“ข้อเสนอของคุณ มีหลายข้อที่ไม่จำเป็นค่ะ ฉันขอรับแค่สองข้อเท่านั้น” เธอตอบด้วยแววตามั่นคง ไฟซัลหยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน ก่อนส่งต่อให้อลัน เลขาหนุ่มรับมาอ่านพลางตรวจทานเอกสารในใจ
“ทำไมคุณรับข้อเสนอแค่เงินอุปถัมภ์ของมูลนิธิกับเงินเดือนเท่านั้นล่ะครับ แถมยังแก้ไขเงินเดือนจากหกหมื่นบาทเป็นสองหมื่นบาทอีกต่างหาก มันไม่น้อยไปหน่อยเหรอครับ” เขาไม่เข้าใจผู้หญิงตรงหน้าเลยจริง ๆ แทนที่เธอจะเรียกร้องขอมากกว่านี้ก็ได้แท้ ๆ แต่กลับแก้ไขปรับตัวเลขลงซะเกินครึ่ง ช่างเป็นผู้หญิงที่เดาใจยากเสียจริง
“ไม่น้อยหรอกค่ะ ถ้าให้พูดกันตามหลักความเป็นจริง ฉันไม่มีพื้นฐานด้านงานเลขาเลยด้วยซ้ำนะคะ คุณให้ตำแหน่งผู้ช่วยเลขากับฉันทั้งที่ฉันไม่มีประสบการณ์ แถมยังให้เงินเดือนที่ค่อนข้างสูงมาก ฉันคงรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”
ชายหนุ่มทั้งสองเหลือบมองหน้ากันอย่างรู้สึกทึ่งกับคำตอบของไลลานา เธอจะรู้บ้างไหมนะว่าเงินเดือนที่เธอเสนอมามันเกือบจะเท่ากับเด็กฝึกงานในบริษัทเขาแล้วด้วยซ้ำ
“ไม่ได้ครับ ที่คุณเสนอมามันต่ำเกินไป อย่างน้อย ๆ ก็ต้องสามหมื่นขึ้นนะครับ” เขาเสนอค่าตอบแทนให้เธอใหม่ ไลลานาขมวดคิ้วน้อย ๆ พลางกัดริมฝีปากอย่างคิดหนัก
“ฉันคงรับไม่ได้หรอกค่ะ” เธอปฏิเสธ
“สามหมื่น” แต่มีหรือคนอย่างไฟซัลจะยอม เขาบิทราคาขึ้นสูงอีก ไลลานาถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้
“คะ คุณไฟซัลคะ ฉันรับไม่ได้จริง ๆ นะคะ”
“สามหมื่นห้า”
“แต่ว่า…” เธอพยายามจะแย้ง
“สี่หมื่น”
“นั่นมัน…”
“ถ้าคุณยังปฏิเสธอีกผมจะบิทราคาขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ” ไฟซัลกระตุกยิ้มมุมปาก สายตาจริงจังของเขาทำไลลานาพูดไม่ออก “สำหรับคุณ… เดือนละแสนผมก็จ่ายไหว”
“…” ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มขบเม้มอย่างไม่กล้าปฏิเสธอีกเพราะกลัวว่าขั้นเงินเดือนของเธอจะสูงทะลุเพดานตามที่เขาว่าจริง ๆ เธอคิดผิดหรือคิดถูกกันนะที่ยอมตกลงทำงานกับเขา นี่มันไม่ต่างจากการขายวิญญาณให้ซาตานเลย…
เมื่อเห็นว่าไลลานายอมนั่งเงียบ ไม่ตอบโต้หรือปฏิเสธอะไรอีก รองประธานหนุ่มขยับยิ้มพอใจ เขาส่งสายตาให้อลันแก้ไขตัวเลขเงินเดือนในเอกสารสัญญาแล้ววางคืนให้ไลลานา
ร่างสูงลุกขึ้นยืน เธอจึงลุกขึ้นตาม เขายื่นมือออกมาเพื่อรอจับมือกับเธอ ไลลานาหลุบตามองมือหนาตรงหน้าอย่างชั่งใจ สุดท้ายจึงยอมยื่นมือไปสัมผัสกับมือหนาแผ่วเบา ก่อนสะดุ้งน้อย ๆ เมื่อมือเล็กถูกบีบเบา ๆ แถมไฟซัลยังแอบไล้ปลายนิ้วกับสันมือของเธอด้วย
“เอ่อ…” เธออึกอักอยากดึงมือออกจะแย่ แต่คนตรงหน้าไม่ยอมปล่อย เขายิ้มมุมปาก มองเธอด้วยสายตาพราวระยับ
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับคุณไลลา” เขาถือวิสาสะเรียกชื่อเล่นเธอเสียดื้อ ๆ ทำเอาเจ้าของชื่อทำหน้าเลิ่กลั่กไปต่อไม่ถูก
“ชะ เช่นกันค่ะ”
“อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมไอดังมาจากอลันเป็นครั้งที่สอง ไฟซัลถึงยอมปล่อยมือไลลานา และยังไม่วายส่งสายตาพิฆาตไปให้เลขาหนุ่มด้วย ร่างบางที่สองมือเป็นอิสระรีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายเตรียมตัวหาทางชิ่งหนีโดยเร็ว
“ถะ ถ้างั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีฉันต้องแวะเข้ามูลนิธิก่อนน่ะค่ะ ขอตัวนะคะ” เธอรวบรัดคำพูดแล้วโค้งลาโดยไม่เปิดโอกาสให้ไฟซัลได้แย้งอะไรอีก เมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานรองประธานบริษัทได้สำเร็จ เสียงถอนหายใจแรง ๆ พ่นออกมาทันที
ฉันคงไม่ได้ขายวิญญาณให้ซาตานไปแล้วจริง ๆ หรอกนะ
ทางด้านไฟซัลหลังจากไลลานาปิดประตูห้องทำงานลง เขาหันกลับมาถลึงตาใส่เลขาคนสนิททันที แต่คนถูกมองกลับไม่ใส่ใจสักนิด อลันหยิบเอกสารอีกฉบับของไลลานาขึ้นมาอ่านทวน
“นายไว้ใจเธอได้แค่ไหน?”
เวลาที่พวกเขาอยู่กันสองคน อลันมักละทิ้งความสุภาพของเจ้านายกับลูกน้องไป ซึ่งไฟซัลเป็นคนบอกให้เขาทำแบบนั้นเอง และตอนนี้ไฟซัลกำลังคิดว่าตัวเองทำผิดมหันต์ เพราะเลขาของเขาคนนี้นอกจากไม่เกรงกลัวเขาแล้วยังไม่กลัวตายเสียเลยน่ะสิ! ตัวขัดจังหวะจริง ๆ!
“นายหมายความว่ายังไง” ไฟซัลนั่งลงที่เดิม เขาเลิกใส่ใจท่าทีขึงขังของเลขาตัวเองแล้วนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟที่ยังอุ่น ๆ อย่างอารมณ์ดี
“เธอเป็นลูกสาวของประธาน JN กรุ๊ปนะ นายไว้ใจเธอได้แค่ไหน?”
นี่เป็นสาเหตุที่อลันมองไลลานาด้วยสายตาไม่ไว้ใจตั้งแต่แรก เพราะเขาสืบประวัติของเธอมาอย่างละเอียดทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วไลลานาคือลูกสาวของบริษัทคู่แข่งทางธุรกิจ แม้ JN กรุ๊ปจะไม่ใช่บริษัทใหญ่เหมือนแวนเนอร์กรุ๊ป เรียกว่าเป็นกระดูกคนละเบอร์เลยก็ว่าได้ แต่ JN กรุ๊ปก็ถือว่าเป็นเสี้ยนหนามทางธุรกิจที่คอยขัดแข้งขัดขาแวนเนอร์กรุ๊ปมาตลอดเวลาหลายปี เป็นเหมือนแมงหวี่แมงวันที่อยากจะตบให้ตายไปจากสายตามาโดยตลอด การที่รับลูกสาวของประธานบริษัทนั้นมาร่วมงานจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าไว้วางใจสักเท่าไหร่ในความคิดของอลัน
“จากประวัติของเธอ ผู้หญิงคนนี้ออกจากบ้านมาอยู่ตัวคนเดียวตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน แถมเธอยังตัดขาดกับทางครอบครัวมาตลอด แม้แต่ทาง JN กรุ๊ปเองก็ไม่เคยปล่อยข่าวเรื่องลูกสาวออกมา มีเพียงแค่ลูกชายที่รับตำแหน่งรองประธานคนปัจจุบัน แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วไม่ใช่เหรอว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวของเธอมันย่ำแย่ขนาดไหน”
ไฟซัลวิเคราะห์ออกมาอย่างละเอียดพร้อมกับเคาะนิ้วลงบนรูปภาพแอบถ่ายของไลลานาที่เขาสั่งให้คนไปตามสืบมาให้ก่อนหน้านี้ เขาหยิบภาพใบหนึ่งขึ้นมา มันเป็นภาพหญิงสาวกำลังยิ้มหวานให้กับเด็ก ๆ ในมูลนิธิ ริมฝีปากหนาขยับยิ้มจาง ๆ ยามจ้องมองภาพในมือ
“ผู้หญิงที่มีรอยยิ้มนางฟ้ากับแววตาใสซื่อขนาดนี้ นายยังหวาดระแวงอีกเหรออลัน”
“…”
“นายนี่มันเย็นชาไร้หัวใจไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ น้า…”