บทที่4.รอยแค้นบนรอยรัก......

1560 Words
หญิงสาวออกตัวแรง...ความขุ่นเคืองในตัวลูคัส ทำให้เธอสบประมาทเขามองข้ามความเป็นจริง ลูคัสไม่ได้ประสบความสำเร็จเพราะโชคช่วย เขามีฝีมือจริงๆ ด้วยตัวเอง ไม่ได้มีใครคอยถือหางเหมือนคลากส์            “แค่มีคนเห็นว่าผมมีความสามารถ แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วล่ะครับ แต่จะดีกว่านี้... หากคนๆ นั้นจะคอยเป็นกำลังใจให้ผมด้วย”            คลากส์รีบหยอด มิแรนดามีสื่อในมือ หล่อนช่วยดันให้เขาโดดเด่นได้ ช่วงนี้เขาต้องทำคะแนน เพราะฉะนั้นหล่อนเป็นฐานกำลังให้เขาอย่างดี            “แหม...ได้สิคะ ยังไงแรนดาก็เข้าข้างคุณ”            มิแรนดาอายม้วน คำพูดแฝงความนัย หากเป็นแบบนี้เรื่อยๆ เธอคงสามารถฉกบาร์วมาครอบครองได้ อนาคตมาดามบาร์ว คงโก้ไม่หยอก ไม่ต้องหัวหกก้นขวิดคิดจนหัวสมองจะแตก กว่าจะได้เงินเดือน หญิงสาวฝันหวานจนเผลอยิ้มย่อง หารู้ไม่ว่าตัวเองกำลังกลายเป็นเหยื่อ คนอย่างคลากส์หรือจะสนแค่นักข่าวกระจอกๆ คนหนึ่ง อย่างมากมิแรนดาก็เป็นได้แค่คู่ควง เมื่อเป้าหมายของคลากส์สูงกว่านั้น            “มาดูกันไอ้ลูคัส...มึงกับกู ใครจะเปรี้ยงกว่ากัน”            ชายหนุ่มพูดเสียงกระหึ่ม!! เขาคิดจะวัดกับลูคัส โดยที่ไม่สำเหนียกความสามารถของตัวเอง...คนอย่างคลากส์ หากไม่มีมาดามคาเรีย อย่าว่าแต่รองประธานเลย แม่แต่ผู้จัดการฝ่ายเขาก็ไม่เหมาะสม เมื่อเขาไม่เคยสนใจงานจริงจัง...ขี้โอ่ไปวันๆ แถมไร้ฝีมือ            “พี่ชาย ฝันหวานอะไรคะ...คืนนี้อย่าลืมนัดล่ะ...เราตองไปงานคืนนี้”            เฮนน่าเดินผ่านการ์ดของพี่ชายเข้ามา เธอกระเซ้าชายหนุ่ม เมื่อคลากส์กำลังยิ้มย่อง เหมือนกำลังฝันค้าง            “งานไร!!...แล้วทำไมฉันต้องไป” คลากส์หลุดมาจากภวังค์ เขาตวาดกลับเสียงขุ่น            “อ้าว...ลืมเสียอีก อย่าลืมนะพี่...พี่กำลังอยู่ในช่วงทัณฑ์บน ทำตัวดีๆ หน่อย...งานน่ะทำเสียบ้าง อย่าเอาเปรียบหนูนัก”            เฮนน่าร้องเสียงหลง เธอมาเตือนด้วยความหวังดี แต่กลับถูกตวาดใส่เสียอย่างนั้น            “แกเป็นน้องฉันเฮนน่า แกไม่ใช่มัม อย่ามาวุ่นวายกับฉันนัก ฉันไม่ได้ลืม แค่กำลังคิดอะไรอยู่”            ชายหนุ่มพูดเสียงแข็ง เฮนน่าเริ่มเข้มงวดกับเขา ทำเหมือนเป็นมารดาอีกคน ทั้งๆ ที่เป็นแค่น้องสาว            “ตามใจค่ะ หนูอยากยุ่งด้วยเหรอไง...โตๆ กันแล้ว อย่าให้พูดมาก...แล้วก็อย่าให้หนูฉายเดี่ยวล่ะ เพราะหากหนูไปคนเดียว หนูก็จะไม่ไป...ทีนี้แหละ!! บาร์วคงป่นปี้”            คลากส์เบี้ยวนัดเธอเป็นประจำ เขาปล่อยให้เธอฉายเดี่ยวเป็นตัวแทนบาร์ว แล้วก็มาบ่นลับหลังว่าเธอแย่งซีน เธอเบื่อที่จะฟัง เพราะฉะนั้นหากไม่อยากร้อนหู ก็จำเป็นต้องมาลากคลากส์ไปเสียด้วยกัน            “อย่ามาขู่ฉันยัยเด็กบ้า ฉันอุตส่าห์เปิดโอกาสให้แกนะ...แกจะได้หาผัวได้สักที”            คลากส์ลุกพรวด เขาตะคอกซ้ำ พร้อมกับกระดกมุมปากยิ้มเยาะ เฮนน่าแก่ตัวลงไปทุกปี แต่ข้างกายหล่อนยังว่างเปล่า ไม่เคยมีคนรู้ใจ ไม่มีแม้แต่คนเข้ามากระแซะ            “ถ้าต้องมี ‘ผัว’ หนูจะหาคนที่ไว้ใจได้ค่ะ และต้องไม่กะล่อนเหมือนพี่ด้วย...ถ้าแบบนั้น...หนูยอมแห้งเหี่ยวแบบนี้ดีกว่า ปวดประสาทเพราะความมักมากของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี”            “แกเลือกมากแบบนี้ ระวังเถอะ!! จะไปคว้าเอากรวดมาประดับเรือนแหวน”            คลากส์เยาะซ้ำ            “เหมือนที่พี่ทำงั้นเหรอคะ?”            เฮนน่าเอ่ยเยาะ เธอไม่มีวันพลาดเหมือนคลากส์ เธอไม่ใช่คนมักง่าย เธอระวังตัวดี เมื่อผู้ชายในโลกความจริง เขาน่ากลัวจนไม่กล้าเปิดใจ            “เฮนน่า!!”            “โอ๊ะ!! ไม่เอาค่ะ หนูขอโทษที่จี้จุด หนูไม่ได้ตั้งใจสะกิดปมพี่...แค่อยากจะบอกให้พี่รู้ หนูมีสติ มีสมอง หนูใช้สมองคิดมากกว่าที่พี่ใช้ไอ้นั่นคิด”            หญิงสาวตอบเสียงเคร่ง เธอปลายตามองเป้ากางเกงพี่ชาย เพราะคลากส์ใช้อวัยวะส่วนกลางคิดแทนสมองบ่อยๆ จึงเป็นที่มาของความผิดพลาด            “เฮนน่า!!”            “พอค่ะพอ...เอาเป็นว่า...ไม่ว่าอนาคตหนูจะมีใคร หนูไม่โทษใครค่ะ เพราะหนูตัดสินใจเอง หรือไม่ก็ขึ้นคานไปเลย”            หญิงสาวยิ้มประจบ...เธอโบกมือไปมา พูดตอบกลับคลากส์ไปเสียงอ่อยๆ            “คาน!! แบบเธอนะขึ้นคานชัวร์ ไม่มีใครกล้ามาสีเธอหร๊อก!! เพราะเธอฉลาดแบบนี้ไง ผู้ชายกลัวที่สุดคือ ‘เมียรู้ทัน’ ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบ เพราะไม่ว่าเขาจะโกหกยังไง อีแก่ที่บ้านก็จับได้ทุกครั้ง การเป็นผู้หญิงฉลาดน่ะดี แต่อย่าฉลาดกว่าผัว”            คลากส์แนะนำน้องสาวในฐานะที่เขาเป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่แล้วผู้ชายทุกคนอยากให้เมียโง่ เพราะฉะนั้นการแสร้งทำเป็นโง่บ้าง เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิง...เพราะหากฉลาดมากเกินไป เสน่หาที่เคยมีมันจะหมดลง เมื่อผู้ชายรู้สึกว่าตัวเองเป็นรอง...            “ว่าแต่...มีสาวๆ มั้ย?”            คลากส์ก็เป็นคลากส์วันยังค่ำ ไม่ว่าจะโดนทำทัณฑ์บนหรือไม่ สิ่งที่เขาโปรดปรานก็ไม่พ้นผู้หญิงเช่นเดิม            “พี่ชาย!!”            เฮนน่าแหวอย่างเหลืออด เธอยกมือเท้าสะเอวพร้อมกับถลึงตาใส่โดยที่คลากส์หัวเราะร่า... แสงไฟฟ้าสว่างจ้าแล้วยังไม่เท่าแสงแพลชที่สว่างวูบวาบขึ้นเกือบทุกนาที เมื่อบรรดาคนดังแห่แหนมาร่วมงานการกุศลครั้งนี้ พรมแดงที่ทอดยาวจากปากประตูสู่ภายใน มีคนเด่น คนดังตบเท้าเดินย่ำไปบนนั้นไม่ขาดสาย และนักข่าวหัวเห็ดจากสื่อดังก็กดรัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง เพราะวันพรุ่งนี้...คงไม่มีข่าวไหนเด่นได้เท่ากับการรวมตัวของนักธุรกิจชื่อดังกับอภิมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวย            เฮนน่าเบี่ยงปลายเท้าลงจากรถยนต์คันหรู เธอลงมายืนอยู่ด้านข้าง และเป็นอีกครั้งที่สื่อวิ่งเข้ามารุมล้อม เมื่อนานๆ ทีสองศรีพี่น้องจะมางานเดียวกัน คลากส์มุดออกมาจากด้านหลังรถยนต์ เขาสวมสูทโทนสีเข้ม ส่งให้ร่างกายของเขาดูสง่า ประกอบกับชุดราตรีสีทองของเฮนน่า พี่น้องบาร์วจึงตกเป็นเป้าสายตา...            แต่...ยังไม่ทันที่นักข่าวจะเริ่มถาม รถยนต์ Murcielago LP670-4 SV สปอร์ตรุ่นล่าสุดของLamborghini ก็โฉบเข้ามาจอด พร้อมกับหนุ่มหล่อนัยน์ตาชวนฝันมุดออกมาจากประตูด้านข้างคนขับ เขาเลิกคิ้วขึ้นสูง พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง เมื่อไม่ไกลจากจุดที่เขายืนอยู่เท่าไร...พี่น้อง บาร์วยืนอยู่ตรงนั้น            “หึ!!” คลากส์พ่นลมหายใจแรงๆ จนปีกจมูกพเยิบพะยาบ “ไอ้เวรนี่ขโมยซีนกูอีกแหละ!!”            การปรากฏตัวของลูคัส สื่อที่ทำท่าว่าจะสนใจพี่น้องบาร์วเกิดเปลี่ยนเป้าไปเสียอย่างนั้น เมื่อสองศรีพี่น้องเป็นแค่ตัวแทน แต่ลูคัสคือเจ้าของตัวจริง พวกเขาจึงพากันกรูไปหาลูคัส ปล่อยให้คลากส์ยิ้มเก้ออยู่ตรงนั้น            เฮนน่ายืนอึ้ง!! เธอเคยเห็นลูคัสหลายครั้ง นับตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้าไปที่คฤหาสน์บาร์ว ด่าทอคนในบ้านของเธอทุกคน แถมยังประกาศคำขู่ เขาจะกลับมาล้างผลาญบาร์ว ทำให้ครอบครัวของเธอล่มจม เหมือนที่เดมเชียประสบ...4ปีผ่านไป...เฮนน่าไม่อยากคิด...ผู้ชายคนเดิม...กับผู้ชายที่ยืนผงาดตรงหน้า เขาแตกต่างลับลับ วันนี้ลูคัสดูหล่อเหลาเสียใจหัวใจเย็นชาของเธอเริ่มมีจังหวะแปลกๆ เฮนน่ารีบสะบัดใบหน้า เธออยากจะชักสายตากลับ แต่...มันยากเต็มทน            สูทพอดีตัวกับกระดุมเม็ดเดียวตรงช่วงเอวทำให้ลูคัสดูสง่า แถมด้วยกางเกงรัดรูปเน้นช่วงขา ชายหนุ่มดูพร้อมสมบูรณ์และทรงพลังเสียจน ใครๆ ก็พากันเคลิ้ม เฮนน่าไม่คิดว่าลูคัสจะรูปงามเช่นนี้ หัวใจของเธอเต้นแปลกๆ เธอไม่สมควรหวั่นไหวไปกับเสน่ห์เหลือร้ายของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ศัตรู’            “ไปกันเถอะพี่ คนพวกนั้นไม่สนใจเราแล้วล่ะ”            เฮนน่ายอมรับ ลูคัสคงน่าสนใจมากกว่า สื่อต่างๆ จึงวิ่งใส่ เขาเป็นเจ้าของกิจการไฟแรง เธอกับพี่เป็นแค่ตัวแทนของบิดา            “ถ้าไม่มีมัน!! ฉันก็คงไม่ถูกเมินแบบนี้หรอก!!”            คลากส์กระแทกเสียงฉุนๆ เขาเดินผ่านพรมแดงเข้าไปในงาน มีเพียงแสงแพลชปละปลาย ไม่ได้สว่างโร่ หรือถูกรุมล้อมเหมือนลูคัส            เสียงพูดคุยเบาๆ มีกลุ่มคนจับกลุ่มกันเป็นกลุ่มก้อน คลากส์เดินนำน้องสาว เขาทักทายคนรู้จักไปตลอดทาง ส่วนเฮนน่าเดินตามพร้อมกับยิ้มน้อยๆ เธอเบื่อความจอมปลอมตรงหน้าจนแทบอาเจียน เดินตามคลากส์ได้ไม่นาน เธอจึงฉากหลบมาเงียบๆ เพื่อสูดอากาศภายนอก ดีกว่าการปั้นหน้าหลอกลวงใส่กัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD