เรื่องย่อ
การเเต่งงาน คืออะไร?
คำถามสำหรับคนที่ไม่เคยสนใจที่จะเเต่งงานอย่าง"นทีธร" มันคืออะไร?
การเเต่งงานจะทำให้ชีวิตครอบครัวสมบูรณ์เเบบจริงหรือ?
มีความสุขจริงหรือ?
คำตอบสำหรับเรื่องนี้มีหลายคำตอบ ไม่มีใครรู้ว่าพอเเต่งงานไปแล้วจะมีความสุขหรือความทุกข์ มันคงจะมีความสุขหากได้เเต่งงานกับคนที่ตัวเองรักเเต่สำหรับเขาการเเต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักนั่นคือหายนะชัดๆ!!
การเเต่งงานสำหรับผู้หญิงทุกคนถือว่าเป็นความฝันอันสูงสุดเเล้วยิ่งเเต่งกับคนที่ตัวเองเเอบรักมาตั้งเเต่เด็กเเล้ว ถึงเเม้ว่าจะเเต่งเพราะช่วยเหลือเขาเเต่
"เเก้วกานต์" ก็เต็มใจช่วย เพราะนทีธรเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอรักเเละรักมาโดยตลอด เเม้ว่าจะเป็นเเค่การเเอบรักข้างเดียวก็ตาม
เเต่พอจะต้องจากกันกลับกลายเป็นเธอเองที่ทุกข์ที่สุด ที่จะต้องหายไปจากชีวิตของเขา เเละอาจจะหายไปตลอดกาล
"เเม่ครับ ผมบอกเเล้วไงว่าไม่เเต่ง"
"ทำไมพูดเเบบนั้น นทีอายุเยอะเเล้วนะลูก พี่เพลิงเขาก็เเต่งงานไปนานเเล้ว"
"ผมยังไม่เจอคนที่ใช่"
"เเม่อยากมีหลาน นี่คือคำสั่ง"คุณนายจันทราเอ่ยกับนทีธร เสียงลงน้ำหนักว่าเป็นคำสั่งอย่างสมบูรณ์
ข้อบังคับทางกฎหมาย
© นวนิยายเรื่อง โซ่รักวิวาห์ลวง ผู้แต่งขอสงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 15 ภายใต้บังคับมาตรา 9 มาตรา 10 และมาตรา 14 เจ้าของลิขสิทธิ์ย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียว
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นโดยจินตนาการของนักเขียน ไม่อิงตามหลักความเป็นจริงแต่อย่างใดและนิยายเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาที่ต่อจากนวนิยายเรื่อง โซ่รักอัคนี (อัคนี-รัตติกาล) ตัวละครเกือบทุกตัวในเรื่อง โซ่รักวิวาห์ลวงจะเคยปรากฏอยู่ในเรื่อง โซ่รักอัคนีแล้ว เรียกว่าเป็นจักรวาลโซ่รัก และหากเกิดข้อผิดพลาดประการใด นักเขียนขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ปทุมวดี
บทนำ
การแต่งงาน คืออะไร?
คำถามสำหรับคนที่ไม่เคยสนใจที่จะแต่งงานอย่างนทีธร มันคืออะไร?
การแต่งงานจะทำให้ชีวิตครอบครัวสมบูรณ์แบบจริงหรือ?
มีความสุขจริงหรือ?
คำตอบสำหรับเรื่องนี้มีหลายคำตอบ ไม่มีใครรู้ว่าพอแต่งงานไปแล้วจะมีความสุขหรือความทุกข์ มันคงจะมีความสุขหากได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก แต่สำหรับเขาการแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักนั้นคือหายนะชัด ๆ !!
“แม่ครับ ผมบอกเเล้วไงว่าไม่แต่ง”
“ทำไมพูดแบบนั้น นทีอายุเยอะแล้วนะลูก พี่เพลิงเขาก็แต่งงานไปนานเเล้ว”
“ผมยังไม่เจอคนที่ใช่”
“แม่อยากมีหลาน นี่คือคำสั่ง”คุณนายจันทราเอ่ยกับนทีธร เสียงลงน้ำหนักว่าเป็นคำสั่งอย่างสมบูรณ์
ผู้ว่าหนุ่มกรอกสายตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย แค่นี้มันไม่พอหรือยังไงกันนะ..
“แม่ครับ..”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่แต่ง แม่จะหาให้แทน เอาไหม?”
“ไม่มีใครทนนิสัยผมได้หรอกครับแม่ แม่เลิกคิดเถอะ”
“ใครว่าไม่มี แม่ว่ามีนะ”
“งั้นจะใครล่ะครับ”
“มันต้องมีสักคนนั่นแหละ”
“สรุปก็คือไม่มีครับ ผมไปทำงานล่ะ เดี๋ยวว่าง ๆ จะแวะมาเยี่ยมครับ”
“เดี๋ยวสิ นที! นทีลูก! ตายจริงลูกคนนี้ พูดยากพูดเย็น”
“แม่กับนทีเป็นอะไรกันเหรอครับ”อัคนีที่เพิ่งกลับมาจากตลาดถามขึ้นเพราะเขาเรียกนทีธรแล้วแต่รายนั้นเดินดุ่ม ๆ ออกไปท่าเดียว
“ก็พ่อนทีน่ะสิ อายุตั้งขนาดนี้แล้ว ไม่แต่งงานสักที”
“โธ่ แม่ครับ นทีอาจจะอยากอยู่คนเดียวก็ได้ ไม่เห็นต้องคิดมาก”
“แม่เนี่ยเหร๊อ! เปล่าสักหน่อย แม่ไม่ได้คิดมากเลย ยิ่งแก่ เจ็บออด ๆ แอด ๆ อยู่แล้ว กลัวจะไม่ได้เห็นหน้าลูกพ่อเขา”คุณนายจันทราทำท่าบีบที่เอวไปจนถึงขาของตัวเอง ท่านเริ่มแก่ลงเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าอัคนีจะมีหลานให้อุ้ม แต่เจ้าตัวก็ยังคาดหวังที่จะได้เห็นหน้าหลานซึ่งเป็นลูกของนทีธรผู้เป็นลูกชายคนเล็กอยู่ดี
“งั้นผมจะลองคุยกับน้องให้อีกทีนะครับ”พอเห็นท่าทางของแม่เป็นแบบนั้น อัคนีก็รีบรับปาก โรคคนแก่ไม่เข้าใครออกใครเสียจริง
“เรื่องเดินไปถึงไหนแล้วเขม”หลังจากที่เข้าไปหาแม่เสร็จ นทีธรก็รีบกลับมาทำงานทันที “กำลังวางแผนกันสร้างถนนใหญ่ในเมืองที่ชำรุดอยู่ครับ ระยะเวลาเสร็จตามที่ผู้ว่าเร่ง ก็ไม่น่าเกินสามเดือน”
“ส่วนนี่ก็..เอกสารกองใหม่ ต้องรีบเซ็นด้วยนะครับ มันด่วนจริง ๆ ”เขมยิ้มแหย่ ๆ ให้ก่อนจะวางเอกสารกองหนาเตอะลงตรงหน้าของนทีธร
ชายหนุ่มมองเอกสารตรงหน้า เขาพยักหน้าให้เขมและบอกให้เขมออกไปก่อนเพื่อที่เขาจะได้ทำงานสะดวก
“น้องแก้ว มาทำอะไรเหรอครับ”หลังจากที่เขมเดินออกมาจากห้องของผู้ว่าหนุ่มและเดินลงมาข้างล่าง เขาก็เห็นแก้วกานต์ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ที่หน้าศาลากลางจังหวัด ในมือถือกล่องข้าวผูกผ้าสีน้ำตาลอ่อนกับแก้วน้ำเก็บความเย็นไว้
“เอ่อ..พี่เขมคะ พี่นทีเขา..”
“อ๋อ.. ผู้ว่าฯ เขาทำงานอยู่น่ะจ้ะ มีอะไรรึเปล่า จะให้พี่ฝากบอกอะไรเขาให้ไหม”
“แก้วแค่อยากฝากข้าวกับน้ำขึ้นไปให้พี่นทีหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้จ้ะ เดี๋ยวพี่เอาไปให้นะ”
“เออ แต่ว่าน้องแก้วเอาขึ้นไปให้ผู้ว่าเองก็ได้นะครับ เขาไม่ว่าอะไรหรอก”เขมบอกกับแก้วกานต์ เท่าที่นทีธรเล่าให้เขาฟัง แก้วกานต์เป็นน้องสาวที่เคยเล่นด้วยตอนเด็ก ๆ แถมยังดูสนิทกับนทีธรมากกว่าผู้หญิงคนอื่นอีกต่างหาก
การที่แก้วกานต์จะเข้าไปหานทีธรตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร
“ไม่เอาค่ะ พี่นทีกำลังทำงานอยู่ แก้วไม่อยากกวน”
“แก้วฝากพี่เขมเอาไปให้ดีกว่า แก้วไปก่อนนะคะ”แก้วกานต์โบกมือลาเขมก่อนจะเดินกลับไปขี่รถจักรยานยนต์สีครีมคันเล็กของเธอกลับไปที่ร้าน
“กลับมาแล้วเหรอคะพี่แก้ว”รวิกาเอ่ยถาม เธอเป็นเด็กนักศึกษาที่มาสมัครเป็นลูกจ้างพาร์ทไทม์กับแก้วกานต์เมื่อปีที่แล้ว แก้วกานต์เห็นว่าเป็นเด็กที่ดูทะมัดทะแมงดี จึงรับเข้าทำงาน
“จ้ะ พี่ไปนานเหรอ ขอโทษทีนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เอาข้าวไปให้แฟนก็ต้องนานเป็นธรรมดา”
“ไม่ใช่แฟนสักหน่อย วิก็”
“ไม่ต้องเขินวิหรอกค่ะ คนกันเอง”
แก้วกานต์เขินอายก็จริง แต่มันจะเรียกแฟนได้ยังไงเล่า ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย
ก็แค่พี่น้อง..
นทีธรไม่ใช่พี่ชายธรรมดา ๆ ของเธอ แต่เขาเป็นรักแรกและคงจะเป็นรักเดียวไปอีกนานแสนนานจนกว่านทีธร..จะแต่งงาน
เธอแอบชอบนทีธรมาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ แต่ว่าตอนนี้..มันคงเรียกว่าแอบรักได้แล้วกระมัง
สิบกว่าปีที่เธอแอบรักเขา เธอมีความสุขดี ไม่เคยคิดจะแย่งเขามาจากใคร หากนทีธรได้เจอความรักของเขา เธอก็พร้อมจะยินดีกับเขาด้วย
แต่เธอรู้ดีว่าในใจของนทีธรมีเพียงรัตติกาล..รัตติกาล..พี่สะใภ้ของเขาเอง นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่นทีธรไม่เปิดใจให้ใครอีกและการที่เขาไม่ยอมมีใครสักทีก็เป็นส่วนที่ทำให้คุณนายจันทราบ่นให้เธอฟังเป็นประจำตามประสาคนเป็นแม่
เสียงกล่องอาหารวางลงต่อหน้านทีธรที่กำลังนั่งเซ็นเอกสารอยู่ ในเวลาพักเที่ยงแบบนี้ มีแต่เขาเท่านั้นแหละที่ไม่ออกไปไหน
“อะไร”นทีธรเงยหน้ามองกล่องอาหารที่ถูกวางลง
“ก็กล่องข้าวไงครับผู้ว่า ถามแปลก ๆ ”
“อ้าว ไม่ลองแกะดูเหรอครับ”เมื่อเห็นว่านทีธรไม่ได้พูดอะไรออกมาและกลับลงไปก้มหน้าเซ็นเอกสารต่อ เขมจึงทักท้วงขึ้น
“ไม่ล่ะ นายเอาไปกินเลยก็ได้ ฉันไม่ว่า”
“แหม น้องแก้วอุตส่าห์ทำมาให้ นายก็กินหน่อยเถอะน่า”
“งั้นก็เอาไว้ตรงนี้แหละ ฉันยังไม่หิว หิวเมื่อไรเดี๋ยวกินเอง”
“กินเถอะครับ นี่มันเที่ยงแล้วนะครับ อย่าทำงานเหมือนกระจายงานไม่เป็นหน่อยเลย แหม”เขมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
ความจริงที่เขมพูดได้อย่างไม่เกรงใจเพราะนทีธรและเขมเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน และนี่เป็นเวลาพักเที่ยง เขาจึงสามารถพูดสรรพนามแบบนี้ออกมาได้ “เออ นายจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ เดี๋ยวฉันกินน่า”
“โอเค กินนะ กินให้หมดล่ะ กลัวเป็นลมเป็นแล้งไป เลือกตั้งใหม่ไม่ทันนะเว้ย”
“ไอ้เขม นายรีบไปเลยก่อนที่ฉันจะเอาปากกายัดปากนาย”
“ครับ ๆ ~ ไปเดี๋ยวนี้ครับเจ้านาย”เขมทำท่าทางตั้งรับแบบทีเล่นทีจริง ก่อนจะรีบเดินออกไป พอเขมเดินออกไปแล้ว นทีธรก็มองมาที่กล่องข้าวที่เขมนำมาวางไว้เมื่อครู่ ก่อนจะเปิดดู
“ยายแก้วนะยายแก้ว”