บทที่5.ดอกไม้ในมือมาร...

1528 Words
เสียงฮือฮา!! จากประตูหน้า คลากส์ชะเง้อคอมอง เขาขมวดคิ้วแน่น            “มีอะไรกัน” เขาเอ่ยถามการ์ดข้างตัวเสียงเข้ม “ไม่ทราบครับ”การ์ดหนุ่มตอบแบบอ้ำอึ้ง!! “กูรู้แล้วว่ามึงไม่รู้ ก็ไปสืบมาสิว่ะ!!” ชายหนุ่มตวาดเขาบีบแก้วเชมเปญในมือแน่น เมื่อเห็นแวบๆ ที่เดินผ่านตาไปนั่นคือเฮนน่าน้องสาว เขาจำชุดที่หล่อนใส่ได้ดี อะไรไม่เท่า ไอ้คนที่เดินตามน้องเขาต้อยๆ มันคือ ‘ไอ้ลูคัส!!’ “ครับท่าน” การ์ดหนุ่มรับคำ รีบสาวเท้าก้าวเดินฝ่าฝูงชนเพื่อไปสืบข่าวที่เจ้านายสุดเอาแต่ใจอยากรู้มาเพ็ดทูล            คลากส์กดมุมปากจนลึก ไอ้เวรนั่นจงใจทำตัวเด่นกว่าเขา หากมีลูคัสรวมอยู่ในที่เดียวกัน ความสำคัญของเขาจะลดลง กลายเป็นแค่เบอร์สอง เป็นตัวสำรองจากทุกคน            แก้วเชมเปญถูกยกขึ้นจิบถี่ๆ เมื่อคนของตัวเองหายไปนานเกินไป!!            ชั่วเวลาหนึ่งอึดใจที่คลากส์ทนรอ...การ์ดของเขาก็เดินทำหน้ายับๆ กลับมา            “ว่าไง... ใครแม่มสร้างกระแสวะ? อีพวกนี้ก็ตื่นตูม กรี๊ดกร๊าดกันอยู่ได้”            คลากส์บ่น เขายกแก้วเชมเปญขึ้นกระดก เทพรวดเดียวจนน้ำใสใสหมดเกลี้ยงแก้ว            “เอ่อ...” การ์ดหนุ่มกระอึกกระอัก เขาเองก็แปลกใจ เมื่อคนของบาร์วที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเดมเชีย เวลานี้2 คนนั่นกำลังเต้นรำอยู่กลางฟลอร์ นั่นเป็นที่มาของเสียงฮือฮารอบตัวนี่ไง            “พูดมาสิโว้ย กูก็รอไปเถอะ... เป็นห่าอะไรขึ้นมาอีกล่ะ ทำเป็นกระอึกกระอักอยู่ได้”            “คือว่า...”            “ว่ะ!!”            “คุณเฮนน่าเธอกำลังเต้นรำกับมิสเตอร์ลูคัสอยู่ครับ คนเลยฮือฮากันใหญ่ ก็อย่างที่รู้ๆ เรากับเดมเชียไม่ลงรอยกัน”            โดนตวาดครั้งเดียว มันพูดจ้อยๆ เหมือนต่อยหอย ก่อนจะรีบเสหลบตา เมื่อคลากส์ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นยืน เขาเดินฝ่าวงล้อมของฝูงชน และเมื่อเห็นด้วยตาตัวเอง ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง น้องสาวของเขากำลังเต้นรำอยู่กลางฟลอร์กับศัตรูตัวฉกาจของบาร์ว รอยยิ้มของเฮนน่า ทำให้คลากส์รู้ว่าหล่อนไม่ได้ถูกบีบบังคับ เฮนน่าเต็มใจเสียยิ่งกว่าเต็มใจ หล่อนฉีกยิ้มจนเห็นฟันครบทุกซี่ แถมยังทำท่าทางเหมือนกำลังเคลิ้มฝัน ไม่รู้ว่าไอ้หอกหักลูคัสเป่ามนต์บทไหนใส่ผู้หญิงใจแข็งอย่างเฮนน่า หล่อนถึงได้ดูอ่อนปวกเปียก ทำตัวเหมือนเป็นผู้หญิงปัญญาอ่อน ดีใจมากมายเสียจนเขายังมองออก            “อีน้องเวร ดันไปหลงลมไอ้หอกนั่นเสียได้”            คลากส์บ่นงึมงำ เขารวบรวมความกล้า และเมื่อเหลือบเห็นสื่อกำลังจับตามอง แสงแพลชสว่างถี่ๆ เขาจึงเริ่มลังเล            “เอาไงดีว่ะกู!!”            เขาปรารภกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจครั้งใหญ่ โดยการเดินเข้าไปกระชากเฮนน่าออกจากอ้อมแขนของลูคัส            “แกทำอะไรเฮนน่า!! รู้ตัวหรือเปล่าห่ะ”            “พี่...อะไรค่ะ หนูแค่กำลังเต้นรำ” หญิงสาวผวาตัวปลิว เธอถลึงตามองพี่ชาย ก่อนจะพูดรอดไรฟัน เมื่อเวลานี้กำลังตกเป็นเป้าสายตา            “นั่นแหละ แกเต้นรำกับมัน!! แกยังสติดีหรือเปล่าเฮนน่า!!” คลากส์กรรโชกเสียงขุ่น เขาปลายตามองลูคัสที่ทำหน้าเฉยด้วยสายตาขุ่นเคือง            “อ้าว...ทำไมคะ? หนูเต้นรำกับลูคัสไม่ได้เหรอ เมื่อก่อนนี้ทำไมพี่เข็นหนูจังเลย ตอนนี้มีคู่เต้น กลับมาห้ามเสียอย่างนั้น”            เฮนน่าพยายามปรับประเด็นให้ฟังดูตลกร้าย เพราะการที่พี่ชายแสดงความไม่พอใจก็เพราะอาการหวงน้องสาว แต่ระหว่างเธอกับลูคัสนั้น มันเป็นอะไรที่เกินคาด ใครจะไปคิดล่ะว่าสองตระกูลที่ไม่ลงรอยกัน จะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันได้            “แกต้องกลับไปตอบมัมเองนะ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ มัมต้องไม่พอใจแกแน่ๆ”            คลากส์กระซิบเสียงเครียด เขาแสยะยิ้มหยันเฮนน่า ในที่สุดหล่อนก็หลุดตามประสาผู้หญิง หลงใหลได้ปลื้มศัตรูแบบนี้ ตำแหน่งประธานที่เขาเล็งไว้คงไม่ไกลเกินเอื้อม            “ต้องให้ผมอธิบายให้คลากส์เข้าใจไหมครับ แค่เต้นรำเอง... มันไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่”            ลูคัสไหวไหล่ เขาพุดเสียงติดเซ็ง เมื่อคลากส์กำลังสร้างเรื่องให้เฮนน่าเดือดร้อน            “ไม่เป็นไรค่ะลูคัส เฮนน่าคิดว่าตัวเองจัดการได้ แต่ต้องขอโทษคุณด้วยนะคะที่คลากส์ทำให้คุณหมดสนุก”            หญิงสาวหันไปกล่าวกับลูคัส เธอขอโทษขอโพยเขา ก่อนจะหันมาถลึงตาใส่คนเป็นพี่            “คนมองกันใหญ่แล้ว พี่อยากเป็นข่าวหรือไง”            “เป็นก็ดีสิ มัมจะได้เห็นหลักฐานแบบจะๆ ตา แกจะได้แก้ตัวไม่ได้ไงเฮนน่า”            “พี่ไม่เคยหวงหนูนี่ วันนี้ดื่มเยอะไปหรือไงคะ”            เสียงบ่นด้วยความไม่พอใจ เพราะเธอไม่ใช่เด็กอนุบาล คลากส์ไม่จำเป็นต้องทำกร่างใส่คู่เต้นรำของเธอ            “หุบปากไปเลยเฮนน่า นี่พี่กำลังสั่งสอนเธอนะ ไอ้นี่มันเป็นศัตรูของเรา... เธอไปทำอี๋อ๋อกับมันได้ยังไง?”            คลากส์ตวาด เขาฟิวส์ขาดเพราะเฮนน่านี่แหละ หล่อนจะดึงประเด็นทำไม ก็เขากำลังจะเฉ่งไอ้ลูคัสต่อหน้าทุกคน            “พี่นั่นแหละที่ต้องหยุดคลากส์!! พี่กำลังเสียมารยาทแล้วก็กำลังสร้างเรื่องให้มัมกับแด๊ดปวดหัว ถ้าพี่เมาก็กลับบ้านกันเถอะ อย่ามาระรานคนอื่นเขา อย่าทำให้งานที่กำลังสนุกกร่อยลงไปเลย”            “แกอย่ามาอวดดีสอนฉันนะเฮนน่า”            “หนูไม่ได้สอน หนูกำลังชี้ให้พี่สำนึก มารยาทในสังคมการอยู่ร่วมกันควรทำตัวอย่างไร...พาพี่ฉันกลับบ้านนาว!!”            หญิงสาวหันไปสั่งเสียงเข้มกับการ์ดส่วนตัวของคลากส์ ชายหนุ่มจึงถูกดึงออกไป ท่ามกลางเสียงโวยของคลากส์เอง            “แกไม่ใช่มัม อย่ามาบังคับฉัน ปล่อยกูสิโว้ย!!”            กว่าเสียงโวยของคลากส์จะเงียบลง ก็เป็นเวลาพอสมควร            “เฮนน่าขอโทษด้วยนะคะ สนุกกันต่อเถอะค่ะเฮนน่าขอโทษพี่ชายเฮนน่าคงเมา”            หญิงสาวหันไปกล่าวกับทุกคน และเมื่อสิ้นเสียงเธอ เสียงดนตรีก็ดังขึ้นอีกครั้ง แม้จะเกิดความคลางแคลง แต่ใครล่ะจะกล้าพูดตรงๆ            “ขอโทษด้วยนะคะ ที่พี่ชายเฮนน่าเสียมารยาท”            หญิงสาวกล่าวเสียงอ่อย เธอถอนใจแรงๆ นับวันคลากส์ยิ่งทำตัวแย่เสียจนเธอแทบจะเอาหน้าซุกดินหนี            “ไม่เป็นไรครับ แล้วนี่จะกลับยังไงล่ะ พี่คุณกลับไปแล้วนี่ ให้ผมไปส่งไหม?”            ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะท้วงเมื่อคลากส์กลับไปแล้ว เฮนน่าล่ะ หล่อนจะกลับบ้านอย่างไร            “เฮนน่ามีรถอีกคันค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง”            “เปล่า...ผมแค่อยากถือโอกาส แต่กลับต้องซดแห้วเสียแบบนั้น” ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อย เขามองสบนัยน์ตาของหล่อนพร้อมกับพยายามสื่อความใน            เฮนน่าเสเบือนหน้าหลบ ผิวแก้วเธอร้อนแทบไหม้ เป็นอีกครั้งที่ลูคัสหยอดหวานกับเธอ แบบนี้จะไม่ให้หวั่นไหวได้ยังไง แม้ในใจลึกๆ จะมีความคลางแคลง... เป็นอย่างที่ลูคัสคิด...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนค่ำคืน กลายเป็นประเด็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์!! เด่นหราบนหน้าสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของวอชิงตันดี.ซี รวมถึงสื่อดังๆ ทั่วโลกอีกหลายฉบับ มีคำถามกระเซ้าเบาๆ แม้จะไม่มีมูลความจริง แต่ทุกๆ คนก็พลอยลุ้นไปด้วย หากเป็นไปได้ การรวมสองตระกูลใหญ่ที่ทำธุรกิจอย่างเดียวกัน มันหมายถึงบาร์วกับเดมเชีย จะกุมอำนาจไปทั่วทุกหัวระแหง...และคงไม่มีใครกล้าต่อกร เมื่อทั้งสองบริษัทเป็นมหาอำนาจ!!            “คุณคิดจะทำอะไรลูคัส?”            เอรินทร์เปรยเบาๆ มือเธออ่อนยวบ เผลอขยำหนังสือพิมพ์ในมือจนเป็นก้อนกลมๆ เมื่อเห็นภาพฉาวระหว่างพี่สาวสุดรัก กับคนที่ไม่น่าไว้ใจ เธอสอดมือล้วงลงไปในกระเป๋าสะพายควานหาโทรศัพท์ส่วนตัวเพื่อโทร. สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น มันไม่น่าจะเป็นไปได้ เฮนน่าพี่สาวของเธอวางตัวดี และเฮนน่ารู้มาตลอดว่าลูคัสไม่ประสงค์ดีกับบาร์วเท่าไร แล้วทำไมถึงมีภาพเหล่านี้หลุดมา มันไม่ใช่ความสนิทสนมธรรมดา เอรินทร์โตพอจะรู้จักความหมายลึกซึ้งในดวงตา แววตาของเฮนน่าเปิดเปลือยหมดถูกอย่าง แม้จะเป็นแค่ภาพที่อยู่บนหน้าสื่อสิ่งพิมพ์            เธอเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาบนข้อมือเรียวแล้วจึงกดโทร.ออก เมื่อช่วงเวลาที่ห่างกันระหว่างโรม กับวอชิงตันดี.ซี.ซึ่งไม่ห่างกันเท่าไร         
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD