เช้าวันต่อมา
ผมเลือกที่จะส่งข้อความไปหาลินดาเพื่อนัดเธอมาเคลียร์ทุกอย่างให้จบในวันนี้
LIKE
เซน : วันนี้น้องลินว่างไหมครับ
เซน : มาเจอกันหน่อยได้ไหม
เซน : พี่มีเรื่องอะไรคุยกับน้องลินครับ
ลินดา : ได้ค่ะพี่เซน
เซน : ตอนเที่ยงพี่ไปรับนะครับ
ลินดา : ค่ะ
raed
หลังจากที่ผมกดอ่านข้อความเสร็จผมก็รีบไปเตรียมตัวเพื่อจะไปรับลินดาทันที
@สวนสาธารณาแห่งหนึ่ง
“พี่เซนพาลินมาที่นี่ทำไมเหรอคะ” ลินดาเอ่ยถาม ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับแต่เลือกที่จะเดินไปนั่งที่เก้าอี้แทน
“น้องลินมานั่งตรงนี้สิครับ” แล้วผมก็เอ่ยเรียกให้ลินดาเดินมานั่งข้างๆ
“พี่ขอโทษจริงๆนะครับเรื่องเมื่อคืน”
“พี่อยากขอโทษเราอีกครั้งน่ะครับ พี่ไม่อยากให้น้องลินรู้สึกไม่ดีกับพี่” ผมเริ่มพูดขึ้นเพราะผมรู้สึกผิดจริงๆเรื่องที่ไปจูบลินดาเมื่อคืน
“ลินเข้าใจค่ะ ช่างมันเถอะนะคะ”
“รู้ไหมครับว่าพี่ชอบน้องลินตรงไหน” ลินดาก็ส่ายหน้าให้ผม
“พี่ชอบที่น้องลินเป็นคนเก่ง มีความเป็นผู้นำกล้าคิดและตัดสินใจได้”
“ลินเนี่ยนะคะ”
“ใช่ครับ ตอนน้องลินเป็นประธานนักเรียน ดูเท่มากเลยนะ ประธานนักเรียนหญิงคนแรก” ผมตอบไปตามความจริง ผมชอบเธอตั้งแต่แรกเจอแล้ว แต่พอได้ร่วมทำงานด้วยกันมันก็ยิ่งทำให้ผมชอบเธอมากขึ้นไปอีก เพราะลินดาเป็นคนเก่ง สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้เป็นอย่างดี
“ไม่ขนาดนั้นมั้งคะ” ลินดาก็ยิ้มตอบกลับมา
“แต่ที่พี่ชอบที่สุดคือรอยยิ้มของน้องลินนะครับ รอยยิ้มหวานๆที่อยู่บนหน้าสวยๆ” อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผมตกหลุมรักเธอก็คือรอยยิ้ม ลินดาเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากๆ ยิ่งเวลาเธอยิ้มหวานๆยิ่งโคตรน่ารัก รอยยิ้มของเธอทำให้โลกดูสดใสไปหมดในสายตาของผม
“พี่เซนพูดแบบนี้ทำลินไปไม่เป็นเลยนะคะ”
“พี่อยากให้น้องลินยิ้มเยอะๆนะครับ พี่ไม่อยากเห็นน้องลินเสียใจหรือร้องไห้เลย”
“ลินก็ยิ้มอยู่นี่ไงคะ” ลินดาก็หันมายิ้มให้ผม
“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ยิ้มแบบนี้” ผมส่ายหน้าออกไป
“คะ?” ลินดาถึงกับทำหน้างงอย่างไม่เข้าใจ
“ตอนนี้น้องลินเหมือนฝืนยิ้มอยู่เลยครับ”
“…”
“พี่อยากให้น้องลินยิ้มแบบมีความสุข ที่แสดงออกมาจากใจน้องลินจริงๆ” ผมเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าทุกครั้ง
“ลินก็มีความสุขอยู่นะคะ”
“น้องลินครับ พี่อยากให้น้องลินมีความสุขจริงๆนะครับ”
“…”
“ความสุขที่ไม่ต้องฝืนใจตัวเองเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้”
“พี่เซนหมายความว่าไงคะ ลินไม่เข้าใจ”
“พี่รู้เรื่องระหว่างน้องลินกับไอ้กราฟฟิคแล้วครับ”
“พี่เซนคะ”
“ถ้าความสุขของน้องลินไม่ใช่พี่ พี่ก็ไม่อยากฝืนใจน้องลินนะครับ” ผมเอ่ยออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง ผมไม่อยากรั้งลินดาไว้ในเมื่อใจเธอก็ไม่ได้อยู่กับผมเลยสักนิดเดียว
“คือพี่เซนคะ…ลินกับพี่กราฟฟิคมันไม่ได้มีอะไรแล้วนะคะ” ลินดาทำท่าจะพูดอธิบายอย่างอึกอัก
“น้องลินไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกครับ พี่เข้าใจน้องลินนะ” ผมไม่อยากให้ลินดาต้องมาอธิบายอะไรให้ลำบากใจ
“ลินไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้นะคะ”
“พี่รู้ครับ”
“ลินพยายามลองเปิดใจกับพี่เซนแล้ว”
“พี่เข้าใจครับ เข้าใจทุกอย่างเลย” ผมยิ้มตอบเธอกลับไป
“พี่เซน”
“พี่รู้ว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้และความรู้สึกบังคับกันไม่ได้เช่นกัน”
“ในเมื่อน้องลินรักไอ้กราฟฟิค ไม่ใช่พี่ พี่ก็ควรจะปล่อยน้องลินไป” ผมเอ่ยออกไปตามความจริงที่ได้รับรู้และต้องยอมรับมันให้ได้
“ฮึก!” แล้วลินดาก็ร้องไห้ออกมา ผมจึงเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอ
“น้องลินไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะครับ”
“แต่ลิน…”
“พี่ต่างหากที่ต้องเป็นคนที่รู้สึกผิดกับน้องลิน มากกว่านะ” แล้วผมก็เลือกที่จะบอกเรื่องงานหมั้นไปเพื่อไม่ให้ลินดาต้องรู้สึกผิดกับผมไปมากกว่านี้ เพราะเอาจริงๆ ผมต่างหากที่ต้องรู้สึกผิดกับเธอ
“เมื่อวานที่พี่ไปทำธุระกับพ่อ จริงๆแล้วท่านพาพี่ไปดูตัวครับ”
“หมายความว่าไงเหรอคะ”
“พี่กำลังจะหมั้นครับน้องลิน”
“หมั้นเหรอคะ”
“พ่ออยากให้พี่หมั้นกับลูกสาวเพื่อนพ่อครับ”
“…”
“เมื่อคืนที่พี่ดื่มเหล้าหนักเพราะพี่เครียดว่าควรจะบอกน้องลินยังไงดีจนพี่เผลอจูบน้องลินไป”
“และที่พี่อยากเจอน้องลินวันนี้ก็เพื่อบอกเรื่องนี้”
“…”
“พี่รู้สึกผิดกับเรามากๆ พี่ขอโทษนะครับ” ผมเอ่ยบอกเธอด้วยความจริงใจ
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เซน พี่ไม่ได้ผิดอะไรเลยนะคะ”
“ให้เรื่องนี้พี่เป็นคนผิดเถอะนะครับ”
“พี่เซนไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้นะคะ”
“ฮึก!” ลินดาก็ร้องไห้ออกมาทำให้ผมค่อยๆยกมือขึ้นลูบหัวเธอเบาๆเพื่อปลอบโยน
“ไม่ร้องไห้นะครับ พี่บอกแล้วไงว่าพี่ชอบที่น้องลินยิ้มมากกว่านะ”
“ไอ้กราฟฟิคลองให้โอกาสมันดูนะครับ พี่เชื่อว่ามันดูแลน้องลินได้ดีแน่ๆ” ผมพูดออกไปตามที่ผมรู้สึก ไอ้กราฟฟิคจะดูแลลินดาได้เป็นอย่างดี ผมมั่นใจ
“…”
“อย่าเสียใจอีกเลยนะ น้องลินเหมาะกับรอยยิ้มที่สุด” แล้วผมก็ยิ้มให้เธอ
“พี่ขอกอดน้องลินครั้งสุดท้ายได้ไหมครับ” ผมเอ่ยออกไป ลินดาก็พยักหน้าตอบทำให้ผมเข้าไปกอดเธอทันที และมันคงจะเป็นกอดแรกและกอดสุดท้ายของเรา…