หลังจากปล่อยตัวปล่อยใจอยู่กับความสงสัยระคนแปลกใจได้สักพักสัตวแพทย์หนุ่มต้นข้าวจึงลุกจากที่นอนไปทำธุระส่วนตัวแม้ว่าจะเป็นเวลา 04.30 น.ซึ่งยังเช้าอยู่มาก จากนั้นเขาได้ออกมาวิ่งออกกำลังกายใกล้ ๆ เรือนพัก แต่ต้องแปลกใจเมื่อพบใครบางคน
"ตื่นเช้าจังนะครับ เมื่อคืนหลับดีมั๊ย?" เป็นแดนชลที่เอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ
คนที่กำลังออกกำลังกายจึงหันไปตามเสียง
"อ้าวคุณแดนเจอกันอีกแล้ว เมื่อคืนพอมาถึงอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็เข้านอนเลยครับ หลับยาวเลย ก็เลยตื่นเช้ากว่าปกติครับ” ต้นข้าวบอกยิ้ม ๆ
"อ่อ ผมก็เหมือนกัน" แดนชลอือออด้วย
"คุณแดนครับ ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั๊ยครับ?"
"ว่ามาซิครับ"
"ที่นี่มีอะไรหรือเปล่า เช่น คู่แข่งอะไรประมาณนี้น่ะครับ" ต้นข้าวตัดสินใจถามสิ่งที่ค้างคาในใจออกมาจนได้
"ทำไมเหรอครับ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าจะได้ช่วยกันป้องกัน คุณหมอบอกได้เลยนะครับ" แดนชลบอกอย่างจริงจัง
"อืม.. ไม่ทราบซิครับแต่ผมเห็นผู้ชายแปลกหน้าสองคนยืนด้อม ๆ มอง ๆ ที่ทางเข้าฟาร์มครับไม่น่าจะใช่คนงานที่ฟาร์ม” เนื่องจากทางฟาร์มมีนโยบายให้ใส่แบบฟอร์มของฟาร์มโดยเฉพาะ และด้วยความเป็นคนช่างสังเกต แม้มาอยู่เพียงไม่นานแต่ต้นข้าวมีสัมพันธภาพกับคนงานเป็นอย่างดี
"งั้นเหรอครับ เดี๋ยวผมจะติดกล้องเพิ่มและซักซ้อมพนักงานอีกสักหน่อยแล้วกันครับ..อ้อคุณหมอยิงปืนเป็นมั๊ยครับ?" แดนชลถามกลับ
"ก็เคยฝึกตอนเรียน ร.ด. ครับจากนั้นก็ไม่ได้จับอีกเลย"
"อยากลองมั๊ยครับเรามีสนามยิงหลังฟาร์ม?"
"ก็น่าลองนะครับ ถ้าอาจารย์ไม่รำคาญลูกศิษย์คนนี้ซ๊ะก่อน ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคร้าบ.." ต้นข้าวพูดติดตลก
"หึหึ ได้เลยไอ้น้องชาย" ตุบ! ตุบ! แดนชลพูดพร้อมกับตบไหล่สัตวแพทย์หนุ่มหนัก ๆ แต่อีกคนกลับรู้สึกอบอุ่นพิกล
@สนามยิงปืน
"ไง คุณหมอ ยืนอึ้งเลยเหรอ?" แดนชลพูดกลั้วหัวเราะ
"คะ..ครับ ก็อยู่แต่คลินิก จับแต่เข็มฉีดยากับมีดผ่าตัด ไม่เคยมาที่แบบนี้เลย..แฮ่ ๆ" ต้นข้าวพูดไปพลางเอามือลูบศีรษะไปพลาง
"มะเฮียจะสอนให้ ต่อไปนี้ให้เรียกเฮียว่าเฮียแดนนะ"
"อะ..เอ่อ..เรียกพี่แทนได้มั๊ยครับ?"
"อ่อ ลืมไป แม่นายเป็นคนไทย พ่อนายก็ไทยร้อยเปอร์เซ็นซินะ"
"อ่อ..ครับ" ต้นข้าวไม่ได้สงสัยอะไรเพราะคิดว่าคนพี่คงอ่านประวัติจากใบสมัครนั่นเอง
"เอาละมาทางนี้เฮีย เอ้ยพี่จะสอนเบสิคก่อน……………….." ต้นข้าวฟังอย่างตั้งใจ
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงซัดกระสุนใส่เป้าจากฝีมือสัตวแพทย์หนุ่ม
"อืม ครั้งแรก ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีโข ต่อไปเฮียจะพามาฝึกบ่อย ๆ จะได้ไว้ป้องกันตัว ป้องกันแองเจิ้ลด้วย"
"ครับพี่แดน"
"ปะกลับฟาร์มกันเถอะ ป่านนี้คุณแองเจิ้ลชะเง้อมองหาแล้วมั้ง"
หึหึหึ.. "ครับ" ต้นข้าวรับคำคนพี่อย่างว่าง่าย
"เดี๋ยวนี้พี่แกอารมณ์ดีขึ้นเยอะเลย" แดนชลเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วขึ้นขับรถยนต์คู่ใจเพื่อมาส่งสัตวแพทย์หนุ่มที่คอกม้าแองเจิ้ลเพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และกลับไปทำงานของตัวเองเช่นกัน
ทางด้านแดนไตร
สายเรียกเข้าพิทยา
แดนไตร: ว่าไงพิทยา
พิทยา: ได้เรื่องแล้วว่ะเพื่อน ที่นายสงสัยมันเป็นจริงซิเพื่อน
แดนไตร: อือ หาที่คุยกัน เรื่องนี้จะแพร่งพรายออกไปไม่ได้
พิทยา: ตอนนี้ฉันอยู่ที่คอนโด
แดนไตร: อืม.. เจอกัน รอฉันที่นั่นเดี๋ยวฉันไป
@คอนโดพิทยา
"นี่คือสำเนาที่คัดมาได้ ดูซ๊ะ" พิทยายื่นเอกสารฉบับสำเนาให้เพื่อนรักดู
"เอกสารการเปลี่ยนชื่อตัว จาก ดวงดาวเป็นพิมพ์ดาว ...เอกสารการเปลี่ยนชื่อสกุลจาก ราชไมตรี เป็น บำรุงวงศ์ ไม่พบหลักฐานการจดทะเบียนสมรส…" ? ! แดนไตรอ่านเอกสารทั้งหมด เมื่ออ่านจบได้เงียบไปพักใหญ่ มันมีทั้งคำถามและสิ่งที่เหนือความคาดหมายอยู่ในนั้น
"ไง อึ้งเลยหรือเพื่อน ..แล้วนายจะทำไงต่อไป" พิทยาหยั่งถาม
"ก็คงต้องบอกเฮียก่อน"
"หน้านายมันดูยุ่ง ๆ นะ อย่าบอกนะว่านายจะเก็บน้าเพื่อที่ดินแปลงนั้นน่ะ ฉันไม่เอาด้วยนะโว๊ย.." พิทยาแกล้งแหย่เพื่อนรัก
"โว๊ะ ไอ้นิ่กวนตี_แระ ฉันกำลังคิดว่าน้าดาวจะปกปิดตัวเองเพื่ออะไรต่างหาก"
"เออฉันรู้ว่าแกไม่คิดอย่างนั่นหรอก ถึงหน้าตาแกจะดูเลวก็เถอะ แต่แกเป็นคนดีและเป็นเพื่อนที่ประเสริฐสำหรับฉันมากนะ"
"ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลย ยังไงก็ขอบใจมาก ฉันโอนค่าเหนื่อยให้แกแล้วนะเว๊ย ฉันรู้ว่าแกต้องใช้ทีมงาน...ไปก่อนนะ ไม่ต้องส่ง" แดนไตรบอกลาเพื่อนรักแล้วรีบส่งไลน์ให้พี่ชายและขอตัวกลับเพื่อไปบอกข่าวดีกับพี่ชาย
"อืม เห็นล๊ะ ขอบใจ เดินทางปลอดภัย" พิทยาบอกเพื่อนรักและยืนมองเพื่อนรักจากบานหน้าต่างอย่างคิดคำนึง แล้วล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงกดอะไรบางอย่างแล้วเก็บไว้ที่เดิม
ตัดมาที่แดลชล
ไลน์
แดนไตร: ข่าวดี จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แนบรูป (อ่านแล้ว)
แดนชล: นายอยู่ไหน ระวังตัวด้วย พวกมันเริ่มแล้ว
แดนไตร: กำลังออกจากคอนโดเพื่อนกำลังจะไปหาเฮีย
แดนชล: อืมขับรถระวังตัวด้วย ใกล้ถึงฟาร์มไลน์บอกด้วยเดี๋ยวเฮียจะให้คนคอยประกบ ช่วงนี้มีคนแปลกหน้ามาคอยด้อม ๆ มอง ๆ น่าจะเป็นโจทก์เก่า
แดนไตร: เหรอ ไม่เป่ามันซ๊ะเลยล่ะเฮีย
แดนชล: ใจร้อนน่า วางได้แล้ว แล้วมีสมาธิกับการขับรถด้วย ระวังตัว..บาย
แดนไตร: บายคร้าบพี่ชาย รักน๊ะ จุ๊บ จุ๊บ ติ๊ด แดนไตรกดวางสาย เพราะเขาจับสังเกตได้ว่ามีรถจักรยานยนต์ หนึ่งคันขับตามตัวเองเป็นระยะ แต่ไม่ได้ลงมือทำอะไรทั้ง ๆ ที่มีโอกาส
แดนชลหลังจากน้องชายตัวดีกดวางสาย
ฮึ่ย! ไอ่นี่ ขนลุกหมด เมื่อไรมันจะโตสักทีจะสามสิบแล้วยังทำเป็นเล่นอีก..หึหึ คนพี่สบถบ่นคนน้องพึมพำและอดหัวเราะออกมาไม่ได้