ตอนที่ 17 เอาก็เอาแล้ว

1902 Words
ตอนที่ 17 เอาก็เอาแล้ว “งื้อ...อย่ากวนสิเป้ย...พี่จะนอน” นิษฐ์รัณดา พยายามกลั้นเสียงสะอื้น ทว่า ยิ่งห้ามตนเอง ความเสียใจที่กักเก็บมาก่อนหน้านี้มันก็ล้นทะลัก ปล่อยเสียงสะอื้นดัง จนทำให้คนที่กำลังนอนหลับฝัน เริ่มรู้สึกตัวตื่น ปรือตาขึ้นมองเจ้าของเสียงนั่น ก่อนจะหรี่ตา เพ่งมองใบหน้าจิ้มลิ้มแสนคุ้นเคย นานหลายวินาที ก่อนที่เขาจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่ออนุสติอันพร่าเลือนกลับคืนมา “ณิดา! นี่เธอ...” ผรุสวาทเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างลืมตัว ก่อนระลึกขึ้นได้ว่า... บัดนี้เขาและเธอได้กลายมาเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หาใช่หญิงสาวที่เขานั้นกำลังฝันถึง อธิษฐ์พ่นลมหายใจออกมาเสียงดัง ด้วยความหงุดหงิด คล้ายรำคาญใจ ก่อนจะสลัดผ้าห่มพ้นตัวแล้วลุกเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้เธอนั่งมองอยู่ตรงนั้นก่อนจะปาดเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลริน แล้วลุกลงจากเตียง เดินไปหาชายหนุ่มหมายจะไปช่วยดูว่าเขายังต้องการอะไรอีกหรือไม่ ทว่าเสียงโทรศัพท์กลับแผดร้องดังขึ้น สองขาหยุดชะงักเล็กน้อยขณะหันไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันกาย ระหว่างคิ้วสวยขมวดหากันเล็กน้อย ในยามวิกาลดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้ ใครกันที่โทรเข้ามาหาสามีของเธอ สองเท้าขยับเข้าหา หมายจะไปรับโทรศัพท์เครื่องนั้นของอธิษฐ์ สามีป้ายแดงที่เพิ่งผ่านพิธีมงคลสมรสไปเมื่อช่วงค่ำ ชุดเจ้าสาวที่เพิ่งถูกเขาถอดด้วยแรงอารมณ์ปรารถนา ยังคงวางพาดกองไว้อยู่ที่เก้าอี้ยาวปลายเตียง เสื้อผ้าอีกหลายชิ้นยังคงเกลื่อนกลาด แต่เพียงเธอก้าว และคว้ามือเอื้อมไปจะสัมผัส “นั่นเธอจะทำอะไรน่ะณิดา” “โทรศัพท์พี่กลางค่ะ....นิดเลยจะหยิบไปให้พี่กลาง” “ที่หลังอย่ามายุ่งวุ่นวายข้าวของ ของฉันอีก ถ้าฉันไม่ได้สั่ง!” อธิษฐ์เอ่ยด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าปกติ ขณะกระชากโทรศัพท์ที่กำลังแผดร้องดังลั่น ขึ้นมากดรับสายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “อืมว่าไง...ห๊ะว่าไงนะ!” พูดคุยได้ไม่กี่คำ สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนไป กลายเป็นความตกใจสุดขีด นัยน์ตาคมเบิกกว้างขึ้นก่อนจะร้อนรนกระวนกระวาย เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับเสียงปิดประตูดังปังใหญ่ จนหล่อนถึงกับสะดุ้งเบา ๆ ด้วยความตกใจ ก่อนที่อีกหลายนาทีต่อมา เขาจะเดินหุนหันกลับเข้ามาในห้องด้วยท่าทีรีบร้อน จนเธอถึงกับนิ่วหน้าด้วยความแปลกใจ “พี่กลางจะออกไปไหนคะ” เอ่ยถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังสวมเสื้อผ้าในชุดไปรเวทแบบลวก ๆ อย่างรีบร้อน “พี่มีธุระ” ตอบกลับเพียงสั้น ๆ ขณะที่เธอมองเขาด้วยความแปลกใจ ระคนไม่พอใจในเวลาเดียวกัน นัยน์ตายามที่มองเขามีแต่ความเคลือบแคลงสงสัย พร้อมกับข้อความของใครบางคนที่ส่งมาหาเธอวันนี้แวบเข้ามาในสมอง “ธุระอะไรป่านนี้คะพี่กลาง...แล้วพี่จะออกไปตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่เรา...” เธอหยุดคำนั้นเอาไว้ ...ทั้งที่เธอนั้นอยากจะย้ำเตือน ว่าเขาและเธอเพิ่งผ่านช่วงเวลาแสนเร้าร้อนชวนฝันมาด้วยกัน ขณะที่เขานั้น กลับไม่ได้รู้สึกถึงความรู้สึกนั้นเลยสักนิด หันมาเรียกชื่อเธอด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าปกติเล็กน้อย “ณิดา!! อย่าเพิ่งถามเซ้าซี้งี่เง่าแบบนี้ได้ไหม” สุ้มเสียงรำคาญเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ร้อนใจเอ่ยตัดบท ขณะที่เธอมองหน้าเขาน้ำตาเอ่อคลอ พลันคิดได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะทำสำเร็จ เขาจะไม่ให้เจ้าบ่าวอยู่ในคืนเข้าหอกับเธอ หล่อนพยายามเหนี่ยวรั้ง ย้อนถามด้วยเสียงสั่นเครือ “แล้วพี่จะออกไปไหนคะ...นี่มันคืนเข้าหอของเรานะคะพี่กลาง” หล่อนถามด้วยเสียงสั่นเครือ แววตาเว้าวอนอีกฝ่าย ขณะที่เขาดันตอบกลับเธอด้วยเสียงดุดัน จนอีกฝ่ายถึงกับผงะไปเล็กน้อย “พี่มีธุระ!” “ธุระตอนจะตีสามเนี่ยนะคะ!!” อธิษฐ์หายใจแรง ก่อนจะยืนเท้าเอวมองหน้าหญิงสาวที่ยังคงยืนกรานหนักแน่น พร้อมกับส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ณิดาไม่ให้พี่ไปไหนทั้งนั้น...คืนนี้เป็นคืนเข้าหอของเรานะคะพี่กลาง” หล่อนยังคงยืนกรานหนักแน่น “เธอมีสิทธิ์อะไรมาห้าม!” เค้นถามเสียงเข้ม “สิทธิ์ที่ณิดาเป็นเมียพี่ไงคะ” อธิษฐ์จ้องมองหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาที่ถูกตามกฎหมายเขาด้วยความเข่นเขี้ยว หายใจแรง หมุนตัวจะเดินออกไป แต่หญิงสาวกลับเหนี่ยวรั้ง กระชากแขนเขาไว้ จนทำให้โทรศัพท์ในมือที่ถืออยู่ถึงกับกระเด็นร่วงหล่นจากมือไปไกล “พี่กลาง! ณิไม่ให้พี่ไป!” หล่อนห้ามด้วยเสียงที่สั่งเต็มไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด น้ำตาร่วงพรูอาบแก้ม นัยน์ตาคมปราดมองเธอนิ่งนานหลายวินาที ก่อนจะเค้นเสียงพูดด้วยประโยคบางอย่าง “เธอนี่เห็นแก่ตัวมากเกินไปแล้วนะ นอนฉันก็นอนด้วยแล้ว เอาก็เอาแล้ว แล้วเธอจะเอายังไงอีก!!” สิ้นคำผรุสวาทที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด หญิงสาวถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้าง คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนั้นออกจากปากของเขา “พี่กลาง!!!!” อุทานเรียกชื่อสามีด้วยเสียงสั่นเครือ หล่อนคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินถ้อยคำเช่นนี้ออกจากปากของเขา อธิษฐ์มองเห็นแววตาคู่สวยเอ่อคลอด้วยความหยาดน้ำใส ถึงกับชะงัก นิ่งงันไปชั่วขณะ นัยน์ตาคมเข้มภายใต้แว่นเลนส์หนาเต็มไปด้วยความสับสน ฉุกคิดได้ว่าเพราะความตกใจกับเรื่องราวได้ที่ยินเมื่อครู่ พลอยทำให้เขาขาดสติจนใช้อารมณ์กับหญิงสาวตรงหน้ามากเกินไป ร่างสูงพรูลมหายใจออกมาระบายความเคร่งเครียด ในใจนั้นรู้สึกผิด และเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยที่เขาเผลอแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดกับเธอไป ร่างสูง หลุบตาต่ำ ครุ่นคิดลังเลและเต็มไปด้วยความสับสน ก่อนจะถอนใจดัง เอ่ยด้วยเสียงอ่อนลง “เดี๋ยวพี่มา” กล่าวจบเขาก็เดินไปหยุดยืนอยู่ใกล้ประตู มือหนากำลังจะเอื้อมจับไปที่ลูกบิด สีหน้าของเขาเคร่งเครียด ดวงตาวูบไหวด้วยความลังเลและความว้าวุ่น ราวกับต่อสู้อยู่ในใจ เสียงโทรศัพท์ที่เขาเพิ่งวางจาก...ยังดังก้องในหัว บอกกับตัวเองว่าต้องไป เพราะเขาไม่อาจจะดำที่จะไม่สนใจใครอีกคนที่กำลังอ่อนไหวหนัก จนขั้นถึงชีวิตนั่นได้แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกไป เสียงของเธอก็ดังขึ้น “ถ้าพี่ออกไป งั้นเราก็หย่ากัน” คล้ายคำประกาศิตของหล่อน แม้สุ้มเสียงจะ แผ่วเบา ไม่มีความแข็งกร้าว แต่กลับมั่นคงอย่างน่าประหลาด คล้ายคำพูดสุดท้ายจากหัวใจเธอ เหนื่อยล้าจนไม่เหลืออะไรจะยึดเหนี่ยวอีกต่อไปแล้ว หยดน้ำตาไหลรินอาบแก้ม มองดูชายที่เธอรักผ่านม่านน้ำตาด้วยความเจ็บปวด เนื้อตัวหล่อนสั่นเทาด้วยแรงสะอื้น ก่อนที่หล่อนจะปาดเช็ดมันทิ้ง ขณะที่เขานั้นนิ่งชะงัก หันมามองเธอด้วยสายตาตื่นตะลึง เห็นเธอยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาคู่นั้นไม่ได้แดงช้ำ มีเพียงคราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อน แต่ความเจ็บปวดมันล้นอยู่เต็มดวงหน้า และเขาเห็นมันชัดกว่าครั้งไหน ๆ “คุณไม่ต้องเลือกหรอกค่ะ ณิเลือกให้แล้ว” เธอยิ้มน้อย ๆ ให้เขา ราวกับจะบอกว่าเธอไม่เกลียดเขา แต่เธอ...จะไม่ยอมอยู่ในที่ที่ไม่มีใครเลือกเธออีกต่อไป เขายืนนิ่งมอง กับความรู้ราวกับถูกตบหน้าด้วยความจริง หัวใจถูกบีบรัดแน่น ไม่ใช่เพราะเธอขู่ว่าจะหย่า แต่เพราะเขาไม่เคยคาดคิด ว่าเธอจะกล้าพูดคำนั้นออกมา ทว่าในวินาทีนั้น เขากลับตัดสินใจได้ว่าเรื่องที่เขาได้รับรู้มานั้นเร่งด่วนกว่าหญิงสาวตรงหน้ามากขนาดไหน ตัดใจเดินหุนหันออกจากห้องไปทันที เพราะคิดว่าผู้หญิงอย่างนิษฐ์รัณดาคงไม่มีวันที่จะตัดใจจากเขาได้อย่างที่พูดแน่นอน มันก็คงเป็นเพียงคำขู่ของหญิงสาวที่เพียงอยากเอาชนะเขาเท่านั้น! ท่ามกลางเสียงสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนักตั้งแต่กลางดึกของเมื่อคืน ร่างผอมบางนั่งคุดคู้อยู่บนโซฟาหลังใหญ่ โดยไม่คิดขยับตัวไปไหน ใต้ตาดำหมองคล้ำ ฝ่ามือเรียวลูบหน้าท้องตนเองแผ่วเบา สายตาทอดมองไปยังหน้าต่างบานใหญ่เบือนหน้าแลเห็นท้องฟ้ากำลังจะแปรเปลี่ยนสี พร้อมกับความสว่างค่อย ๆ คืบคลาน ลอดผ่านเข้ามาภายในตัวห้องของโรงแรมหรูที่ใช้เป็นเรือนหอที่ไร้เงาของเจ้าบ่าว ตลอดทั้งคืน กระทั่งเช้าหญิงสาวที่เอาแต่นั่งร้องไห้ เสียใจ เจ็บปวด หล่อนรู้ดีแล้วว่า หล่อนแพ้ผู้หญิงคนนั้นทุกทาง แพ้มาตั้งแต่ต้น เขาเลือกทิ้งเธอ ที่กำลังตั้งท้องลูกของเขา ไปหาใครอีกคน ...ที่เคยอยู่ในหัวใจเขามาตลอด หล่อนพยายามตั้งสติ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อยู่หลายครั้ง ก่อนจะปล่อยเสียงสะอื้นดัง ร่ำไห้เปี่ยมจะขาดใจ เมื่อคิดว่าจากนี้เธอจะต้องอยู่ให้ได้... ในเมื่อเธอไม่ได้หัวใจของเขา แต่เธอยังมีหัวใจอีกดวงของใครอีกคน...แม้ในวันที่ไม่มีเขา พลันเสียงเพลงดังแว่วมา เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือของเขา พร้อมแสงสว่างวาบให้เห็นอยู่ไม่ไกล หล่อนลังเลครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนตัดสินใจลุกเดินไปหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อพบว่าเขานั้นไม่ได้ตั้งรหัสผ่านใด ๆ เหมือนเขาไม่กลัวความลับจะถูกเปิด หล่อนมองดูข้อความพร้อมรูปถ่ายที่ใครคนนั้น พยายามส่งมา เพื่อเรียกร้องให้เขา ทิ้งเธอไป นิษฐ์รัณดามองแล้วถึงกับอึ้งไปนาน พูดอะไรไม่ออก ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา หมดแรงที่จะยื้อเขาไว้อีกแล้ว คิดถึงตรงนี้หล่อนถึงกับพรูลมหายใจ ระบายความอัดอั้นในใจ พร้อมปาดเช็ดน้ำตาเปรอะเปื้อน ลุกจากเก้าอี้ตรงนั้น ตั้งใจจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อเตรียมตัวที่จะออกไปจากที่นี่ หล่อนไม่อยากทำตัวน่าสมเพช ให้ใครต้องมาหัวเราะเยาะได้อีก ในเมื่ออยากได้ผู้ชายคนนั้นมาก หล่อนก็จะยกให้ ทว่าเสี้ยววินาทีนั้น ที่มีใครบางคนส่งข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ของเธอเอง หล่อนมองข้อความแล้วนิ่งไปเล็กน้อย ‘ขอบคุณที่คืนพ่อของลูกพี่...ให้พี่นะคะ’ มือบางกดอ่านแล้วตัดสินใจวางคว่ำลงไปทันที ก่อนจะตัดสินใจ กดบล็อกข้อความของใครคนนั้นทันที ในเมื่อเขาเลือกผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว จะมีเหตุผลอะไรให้เธอต้องรับรู้ให้เจ็บปวดอีก “ถ้าเขาจะอยู่เพื่อใครอีกคน...ณิก็จะอยู่เพื่อลูก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD