกันไปเยี่ยมคุณย่าพร้อมเธอ ทำให้สาวน้อยรู้สึกคุ้นเคยกับพวกเขายิ่งขึ้น จากที่ไม่รู้จักมักจี่ก็รู้จักมากขึ้น
พี่ธน หรือธนบัตร ทรัพย์เกื้อกุลเป็นเจ้าของธุรกิจปล่อยเงินกู้ทั้งในและนอกระบบ มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับด้านการเงินและร่ำรวยขึ้นมาด้วยการเทรดหุ้นและสกุลเงินดิจิทัล
พี่ธนว่าน่าทึ่งแล้ว พี่ชิคก็น่าทึ่งไม่น้อยไปกว่ากันเลยเพราะพี่ชายหน้าสวยคนนั้นความจริงแล้วเป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ในวงการเพลงที่ปั้นนักร้องดัง ๆ มานักต่อนัก ในวงการเพลงไม่มีใครไม่รู้จักชนกชน โชคบรรเลง แต่ด้วยความที่น้อยครั้งนักที่พี่ชิคจะเปิดตัวต่อสาธารณชนทำให้มีคนรู้จักชื่อแต่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาพี่ชิคที่รุธิราคิดเสมอว่าหล่อกว่าพวกนักร้องไอดอลหลายคนมากนัก
Thon: เย็นนี้พวกพี่มีเวลาว่างพร้อมกัน เร้ดมานั่งคุยกันหน่อยดีไหมครับ?
ข้อความถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง น่าจะเพราะพี่ธนเห็นข้อความขึ้นว่าเธอ ‘อ่านแล้ว’
รุธิรานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
Red: ได้ค่ะ
เธอหลบเลี่ยงพวกเขาไม่ได้ เงินบางส่วนพวกเขาก็ช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลคุณย่าของเธอไปแล้ว หากเธอไม่โอนอ่อนผ่อนตามบ้าง ส่วนที่เหลือก็อาจไม่ได้
Thon: เย็นนี้พวกพี่จะไปรับที่คณะนะครับ เร้ดเรียนคหกรรมใช่ไหมครับ? เลิกเรียนกี่โมงเอ่ย?
Red: ค่ะ หนูเรียนคหกรรม แต่วันนี้มีสอบที่ตึกคณะศึกษา สอบตัวสุดท้ายแล้วค่ะ หนูสอบเสร็จสี่โมงค่ะ ไปเจอกันหน้าตึกคณะศึกษาได้ค่ะ
รุธิราพิมพ์ตอบคนเป็นพี่ด้วยความรวดเร็ว
พวกเขานัดเจอเธอวันนี้สะดวกที่สุดเพราะเธอสอบเสร็จพอดี เหมือนพวกเขาจะเจาะจงให้เธอได้มีเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบอย่างสงบ ไม่ต้องมีเรื่องอื่นมากวนใจระหว่างสอบ
“จะสอบแล้วยัยเร้ด เล่นมือถืออยู่ได้ เดี๋ยวก็สอบตก อดเรียนจบกันพอดี” ศศิเพื่อนสาวสุดเปรี้ยวของรุธิราเดินเข้ามาตบไหล่สาวน้อยที่รีบเก็บมือถือทันที ไม่ยอมให้เพื่อนเห็นว่ากำลังพิมพ์ข้อความส่งไปให้ใคร
“ไม่ได้เล่นมือถือ แค่คุยธุระนิดหน่อย” รุธิรายิ้มแก้เก้อแล้วบอกเพื่อน
ศศิที่เป็นเพื่อนสนิทกับรุธิราหรี่ตามองเธอ รุธิราเป็นคนโกหกไม่เก่ง ศศิมักรู้ทันเวลาเธอโกหกเสมอ
“ไม่จริงอะ แอบซุ่มคบหนุ่มอยู่หรือเปล่า? แกทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อย่าบอกนะว่าแอบมีแฟนไม่บอกฉัน”
“เปล๊า! เปล่าเลย!” รุธิรารีบปฏิเสธเสียงสูง ซึ่งยิ่งทำให้เพื่อนสาวของเธอสงสัยไปกันใหญ่
ศศิเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมของรุธิรา เด็กสาวมีนิสัยมั่นใจในตัวเอง เธอตัดผมทรงบ๊อบสั้นเสมอบ่าและย้อมสีทอง ดูออกแนวสาวอาร์ตเป็นที่ถูกใจของหนุ่ม ๆ สายศิลปะพวกคณะศิลป์ทั้งหลายเอามาก ๆ ในขณะที่รุธิราเป็นสาวตัวเล็กน่ารัก ผิวขาวนวลเนียน ยิ้มง่าย มักถูกพวกหนุ่ม ๆ ห้าว ๆ อย่างหนุ่มวิศวะ หรือพวกเนิร์ด ๆ ขรึม ๆ จากคณะแพทย์และเภสัชตามจีบอยู่บ่อยครั้งแต่ทั้งสองสาวก็ครองตัวเป็นโสดมาตลอดสี่ปีของการเป็นนักศึกษา
‘หยุดอยู่ที่คนเดียวก็โง่น่ะสิ โลกนี้มีผู้ชายรอความรักจากฉันเป็นร้อยเป็นพัน’ คือความคิดของศศิที่เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า
‘แค่รักคุณย่ากับหางานพิเศษทำก็หมดเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปหาแฟน’ คือความคิดของรุธิรา
สรุปสองสาวเพื่อนรักเลยไม่มีใครยอมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนจนวันนี้ที่ศศิจับผิดเพื่อนสาวของเธอได้
“อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกมีแฟน ถ้าฉันรู้ฉันจะไปรายงานแฟนแกว่าแกมีคนจ้องจะจีบอยู่กี่คน เอาให้แฟนแกหึงจนแกไม่มีเวลาไปหางานพิเศษทำเลยแหละ” ศศิขู่เพื่อน
“แล้วแกไม่สังเกตเหรอว่าตอนนี้ฉันไม่ทำงานพิเศษมาเป็นเดือนแล้ว” รุธิราบอกเพื่อนแล้วอมยิ้ม สาวน้อยเลิกทำงานพิเศษตั้งแต่ได้เงินค่าขนมเพิ่มมาจากพี่ธนและพี่ชิคแล้ว
คำตอบของรุธิราทำเอาศศิอ้าปากค้างทันที รุธิรายิ้มหน้าทะเล้นแล้วรีบลุกเดินเข้าห้องสอบก่อนที่เพื่อนสนิทจะเริ่มจับต้นชนปลายคำพูดของเธอถูก
“ยัยเร้ด! แกมีผู้ชายเลี้ยง! อย่าเพิ่งเข้าห้องสอบ ตอนนี้เรื่องสอบไม่สำคัญเท่าเรื่องที่ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าผู้ชายของแกคือใคร?!” ศศิตะโกนตามหลังเพื่อนไปแต่สาวน้อยผมยาวเป็นลอนเดินฉับ ๆ เข้าห้องสอบไปเสียแล้ว
ศศิยิ้มน้อย ๆ แล้วเดินตามเพื่อนไป
สงสัยเร้ดจะหลงแฟนเอามาก ๆ ถึงว่า... เดือนที่ผ่านมาดูติดโทรศัพท์เหลือเกิน ขนาดบอกว่าย่าป่วยอยู่โรงพยาบาลก็ยังยิ้มได้ นึกว่าเพราะนิสัยบ้าบอที่มองอะไรในโลกนี้ดีงามไปเสียหมด ที่ไหนได้ แอบมีแฟนไม่บอกเพื่อนนะยัยเร้ด! แอบแรดนะยะหล่อน!