ตอนที่5 ใจร้าย

2588 Words
หลังจากเดินมาถึงห้องทำงานของชินที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับไร่องุ่น ห่างเพียงไม่กี่เมตรก็ถึงไร่แล้ว คนงานนับร้อยที่ดีอกดีใจที่เห็นนายหญิงคนใหม่มาที่ทำงานด้วย หญิงสาวกลายเป็นหัวข้อพูดคุยกันไม่ขาดปาก "นายหญิงสวยมากเลย ฉันอิจฉานายหญิงจัง" "ใช่ๆ นายก็หล่อ นายหญิงก็สวยดูเข้ากันๆ" เสียงคนงานผู้หญิงคุยกันสองสามคนพูดถึงคู่สามีภรรยาคู่ใหม่ ถึงชายหนุ่มจะดูโหดจะดูดุ แต่เขาก็ไม่เคยเอาเปรียบคนงานสักคน "นายครับ นายหญิงมาด้วยวันนี้ คนงานตื่นเต้นกันมากเลยครับนาย" นายป้องคนงานคนเก่าคนแก่ของไร่บอกขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้นายหญิงคนใหม่ "สวัสดีค่ะ" น้ำข้าวไหว้เมื่อเห็นคนอายุมากกว่ามาทักและผู้ถึงเธอ "ไม่ต้องไหว้ผมก็ได้ครับ นายหญิง" คนงานรีบยกมือไหว้เธอกลับ "ไม่ได้หรอกค่ะ น้ำข้าวเป็นเด็กก็ต้องไหว้ผู้ใหญ่ถูกแล้ว" "นี่ มีงานอะไรก็ไปทำสินายป้อง"นฤชิตเสียงดุใส่ที่เห็นมีคนต่างชื่นชมในตัวน้ำข้าว จนชายหนุ่มอดหมั่นไส้ไม่ได้ "ครับนาย ลุงไปก่อนนะครับนายหญิง" ลุงป้องเดินไปทันทีที่โดนชายหนุ่มบ่น ส่วนคนตัวสูงนั้นเหรอทำหน้าตาดุใส่จ้องหน้าหญิงสาวไม่กระพริบตา  "เก่งจริงนะ วิธีที่ทำให้ผู้ชายสนใจเนี้ย นายป้องเป็นคนเก่าแก่ที่นี่ อย่ามาทำตัวแบบนี้ต่อหน้าคนงานฉันอีก ทำไมชอบคนแก่มากขนาดนั้นเลยเหรอ ผู้หญิงสมัยนี่ก็แปลกดีนะ" ชายหนุ่มพูดชุดใหญ่จนน้ำข้าวทำหน้าไม่พอใจกับคำพูดของเขา "ใช่คะ ฉันชอบคนแก่กว่า เพราะอะไรรู้ไหมค่ะ เพราะคนแก่เอาใจเก่งไม่งี่เง่าเหมือนคนหนุ่มๆ" น้ำข้าวพูดใส่เขาทำตาโตใส่กลับอย่างไม่พอใจในคำยอกย้อนของหญิงสาว "ทำไมไม่เอาตัวเข้าแลกพ่อฉันเลยล่ะถ้าจะพูดแบบนี้" "ถ้าคุณแม่เปิดทางให้ตั้งแต่ต้น ฉันก็เอาคะ" เธอไม่เคยเถียงใครแบบนี้มาก่อนจนมาเจอชายหนุ่มหน้ายักษ์ตนนี้ คำพูดเธอยิ่งทำให้ชินโมโหขึ้นไปอีก มือหนาของเขาบีบต้นแขนเธออย่างแรง หญิงสาวพยายามเกาะมือออกด้วยสีหน้าเหยเกไม่น้อยเพราะแรงของชายหนุ่มทำให้เธอเจ็บจริงๆ  "หน้าด้าน ฉันพูดประชดยังทำหน้าทำตาไม่รู้อีก คนอย่างเธอนี้ฉันไม่รู้จะเปรียบกับอะไรดี!" คำพูดที่ดูถูกเธอตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่น้อยเลยที่ออกจากปากเขามา "จะเปรียบกับอะไรก็พูดมาเถอะคะ คำพูดของคุณไม่มีผลในชีวิตฉันหรอก และอีกอย่างนะคะถ้าไม่อยากให้คนงานสงสัยไปมากกว่านี้ก็ปล่อยแขนฉันเถอะคะ" น้ำข้าวพูดเพราะคนงานจับตาดูเธอและเขาอย่างไม่ละ  "หึ ๆ นึกว่าจะด้านจนไม่สนใจใครเสียอีก"ชายหนุ่มจับแขนเธอดึงเข้ามาในห้องทำงาน พร้อมผลักเธอลงในโซฟา หญิงสาวเจ็บไม่น้อยกับการกระทำของอีกฝ่าย "จะทำอะไรคะ" น้ำข้าวรีบถอยห่างทันที "ฉันไม่ได้ชอบเธอ ไม่มีวันทำอะไรผู้หญิงอย่างเธอแน่ ฉันจะทำงานถ้าจะอยู่ที่นี่ก็หุบปาก อย่าแม้แต่เอ่ยออกมาให้ฉันได้ยิน ไม่งั้นจบไม่สวยแน่" ชินพูดจบหันไปเซ็นเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ น้ำข้าวมองไปรอบๆห้องด้วยสีหน้าแปลกไป 'สีห้องนี่ น่ากลัวไม่ต่างจากห้องนอนเลย' เธอคิดในใจ หญิงสาวนั่งอยู่อย่างนั้นนานนับสองชั่วโมงจนเธอเริ่มขยับไปขยับมาการที่นั่งอยู่ตรงนี้ทำเอาหญิงเริ่มเมื่อยจะออกไปก็กลัวเขาด่าแต่จะให้นั่งอยู่ตรงนี้แบบนี้ก็ไม่ไหวแล้ว  'ด่าก็ด่าสิ ไหนๆก็โดนอยู่แล้ว' เธอลุกขึ้นออกจากห้องโดนที่ไม่พูดอะไรสักคำตามคำสั่งของเขา ชายหนุ่มมองเธอเดินออกไปอย่างสงสัยแต่ไม่คิดจะไปตาม เขาจับตาดูเธอในกล้องวงจรที่ติดไว้ทั่วไร่แทน หญิงสาวพอได้ออกมาสูดอากาศก็รู้สึกดีขึ้นเธออดใจไม่ได้ที่จะเดินเล่นในไร่เเห่งนี้ บรรยากาศก็ดี ต้นไม้ดอกไม้ก็เยอะ เธอเดินมาเรื่อยๆ ดูดอกไม้ดูต้นหญ้า รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในเขตของไร่ที่มีรั้วสีขาวตั้งเป็นแนวยาวนับร้อยไร่ ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นน่าจะนับหลายสิบปีได้ ทั้งสูงทั้งใหญ่ ที่นี่สวยมากๆสำหรับเธอ ร่างบางอรชรนั้งหลับตาลงใต้ต้นไม้ใหญ่เธอนั่งคิดอะไรไปเรื่อยอยู่นาน "นี่คุณ ใช่คนที่เคยทำงานในโรงแรมไหมครับ" จู่ๆก็มีเสียงตะโกนถามเธอขึ้น น้ำข้าวสะดุ้งหันหน้ามองหาเจ้าของเสียง "โอ๊ะ คุณผ้าขนหนูนิ มาทำอะไรตรงนี้ค่ะ" ใช่นั้นคือโชคคนที่เธอเคยช่วยเขาไว้ "ผม ทำงานที่นี่" "อ้อ คะ ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก คุณโชคใช่ไหมค่ะ" "จำชื่อผมได้ด้วย คุณน้ำข้าวมาทำอะไรที่นี้คนเดียวคับ ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อน" โชคถามอย่างเป็นมิตร "อ้อ ฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่คะ ที่นี่อากาศดีนะคะ คุณโชคเป็นคนงานในไร่นั้นหรอคะ" น้ำข้าวถามเพราะความสงสัย "ครับ ผมเป็นเจ้าของไร่นี้" น้ำข้าวตกใจ ที่ตัวเองทำไมตาไม่ถึงขนาดนั้นหาว่าเขาเป็นแค่คนงาน " ฉันขอโทษคะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นเจ้าของไร่" น้ำข้าวหน้าเสียลงยิ่งทำให้โชคชอบใจยิ่งนัก "ผมไม่ถือหรอก ดูจากหน้าตาแล้วคุณน่าจะอายุน้อยกว่าผม เรียกผมว่าพี่ก็ได้นะ คิดว่าเป็นพี่ชายข้างบ้านก็ได้" "พี่ชายหรอคะ ฉันไม่เคยมีพี่ชายเลย ยินดีที่ได้รู้จักคะพี่โชค" น้ำข้าวยอมรับว่าคุยกับโชคแล้วสบายใจมากกว่าชิน เธอจับมือกับชายตรงหน้าอย่างไม่คิดอะไรมาก ทั้งสองคุยกันนานสักพักน้ำข้าวก็ขอตัวกลับก่อนเพราะเธอออกมานานมากแล้ว หญิงสาวเดินกลับมาที่ห้องทำงานของชายหนุ่ม พอเหยียบเข้าห้องมาก็รู้สึกเเปลกๆไปทันทีกลับสายตาที่จ้องมองเธอ  "ไปไหนมา"เขาเอ่ยถามอย่างเสียงเเข็ง "ฉันไปเดินเล่นมาคะ" น้ำข้าวตอบเขากลับ เพราะเธอก็ไปเดินเล่นจริงๆ "เหรอ บรรยากาศไร่ฉันดีไหมล่ะ"เสียงเข้มกัดฟันถาม "ก็ดีคะ สวยด้วย" เธอตอบกลับงงๆ ที่ชายหนุ่มถามแปลกๆ พอเห็นสีหน้าท่าทางของคนตัวเล็กชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ พระอาทิตย์ตกดิน ชายหนุ่มเพิ่งทำงานเสร็จ ที่นี่สวยมากจริง ๆ เขาและเธอเดินกลับมาที่บ้าน แต่พอมาถึงก็ตกใจที่บ้านในตอนนี้ไม่เปิดไฟสักดวงจนหญิงสาวขมวดคิ้วอย่างสงสัยหญิงสาวเรียกหานาถพิจิตร เรียกหาแม่บ้านก็ไม่มีใครตอบ ชายหนุ่มเดินไปเปิดไฟในตัวบ้าน เขาหยิบกระดาษที่ว่างอยู่ในห้องรับแขกมาอ่าน พร้อมทำสีหน้าไม่พอใจก่อนจะขย้ำทิ้งขว้างไปอีกทางน้ำข้าวแล้วขึ้นห้องไป 'แม่กับพ่อไปต่างประเทศนะลูก หลายวันกว่าจะกลับมาขอโทษที่ไม่ได้บอก ดูแลกันดีๆ เอ่อส่วนแม่บ้าน เขาลาหลับบ้านนะจ้ะ ก็หาอะไรทานกันด้วยนะจร้ ฝากถึงหนูน้ำข้าว ตาชินลูกชายแม่ชอบปวดท้องบังคับให้ทานข้าวทุกวันด้วยนะ รักลูกทั้งสอง จากพ่อแม่'   "ห๊ะ อะไรกันเนี้ย ฉันโดนทิ้งให้อยู่กับเขาสองคนหรอ?" น้ำข้าวอ่านอย่างหัวเสีย "จะทำไงดีๆๆ โอ๊ะ ตอนนี้คุณแม่ไม่อยู่ฉันจะทำยังไงดี ต้องตายแน่ๆถ้าอยู่กับนายนั้นสองคน"หญิงสาวบ่นออกมาพร้อมเดินไปเดินมาอย่างคิดวิตกต่างๆ นาๆ  ชายหนุ่มที่หัวเสียไม่ต่างกันที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับน้ำข้าวสองคน ร่างกำยำขึ้นมาบนห้องก่อนจะอาบน้ำและลงไปข้างล่าง น้ำข้าวที่ไม่รู้ว่าวันนี้จะทำอะไรให้เขาและตัวเองทานดี หันไปหันมาเจอไข่ เธอเลยทอดไข่ใส่หมูสับ เอาแบบนี้ง่ายๆ ก่อน เพราะไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย หญิงสาวตกแต่งให้ข้าวหน้าไข่ทอดหมูสับแสนธรรมดาทำให้ดูน่ารับประทานขึ้นเป็นกอง "ขอโทษนะ เย็นนี้ทานแบบนี้ไปก่อนได้ไหม" เธอพูดพร้อมมองดูหน้าอีกคน กลัวว่าเข้าจะไม่พอใจ แต่ผิดคาดที่ชายหนุ่มกินข้าวที่เธอทำอย่างดูอร็อดอร่อยเพราะเขานั้นหิวเป็นบ้า ไม่คิดว่าแม่กับพ่อจะเล่นแรงแบบนี้  "ไม่นั่งกินรึไง มัวยืนอยู่นั้นล่ะ" "อ้อ คะ" เธอรีบหย่อนก้นลงนั่งกิน แค่ไข่ธรรมดากลับทำให้น้ำข้าวอารมณ์ดีขึ้นมา ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้สายตาคมเข้มจ้องมองนิ่ง "ต่อไปหลังจากนี้ เธอรู้ใช่ไหมต้องทำตัวยังไง งานบ้านเธอต้องดูแล กับข้าวต้องทำและก็ต้องไปส่งให้ฉันที่ห้องทำงานทุกวัน เข้าใจไช่ไหม"นฤชิตบอกเสียงดุจนดูเอาจริงเอาจังมากจนทำให้หญิงสาวนิ่งไปทันที "คะ" "ที่เธอเคยบอกว่าจะทำงานมาใช้หนี้ฉัน ฉันจะให้เงินเดือนเธอเดือนละ ห้าหมื่น แต่เธอต้องห้ามทำผิดข้อตกลงของฉัน" น้ำข้าวนั่งคำนวณเงินที่เธอต้องใช้คืนเขาอย่างเอาจริงเอาจัง  'เดือนล่ะห้าหมื่น ปีล่ะ 6 แสน ต้องใช่หนี้ 20 ล้าน นานเกินไป แต่ถ้าขอเป็นเดือนละ แสน 1ปี ก็ล้านสอง ต้องใช่ถึง 16 ปี ตายพอดีฉัน ไม่เป็นไรที่เหลือเราก็หารายได้เพิ่ม' เธอนั่งคิดไปมา "เอ่อคือว่าเดือนล่ะแสน โอเคไหมคะ" น้ำข้าวต่อลอง "ตลกไปรึเปล่า"ชายหนุ่มถามกลับทันควัน "ฉันเอาจริง ถ้าคุณให้เดือนล่ะแสน ฉันก็จะทำงานในบ้านและที่ไร่ด้วย" น้ำข้าวพูดต่อลอง ชายหนุ่มนั่งคิดไปมาก่อนจะถอนหายใจ "ได้ แต่เราก็ต้องทำสัญญากันนะ " "คะ ไม่มีปัญหาขอแค่คุณไม่ใจร้ายกับฉันมากเกินไปก็พอ" น้ำข้าวอารมณ์ดีขึ้นมาก่อนจะนั่งกินข้าวต่อ 'เดียวก็เป็นอิสระแล้ว ฉันจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่ฉันต้องการ'เธอคิดในใจอย่างมีความสุข ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้มนั่งดูอาการคนตรงหน้า ก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา นักธุรกิจอย่างเขาไม่ยอมขาดทุนแน่ๆ ทุกอย่างก็ต้องมีกำไร หลังจากทานข้าวเสร็จร่างสูงโปร่งก็ขึ้นไปบนห้อง เขาร่างสัญญาขึ้นมาเองกับมือ น้ำข้าวที่ทำความสะอาดบ้านและบริเวณที่นั่งรับประทานอาหารรออีกฝ่ายอย่างอารมณ์ดี  ไม่นานมากนักนฤชิตก็ลงมาก่อนชายหนุ่มจะก้าวเข้ามาหาหญิงสาวพร้อมกับยื่นเอกสารสัญญาให้เธอ "เซ็นซะ" น้ำข้าวรับมา เธอตรวจสอบข้อความทุกอย่าง อ่านอย่างละเอียดด้วยสีหน้าเริ่มเปลี่ยนไป  "ข้อ3 กับข้อ 6นี้ มันไม่เกี่ยวกับงานที่ฉันต้องทำให้คุณนะคะ ในสัญญาข้อ3บอกว่า ถ้าฉันทำผิดหรือทำอะไรไม่ตรงกับผู้ว่าจ้างสั่ง ต้องโดนหักเงินเดือนของเดือนนั้น ข้อ 6 ถึงลูกจ้างจะเป็นลูกจ้าง แต่ต้องอย่าลืมว่ามีหน้าที่ดูแลผู้ว่าจ้างในฐานะสามี ถ้าลูกจ้างทำผิดศีลธรรมหรือทำผิดต่อสามี สัญญานี้ถือเป็นโมฆะ ตลกไปไหมคะ" น้ำข้าวเริ่มหัวเสีย "ผลิกข้างหลังอ่านด้วย" ชายหนุ่มทำหน้ากวนๆ ใส่พอเห็นอีกฝ่ายทำหน้างอเขาก็พอใจไม่น้อย "นี่มันอะไรกัน ข้อ10 ถ้าลูกจ้างไม่สามารถใช้หนี้ให้เเก่ผู้ว่าจ้าง จำนวนเงิน 10ล้านเงินครึ่งนึงของหนี้จำนวนเต็มภายใน 3ปี ลูกจ้างต้องเสีย ดอกเพิ่มร้อยล่ะ10 ต่อปี คุณชินนี้มันสัญญาบ้าบออะไรคะ ฉันไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้" น้ำข้าวโกรธที่เขาทำเหมือนเล่นตลกกับเธอหญิงสาวขว้างสัญญาทิ้งต่อหน้าต่อตาเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ  "ไหนละ ไหนบอกว่าเก่งไง นี้ฉันให้เงินเดือนล่ะเเสนเธอยังไม่พอใจอีกหรอ" "คุณมัน จอมโกหก!" "เธอก็จอมหน้าเงินเหมือนกันล่ะ" เขาเดินเข้าไปบีบแขนเธอด้วยความไม่พอใจ "เอะอะอะไร ก็บีบ ก็ทำร้ายคุณมันปีศาจ" ชินปล่อยแขนเธออย่างแรงที่เห็นอีกฝ่ายด่าว่าเขา "แต่ถ้าเธอทำไม่ได้ ฉันมีงานอื่นให้เธอทำ สนใจไหมล่ะ"สายตาคมเข้มจับจ้องมองใบหน้าสวยอย่างนิ่งเงียบ "งานอะไร ฉันจะแน่ใจได้ไงว่าคุณไม่หลอกฉันอีก" น้ำข้าวถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่เธอก็ไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่านี้แล้ว "งานนี้น่าจะเป็นงานที่เธอถนัด" "งานอะไรค่ะ?" น้ำข้าวถามอย่างใจเย็นเธออยากมีงานทำมีเงินมาคืนเขาให้หมดเร็วๆ เสียที  "มีลูกกับฉัน"คำตอบของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวหน้าเสียไปทันที "ไม่ ฉันไม่ยอม!"น้ำข้าวตกใจรีบปฏิเสธ "นี่ ฉันไม่ได้อยากได้เธอนักหรอกนะทำเป็นสาวน้อยอ่อนต่อโลกไปได้ คนอย่างเธอคงผ่านอะไรต่ออะไรมาเยอะแล้วสิไม่ว่า เราจะมีลูกโดยให้แพทย์ช่วย ถ้าเธอมีลูกกับฉัน หนี้20ล้าน จะหายไปทั้งที ฉันจะให้เงินเธอเริ่มต้นใหม่อีกก้อนนึง แต่เธอจะได้เงินก้อนนี้ต่อเมื่อ เธอคลอดลูกของฉันออกมาอย่างปลอดภัยและหลังจากนั้น เราจะเป็นคนแปลกหน้ากันทันท่ ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะพ่อกับแม่ฉันต้องการมีหลาน ฉันไม่มีทางเลือกอื่น เธอคิดว่าไง"หญิงสาวนิ่งไป ระยะหนึ่งเธอคิดต่างๆ นาๆ กับคำพูดของชายหนุ่มที่บอกเธอ  "นานไปล่ะ คิดนานแบบนี้จะเอาไงก็พูดมา หรือไม่เธอก็ใช้หนี้แบบในสัญญาแรกที่ฉันให้อ่านไป" "ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหมคะ"ตอนนี้น้ำข้าวสับสนไปหมดจะเอาไงดีกับชีวิต "พรุ่งนี้ฉันต้องการคำตอบ ฉันง่วงล่ะ นอนก่อนนะ" ชายหนุ่มเดินขึ้นห้องไปอย่างไม่สนใจว่าอีกฝ่ายตอนนี้คิดมากแค่ไหน เขารู้เพียงแค่ว่า เขาต้องไม่ขาดทุน!!!   คืนนี้น้ำข้าวไม่ขึ้นไปนอนบนห้องนอนของนฤชิต เธอนั่งอยู่ในห้องรับแขก คิดทบทวนต่างๆ และเรื่องที่เกิดขึ้น "แม่คะ หนูจะทำยังไง หนูมืดแปดด้านแล้ว ฮื้อออออ อื้อออ" จู่ๆ เธอก็คิดถึงแม่ขึ้นมา น้ำตาใสๆ ไหลออกมาจนอาบไปทั้งสองแก้มนวลเนียน เธอเครียดไปหมด ไม่รู้จะทำยังไงดี   
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD