ฉันชื่อแก้มใส เป็นพนักงานการตลาดที่บริษัทแห่งหนึ่ง ชีวิตประจำวันของฉันก็เหมือนพนักงานออฟฟิศทั่วไป ตอนเช้าไปทำงาน กว่าจะกลับถึงห้องก็ฟ้ามืดแล้ว ชีวิตของฉันวนลูปอยู่แบบนี้ตั้งแต่เรียนจบและได้เข้าทำงานที่นี่...มันดูราบเรียบและน่าเบื่อใช่ไหมล่ะ? ฉันก็เบื่อแหละ แต่ทำยังไงได้ล่ะ ก็ต้องก้มหน้าใช้ชีวิตแบบนี้ไปวัน ๆ แฟนก็ไม่มี จะมีก็แต่...ทามะ น้องแมวตัวผู้พันธุ์สก็อตติช ชอร์ตแฮร์ สีส้ม ที่แฟนเก่าสมัยมหา'ลัยเคยให้มา หึ ๆ พูดแล้วก็ยังฉันโกรธไม่หาย พ่อมันไม่รู้หายหัวไปไหนตั้งหลายปี หายไปแบบไม่บอกกล่าวกัน ทิ้งก็แต่เจ้าทามะไว้กับฉันจนตอนนี้...ตอนแรกคิดจะเอาไปปล่อยวัดแหละ แต่ทำไม่ลงเพราะสงสารมัน อีกใจหนึ่งก็ผูกพันกับมันมาก ๆ เพราะเวลาที่ฉันเศร้ามันก็คอยปลอบฉัน (ถึงจะปลอบแบบแมว ๆ ก็เถอะ) อาจจะมีข่วนบ้าง กระโดดหยุมหัวฉันบ้าง แต่พอฉันเศร้าเหมือนมันจะรู้ มันเลยเดินมาใกล้ ๆ แล้วเอาหน้าบาน ๆ ของมันมาคลอเคลียที่แขนของฉันจนฉันรู้สึกดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ...
เช้าวันหนึ่งที่บริษัทที่แก้มใสทำงานอยู่...
"ยัยแก้มใส...มาแต่เช้าเชียวนะ" เสียงผู้หญิงวัยกลางคนดังมาจากโถงทางเดินภายในออฟฟิศ นั่นคือเสียงเจ๊กุ๊ก หัวหน้าแผนกการตลาดที่กำลังเดินมานั่งลงที่โต๊ะข้าง ๆ ฉัน ผู้ที่ชอบเมาท์...เอ้ย! ชอบปรึกษาเรื่องต่าง ๆ กับฉันอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว จะบอกว่าเจ๊แกเป็นพี่สาวแห่งออฟฟิศของเราเลยก็ว่าได้
"อ...อ๋อ ๆ ก็ปกตินี่เจ๊" ฉันตอบเจ๊กุ๊กไปแบบตะกุกตะกักเพราะฉันกำลังโฟกัสอยู่กับการทำงานตรงหน้าไปได้ไม่นาน และใช่แล้ว ฉันเป็นคนที่มาทำงานเกือบเป็นคนแรก ๆ ในออฟฟิศนี้จริง ๆ
"ทำไมล่ะ...ยัยแก้ม แกจะตะกุกตะกักทำไม ฉันไม่ได้จับผิดแกซะหน่อย" เจ๊กุ๊กพูดขึ้น
"เอ้า ก็เจ๊เสียงดังอะ หนูก็ตกใจเป็นนะเจ๊" ฉันพูดขึ้นทันที ก็เจ๊แกเสียงดังจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเวลาทำงาน เจ๊แกเป็นคนที่ทำงานละเอียดจนต้องยกนิ้วให้เลยล่ะ...ก็แหงล่ะสิ ไม่งั้นเจ๊แกไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนกหรอก...ว่าแล้วก็อยากเก่งให้ได้สักครึ่งเจ๊แกเลยแฮะ
"เออ ๆ ยัยแก้ม แกได้ยินมาบ้างป่ะว่าจะมีหัวหน้าแผนกไอทีย้ายมาใหม่...ฉันแอบไปสืบกับพวกแผนก HR ดูแล้ว หล่อโฮกกก" พูดจบเจ๊แกก็กลืนน้ำลายไปหนึ่งแมทช์ ฉันเลยตอบเจ๊แกไปบ้าง
"จริงดิเจ๊...แล้วเขามาทำไมอะ" ฉันทำหน้างง เกาหัวแกร๊ก ๆ หลังจากพูดจบ เจ๊แกจึงพูดสวนขึ้น
"โอ๊ย! ยัยนี่" เจ๊กุ๊กทำหน้าเซ็งก่อนจะพูดต่อ "ก็...แกจำไม่ได้เหรอว่าพี่แมนเพิ่งแต่งงานไป เหมือนวางแผนจะย้ายไปอยู่กับเมียที่เหนือ แกเลยแจ้งลาออกล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมานี้แหละ" เจ๊กุ๊กอธิบายอย่างออกรส
"อ๋อ...จำได้แล้วเจ๊ แล้วยังไงต่ออะ เล่า!" ฉันพูดเสริมออกไปทันทีด้วยสีหน้าฉายความอยากรู้อยากเห็นชัดเจน
"เล่าอะไรล่ะ ฉันก็รู้มาแค่นี้แหละ" เจ๊กุ๊กตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ ก่อนที่พนักงานคนอื่น ๆ จะทยอยกันมาทำงานเรื่อย ๆ เพราะเริ่มจะสายแล้ว
"พอแค่นี้ก่อนนะยัยแก้ม คนเริ่มมาทำงานเยอะแล้ว เอาเป็นว่าวันนี้จะมีหัวหน้าแผนกไอทีจากสำนักงานใหญ่จะย้ายเข้ามาแทนพี่แมน" เจ๊กุ๊กพูดเบา ๆ ด้วยเสียงกระซิบ ก่อนจะพยักหน้าและยกมือขึ้นทำสัญลักษณ์โอเค ฉันเห็นดังนั้นจึงทำยกมือขึ้นทำแบบเดียวกันกับเจ๊แกก่อนที่เราทั้งสองคนจะแยกไปนั่งทำงานของตัวเอง
และแล้ว...ช่วงพักเที่ยงก็มาถึง ฉันเหลือบมองเวลาที่ขวาล่างบนจอคอมพิวเตอร์ เป็นเวลา 12.00 น. และแววตาของฉันเปลี่ยนจากเหนื่อยล้าเป็นแววตาที่ลุกวาวทันที ก่อนจะบิดขี้เกียจและหันไปสะกิดเจ๊กุ๊กที่นั่งทำงานอยู่อย่างตั้งใจ
"เจ๊ ๆ พักเที่ยงแล้วค่า" ฉันกระซิบเจ๊แกจนการทำงานของเจ๊กุ๊กหยุดลง เจ๊กุ๊กเลยพูดขึ้น
"เออ จริงด้วย วันนี้เราจะกินอะไรกันดี" ฉันจึงพูดตอบเจ๊แกไปบ้าง
"หนูคิดไม่ออกอะเจ๊" ฉันส่ายหน้าเบา ๆ ด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนที่ตะได้ยินเสียงฝีเท้าของคนอีกสองสามคนเดินตรงมายังโต๊ะทำงานของฉันกับเจ๊กุ๊ก
"ว่ายังไง? คิดไม่ออกเหรอ" เสียงของผู้ชายดังขึ้นจากด้านหลังของฉัน นั่นคือ...แบงค์ พนักงานแผนกบัญชี นิสัยนิ่ง ๆ แต่งตัวเนี๊ยบเหมือนคุณชาย ทำงานเป๊ะมาก และหนี่งในสมาชิกของแก๊งอาหารกลางวันของฉัน
"เชี่ย...กูอยากกินกะเพราว่ะ" เสียงผู้ชายอีกคนดังขึ้นอีก นั่นคือเสียงของ ไผ่ หรือ 'ไอ้ไผ่!' ...พนักงานแผนกไอที นิสัยเกรียนจัด ชอบกวนตีนคนอื่นไปทั่ว แม้แต่หัวหน้าแผนกก็ไม่เว้น แต่จริง ๆ มันก็เป็นคนที่ถึงไหนถึงกันคนหนึ่งเลย รู้สึกแบบไหนก็แสดงออกแบบนั้น ก่อนที่เสียงเล็ก ๆ จะแทรกขึ้น
"พอเลยไอ้ไผ่ ไม่ต้องมาเกลี้ยกล่อมให้คนอื่นอยากกินแบบเดียวกับแกเลย" นั่นคือเสียงของ แบม พนักงานแผนกกราฟิกดีไซน์ สมาชิกแก๊งอาหารกลางวันคนสุดท้าย มีนิสัยอินดี้ไปหน่อย ไม่ค่อยขี้เมาท์แบบฉันกับเจ๊กุ๊ก แต่ก็เป็นคนที่จริงใจ ตั้งแต่ฉันทำงานที่นี่มา แบมไม่เคยเมาท์ใครในออฟฟิศจริง ๆ จัง ๆ สักคน
"งั้น...โหวตป่ะ แล้วหมุนวงล้อ..." ฉันเสนอขึ้นทันที
"ได้!" แบมพูดเสริมฉันขึ้นมา
"โอเค ฉันคิดไม่ออกว่ะ แต่...ส้มตำก็ได้" ฉันพูดขึ้นพลางพิมพ์ลงไปในวงล้อสุ่มในคอมพิวเตอร์ตรงหน้า
"มา ขออีกสัก...สองเมนู" ฉันพูดต่อ ก่อนที่จะมีเสียงของไอ้ไผ่แทรกขึ้น
"กะเพรา! แกพิมพ์ลงไปเลยไอ้แก้ม" ฉันได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับไผ่ไป
"เออ ๆ ฉันรีบอยู่เนี่ย หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว"
รีบพิมพ์ลงไปเป็นชอยส์ที่สอง และพูดขึ้น
"ขออีกหนึ่งเมนูค่าาา" ฉันลากเสียงยาวอย่างร่าเริง ก่อนที่เสียงของแบงค์จะพูดขึ้นนิ่ง ๆ
"ก๋วยเตี๋ยว..." ฉันหันไปมองแบงค์ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างงง ๆ แต่ก็เพิ่มชอยส์ลงไปในวงล้อ และเริ่มกดสุ่มทันที
"ฉันสุ่มแล้วนะทุกค๊นนน"
ทุกสายตามองมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานของฉันอย่างจดจ่อด้วยความลุ้นว่าเที่ยงนี้จะได้กินอะไร...และแล้วผลก็ไปตกอยู่ที่ 'ผัดกะเพรา' ไผ่เห็นดังนั้นจึงร้องดีใจอย่างออกนอกหน้าและพูดขึ้น
"เย่...ได้กินกะเพราแล้วโว้ยยย"
"เห็นป่ะ ฉันบอกแล้วว่าให้กินกะเพราแต่แรกก็ไม่เชื่อ"
"เออ ยินดีด้วย ทุกคนจะกินกะเพรากับแก" ฉันพูดเหน็บไผ่ไปอย่างไม่จริงจังนักก่อนที่พวกเราจะพากันย้ายตัวเองลงไปที่ร้านข้าวกะเพราด้านล่างข้าง ๆ สำนักงาน...