“ทำอะไรกัน?!”
น้ำเสียงเย็น ๆ ดังจากหน้าประตูห้องทำงานเรียกสายตาคนทั้งสองหันมองอย่างพร้อมเพรียงกัน ใบหน้าหล่อเหลามีแววทะมึนทึงของรองประธานหนุ่มปรากฏสู่สายตา ร่างสูงก้าวเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางเร่งร้อน ก่อนจะ…
หมับ
“จะอยู่ท่านี้อีกนานไหมครับ?” มือหนาดึงแขนเรียวของไลลานาให้ลุกขึ้นยืนเพราะเธอยังคงค้างอยู่ที่ท่าคร่อมทับบนตัวของเลขาหนุ่ม และดูเหมือนคนทั้งสองจะมัวแต่อึ้งมากไปหน่อยถึงได้ค้างอยู่ท่านั้นนานเหลือเกิน ถ้างั้นเขาจะช่วยแยกทั้งคู่ออกจากกันให้เอง
“อ๊ะ… ขะ ขอโทษค่ะ” ไลลานาหน้าร้อนฉ่าด้วยความอาย เธอเองก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเมื่อครู่คร่อมทับอยู่บนตัวชายหนุ่ม ถ้าไฟซัลไม่มาช่วยดึงเธอขึ้น เธอคงได้อับอายมากกว่านี้แน่ ๆ
“มันเกิดอะไรขึ้นกันครับ ทำไมคุณถึงไปอยู่บนตัวไอ้… อะแฮ่ม! ทำไมถึงไปอยู่ในท่านั้นได้ครับ” ไฟซัลกดข่มความไม่พอใจเอาไว้เมื่อเห็นว่าดวงตากลมโตกำลังจ้องมองเขาอยู่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเขม่นสายตาดุดันไปทางเลขาคนสนิท อลันลุกขึ้นยืนตามปกติแล้ว สีหน้าของเขากลับมาเรียบนิ่งราวกับก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
“คือเมื่อกี้… คุณอลันสะดุดล้มค่ะ ฉันก็เลยคว้าเขาเอาไว้ แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะล้มไปด้วย จริงสิ คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” ไลลานาอธิบายเสียงหวาน ก่อนจะหันมองอลันด้วยสายตาห่วงใย การกระทำของเธอนั้นมีผลต่ออารมณ์ของผู้ชายทั้งสองแตกต่างกัน
คนหนึ่งหลบสายตา รู้สึกประหม่า
ส่วนอีกคนกำลังกัดฟันกรอด ๆ
“ฮึ! ตัวก็ตั้งใหญ่โต ทำอีท่าไหนให้ล้มเข้าล่ะ” ไฟซัลเลิกกัดฟันแล้วหันไปกัดอลันตรง ๆ แทน เขากอดอกเชิดหน้า สายตาเอาเรื่องมองตรงไปทางเลขาตัวเอง ทั้งหมดทั้งมวลล้วนไม่ได้อยู่ในสายตาของไลลานา เพราะรองประธานหนุ่มจงใจหันหลังให้เธอ
“เช้านี้คุณมีประชุมสำคัญ ผมขอตัวไปจัดเตรียมข้อมูลก่อน” อลันถอนใจเบา ๆ เขารู้ว่าเจ้านายของเขากำลังแสดงอาการไม่พอใจใส่เขาอยู่ และเขาคงไปกระตุกหนวดเสือเข้าให้ซะแล้ว
“เออ รีบไปเลย! ถ้าในที่ประชุมผิดพลาดนะ ฉันไล่นายออกแน่” ไฟซัลยังคงพาลไม่เลิก ทว่าอลันกลับไม่ได้ถือสาหาความ เพราะเขาคุ้นชินกับอารมณ์แปรปรวนแสนเอาแต่ใจของเจ้านายหนุ่มแล้ว ส่วนคนที่ไม่คุ้นชินแถมยังเกร็งมากกว่าเดิมกลับเป็นไลลานาเสียเอง เธอทำท่าจะเดินตามหลังอลันออกไปด้วย แต่ต้องสะดุ้งโหยงกับน้ำเสียงเข้ม ๆ ด้านหลัง “นั่นคุณจะไปไหนครับ?!”
“คะ? เอ่อ… ฉันจะตามไปเริ่มงานกับคุณอลันค่ะ” ไลลานาหันกลับมาตอบหน้าซีด เธอไม่เคยเห็นไฟซัลในโหมดอารมณ์ไม่ดีมาก่อน ปกติทุกครั้งที่เจอเขามักจะสุขุมและอมยิ้มเสมอ พอมาเจอแบบนี้เลยทำตัวไม่ถูก
“ทำไมต้องตามเขาไปด้วยครับ” ไฟซัลนั่งลงที่เก้าอี้ทำงาน สายตาคมจ้องมองไลลานานิ่ง คนถูกมองอ้ำอึ้งเล็กน้อย
“ก็… ก็ฉันเป็นผู้ช่วยเขาไม่ใช่เหรอคะ”
เธอจำได้ว่าตำแหน่งงานของเธอคือผู้ช่วยเลขา เธอก็ต้องตามอลันออกไปเพื่อเรียนรู้งานจากเขา เธอเข้าใจผิดตรงไหนงั้นเหรอ…
ไฟซัลจ้องมองหญิงสาวชั่วครู่ เสียงถอนหายใจออกมาเบา ๆ เขามองไปทางโต๊ะทำงานอีกตัวซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะทำงานของเขา และแน่นอนว่ามันตั้งอยู่ในห้องทำงานเดียวกับเขาด้วย
“นั่นคือโต๊ะทำงานของคุณ ตั้งแต่วันนี้ไปคุณต้องนั่งทำงานตรงนั้นครับ” น้ำเสียงเฉียบขาดจากร่างสูงทำไลลานาเบิกตากว้าง เธอมองโต๊ะทำงานของตัวเองด้วยความงุนงงก่อนจะหันกลับมามองไฟซัลอีกครั้ง
“โต๊ะทำงานฉันหรือคะ? ทะ ทำไมมันอยู่ในห้องคุณล่ะ?”
“ทำไมจะอยู่ในห้องผมไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อผมจ้างคุณให้มาอยู่ข้าง ๆ ผม คุณก็ต้องอยู่ข้างผมตลอดเวลาสิครับ”
ไลลานาถึงกับนิ่งอึ้งไปกับคำตอบของเขา เธอพลาดเองที่ไม่ได้ถามรายละเอียดหน้าที่ของตัวเองให้ดี ไม่คิดเลยว่ามันจะออกมาในรูปแบบนี้
“คุณลำบากใจเหรอครับ ไม่อยากนั่งทำงานใกล้ ๆ ผมเหรอ” คำถามของไฟซัลอยู่ใกล้ในระยะประชิดจนไลลานาตกใจเผลอถอยหลังไปสองก้าว เธอเกือบจะสะดุดล้ม โชคดีที่มือหนาคว้าแขนเอาไว้ “ระวังหน่อยสิครับ ถ้าคราวนี้คุณล้ม… ผมจะเป็นฝ่ายคร่อมคุณเองนะ”
เฮือก!
นั่นมันคำพูดกำกวมอะไรน่ะ แถมสายตาแพรวพราวราวกับกำลังเล่นสนุกของเขานั่นอีก นี่เธอทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ไปแล้วจริง ๆ สินะ
ผู้ชายคนนี้ทั้งอันตราย ทั้งไม่น่าไว้ใจ ทั้งไม่ควรจะอยู่ใกล้
พระเจ้าคะ… ได้โปรดช่วยลูกด้วยค่ะ!
ลูกทำเรื่องผิดพลาดโดยการขายวิญญาณให้ซาตานไปแล้วค่ะ!
.
.
.
สิบนาทีต่อมา
ไลลานาเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานของไฟซัลอีกครั้ง เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ช่างน่าอับอายจริง ๆ เธอกลัวเขาถึงขนาดวิ่งหนีออกจากห้องทำงานเพื่อไปหลบหายใจหายคอในห้องน้ำ และที่น่าอายกว่านั้นก็คือตอนวิ่งออกมาเธอเจอกับอลันซึ่งนั่งทำงานอยู่หน้าห้อง แล้วเขาก็เงยหน้าจากเอกสารขึ้นมามองเธอด้วยนี่น่ะสิ
“…” ไฟซัลแสร้งอ่านเอกสารในมือ ทำเป็นไม่สนใจร่างบางที่เดินย่องเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบ ไลลานาเดินลัดไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง เธอได้แต่มองพื้นโต๊ะอย่างไม่รู้จะทำตัวอย่างไรต่อไป
ดวงตาคมลอบมองหญิงสาวร่วมห้อง ริมฝีปากยกยิ้มบาง ๆ ยิ่งเห็นท่าทางประหม่าของเธอเขาก็ยิ่งรู้สึกอยากจะแกล้ง…
อ่า… นี่เขาเสพติดนิสัยชอบแกล้งตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?