bc

ตรารักลิขิตบาป

book_age16+
350
FOLLOW
1.2K
READ
HE
time-travel
sweet
secrets
like
intro-logo
Blurb

ไม่รู้เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตได้ขีดเอาไว้ให้เธอต้องไปพลาดนอนกับเจ้าของบริษัทจนทำให้เกิดตั้งท้องขึ้นมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจอีกทั้งเรื่องราวที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อลูกของเธอไม่ใช่แค่คนธรรมดา....

เรื่องนี้จะออกแนวลึกลับข้ามภพข้ามชาติกันนิดหน่อยนะคะแต่ความโรแมนติกมาเต็มค่า

ร่างโครงเรื่องโดย หอศังกร

และลงรายละเอียดคำบรรยายโดย ปลายฟ้า

นิยายเรื่องนี้สร้างจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์จากใครหรือสิ่งใดและไม่ได้เจตนาลบหลู่ความเชื่อย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้เจตนาลบหลู่ความเชื่อทุกอย่างเกิดจากจินตนาการนะคะ ชื่อคนสัตว์สิ่งของสถานที่ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องที่ปรุงแต่งขึ้น ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

แอบกระซิบว่า ความเป็นมาของพิมพ์ดาวและเพชรรัตน์ ในชาติที่แล้วอยู่ในเรื่อง หทัยแก้วปักษา นะคะ

ตัวอย่างบางตอน

"นี่คุณถ้าฉันคลอดลูกแล้วคุณจะดูแลฉันดีแบบนี้หรือเปล่า"

คนึงนิจเอ่ยถามชายหนุ่มในขณะที่เขาวางแก้วนมอุ่นๆตรงหน้าเธอก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งข้างๆ

"ก็คงจะเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง"

เขตแดนตอบไปตามตรงทุกวันนี้เขาก็ดูแลเธอจนเป็นกิจวัตรอยู่แล้วและคิดว่าจะทำไปเรื่อยๆไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง

"แล้วถ้าคุณมีคนรักล่ะ ลูกกับฉันยังสำคัญกับคุณอยู่มั้ย"

สาวเจ้าเอ่ยเสียงอ่อนเรื่องที่เธอกังวลในใจมาตลอดก็คงจะเป็นเรื่องนี้

"ผมไม่เคยคิดเรื่องนั้น มีคุณกับลูกแล้วผมจะหาคนอื่นมาวุ่นวายกับชีวิตทำไม"

เขตแดนเห็นว่าหญิงสาวดูท่าจะถามอะไรที่ค่อนข้างไร้สาระ เขาเป็นคนที่มีความคิดพอคงไม่หาเรื่องมาทำให้เขาวุ่นวายไปกว่าเดิมอยู่แล้ว คำตอบของเขตแดนทำให้คนึงนิจยิ้มและคลายกังวลไปได้มาก ทั้งยังรู้สึกเขินกับคำตอบของเขาจนใบหน้าของเธอตอนนี้แดงจนเป็นลูกตำลึงไปแล้ว

"ยิ้มกรุ้มกริ่มอีกแล้ว มีอะไรจะพูดกับผมหรือเปล่า"

"เรามาลองเป็นคนรักกันดีหรือเปล่าคะ"

สาวเจ้าเอ่ยถามโดยที่ไม่กล้ามองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

"นี่คุณกำลังจีบผมงั้นหรอ"

เขตแดนเอี้ยวตัวมองหน้าของคนึงนิจให้แน่ใจว่าเมื่อครู่เธอพูดจริงหรือพูดเล่น

"ก็แค่ถามเล่นๆ ไม่มีอะไรหรอก"

ว่าจบก็ยกนมอุ่นขึ้นมาดื่มแก้เขิน

"ก็ได้"

พรวด..

"อะ.. แอ้กก.. "

สาวเจ้าได้ฟังคำตอบที่ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มจะตกปากรับคำเธอเร็วเช่นนี้ จึงเกิดสำลักนมในแก้วขึ้นมากะทันหัน

"เลอะเทอะหมดแล้วค่อยๆ ดื่มสิ"

มือหนารีบหยิบทิชชู่เปียกเช็ดหน้าเช็ดตาให้หญิงสาวในขณะที่เธอยังคงนิ่งอึ้งกับคำตอบของเขาอยู่

"เมื่อกี้ว่าไงนะ"

คนึงนิจมองหน้าเขตแดนด้วยความสงสัย ทั้งอยากได้ยินคำตอบที่เขาพูดกับเธออีกครั้ง

"ก็ได้เอาอย่างที่คุณเสนอ ยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกันยาวอยู่แล้วนี่"

เมื่อจบคำพูดของชายหนุ่มร่างบางก็เอาแต่บิดตัวเขินไปมาไม่ได้สนในรอยเปื้อนนมในแก้วบนตัวของตัวเอง หน้าที่เช็ดทำความสะอาดเลยตกเป็นของเขตแดน คนตัวโตส่ายหัวอมยิ้มอ่อนที่หญิงสาวเอาแต่นั่งเขินไม่คิดว่าเรื่องที่เขาอยากจะคุยกับเธอกลับเป็นเธอที่เอ่ยพูดขึ้นมาก่อน นับว่าหัวใจเขาและเธอตรงกันมานานแล้วเป็นแน่

chap-preview
Free preview
เพราะความใจร้อน
SC group ณ. บริษัทขายเครื่องประดับรายใหญ่ในกรุงเทพมหานครบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและผลิตแบรนด์เครื่องประดับหลายแบรนด์มีพนักงานร่วมหลายร้อยคนที่อยู่ที่นี่ ช่วงสายของวันนี้หลังจากการประชุมเรื่องการเปิดตัวคอลเลคชั่นล่าสุดของแบรนด์หลักที่แผนกดีไซน์เนอร์ก็ค่อนข้างวุ่นวายเป็นพิเศษเพราะตอนนี้ดีไซน์เนอร์มือดีสองคนของบริษัทกำลังต่อล้อต่อเถียงกันยกใหญ่ “เธอขโมยงานของฉัน” คนึงนิจหญิงสาวตัวเล็กวัย25 เธออยู่ในชุดพนักงานของบริษัทเสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงทรงเอยาวเหนือเข่า สิ่งที่ทำให้เธอดูสูงเทียมอีกฝ่ายได้ก็เพราะส้นสูงห้านิ้วที่เธอใส่ หญิงสาวยืนเท้าเอวมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง “เธอมีหลักฐานอะไรมาปรักปรำฉัน” รสสุคนสาวสวยหุ่นดีวัยยี่28เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงที่สุดในออฟฟิศก็ว่าได้ เธอยืนกอดอกมองหน้าคนึงนิจอย่างไม่พอใจเช่นกัน “ก็งานที่เธอเสนอวันนี้มันเป็นงานที่ฉันออกแบบ” คนึงนิจมั่นใจว่ายังไงรสสุคนก็ต้องก้อปปี้งานของเธอไป ไม่อย่างนั้นทุกตัวอย่างที่รสสุคนเสนอที่บอร์ดประชุมและได้หน้าไปวันนี้มันจะเหมือนที่เธอออกแบบทุกชิ้นได้ยังไง “ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่ามากล่าวหากันลอยๆ อย่ามาทำตัวสก๊อยแถวนี้” รสสุคนเปรยสายตามองคนึงนิจที่โวยวายเอะอะเสียงดังตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่จะหันหลังกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตนเองอย่างไม่สนใจ “หนอย..” เพี๊ยะ “โอ้ยย..” ด้วยอารมณ์โทสะสาวร่างเล็กจึงเอื้อมมือไปจิกหัวรสสุคน แล้วฟาดมือเรียวไปที่ใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางค์แน่นจนรสสุคนนั้นหน้าหัน “สก๊อยงั้นหรอถึงฉันจะสก๊อยแต่ฉันก็ไม่เคยหน้าด้านขโมยงานคนอื่นมาเป็นงานของตัวเองหน้าตาเฉยหรอกนะ” คนึงนิจแค้นรสสุคนมากที่ทำผิดแล้วยังลอยหน้าลอยตา เครื่องประดับที่เธอออกแบบเธออดหลับอดนอนตั้งหลายคืนกว่าจะทำมันเสร็จ แต่รสสุคนดันขโมยงานของเธอไปหน้าดื้อๆทั้งยังได้รับความดีความชอบจากผู้ใหญ่หลายๆคนอีกด้วย “แก..” “อะไรกัน” รสสุคนเงื้อมมือหมายจะฟาดไปที่หน้าของคนึงนิจ แต่ก็ต้องชะงักเอาไว้เพราะได้ยินเสียงของเปรมสุดาหัวหน้าแผนกของพวกเธอดังขึ้นมาก่อน “โอ้ย..พี่ปุ้ยขาอยู่ดีๆ น้ำขิงก็มาหาเรื่องโรสค่ะ” รสสุคนเห็นดังนั้นจึงแกล้งเจ็บยกใหญ่เพื่อที่จะให้เปรมสุดานั้นเห็นใจ “ไปคุยกับพี่ในห้องเดี๋ยวนี้” เปรมสุดาเรียกทั้งสองเข้าไปคุยในห้องทำงานเป็นการส่วนตัว และแล้วผลก็ออกมาว่าคนึงนิจนั้นถูกไล่ออกที่ไปกล่าวหารสสุคนโดยที่ไม่มีหลักฐานและเริ่มลงมือทำร้ายรสสุคนก่อนด้วย ชานเมืองนนทบุรี “เฮ้อ..ไม่น่าใจร้อนเลยเรางานเดี๋ยวนี้ก็ยิ่งหายากๆ อยู่ด้วย” ร่างบางสวมชุดนอนตัวยาวสีชมพูออกมานั่งที่ระเบียงบ้านหลังเล็กของเธอ หลังจากที่ทานข้าวเย็นเรียบร้อยแล้วดวงตากลมโตตอนนี้ละห้อยห่อเหี่ยวอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากบางพ่นลมหายใจอย่างหดหู่ครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้...หากเธอชั่งใจในความใจร้อนของเธอได้สักนิด แล้วหาหลักฐานมาเอาผิดรสสุคนชะตากรรมของเธอก็จะได้ไม่เป็นเช่นนี้ คนึงนิจเป็นหญิงสาวตัวเล็กน่าตาจิ้มลิ้มผมยาวสีน้ำตาลหยักศก ผิวขาวอมชมพูหุ่นนาฬิกาทรายเป็นคนที่ชอบแต่งตัวในระดับหนึ่ง เพราะชอบในแฟชั่นเธอจะดูเป็นผู้หญิงที่น่าทะนุถนอมมาก หากลดความโผงผางตรงไปตรงมาและหัวร้อนง่ายลง แต่แม้เธอจะนิสัยใจร้อนเธอก็ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน เธอเป็นคนที่คนอื่นดูจากภายนอกแล้วจะดูเข้มแข็ง แต่ในใจนั้นก็แอบว้าเหว่อยู่พอสมควร ในชีวิตไม่เคยเกรงกลัวอะไรแต่หลังจากที่เสียพ่อและแม่ไปเธอก็เกลียดและกลัวการสูญเสียเป็นที่สุด หญิงสาวเรียนจบแฟชั่นดีไซน์มาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ หลังจากที่เรียนจบได้เพียงแค่ปีเดียวพ่อกับแม่ของเธอก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ดีที่พ่อแม่นั้นเหลือสมบัติเอาไว้ให้บ้างตอนนี้เธอจึงไม่ได้ลำบากอะไรมากมายนัก Rrrrrrr “ว่าไงดาว อะไรนะ แกรอฉันอยู่นั่นแหละเดี๋ยวฉันขับรถไปรับเดี๋ยวนี้เลย” สาวเจ้าที่กำลังเหม่อหลุดจากภวังค์ได้ก็เพราะเสียงมือถือที่วางอยู่ข้างๆตัวดังขึ้นและปรากฏเป็นชื่อของเพื่อนรักคนเดียวของเธอ เมื่อวางสายจากเพื่อนที่กำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ผุดลุกวิ่งออกไปขับรถเก๋งสีขาวคู่ใจออกจากบ้านเพื่อไปรับเพื่อนของเธอทันที ณ ศาลาหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง “ฮึก..ฮือๆๆ ..” เสียงร้องให้กระซิกของหญิงสาวเคล้าคลอกับเสียงรถที่ผ่านไปผ่านมายามหัวค่ำ ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็เหลือบมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาถามหญิงสาวว่าเธอนั้นเป็นอะไร เพราะที่นี่เป็นกรุงเทพมหานครเมืองที่ไม่ค่อยมีใครใส่ใจใครมากนักต่างคนต่างก็เร่งรีบที่จะไปให้ถึงที่หมายเพื่อที่จะพักผ่อนหลังจากทำงานมาทั้งวัน “ถ้าคุณพ่อยังอยู่ชีวิตของดาวจะไม่เป็นแบบนี้ใช่หรือเปล่าคะ” พิมพ์ดาวหญิงสาววัย24ย่าง25เป็นลูกคุณหนูตระกูลไฮโซที่บ้านมีกิจการนำเข้ารถหรู เธอเป็นผู้หญิงที่มีความเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้วค่อนข้างหัวอ่อนและเห็นอกเห็นใจคนอื่นเสียจนถูกเอาเปรียบอยู่บ่อยๆ รูปร่างหน้าตาของเธอก็สวยหวานใครเห็นเป็นเอ็นดูกันแทบทุกคน เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กผอมแห้งผมยาวดำตรงสลวยจนถึงกลางหลังใบหน้ารูปไข่คิ้วคมเข้มได้รูปดวงตาคมกลมโตเหมือนลูกแมวน้อยจมูกเล็กตรงเป็นสันริมฝีปากบางเป็นกระจับอมชมพูมีแก้มเล็กน้อยนัยตากลมโตนั้นค่อนข้างเศร้า เพราะแม้นเธอจะเกิดมาเป็นคุณหนูแต่เธอก็ไม่เคยรู้สึกมีความสุขจริงๆเลยสักครั้งในชีวิตตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นหน้าแม่ด้วยแม่เธอเสียตอนคลอดเธอ ส่วนคนเป็นพ่อก็ทำแต่งานปล่อยให้เธออยู่บ้านกับแม่เลี้ยงที่ไม่เคยเห็นเธอเป็นลูก หลังจากที่พิมพ์ดาวเรียนจบพยาบาลเธอก็ขอออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียวมาเกือบสามปีแล้ว โดยให้เหตุผลกับคนเป็นพ่อว่าอยากอยู่ใกล้ที่ทำงานแต่ความจริงแล้วเธออึดอัดที่จะอยู่บ้านกับแม่เลี้ยงที่เอาแต่กีดกันเธอกับพ่อของเธอมากกว่า..การอยู่ข้างนอกแม้คนเป็นพ่อจะนานๆ มาหาทีแต่เธอก็ยังมีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อของเธอมากกว่าตอนที่มีแม่เลี้ยงอยู่ด้วย แต่ตอนนี้พ่อของเธอได้จากไปแล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อน คราแรกคิดว่าเธอจะไม่ต้องเกี่ยวพันอะไรกับแม่เลี้ยงของเธออีกแล้วแต่แม่เลี้ยงของเธอก็ยังหาเรื่องมาทำให้เธออึดอัดใจอีกจนได้ คือให้เธอแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รักเพื่อเป็นการใช้หนี้ที่แม่เลี้ยงเธอก่อเอาไว้..ตอนนี้เธอเลยต้องตัดสินใจที่จะหนีเลยโทรให้คนึงนิจเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ประถมมารับ คนึงนิจจอดรถที่ข้างถนนเลื่อนกระจกมองเข้าไปในศาลาริมทางเห็นหญิงสาวใส่ชุดเดรสยาวสีขาวข้างๆตัวมีกระเป๋าใบใหญ่มั่นใจแล้วว่านั่นเพื่อนเธอจึงรีบลงจากรถและเดินเข้าไปหา “แกหยุดร้องให้แล้วบอกฉันก่อนว่าทำไมแกถึงหนีออกมาดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้” “แม่ฉันจะให้ฉันแต่งงานใช้หนี้แต่ฉันไม่ได้รักคุณณัฐ” มือน้อยของพิมพ์ดาวปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเพื่อนสาวด้วยอาการสะอึกสะอื้น “ไปๆ ขึ้นรถก่อน” คนึงนิจรีบช่วยเพื่อนเธอลากกระเป๋าลงจากศาลาข้างทางแล้วรีบขับรถออกไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว “คนแบบนั้นแกไม่น่ายกให้เป็นแม่นะ..ตั้งแต่พ่อแกเสียฉันนึกว่าแม่เลี้ยงจะเลิกยุ่งกับแกแล้วเสียอีกตัดสินใจหนีออกมาก็อย่ากลับไปอีกล่ะ” คนึงนิจใช้เวลาขับรถพักใหญ่จึงพาพิมพ์ดาวกลับมาถึงบ้านหลังเล็กของเธอ ทั้งยังเจ็บใจแทนพิมพ์ดาวเรื่องแม่เลี้ยงของเพื่อนเธอที่หาแต่เรื่องมาให้เพื่อนเธออึดอัดใจ

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.9K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.9K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
5.5K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
32.2K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.2K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook