3

2801 Words
                “นี่ใครอะ? ทำไมถึงแข็งแรงจัง เพราะสามารถอุ้มจุ๊บจิ๊บได้ด้วย”                 “….”                 “นี่ใครครับ?”                 “ผัวของจุ๊บจิ๊บครับ”                 “บ้า จุ๊บจิ๊บยังไม่มีผัว”                 “….”                 “โอ๊ะ! มีแล้วนี่นาเมื่อสองวันก่อน” หลังถูกอุ้มเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ เสียงสนทนาระหว่างจุ๊บจิ๊บและชายผู้เป็นเจ้าของบ้านก็ได้ดังขึ้นเบา ๆ                  “จุ๊บจิ๊บกลัวเจนไหม?” เมื่อวางคนเป็นลงบนโซฟาแล้ว เจนก็ถามขึ้นอีก                 “แล้วทำไมต้องกลัว?”                 “ก็เจนตายไปแล้ว”                 “….”                 “จุ๊บจิ๊บกลัวใช่ไหม?” เจนถามขึ้นอีก หลังเห็นว่าคนเมาที่เคยตะโกนโหวกเหวกเรียกให้เขาออกไปรับที่หน้าบ้านมีท่าทีนิ่งไปอย่างเห็นได้ชัด                 “ไม่ จุ๊บจิ๊บไม่กลัว”                 “จริงเหรอ?” เจนถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ                 “ใช่ ถ้าตายไปแล้ว… งั้นก็แสดงว่าเป็นผีใช่ไหม จุ๊บจิ๊บไม่กลัวผีหรอก แต่ว่านี่ผีจริงเหรอ?” คราวนี้จุ๊บจิ๊บไม่พูดเปล่า แต่ยังขยับหน้าเข้ามาใกล้เจนและจัดการเอาหูแนบที่อกข้างซ้ายของเขาด้วย คล้ายกับจะลองฟังเสียงการเต้นของหัวใจ                 “ไม่ได้ยินเสียงเลยแฮะ แถมตัวก็เย็นเฉียบด้วย” จุ๊บจิ๊บพึมพำเสียงแผ่ว พร้อมถือวิสาสะดึงข้อมือเจนไป เพื่อตรวจหาชีพจรดู “ตรงนี้ก็หาชีพจรไม่เจอเหมือนกัน งั้นก็แสดงว่า…”             “ใช่ ตายแล้ว” เจนเติมคำให้และในจังหวะนั้นจุ๊บจิ๊บที่กำลังตาเยิ้ม เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็ได้เงยหน้าขึ้นมา เพื่อสบตากันอีกครั้ง                 “คราวนี้รู้แล้วนะว่าตายแล้วจริง ๆ จุ๊บจิ๊บจะกลัวเจนหรือยังครับ?”                 “ก็ไม่กลัวเหมือนเดิม”                 “….”                 “ถ้าพี่เจนจะไม่มาแบบน่ากลัว ไม่ทำให้จุ๊บจิ๊บตกใจ จุ๊บจิ๊บก็ไม่กลัวหรอก” จุ๊บจิ๊บเอ่ยพลางระบายยิ้มออกมาจนตาหยี และถึงแม้ตอนนี้ภายในบ้านจะถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด แต่เจนก็ยังมองเห็นความสดใสของจุ๊บจิ๊บได้อย่างชัดเจนอยู่ดี                 “แบบนี้เหรอ?” ว่าจบ เจนก็ค่อย ๆ หันหัวของตัวเองแบบสามร้อยหกสิบองศาให้จุ๊บจิ๊บดู ซึ่งตั้งแต่ที่เขาตาย เขาก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้นัก ยกเว้นจะแกล้งคนที่ชอบมายุ่มย่ามกับข้าวของภายในบ้านเขา เวลาที่แม่ของเขาใช้ให้เข้ามาทำความสะอาดให้                 “พี่เจน…ไม่เอาแบบนี้นะ” คราวนี้จุ๊บจิ๊บเอ่ยพร้อมแบะปากเล็กน้อย เตรียมจะร้องไห้ออกมา                 “….”                 “ไม่แกล้งจุ๊บจิ๊บได้ไหมครับ เราจะอยู่ด้วยกันแบบปกติ เพราะจุ๊บจิ๊บไม่ได้คิดร้ายกับพี่สักหน่อย” เมื่อพูดจบ จุ๊บจิ๊บที่ยังคงอยู่ในช่วงสติไม่เต็มร้อยก็จัดการออดอ้อน ด้วยการขยับหน้าเอาไปแนบชิดกับแผ่นอกหนาอีกครั้ง แล้วถูไถเบา ๆ ราวกับแมวช่างอ้อน ซึ่งพอได้อ้อนจนพอใจแล้วถึงค่อยผละตัวออกอย่างช้า ๆ                 โดยนั่นก็ทำให้เจนถึงกับนิ่งไปทันที                 “แต่ว่าตอนนี้จุ๊บจิ๊บง่วงจังเลยอะ หนักหัว ๆ งั้นเดี๋ยวเราค่อยคุยกันใหม่นะ พี่เจน” จุ๊บจิ๊บพูดขึ้นอีกครั้ง พลางป้องปากหาวไปด้วย โดยในหลังจากนั้นจุ๊บจิ๊บก็ค่อย ๆ พาตัวเองขึ้นไปยังห้องนอน เพื่อทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม               มันเป็นแบบนี้ทุกที… เวลาที่จุ๊บจิ๊บเริ่มมีความลับกับเพื่อนทีไร เขาก็มักจะดื่มจนตัวเองเมาเสมอ             ในช่วงสายของวัน หลังจากที่จุ๊บจิ๊บรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งแรกที่เขาทำคือการคว้าหาโทรศัพท์ของตัวเอง เพื่อมาเช็กการแจ้งเตือนต่าง ๆ ซึ่งพอจุ๊บจิ๊บคว้าโทรศัพท์ของตัวเองได้แล้ว เขาก็ต้องพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ เพราะเมื่อคืนนี้ก่อนที่จะเข้านอน จุ๊บจิ๊บก็ลืมชาร์จโทรศัพท์ของตัวเองไว้             ‘นี่มึงแต่งงานตอนไหน ทำไมไม่บอก’             ‘เมื่อคืนนี้เราก็มีโอกาสนั่งคุยกันแท้ ๆ แต่ทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่ยอมเล่าให้ฟัง’             ‘ตอนนี้กูงอนมึงมาก หายเมาแล้วเตรียมคำแก้ตัวไว้ให้กูด้วย’             “ออยเป็นบ้าอะไรเนี่ย” หลังอ่านแช็ตที่ถูกส่งมาจากเพื่อนสนิทแล้ว จุ๊บจิ๊บที่มีอาการหนักหัวเล็กน้อยตามประสาคนแฮงก์ก็ได้พูดขึ้นเบา ๆ ทั้งคิ้วขมวด ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาจะต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ                  เพราะในตอนนี้จุ๊บจิ๊บกำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง                 “ฉ—ฉิบหายแล้ว เมื่อคืนนี้กูเอาใครมานอนที่บ้านวะ แต่ก็กลับกับไอ้ออยนี่” จุ๊บจิ๊บพึมพำทั้งเสียงตกใจ ก่อนที่เขาจะเริ่มหันมองซ้ายขวา เผื่อว่าจะมีคนนอนอยู่ข้าง ๆ กัน ซึ่งจุ๊บจิ๊บก็ไม่เห็นใครเลยนอกจากตัวของเขาเอง                 “อื้อหือ แล้วรอยเต็มเลยอะ” เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ขณะที่สายตาก็กำลังไล่มองตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยในเวลาต่อมาจุ๊บจิ๊บก็อยากจะทึ้งหัวตัวเองเสียให้รู้แล้วรู้รอด เพราะรอยจ้ำแดงต่าง ๆ มีอยู่เต็มไปหมดรวมไปถึงซอกขาด้านในด้วย                 “เอ๊ะ… แต่ทำไมเราไม่เจ็บสะโพกเลยวะ” จุ๊บจิ๊บเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เพราะหลังจากที่เขาลงจากเตียง จุ๊บจิ๊บก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บสะโพกแต่อย่างใด ร่างกายของเขายังคงเดินเหินได้อย่างปกติ                 “เอ่อ…มีใครอยู่ในนี้ไหมครับ?” ในเวลาต่อมาหลังจากที่จุ๊บจิ๊บมาหยุดยืนที่หน้าห้องน้ำที่ตั้งอยู่ในห้องนอนแล้ว เขาก็ได้พูดขึ้นพร้อมเคาะประตูห้องน้ำตามมารยาท แล้วพอจุ๊บจิ๊บไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบกลับมา และไม่มีเสียงคนในห้องน้ำ เขาจึงจัดการเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดู เพื่อพบกับความว่างเปล่า                 “อ้าว ไม่มีคนอยู่เหรอ หรือว่าเขากลับไปแล้ววะ”                  “แต่ไม่มีก็ดีแล้วแหละ เพราะถ้าเจอหน้ากันคงอึดอัดแย่” จุ๊บจิ๊บเอ่ย พร้อมกับยกมือขึ้นแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ้านด้วยอารมณ์รู้สึกผิด “พี่เจนครับ จิ๊บขอโทษ… จิ๊บไม่ได้ตั้งใจพาใครมานอนที่บ้านของพี่นะ จิ๊บเมาครับ”                    กว่าจะจัดการตัวเองเและอยู่ในชุดปกติ จุ๊บจิ๊บก็ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ซึ่งพอเขาแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว จุ๊บจิ๊บก็ได้หอบหิ้วโน้ตบุ๊กของตัวเองลงมาที่ชั้นล่างของบ้านต่อ เพื่อที่เขาจะได้จัดการเริ่มทำงานที่ทำค้างไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้                 “กลิ่นอาหารปะวะ หอมจัง” ขณะที่กำลังเดินลงบันไดมา จุ๊บจิ๊บก็พูดขึ้นอีกครั้งทั้งคิ้วขมวด ก่อนที่เขาจะเริ่มเร่งฝีเท้าของตัวเอง เพื่อเดินลงมาที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งพอจุ๊บจิ๊บเดินลงมาแล้ว เขาก็ต้องนิ่งไปอีกครั้งเมื่อมองเห็นโพสอิตถูกแปะไว้ตรงตำแหน่งเดิมที่หน้าตู้เย็น ราวกับเป็นเหตุการณ์เดจาวู                 “เชี่ย มีโพสอิตอีกแล้ว!” จุ๊บจิ๊บเอ่ยเสียงตกใจ พร้อมรีบวิ่งไปวางโน้ตบุ๊กไว้บนโต๊ะอาหารและตรงเข้าไปอ่านโพสอิตที่ถูกแปะเอาไว้ทันที ซึ่งกลิ่นหอมที่ตลบอบอวลในตอนแรกนั้น มันก็คือกลิ่นของข้าวต้มกุ้งที่ถูกตั้งไว้บนเตาแก๊ส เพื่อรออุ่น             ‘เมื่อคืนเราทำกันหลายท่าเลย เพราะงั้นเลยจะขอไถ่โทษด้วยการทำข้าวต้มไว้ให้ ก่อนจะกินอย่าลืมอุ่นให้มันร้อนนะครับ’ by พี่เจนของจุ๊บจิ๊บ             ว้อทททท เมื่อคืนนี้จุ๊บจิ๊บเอากับผีเหรอ!?               “ผีเอากับคนได้เหรอวะ มันเอากันได้จริงเหรอ?” หลังจุ๊บจิ๊บหายตกใจเรื่องโพสอิตแล้ว เขาก็ได้พาตัวเองมานั่งตั้งหลักอยู่ที่โต๊ะทานอาหารต่อ โดยในขณะเดียวกันนั้นมือข้างหนึ่งของจุ๊บจิ๊บก็ได้ถือโพสอิตจากคุณเจนเอาไว้ด้วย                 “เรื่องนี้ชาวเน็ตต้องมีคำตอบให้จุ๊บจิ๊บแล้วนะ” เมื่อคิดได้เช่นนั้น จุ๊บจิ๊บก็ไม่รอช้าเขารีบกดเปิดโน้ตบุ๊กของตัวเองขึ้นทันที เพราะเขาคิดว่าอินเทอร์เน็ตจะทำให้เขาหายข้องใจได้             ‘ประสบการณ์เสียว เอากับผี (18+)’             ‘โดนผีหื่นอำจับปล้ำทุกคืน’             ‘เลขนำโชค ฝันว่าโดนผีเอา - ตรวจหวย’             “นี่มันอะไรกันเนี่ย! อยากได้อะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่านี้ มันจะไม่มีเลยหรือไง” หลังไล่อ่านหัวข้อต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโน้ตบุ๊กแล้ว จุ๊บจิ๊บก็ได้แต่พึมพำออกมาด้วยอาการหัวเสีย เพราะมันไม่มีข้อไหนที่ตรงต่อความต้องการของเขาเลย                 “พี่เจนครับ เมื่อคืนเรามีอะไรกันจริง ๆ เหรอ?” ท่ามกลางความเงียบภายในบ้าน เสียงของจุ๊บจิ๊บก็ดังขึ้นอีกครั้งและในระหว่างที่กำลังพูดนั้น จุ๊บจิ๊บก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัวด้วย เมื่อเขารู้สึกว่ากำลังถูกจับจ้องอีกแล้ว แต่ไม่รู้ว่ากำลังถูกจ้องจากมุมไหนของบ้าน                 “ทำไมจิ๊บจำอะไรไม่ค่อยได้เลย”                 “พี่เจนฟินคนเดียวได้ยังไงอะ ไม่เห็นจะยุติธรรม” จุ๊บจิ๊บทำทีพูดต่อด้วยน้ำเสียงติดตลก แม้ว่าในความเป็นจริงนั้นเขาจะขำไม่ค่อยออกก็เถอะ ออกแนวกลัวและตกใจเสียมากกว่า              ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!             “ใครครับ?” เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูที่หน้าบ้าน จุ๊บจิ๊บก็รีบหันขวับกลับไปมอง แล้วตะโกนถามออกไปด้วยน้ำเสียงหวาดระแวงเล็กน้อย                 “แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดให้ค่ะ” คนที่อยู่หน้าบ้านตะโกนตอบกลับมา                 “อ๋อ งั้นรอสักครู่นะครับ” ว่าจบ จุ๊บจิ๊บก็รีบเดินไปเปิดประตูต้อนรับแม่บ้านทันที ซึ่งเหล่าแม่บ้านพวกนี้คุณนายเอื้องก็เคยแจ้งกับเขาเอาไว้แล้ว ว่าพวกเธอจะเข้ามาทำความสะอาดให้หนึ่งถึงสองครั้งต่อสัปดาห์                 “โห นี่มากันสี่คนเลยเหรอครับ” หลังเปิดประตูออกไปต้อนรับแม่บ้านแล้ว จุ๊บจิ๊บก็อุทานออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ เพราะในตอนแรกเขาเข้าใจว่าจะมีแค่หนึ่งถึงสองคนเท่านั้น เนื่องจากบ้านก็ไม่ได้หลังใหญ่ขนาดนั้น                 “อ๋อ มากันเยอะ ๆ จะได้ไม่เหงาค่ะ…แหะ” หัวหน้าแม่บ้านตอบกลับมาพร้อมหัวเราะแห้ง ๆ ให้จุ๊บจิ๊บ โดยหลังจากที่จุ๊บจิ๊บดูท่าทีของพวกเธอแล้ว เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าทำไมถึงพูดเช่นนี้             เนื่องจากพอจุ๊บจิ๊บได้สังเกตท่าทางของแต่ละคน พวกเธอคงเคยเจอฤทธิ์ของคุณเจนกันทุกราย…               “เอ่อ ไม่ต้องยกเสื้อผ้าของผมไปซักนะครับ!”                 “ทำไมหรือคะ?”                 “คือมันเป็นของส่วนตัว เพราะงั้นเดี๋ยวผมขอจัดการเองดีกว่า” หลังพาแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดในห้องนอนใหญ่แล้ว จุ๊บจิ๊บที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงและกำลังมองพวกเธอทำความสะอาดอยู่ก็รีบพูดขึ้นทันที เมื่อเขาเห็นว่าเธอกำลังจะยกตะกร้าผ้าของเขาลงไปซักให้                 “อ๋อ งั้นได้เลยค่ะ แล้วคุณจุ๊บจิ๊บอยากให้เว้นส่วนไหนไว้อีกไหมคะ”                 “ไม่ครับ เว้นแค่ตะกร้าเสื้อผ้าผมก็พอ”                 “รับทราบค่ะ”                 “มีอะไรหรือเปล่าครับ?” เมื่อสายตาของจุ๊บจิ๊บเผลอไปสบประสานกับหัวหน้าแม่บ้าน เขาก็ต้องพูดขึ้นอีกครั้ง เพราะคิดว่าเธอคงจะมีอะไรที่อยากจะถามกัน                 “เอ่อ…คุณจุ๊บจิ๊บคะ”                 “….”                 “ตั้งแต่ที่อยู่บ้านนี้เคยเจอดีบ้างไหมคะ?” หัวหน้าแม่บ้านถามจุ๊บจิ๊บอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แล้วทันทีที่เธอถามเช่นนั้น เหล่าแม่บ้านที่เหลือก็ต่างหันขวับกลับมามองจุ๊บจิ๊บ ราวกับต้องการรู้เรื่องนี้เช่นกัน                 “ก็เจอมั้งครับ ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเจอแล้ว หรือว่าแค่คิดไปเอง” จุ๊บจิ๊บตอบไปตามตรง เนื่องจากตั้งแต่ที่เขาย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ จุ๊บจิ๊บยังไม่เคยเห็นพี่เจนแบบตัวเป็น ๆ เลย อารมณ์คล้ายกับรับรู้ว่ามีอยู่แต่ว่ามองไม่เห็น                 “งั้นผมขอถามกลับบ้าง พวกพี่เคยเจอคุณเจนกันเหรอ”                  “ใช่ค่ะ ทุกครั้งที่เข้ามาทำความสะอาดในบ้านนี้ พวกพี่เคยเจอคุณเจนหมดเลยค่ะ”                 “ยังไงเหรอครับ” จุ๊บจิ๊บถามต่อ เพราะเขาอยากจะให้แม่บ้านขยายความมากกว่านี้                 “ก็บางทีเวลาที่พวกพี่ทำความสะอาดที่ชั้นล่าง ก็มักจะได้ยินเสียงเปิดปิดประตูห้องที่ชั้นสองค่ะ บางทีก็ได้ยินเสียงคนเดิน แล้วถ้ายิ่งมาทำความสะอาดคนเดียวนะคะ ยิ่งเจอหนักเลยค่ะ เดี๋ยวนี้ก็เลยต้องยกโขยงพากันมาทำความสะอาดแทน”                 “.…”                 “อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ คุณเจนน่ะ…เฮี้ยนมาก ๆ เลยแหละค่ะ เพราะขนาดคนสวนแวะมาตัดหญ้าที่หน้าบ้านให้ ไม่ได้เข้ามาในบ้านหลังนี้ยังเคยเจอคุณเจนยืนกอดอกมองจากริมหน้าต่างเลยค่ะ”                 ปัง!                 “กรี๊ดดดด!” เสียงของเหล่าแม่บ้านดังขึ้นโดยพลัน เมื่อมีเสียงปิดประตูห้องดังสนั่นลั่นบ้าน และก็น่าจะเป็นห้องหนึ่งที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้เพื่อให้อากาศถ่ายเท ซึ่งตัวของจุ๊บจิ๊บเองก็มีอาการสะดุ้งโหยงเช่นกัน เนื่องจากเขาตกใจเสียงร้องของแม่บ้าน                 “ใจเย็น ๆ ครับ ไม่มีอะไรหรอก มันก็แค่ลมพัด” เมื่อตั้งสติได้ จุ๊บจิ๊บก็รีบพูดปลอบใจเหล่าแม่บ้านทันที เพราะเขาไม่อยากให้พวกเธอใจเสีย โดยในขณะเดียวกันนั้นจุ๊บจิ๊บก็ได้พูดในใจ เพื่อบอกให้เจ้าของบ้านอย่าแกล้งกันเลย หากมันเป็นฝีมือของอีกฝ่ายจริง ๆ                   กว่าแม่บ้านจะทำความสะอาดทุกส่วนเสร็จ มันก็เป็นช่วงบ่ายของวันแล้ว                 “ยังไงวันนี้ก็ขอบคุณมากเลยนะครับ” หลังจัดการเดินออกมาส่งเหล่าแม่บ้านที่หน้าบ้านแล้ว จุ๊บจิ๊บก็พูดขึ้นอีกครั้งทั้งรอยยิ้ม                 “ค่ะ ยังไงคุณจุ๊บจิ๊บก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ สู้ ๆ ค่ะ!” หัวหน้าแม่บ้านตอบกลับมา พร้อมทำหน้าสู้ตายให้จุ๊บจิ๊บ เพื่อให้กำลังใจกัน โดยนั่นก็ทำเอาจุ๊บจิ๊บถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วค่อยเอ่ยขอบคุณเธอเป็นครั้งสุดท้าย                 “ครับ ขอบคุณมากครับ” จุ๊บจิ๊บว่า และในหลังจากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าไปในบ้านทันที                 เมื่อเดินกลับเข้ามาในบ้านและอยู่เพียงลำพังอีกครั้ง จุ๊บจิ๊บก็รีบวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านด้วยความไวแสง หลังเขาได้ยินเสียงคนเดินไปมาในห้องนอนใหญ่                 “พี่เจน!” หลังเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนแล้ว จุ๊บจิ๊บก็ตะโกนเรียกเจ้าของบ้านโดยพลัน ซึ่งโดยปกติแล้วจุ๊บจิ๊บก็ไม่ได้กระหายที่อยากจะเห็นคุณเจนถึงขนาดนี้หรอก เจอก็ดี ไม่เจอก็ไม่เป็นไร แต่ในวันนี้เขาอยากจะถามอะไรบางอย่างจากผู้เป็นเจ้าของบ้านนี่สิ จุ๊บจิ๊บจึงอยากจะเจอตัวคุณเจนมากกว่าทุกวัน                 “พี่เจนอยู่ไหน ออกมา!” จุ๊บจิ๊บตะโกนเรียกอีกครั้งอย่างไม่เกรงกลัว แต่ก็ยังไม่มีอะไรโผล่ออกมาให้เขาเห็นอยู่ดี                 “ทีคนอื่นเขาไม่อยากเจอพี่เจน ทำไมถึงชอบแกล้งเขานัก แต่พอเมียตัวเองเรียกหาทำไมถึงไม่ออกมาล่ะครับ?” จุ๊บจิ๊บพูดต่ออย่างอารมณ์เสีย                  ในเวลาเดียวกันนั้น...คนที่กำลังถูกเมียเรียกหาก็เอาแต่ยืนยิ้ม เพราะจุ๊บจิ๊บไม่ได้รู้ตัวเลยว่าผัวของตัวเองกำลังแอบอยู่ด้านหลังม่านกรองแสง แล้วถ้าจุ๊บจิ๊บเดินมาเปิดมัน อีกฝ่ายก็อาจจะเห็นสามีของตัวเองก็ได้     แท็ก #แต่งกับผี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD