หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์ที่เธอรู้สึกว่า ตอนนี้เธอควรจะเป็นฝ่ายเรียกร้องค่าเสียหายจากเขาแทนดีไหม เมื่อครู่เธอไม่ใช่คนที่ไปปลุกปล้ำแต่กลับกลายเป็นเขาที่นั่งอยู่ตรงหน้านั่งยิ้มให้กับเธอ
ณิชาภาต่อว่าตัวเองจากนี้ให้ตายตัวเธอจะไม่ดื่มมันอีกแล้ว สุราอันเป็นที่ตั้งของความประมาทมันมีโทษมากกว่าผลดี ผลของมันเป็นเช่นนี้นี่เองส่วนคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอกำลังนั่งดื่มกาแฟ
"คุณดื่มกาแฟตอนนี้มันไม่ดีต่อร่างกายคุณนะ"
ด้วยความที่เป็นแพทย์เธออดห่วงอีกฝ่าย จึงได้กล่าวตักเตือนคนตรงหน้าเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังยกแก้วค่อย ๆ ดื่ม ๆ
"ผมรู้แต่ผมชินแล้วเวลาเครียดๆ ผมจะมักจะชอบดื่มให้หายจากอาการเครียด"
เครียด! ณิชาภาทำหน้าแบบ มันควรจะเป็นเธอที่ต้องพูดคำนั้น เธอต้องเป็นฝ่ายเครียด คิดๆ แล้วควรจะจัดการกับเขายังไงดี
"ฉันว่าคุณควรจะดื่มน้ำผลไม้มากกว่า มันมีน้ำตาลธรรมชาติที่ทำให้ร่างกายของเราลดอาการเมื่อยล้า และอ่อนเพลีย..."
สิ้นสุดคำพูดของแพทย์หญิง ณิชาภา ใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวและแดงขึ้นมาเมือนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้ทั้งเขาและตัวเธออ่อนเพลีย
ณิชาภาคิดตอนนี้ตัวของเธออยากจะมีเวทมนต์เสกให้ตัวเองหายไปจากตรงนี้ เขากับเธอต่างมองหน้ากัน สิ่งที่เธอมองเห็นคือรอยยิ้มของเขา คนบ้าอะไร หล่อมากเวลายิ้มแล้วอยากจะจับใบหน้าอีกฝ่ายเข้ามาจูบอีกรอบ ณิชาภาสะดุ้งกับความคิด เธอ นี่เธอหื่นมาก คิดได้ไงเขากับเธอพึ่งจะเจอกันเมื่อวานนี้เอง
“ยัยน้ำ! คดอะไร กรุณาหยุดหื่น!”
"ได้เลยครับ ผมจะทำตามสิ่งที่คุณพูด"
"เออ... โอเค ถ้าอย่างนั้นฉันจะกลับห้องแล้ว สรุปว่าคุณจะเรียกร้องอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่ฉันจะได้กลับห้อง"
ฟิลิปกำลังนึก ว่าตัวเขาจะพูดอะไร ประตูห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา ตัวเขารู้ได้ทันทีว่าใครมาเคาะประตูห้องของเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณ! ห้องคุณมีทางออกที่อื่นอีกไหม ฉันไม่อยากที่จะเจอใครตอนนี้"
ณิชาภาตกใจตอนนี้ใครเห็นสภาพเธอก็ต้องคิดไปในทางเดียวกันแน่ๆ ว่าตัวเธอกับเขาได้ผ่านศึกอะไรกันมา เธอตกใจเธอควรจะทำยังไงดี
"ไม่มี มีทางออกแค่ทางเดียวคือประตู แล้วคุณจะกลัวอะไรเพื่อนของผมมันไม่ว่าอะไรคุณหรอก"
ฟิลิปไม่สนใจกับท่าทางของณิชาภาที่เดินเป็นหนูติดจั่น วิ่งให้พ่าน เสียงเคาะประตูที่ดังมันไม่มีทีท่าว่าจะหยุดฟิลิปจึงเดินไปเปิดพร้อม ๆ กับคนที่วิ่งมาจากทางด้านหลังเขา
เมื่อประตูถูกเปิดออก ไมเคิลและแฮรี่ถึงกับอ้าปากค้าง เพื่อนเขาและผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ดูจากสภาพแล้วท่าทางเพื่อนเขาคงจะจัดหนักแน่ๆ
"Hello สวัสดีค่ะ แหะ แหะ"
ณิชาภายืนนิ่งค้างตรงข้างๆ เจ้าของห้อง ซึ่งผลักตัวเธอให้ไปอยู่ทางด้านหลังเพื่อปิดบังไม่ให้เพื่อนเห็นรูปร่างที่สวยงาม
ไมเคิลและแฮรี่ มองอาการแปลกของเพื่อน ทั้งคู่แทบจะไม่เชื่อสายตา ผู้ชายอย่างฟิลิปคนที่มีความอดทนสูง ผู้หญิงคนนี้ทำยังไงถึงทำให้ฟิลิปตบะแตกได้ ผลจากเมื่อคืน ทั้งคู่ดูสภาพห้องแล้วท่าทางไฟคงจะรุกท่วมห้อง
"สวัสดีครับคุณ..."
"เออ... พวกคุณอย่ารู้จักชื่อฉันเลยค่ะ ในเมื่อเพื่อนคุณมาแล้วฉันก็ขอตัวกลับก่อน แล้วเรื่องที่ตกลงกันคุณจะเอายังไงก็ค่อยบอกฉันอีกทีก็แล้วกัน"
ฟิลิปเห็นอาการเธอที่ลุกลี้ลุกลน พยายามจะออกจากห้อง ตัวเขาคิดเธอคงจะอายเพื่อนเขาแน่ๆ
"แล้วจะให้ผมติดต่อคุณได้ยังไง คุณยังไม่บอกชื่อผมเลย"
ณิชาภามองไปรอบก็เจอเข้ากับสมุดโน้ตพร้อมกับหยิบปากกาขึ้นมากำลังเขียนชื่อ แตจิตใต้สำนึกบอกให้หยุด เธอจึงเขียนได้แค่ ณิชาภา พิพั... แล้วก็หยุดนิ่งค้าง ไม่ได้หากเธอให้ชื่อเขาไป เขาก็ต้องรู้ว่าเธอทำอาชีพอะไร แล้วหากเขาไป แบล็คเมล์เธอที่โรงพยาบาล ตัวเธอจะทำไง ไม่ได้ เอาไงดีหละ
ฟิลิปมองชื่อที่อีกฝ่ายเขียนสะกดเป็นภาษาอังกฤษ จู่ ๆ กับนิ่งเฉยพร้อมกับนึกอะไรได้ เงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างช้าๆ
"ไม่เอาดีกว่า คุณมีนามบัตรของคุณไหม แต่ฉันว่าคุณเป็นฝ่ายสียหายคุณเขียนชื่อให้ฉันดีกว่า ถ้าหากคุณได้ชื่อฉันไป ไม่แน่คุณอาจจะหาเรื่องมาแบล็คเมล์ฉัน คุณเขียนชื่อมาฉันจะเป็นฝ่ายติดต่อกลับไปหาคุณเอง"
"อะไรนะ! คุณพูดว่า คุณกลัวผมจะแบล็คเมล์คุณ ผมถามตรงๆ หน้าตาแบบผมมันดูไม่น่าเชื่อถือเลยหรือไง หากคุณไม่มั่นใจในตัวผม ผมว่า ผมยกสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับคุณฟรี ๆ ก็ได้"
ไมเคิลกับแฮรี่ฟังสิ่งที่ทั้งสองคนพูดแล้วต้องทำหน้าสงสัย ตกลงเรื่องอะไรกันว๊ะ ดูมีลับลมคมในที่สำคัญเพื่อนเขาบอกว่ายกให้ฟรีๆ ไม่คิดค่าเสียหายอะไรทั้งนั้น แล้วผู้หญิงคนนี้ทำอะไรให้เพื่อนของเขาเสียหาย ถ้ามองไม่ผิดน่าจะเป็นเพื่อนเขาที่ได้เปรียบอีกฝ่ายชัดเจน
ฟิลิปพูดจบ ถึงกับอึ้ง ชีวิตของเขาไม่เคยรู้สึกโกรธใครได้เท่าคนตรงหน้าอีกแล้ว ใบหน้าของฟิลิปตอนนี้เชื่อว่าเพื่อนเขาดูออกว่าเขารู้สึกยังไง
"คุณแน่ใจนะคะ ว่าคุณจะไม่ไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอะไร"
ณิชาภาหันกลับไปขอให้พยานสองคนที่กำลังยืนอ้าปากค้าง โดยไม่พูดอะไรทั้งนั้น
"คุณสองคนเป็นเพื่อนกับผู้ชายคนนี้ใช่ไหมคะ เมื่อกี้คุณได้ยินแล้วใช่ไหมว่าเขาจะไม่เอาเรื่อง พร้อมกับยกเรื่องเออ...ให้ฟรี"
ไมเคิลและแฮรี่ถึงกับตกตะลึง อะไรนะ ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดถึงเรื่องอะไร เพื่อนของเขาจะยกอะไรให้กับเธอ
"คุณค่ะ คุณสองรู้แล้วก็มาเป็นพยานให้กับฉัน ถ้าไม่เป็นการรบกวนพวกคุณสองคนมากจนเกินไป ฉันขอลายเซ็นของคุณสองคนหน่อยค่ะ"
ฟิลิปตอนนี้เขารู้สึกว่าคนที่กำลังพูดทุกเรื่องอยู่คนเดียวนั้นช่างทำตัวเป็นระเบิดเวลาชั้นดี เวลาของมันกำลังไล่ไปเรื่อยๆ เตรียมตัวจะระเบิดในทันที ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่อีโก้จัดเช่นวันนี้มาก่อน นี่คุณเธอช่างกล้าสั่งเพื่อนเขา ฟิลิปจึงหันกลับไปตะคอกเพื่อนที่ยืนงง ด้วยน้ำเสียงดุที่สุดในชีวิตของเขา
"มรึงสองคน! จะยืนนิ่งทำไม เขาขอลายเซ็น มรึงก็รีบ ๆ เซ็นให้เขาไป เขาจะได้มั่นใจว่าฉันไม่ไปแบล็คเมล์ในภายหลัง"
ได้! ได้เลย ต่อแต่นี้ขออย่าได้เจอะเจอกันอีก แค่เขารู้จักกับเธอแค่วันเดียวเขายังรู้สึกว่าความดันของเขาพุ่งขึ้นสูงขึ้นมาก
ไมเคิลกับแฮรี่ตกใจน้ำเสียงของเพื่อนสนิท จึงรีบก้มหน้าเซ็นชื่อตรงกระดาษเปล่าที่ไม่มีข้อความอะไรเลย แล้วหันหน้าไปมองคนที่ตีหน้ายักษ์อยู่ตอนนี้มันกำลังทำท่าทางไม่พอใจมากๆ ที่สำคัญคือมันงอนคนเป็นด้วยว๊ะ
"ขอบคุณคุณทั้งสองนะคะ ที่เซ็นเป็นพยานจริงๆ ฉันก็กลัวนะคะ แต่ฉันเชื่อว่าพวกคุณเป็นคนดีพวกคุณคงไม่เรียกร้องอะไรจากผู้หญิงอย่างฉัน ให้เสียเวลาใช่ไหมขอโทษที่ฉันทำอะไรไม่ดีลงไป ทำให้พวกคุณทุกคนไม่พอใจขอโทษค่ะ ถ้าอย่างนั้น ขอตัวกลับก่อนนะคะ"
"ได้สิ่งที่คุณพอใจแล้วก็เชิญ!" ฟิลิปพูดจบก็หันหลังกลับเข้าไปในห้องนอนที่พึ่งผ่านศึกมาไม่นานนี้ พร้อมกับปิดประตูเสียงดัง
"เออ... ผมขอโทษแทนเพื่อนผมจริง ๆ ปกติมันเป็นคนสุภาพไม่ใช่แบบที่คุณเห็นอยู่ตอนนี้ครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เขาไม่เอาเรื่องฉันก็ดีมากแล้วขอตัวกลับห้องก่อนค่ะ"
ณิชาภากำลังจะก้าวพ้นออกประตู จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเธอลืมสิ่งสำคัญเอาไว้ในห้องนอนจึงหันหน้ากลับมาพูดอีกครั้ง
"ขอโทษค่ะ คุณสองคนช่วยเคาะประตูเรียกคนที่อยู่ข้างในได้ไหม พอดีฉันกลัวเขาจะด่า พวกคุณเป็นเพื่อนเขาคงจะไม่ว่าอะไร"
ไมเคิล แฮรี่ฟังแล้วก็พยักหน้ารับรู้ เดินไปเคาะประตูให้ ทันทีที่ประตูห้องนอนเปิดออก
"ฉัน...ฉันลืมไปว่ายังไม่ได้หยิบชุดที่ใส่เมื่อคืน ขออนุญาตเข้าไปเอาเสื้อผ้าของฉันได้ไหมคะ"
แรก ๆ ฟิลิปนึกว่าเธอจะมากล่าวขอโทษเขากับความรู้สึกที่ทำให้ตัวเขาโมโห แต่เปล่าเลยคุณเธอก็ยังทำให้เขาโมโหซ้ำซากความโกรธยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก
"เชิญเข้าไปเก็บอย่าให้หลงเหลือแม้แต้ชิ้นเดียว!"
ณิชาภาพยักหน้าเป็นการเข้าใจ แต่ก็รู้สึกหวานกลัวเขาไม่ได้ เมื่อเธอเดินเข้าไปเก็บซากของชุดที่เธอสวมใส่เมื่อคืน ดูแล้วเขาคงเก็บให้เธอก่อนหน้านั้นแล้ว เมื่อสำรวจมองไปรอบๆ คงจะไม่มีอะไรหลงเหลือแล้วเธอจึงเดินออกมา
"ขอบคุณนะ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่รบกวนเวลาของคุณ สวัสดีค่ะ" ณิชาภายกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างสวยงาม
“ยังจะมีมารยาทอีกนะ”ฟิลิปกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พึงพอใจ
สร้างความแปลกให้ใจให้กับไมเคิล แฮรี่ ตอนนี้ทั้งสองคงมีเครื่องหมายคำถามเต็มใบหน้าไปหมดแล้วว่าคืออะไร
ไมเคิลชำเลืองไปมองฟิลิบที่ตอนนี้แสดงออกทางสีหน้ามากว่ารู้สึกยังไง หลังจากที่แฮรี่เดินไปส่งผู้หญิงคนดั่งกล่าวที่ประตูเสร็จก็รีบวิ่งกลับเข้าไปถามเพื่อนทันทีว่ามันเกิดอะไร
"ฟิลิป สรุปมันเกิดอะไรขึ้นว๊ะ พวกฉันสองคนงงไปหมดแล้ว แกจะไปฟ้องร้องอะไรเขา เขาถึงได้กลัวนายแบบนั้น"
ฟิลิปค่อยหันหน้ากลับมามองเพื่อนทั้งสองอย่างช้า ๆ ตัวเขาก็ไม่เข้าใจว่าจะโกรธอะไรมากมาย มันมากกว่าตอนที่รู้ว่าคนรักนอกใจเสียอีก
"คุณเธอกลัวว่าฉันจะไปฟ้องตำรวจว่าปลุกปล้ำขืนใจฉัน ที่สำคัญคุณเธอเสนอค่าตัวให้กับฉันด้วยรู้ไหม นายสองมองหน้าฉันสิ หน้าอย่างฉันเนี่ยจะโดนผู้หญิงปล้ำ มันต้องเป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอที่สมควรจะเรียกร้องค่าเสียหาย แต่นายรู้อะไรไหมคุณเธอดันยื่นข้อเสนอให้กับฉันแทน ฉันจึงเรียกร้องไปร้อยล้านบาท แต่! คุณเธอกลับต่อรองค่าเสียหายของฉํนเหลือ ห้าแสนบาท และพร้อมจ่ายทันทีถ้าฉํนจะเรียกร้องไม่เกินล้าน
"What! แปลกมาก สรุปว่าเธอกลัวนายจะฟ้อง แต่ที่งงหนักมากคือนายกลับเรียกร้องผู้หญิงคนนั้นไปร้อยล้านบาท นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ"
"เออ... ตอนนี้ฉันก็จะบ้าแทนคุณเธอแล้ว ในชีวิตฉันเคยแต่จ่ายเงินให้ผู้หญิงเพื่อจบความสัมพันธ์แต่นี้อะไร ผู้หญิงคนนี้กลับยื่นเสนอจบความสัมพันธ์ เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ไปเอาเรื่องกับเธอ"
ไมเคิลและแฮรี่ฟังๆ ดู ก็รู้สึกว่างานนี้กามเทพคงจะเล่นงานไม่ผิดคน เขาคิดผู้หญิงที่เดินออกไปเมื่อครู่จะต้องเข้ามาสร้างสีสันให้กับเพื่อนของเขาแน่นอนเจอกันวันแรกก็ทำให้อารมณ์เพื่อนเขามีสีสันขึ้นมาเป็นกอง จากที่ปกติมันนิ่งเป็นหินศิลา
กระทั่งถึงช่วงเย็น พวกเขากำลังเตรียมตัวเพื่อจะกลับไปทำงานหลังจากที่ใช้เวลาพักร้อนที่เมืองไทยนานเกือบอาทิตย์ ช่วงที่ทุกคนกำลังรอรถของโรงแรมวน มารับเพื่อไปส่งที่สนามบินซึ่งมีเครื่องบินส่วนตัวจอดรออยู่
"ฟิลิป! นายดูนั่นสิ ผู้หญิงคนที่นาย..."
ไมเคิลไม่รู้จะระบุความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของเพื่อนได้ว่าอะไร นอกจากจาก คำว่า (วันไนต์สแตนด์) ของจริง
"ทำไม! นายจะให้ฉันดูอะไรเธออีก แค่นี้ฉันก็เสียความรู้สึกมากอยู่แล้ว"
ฟิลิปทำเหมือนว่าไม่สนใจแกล้งทำเป็นเมิน แต่สายตาก็ยังแอบมองเธออยู่ห่างๆ เขามองเห็นพนักงานนำรถเก๋งสปอร์ตสีขาวมาจอด ฟิลิปมองชุดที่เธอสวมใส่แล้วรู้สึกหงุดหงิดเสื้อยืดสีขาวรัดรูปกางเกงยีนส์ขาสั้นเผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนเขารู้ว่ามันเนียนและนุ่มมากขนาดไหน
"ใส่ชุดบ้าโชว์ใครว๊ะ!"
ไมเคิลกับแฮรี่หันกลับไปมองคนข้างๆ บ่นพึมพำ เมื่อครู่ไหนมันบอกว่าจะไปสนใจทำไม แล้วนี่ดูอาการมันท่าทางคงจะหวงมาก เป็นพวกเขาก็คงจะเป็นเหมือนมันเช่นกันดู ๆ ไปผู้หญิงคนนั้นก็สวยมาก สวยหวาน น่าทะนุถนอม
ณิชาภากำลังจะก้าวขึ้นรถก็มีพนักงานผู้หญิงวิ่งถือชุดกราวสีขาวของแพทย์ ยื่นส่งให้กับหญิงสาวทันเวลา มองไปยังมืออีกข้างชุดราตรีสีขาวที่ใส่วันแรกตอนมาถึงที่นี่ ณิชาภาเห็นชุดแต่งงานที่ตัวเธอลงทุนจ้างช่างตัดเย็บชื่อดังออกแบบอย่างดี เห็นแล้วก็รู้สึกขยะแขยงชุดนี้ที่สุด
"น้ำ ขอรับแค่ชุดทำงานค่ะ ส่วนชุดนั้นฝากคุณป้าเอาไปเผาทิ้งด้วย"
"เผาทิ้งเลยเหรอคะ! คุณน้ำชุดมันแพงมากนะคะ"
"ค่ะน้ำรู้ว่ามันแพง แต่มันเป็นชุดที่น่าเกลียดที่สุดขอโทษนะคะน้ำฝากจัดการทำลายมันด้วยค่ะ"
ณิชาภาเปิดกระเป๋าหยิบธนบัตรสีเทาส่งให้พนักงานแม่บ้านรับไปแล้ว ตัวเธอก็ขึ้นพร้อมกับสตาร์ทรถออกไปทันที
สายตาของสามหนุ่มมองตามรถคันที่ขับออกไป มันแตกต่างทางความรู้สึก ส่วนอีกคนคงจะรู้สึกเจ็บจี๊ดข้างใน
พนักงานแม่บ้านเดินถือชุดแต่งงานเดินผ่านพวกเขาไปนั้น แฮรี่รีบดักเพื่อสอบถามทันทีว่าสิ่งที่เขาคิดไม่ผิดใช่ไหม
"ผมอยากจะรู้ว่าผู้หญิงที่คุณพูดด้วยเมื่อกี้เธอทำงานอะไรครับ"
"ผู้หญิงคนที่ฉันพูดเมื่อกี้ เออ... คุณหมายถึงหมอน้ำเหรอคะ พวกคุณรู้จักคุณหมอน้ำด้วยเหรอ"
"เออ... พอจะรู้จักแต่ผมเห็นไกล ๆ เลยไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือเปล่าครับ"
แฮรี่แก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นๆ ไมเคิลฟังถึงบางอ้อว่า ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงกลัวเพื่อนของเขาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เธอเป็นคุณหมอนี่เอง
ฟิลิปยืนนิ่งไม่พูดอะไรแต่เขาฟังมันหมดทุกถ้อยคำว่า ผู้หญิงที่ทำให้เขาจิตตก และเขาโกรธเป็นใคร
"หึ หึ หมอน้ำ"
"แต่น่าเสียดายนะคะ สวยแบบนั้นยังถูกผู้ชายทิ้งได้ แต่จะว่าไปก็ไม่น่าจะเป็นผู้ชาย ขอโทษนะคะไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวไปจัดการกับชุดแต่งงานชุดนี้ก่อนค่ะ"
ฟิลิปมองชุดแต่งงานที่พนักงานถือ ตัวเขาทนความอยากรู้ไม่ได้ว่าผู้หญิงนั้นสั่งแม่บ้านให้ทำอะไร
"เขาให้คุณเอาชุดสวยไปทำอะไรครับ สวยนะครับชุดนี้"
"เห็นไหม! ฉันว่าแล้ว ขนาดผู้ชายอย่างพวกคุณยังบอกว่าสวย แต่คุณหมอน้ำบอกว่ามันเป็นชุดที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่เคยเห็น สั่งให้เอาไปเผาทิ้งคะ"
"เผาทิ้ง!!!"
"ค่ะ แล้วพวกคุณตกใจทำไม ขอโทษนะคะฉันขอไปจัดการชุดนี้ก่อน"
สามหนุ่มมองตามหลังพนักงานแม่บ้านที่ดูจะมีอายุ แล้วก็คิดผู้หญิงคนนี้ น่าสงสารคงจะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนสติหลุด จึงทำให้เกิดเรื่องอย่างว่ากับเพื่อนของเขา