1

2042 Words
                ผีเป็นตัวยังไง? ตั้งแต่เกิดมาจุ๊บจิ๊บยังไม่เคยเห็นตัวเป็น ๆ เลยสักครั้ง             ภายในห้องนอนใหญ่ของบ้าน ขณะที่กำลังเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองเพื่อนำมันไปจัดเรียงใส่ตู้ จุ๊บจิ๊บก็ฮัมเพลงโปรดของตัวเองไปด้วย เพื่อไม่ให้บรรยากาศภายในบ้านมันเงียบมากเกินไป                 เพราะในตอนนี้จุ๊บจิ๊บรู้สึกว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องเขาอยู่                 “โด เร มี โด เร มี ซอล ล๊า ค—แค่ก ๆ!” ระหว่างที่กำลังเริ่มฮัมเพลงโปรดของตัวเอง จุ๊บจิ๊บก็ต้องส่งเสียงไอออกมาเบา ๆ เมื่อเขาเกิดรู้สึกคันคอขึ้นมากะทันหัน                  “โอ๊ย แล้วจะมาคอแห้งอะไรตอนนี้ คนอุตส่าห์จะร้องเพลง” จุ๊บจิ๊บบ่นขึ้นอีกด้วยความหงุดหงิดใจ                 หลังในตอนนี้นอกจากเขาจะรู้สึกคันคอแล้ว จุ๊บจิ๊บยังรู้สึกว่ามีอาการคอแห้งปนอยู่ด้วย แล้วเพราะอย่างนั้น…นั่นจึงทำให้เขาตัดสินใจหยิบหูฟังแบบไร้สายขึ้นมาใส่หู พร้อมกับเปิดเพลงโปรดแทน เพื่อที่จุ๊บจิ๊บจะได้ไม่ต้องเหงาหรือส่งเสียงร้องเพลงให้มันเมื่อยปาก                 “กว่าจะทำเสร็จก็เหนื่อยใช่ย่อยเลยนะเนี่ย”                 หลังจากนำเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าใบเล็กแล้วใส่ไม้แขวนเรียบร้อยแล้ว เสียงของจุ๊บจิ๊บก็ดังขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เขากำลังยืนไล่สายตาตรวจดูความเรียบร้อยของตู้เสื้อผ้าไปด้วย ซึ่งตู้เสื้อผ้าที่เขาได้ใช้งานนี้ มันก็เป็นตู้เสื้อผ้าเดียวกันกับคุณเจน โดยอีกฝั่งหนึ่งของตู้ก็ยังมีเสื้อผ้าของผู้เป็นเจ้าของบ้านอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชุดลำลอง ชุดทำงานหรือชุดสูทแบบเป็นทางการมันก็ยังแขวนเอาไว้อยู่ ราวกับว่าคุณเจนยังคงมีชีวิต             แม้ว่าในความเป็นจริงเจ้าตัวจะเสียไปนานเกินสามเดือนแล้วก็ตาม             “อันนี้คือรูปของคุณเจนเหรอ?”                 ในเวลาต่อมา ระหว่างที่จุ๊บจิ๊บกำลังทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงใหญ่เพื่อพักให้หายเหนื่อย เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งพลางยื่นมือไปหยิบรูปอัดกรอบที่ถูกตั้งเอาไว้ข้างหัวเตียงขึ้นมาดู ซึ่งจุ๊บจิ๊บก็เพิ่งจะมาสังเกตเห็นรูปนี้ และเพิ่งได้เห็นใบหน้าของคุณเจนก็ตอนนี้นี่แหละ                 เพราะก่อนหน้านี้เขารู้เพียงแค่ว่าสามีของเขาเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณนายเอื้อง อยู่ด้วยกันแบบสองแม่ลูกมาตั้งแต่จำความได้ คุณเจนเป็นนักธุรกิจอนาคตไกลแต่ก็มีเหตุให้ต้องอายุสั้น เพราะเกิดอุบัติเหตุที่หน้าบ้านของตัวเองในวันที่ถนนลื่น เนื่องจากฝนตกหนัก              คุณเจนเสียชีวิตที่ถนนหน้าบ้านของตัวเอง… จุ๊บจิ๊บรู้มาแค่นั้น             “หน้าตาหล่อจัง เป็นนายแบบได้เลยนะเนี่ย”                 “นี่ถ้าเป็นเจ้านายในบริษัท จุ๊บจิ๊บจีบแน่… น่าเสียดายเนอะคุณเจน เราเจอกันช้าไปหน่อย” ขณะที่กำลังมองคิ้ว ตา จมูกและริมฝีปากของคุณเจนผ่านรูปภาพ จุ๊บจิ๊บก็พูดไปด้วย เพราะเขาก็เพิ่งจะรู้ว่าลูกชายของคุณนายเอื้องรูปหล่อขนาดนี้             แต่ทำไมถึงโสดและไม่ได้แต่งงานกันล่ะ มิหนำซ้ำนี่ยังเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ไปไหนไม่ได้เชียวหรือ?                  จู่ ๆ คำถามนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวของจุ๊บจิ๊บ หลังในตอนแรกเขาคิดว่าลูกชายของคุณนายเอื้องไม่ได้หล่อเหลาขนาดนี้ แต่นี่กลับไม่ใช่เลย ลูกชายของคุณนายเอื้องหน้าตาดีมาก จนสามารถไปเป็นนายแบบหรือเป็นพระเอกในจอแก้วได้เลย                 “หน้าตาหล่อขนาดนี้ไม่น่าจะโสดนะ หรือว่าคุณเจนเป็นผู้ชายบ้างานไม่สนใจรัก?”จุ๊บจิ๊บพึมพำต่อ พร้อมกับวางรูปไว้ที่เดิมเหมือนอย่างที่มันเคยอยู่               เพราะจุ๊บจิ๊บเดินทางมาถึงบ้านของคุณเจนในช่วงเย็น เมื่อจัดการเรื่องสัมภาระของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เขาจึงเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา จนทำให้จุ๊บจิ๊บต้องเดินลงไปที่ชั้นล่างของบ้านอีกครั้ง เพื่อสำรวจว่ามันมีอะไรให้เขาได้กินแก้หิวหรือเปล่า                 โดยในตอนแรกจุ๊บจิ๊บก็ตั้งใจว่าหากไม่มีอะไรให้กิน เขาจะสั่งอาหารเดลิเวอรี่มากิน แต่พอจุ๊บจิ๊บลงไปเช็กตู้เย็นของบ้านแล้ว จุ๊บจิ๊บถึงได้รู้ว่าเหล่าแม่บ้านที่พากันยกโขยงมาทำความสะอาดบ้านของคุณเจนให้ เมื่อช่วงตอนกลางวันนั้น ได้นำพวกวัตถุดิบสดไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้หรือว่าเครื่องดื่มเข้ามาไว้ให้จนเต็มตู้เย็นแล้ว แล้วเพราะอย่างนั้นจุ๊บจิ๊บจึงเปลี่ยนใจเปิดแก๊สทำอาหารแบบง่าย ๆ แทน เพื่อที่เขาจะได้ไม่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ                 แค่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ จุ๊บจิ๊บก็มีเงินใช้แล้ว…                 อันที่จริงงานที่จุ๊บจิ๊บรับมาจากคุณนายเอื้อง มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรเลย สำหรับคนที่ไม่ได้กลัวผีอย่างจุ๊บจิ๊บ เพราะเขาแค่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านนี้เป็นเวลาหกเดือน เสมือนเป็นภรรยาของคุณเจนเท่านั้น แล้วพอหลังจากที่ครบหกเดือนตามสัญญาแล้ว จุ๊บจิ๊บก็จะได้เงินครึ่งหลังอีกประมาณห้าแสนบาท หลังในตอนแรกเขาได้เงินครึ่งแรกก่อนเริ่มงานมาแล้วประมาณห้าแสน ซึ่งค่าจ้างรวม ๆ ตลอดการที่เขาจะต้องอยู่ที่นี่ จุ๊บจิ๊บจะได้เงินค่าจ้างหลักล้าน                 ฟึบ!                 ระหว่างที่กำลังยืนทำผัดหมูสับใส่น้ำมันหอยอยู่นั้น จุ๊บจิ๊บก็ต้องรีบหันขวับมองด้านหลังของตัวเอง ตามสัญชาตญาณทันที หลังเมื่อครู่นี้เขารู้สึกว่ามีอะไรผ่านด้านหลังไปและหางตาของเขาก็มองเห็นพอดี                 “คุณเจนเหรอครับ?” ท่ามกลางความเงียบงัน ในที่สุดจุ๊บจิ๊บก็ตัดสินใจถามออกไป                 “จิ๊บเรียกพี่เจนได้หรือเปล่า” เขาตะโกนถามขึ้นอีก พร้อมเริ่มกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัว เผื่อว่าจะมีอะไรบางอย่างมาทำให้เขารู้สึก                 “ถ้าอย่างนั้นจิ๊บเรียกว่าพี่เจนนะ เพราะคำว่าคุณเจนมันดูทางการเกินไป โอเคใช่ไหมครับ?” จุ๊บจิ๊บเอ่ยแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัวอีกครั้ง ซึ่งจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่พบความผิดปกติอะไร                 แล้วเพราะอย่างนั้น…จุ๊บจิ๊บจึงหันกลับไปทำอาหารเย็นของตัวเองต่อให้เสร็จ และเมื่อทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว จุ๊บจิ๊บก็ได้นำหมูสับผัดน้ำมันหอยพร้อมด้วยข้าวสวยร้อน ๆ ที่หุงเพิ่งเสร็จไปนั่งกินที่ด้านหน้าโทรทัศน์ต่อ เพื่อที่เขาจะได้เปิดดูรายการบันเทิงระหว่างการทานข้าวไปด้วย                                  หลังจากที่ทานมื้อเย็นเสร็จแล้ว จุ๊บจิ๊บก็จัดการนำภาชนะที่เพิ่งกินเสร็จไปแช่เอาไว้ในอ่างก่อน แล้วค่อยเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอนใหญ่ เพื่อไปจัดการอาบน้ำแต่งตัวและนอนดูหนังสักเรื่องก่อนจะเข้านอน โดยจุ๊บจิ๊บก็ทำทุกอย่างเหมือนอย่างตอนที่เขาใช้ชีวิตอยู่หอพักของตัวเองอย่างไม่มีผิดเพี้ยน                 “เดือนนี้มีเรื่องไหนน่าดูบ้างเนี่ย” เมื่ออาบน้ำและอยู่ในชุดนอนเรียบร้อยแล้ว เสียงของจุ๊บจิ๊บก็ดังขึ้นอีกครั้งระหว่างที่เขากำลังทิ้งตัวนอนบนเตียงสปริงขนาดใหญ่                 “คืนนี้ดูเรื่องนี้ก่อนแล้วกัน เพราะใกล้จะหมดสัญญาแล้ว” เมื่อเลือกหนังที่จะดูได้แล้ว จุ๊บจิ๊บก็กดเริ่มเล่นเพื่อดูมันทันที โดยเขาก็โฟกัสหนังได้ประมาณสิบนาทีแรกเท่านั้น ก่อนจะค่อย ๆ ผล็อยหลับไปอย่างช้า ๆ ทั้งที่หน้าจอโทรศัพท์ก็ยังคงเล่นหนังอยู่นั่นแหละ             จุ๊บจิ๊บรู้สึกตัวขึ้นมาในช่วงกลางดึกอีกครั้ง เพราะเขาเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองลืมปิดไฟในห้องนอน แต่ทว่าพอเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา จุ๊บจิ๊บก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความพิศวง                 …เมื่อในตอนนี้ไฟในห้องนอนถูกปิดสนิทไปแล้ว                 “พี่เจนปิดไฟให้เหรอ?”                 “ขอบคุณครับ” หลังคิดว่านี่เป็นฝีมือของเจ้าของบ้าน จุ๊บจิ๊บก็พูดขึ้นเสียงแผ่วพร้อมหลับตานอนอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัวพี่เจนที่เป็นสามีในนามเลย เพราะถ้าจุ๊บจิ๊บกลัวผี เขาคงจะไม่มีทางรับงานนี้เด็ดขาด                 เอ๊ะ…ทำไมจุ๊บจิ๊บถึงรู้สึกว่ามีคนพยายามจะป้วนเปี้ยนกับร่างกายเขานะ ขณะที่กำลังนอนกอดหมอนข้างและใกล้จะเคลิ้มหลับอีกครั้ง จุ๊บจิ๊บก็ได้แต่นึกในใจเมื่อเขารู้สึกว่าหมอนข้างมันขยับได้ แต่อีกใจหนึ่งจุ๊บจิ๊บก็คิดว่าเขาอาจรู้สึกไปเองเลยยังนอนท่านั้นต่อไป จนกระทั่งในเวลาต่อมา…จุ๊บจิ๊บเริ่มรู้สึกว่าชายเสื้อของเขากำลังถูกเลิกขึ้นสูงอย่างช้า ๆ              เริ่มไม่ใช่ละ…                 “พี่เจน อย่ามาหยอก” ว่าจบ จุ๊บจิ๊บก็ใช้เท้าถีบหมอนข้างลงจากเตียงทันที เมื่อหมอนข้างที่เขากำลังนอนกอดอยู่นี้ มันทำให้จุ๊บจิ๊บรู้สึกว่าตัวเองกำลังนอนกอดกับมนุษย์อยู่                 แล้วมนุษย์ที่ว่านั้นก็มีมือ มีเท้าสามารถถอดเสื้อผ้าของจุ๊บจิ๊บได้                 “โอ๊ย! พอไม่มีหมอนข้างก็นอนไม่หลับอีก น่าหงุดหงิด!” หลังจัดการถีบหมอนข้างลงเตียงแล้ว จุ๊บจิ๊บก็ต้องลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อเขาเป็นพวกติดนิสัยชอบนอนกอดหมอนข้าง แล้วก็จะต้องนอนกอดทุกครั้งถึงจะหลับได้ แต่พอจุ๊บจิ๊บถีบหมอนข้างลงจากเตียงไปแล้ว เขาก็เกิดอาการนอนไม่หลับเสียอย่างนั้น                 “พี่เจนไม่แกล้งแล้วนะ จิ๊บอยากจะนอนครับ” เมื่อกลับไปเอาหมอนข้างขึ้นมาบนเตียงแล้ว จุ๊บจิ๊บก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงกึ่งขอร้องเล็กน้อย โดยหลังจากที่เขาพูดเสร็จ จุ๊บจิ๊บก็นอนกอดหมอนข้างเช่นเดิม และก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรมาป้วนเปี้ยนตามร่างกายอีกเลย                 คืนแรกของการพักผ่อนในบ้านของคุณเจน มันก็ไม่ได้แย่เท่าไร                 ตลอดทั้งคืนแรกที่อยู่ในบ้านของสามี จุ๊บจิ๊บไม่ได้รู้สึกว่ายากลำบากอะไรนัก เขาสามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่ม แต่ก็อาจมีความหงุดหงิดบ้างในตอนแรก เพราะจุ๊บจิ๊บถูกเจ้าของบ้านแกล้ง                 ในช่วงเวลาหกโมงเช้า หลังจากที่ตื่นนอนแล้วจุ๊บจิ๊บก็ยืนบิดขี้เกียจพอเป็นพิธีแล้วเดินลงไปที่ชั้นล่างของบ้าน เพื่อหาน้ำดื่มมาดับกระหาย แต่ทว่าหลังจากที่เขาเดินไปในโซนครัว จุ๊บจิ๊บก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อถ้วยจานที่เขาได้แช่เอาไว้เมื่อคืนนี้ถูกทำความสะอาดและจัดเรียงเข้าชั้นไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว                 “อะไรเนี่ย วันนี้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดตั้งแต่เช้าเลยเหรอ”                  เมื่อเห็นเช่นนั้น จุ๊บจิ๊บก็ได้แต่พึมพำออกมาด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาจะต้องชะงักไปอีกรอบ หลังสายตาของเขาเหลือบไปเห็นกระดาษโพสอิตที่ติดเอาไว้อยู่หน้าตู้เย็นเข้าพอดี ซึ่งนั่นก็ทำให้จุ๊บจิ๊บรีบดึงโพสอิตขึ้นมาอ่านด้วยความรวดเร็ว แล้วก็ต้องขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม             ‘จะอยู่บ้านหลังเดียวกันก็ต้องรักษาความสะอาดด้วยนะ แล้วก็…ยั้ง ๆ เท้าด้วยครับ’ by เจน   แท็ก #แต่งกับผี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD