ผลการประชุมจบลงด้วยดี แต่ยังไม่มีใครทันออกไป ซูเสี่ยวหนิงกลับยกถาดขนมเข้ามา วางไว้ตรงหน้าชายหนุ่ม มองเมินสายตาตำหนิที่ไม่พอใจ เสียงใสกล่าวอย่างนุ่มนวล “ที่รัก คุณยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา กินเกี๊ยวก่อนสิ ขืนเป็นลมขึ้นมา จะป่วย คนที่แข็งแรงเวลาเป็นไข้อาการจะน่าเป็นห่วงกว่าคนอ่อนแอ” เขาไม่มีทีท่าจะหยิบมัน ไม่แม้จะมอง “นี่ ไม่ต้องกลัวเรื่องยาพิษ แม่บ้านเป็นคนทำ ถือมาจากในครัวเพิ่งส่งให้ฉันที่หน้าประตู ถ้าไม่เชื่องั้นฉันกินให้ดู” ซูเสี่ยวหนิงคีบเกี๊ยวนึ่งขึ้นมากิน ยังยิ้มตาหยีบอกว่าอร่อย “ดูเกี้ยวกุ้งชิ้นโตๆ หือหอมมาก! ถ้าไม่กินจะน่าเสียดาย” มาเฟียผู้เย็นชาเหลือบตามองแวบหนึ่ง ท้องเขารู้สึกแสบอยู่บ้าง หลายวันมานี้เขาไม่อยากเห็นหน้าเธอ จึงไม่ร่วมโต๊ะทานอาหาร ขณะที่หญิงสาวยังกินตรงเวลาทุกวัน ไม่รวมของว่าง ท้องไส้จึงประท้วง เพราะพ่ายแพ้ต่อความหิว จึงยอมคว้าเกี๊ยวมากินต่อหน้าลูกน้องเฉยเลย! “

