“คุณอยากทำงานเหรอครับ?”
“อยากสิคะ ฉันมาที่นี่เพื่อที่จะทำงานแลกกับเงินเดือนนะคะ ถึงฉันจะไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ แต่ฉันก็อยากจะเรียนรู้ค่ะ” ไลลานาอธิบายเสียงหนักแน่น “การที่คุณไม่มอบหมายงานให้ฉันทำเลยแบบนี้มันเหมือนเป็นการดูถูกความสามารถฉันนะคะ ทำเหมือนฉันเป็นคนไร้ประโยชน์ ซึ่งฉันไม่ต้องการเป็นแบบนั้น”
ไฟซัลมองสบตากับหญิงสาวตัวเล็กที่ระบายความในใจออกมาจนหมด เขาเห็นถึงความตั้งใจของเธอ แต่จะส่งเธอให้ไปฝึกงานกับอลันเขาก็ไม่คิดจะทำเหมือนกัน
ไฟซัลลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยุดยืนหน้าประตูบานหนึ่งภายในห้องทำงานของเขา ไลลานามองตามร่างสูงอย่างงุนงง พอเห็นว่าเขาหันกลับมามองเธอจึงลุกขึ้นยืนตาม
“มานี่สิครับ คุณอยากทำงานไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ… ค่ะ”
ร่างบางเดินเข้าหาเขาช้า ๆ จนหยุดยืนด้านข้างกัน ไฟซัลจึงกดรีโมทเปิดประตูห้องลับ…
“นี่ห้องอะไรเหรอคะ?”
เมื่อทั้งสองเดินเข้ามาภายในห้อง ไฟสว่างวาบขึ้นทำให้เห็นภาพบรรยากาศภายในห้องอย่างชัดเจน เสียงประตูปิดล็อคจากด้านหลัง เธอหันมองด้วยความตื่นตระหนกหน่อย ๆ
“ห้องลับของผมเองครับ” คำตอบของเขาเรียกสายตาหวานหันมอง
“คุณหมายถึงห้องแลปหรือเปล่าคะ” เธอแก้ไขคำให้เขาใหม่เมื่อมองจากภาพบรรยากาศและอุปกรณ์ภายในห้องแห่งนี้ ไฟซัลยิ้มมุมปากพยักหน้าเบา ๆ
“ใช่แล้ว นี่คือห้องแลปส่วนตัวของผมเอง”
ลักษณะภายในห้องแลปส่วนตัวของไฟซัล คล้าย ๆ กับห้องแลปที่ไลลานาเคยเห็นในหนัง อุณหภูมิภายในห้องเย็นจัด แถมยังเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทดลองสารพัด หากทว่ามันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด กลับดูสบายตาอย่างน่าประหลาด
“กลิ่นนี้… กลิ่นอะไรเหรอคะ” เธอละสายตาจากการสำรวจรอบห้องมามองไฟซัลซึ่งตอนนี้เขาสวมชุดคลุมสีขาวเรียบร้อยแล้ว พอได้มาเห็นเขาในชุดแบบนี้ ทำให้รู้สึกถึงความเป็นนักวิจัยของเขา แถมเขายังเป็นนักวิจัยมือฉมังแบบหาตัวจับยากเสียด้วย
“สวมนี่ก่อนครับ”
ไฟซัลถือชุดคลุมอีกชุดและเดินเข้ามาหา เธอยื่นมือจะรับชุดมาสวม แต่ถูกมือหนาโยกหนี เขาทำสายตาประมาณว่าต้องการจะสวมให้เธอเอง ไลลานาจึงยอมหันหลังยื่นแขนสวมชุดตามความต้องการของเขา ความหนาจากชุดคลุมสีขาวช่วยทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเธออบอุ่นขึ้น
“คุณถามถึงกลิ่นนี้ใช่ไหมครับ” เขาจูงมือเล็กให้เดินตามมาหยุดหน้าประตูกระจกบานใหญ่ ภายในห้องนั้นคล้ายกับโดมขนาดกลางเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณราวกับเขายกสวนดอกไม้ทั้งสวนมาไว้ในโดมแห่งนี้
“นี่มัน… อะไรเหรอคะ ทำไมถึงมีห้องแลปในห้องทำงานของคุณ และยังมีสวนดอกไม้ในห้องแลปของคุณอีก” เธอพึมพำถามขณะสายตาทอดมองสวนดอกไม้จำลองขนาดย่อม ๆ ด้วยแววตาตื่นเต้น
ไลลานาเป็นคนชอบดอกไม้มาก ๆ เธอเติบโตมากับร้านดอกไม้ตั้งแต่เด็ก ๆ มารดาผู้ล่วงลับของเธอเคยเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ ก่อนร้านนั้นจะถูกปิดลงหลังจากแม่เธอเสียชีวิตไป หญิงสาวจึงผูกพันกับดอกไม้เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเติบโตมาพร้อมกับสวนดอกไม้เลยก็ว่าได้
“คุณชอบไหมครับ” ไฟซัลทอดสายตามองใบหน้าสวยที่กำลังผลิรอยยิ้มหวานละมุนยามเหม่อมองสวนดอกไม้จำลองของเขา เขารู้เรื่องของไลลานาเป็นอย่างดี รวมถึงเรื่องที่เธอผูกพันกับดอกไม้มาก ๆ ด้วย
“ชอบค่ะ…” เสียงหวานยิ้มตอบก่อนชะงักเล็กน้อย เธอเงยหน้ามองร่างสูงข้างกายพลางขมวดคิ้วหน่อย ๆ “คุณยังไม่ตอบฉันเลยนะคะว่าทำไมถึงมีสวนดอกไม้อยู่ในแลปของคุณได้ละคะ?”
“เรื่องนั้น…” ไฟซัลยักยิ้มบาง เขาจูงมือหญิงสาวมาที่โต๊ะทำงานกลางห้องแลป หยิบหลอดทดลองหลอดหนึ่งขึ้นมาเปิดฝาแล้วยื่นส่งให้เธอ คิ้วสวยเลิกขึ้นน้อย ๆ มองเขาด้วยความไม่เข้าใจ “นี่คือกลิ่นของ DGP ที่ผมพกติดตัวเป็นประจำ”
“คะ? น้ำหอม DGP น่ะเหรอคะ” ไลลานาขยับเข้าใกล้แล้วค่อย ๆ สูดดมกลิ่นหอมจากหลอดทดลองที่ไฟซัลยื่นมาตรงหน้า กลิ่นหอมเฉกเช่นเดียวกับกลิ่นกายของเขาแผ่กำจายอบอวล ใบหน้าสวยเห่อร้อน เมื่อจู่ ๆ ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกไฟซัลโอบกอดแล่นวาบเข้ามา
ไฟซัลลอบสังเกตสีหน้าหญิงสาว เขายักยิ้มบาง วางหลอดทดลองลงที่เดิมก่อนนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานโดยมีไลลานายืนนิ่งอย่างทำตัวไม่ถูก เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไรกับสถานการณ์ตอนนี้ดี อยู่ดี ๆ บรรยากาศมันก็แปลก ๆ ขึ้นมา เธอวางสีหน้าไม่ถูกเลย
“มาตรงนี้หน่อยสิครับ” เสียงเรียกทุ้มต่ำเสียจนคนถูกเรียกหัวใจเต้นผิดจังหวะ เธอมองเขาอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะยอมเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเขา ไฟซัลเงยหน้ามองไลลานา แววตาของเขามีเลศนัยจนร่างบางเกือบจะถอยหลังหนี แต่ถูกมือหนาคว้าข้อมือไปจับเอาไว้ทัน “อย่าหนีสิครับ ไหนบอกว่าอยากจะทำงานไง”
“ก็… ทำงานอะไรล่ะคะ คุณจะให้ฉันทำงานอะไรคะ” เธอพูดไปบิดข้อมือไป แต่มือหนาไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ แถมยังยกมือเธอขึ้นมาตรงหน้าเขา ก่อนจรดปลายจมูกลงบนหลังมือบางแผ่วเบา ดวงตาคมจ้องดวงตาหวานด้วยแววตานุ่มลึก ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำแทบคลั่ง
“งานของคุณก็คือ… อยู่กับผมจนกว่าผมจะเสร็จก็พอ”