เรื่องของเรา (NC นิด ๆ)

1272 Words
“โห! ปีนี้มีคนใส่เงินปึกเบ่อเร่อมาในตะกร้าของยายถิงด้วย” เสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นของเหล่าคนดูแลศาลเจ้าปึกกงที่กำลังล้อมวงนับเงินบริจาคที่ได้จากการออกเดินเรี่ยไรในวันนี้ ผู้รับหน้าที่ถือตะกร้าใบนั้นได้อมยิ้มกรุ้มกริ่มแก้เก้อ คนหน้าตาน่ารักอยู่ที่ไหนก็ได้รับความสนใจเสมอ แต่ครั้งนี้จะพิเศษมากหน่อย “ยกจนปวดแขนเลยสิถิงเอ๊ย สุดยอด!” แปลว่างานเทกระจาดปีนี้ก็จะมาข้าวของมาแจกเป็นทานมากปีก่อน ๆ เป็นแน่ หลายคนถึงกับยกมือท่วมหัวอนุโมทนาบุญให้ยกใหญ่ “ตื่นเต้นทำไมล่ะ ทุกปีเพื่อนเถ้าแก่กับซ้อก็บริจาคกันเป็นแสนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” มีคนออกความคิดเห็น “ไม่เหมือนกันสักหน่อย” หญิงสูงวัยที่นั่งข้างปรมากระทุ้งศอกใส่คนพูด “เคยมีเอาเงินเป็นปึกใหม่กริบมาใส่ตระกร้าเรี่ยไรด้วยเหรอ เพื่อนเถ้าแก่ที่บริจาคหนัก ๆ เขาก็ให้เงินกับเถ้าแก่โดยตรงทั้งนั้น แสดงว่าเจ้าของเงินก้อนนี้คงไม่ใช่เพื่อนเถ้าแก่และ…คงตั้งใจเอามาใส่ตระกร้าแน่ ๆ” วงสนทนาพยักหน้าเห็นด้วย “ถิงพอจะจำได้มั้ยว่าเป็นใคร…แบบว่าเป็นคนพื้นที่หรือคนจากที่อื่น” “ไม่ใช่คนที่นี่จ้ะเหมือนจะเป็นคนต่างชาติด้วยค่ะ” ปรมารู้ดีว่าเขาคือใคร “ต่างชาติค่าเงินเขาใหญ่กว่าเราอะนะ แสนนึงของเราอาจจะไม่กี่หมื่นของเขา แต่ยังไงเสียก็ขอให้เทพประทานพรให้เขาสมปรารถนาที่สิ่งที่ต้องการด้วยแล้วกัน” หัวหน้าผู้แลศาลเจ้ายกมือไหว้ปรก ๆ และทุกคนก็ทำตามโดยพร้อมเพรียงกัน นึกไม่ถึงว่าเขาจะโผล่มาไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้าแบบนี้ ย้อนกลับไปช่วงใกล้เที่ยงคนจากศาลเจ้าแยกย้ายกันเดินไปตามจุดต่าง ๆ เพื่อขอเรี่ยไรทำบุญ ปรมาที่นอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอ้าปากหาวน้อย ๆ ยกขวดเครื่องดื่มชูกำลังขึ้นมาจิบเพื่อเรียกพลัง ส่วนหนึ่งต้องเตรียมงานจนดึกดื่น แต่ดึกแล้วไม่ยอมนอนเพราะอะไร อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน รถขยายเสียงของศาลเจ้าประกาศวันเทกระจาดแจกทานอยู่ห่างออกไปไม่มากนัก ร่างบางสวมเสื้อสีขาวมีชื่อศาลเจ้ากล่าวขอบคุณคนใจบุญที่หย่อนเงินใส่ตะกร้าแทบไม่ขาดปา ก ระหว่างทางเจอคนพูดหยอดทีเล่นทีจริงบ้างตามประสา ปรมาเดินมาจนถึงร้านสภากาแฟเก่าแก่ที่คราครั่งไปด้วยคนพื้นที่และนักท่องเที่ยว หลังได้รับอนุญาตจากเจ้าของร้าน เธอหิ้วตะกร้าเงินเข้าไปข้างในและตามคาดลูกค้าเกือบทุกโต๊ะพากันควักแบงก์ร่วมสมทบทุนกันยกใหญ่เรื่อยมาจนถึงโต๊ะสุดท้ายที่ด้านในสุดที่มีคนนั่งหันหลังให้ ด้านหลังช่างดูคุ้นตาเหลือเกิน “สวัสดีค่ะ ร่วม ร่วม…ทำบุญ…” ปรมาพูดไม่ทันขาดคำก็อ้าปากค้างไปในทันใด ชายคนนั้นสวมไบคเกอร์แจ็คเก็ตสีดำกับหมวกเบสบอลปิดครึ่งหน้าก็หมุนตัวกลับมา เอียงหน้าน้อย ๆ ขยิบตาและคลี่ยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ให้ “ลุงเจมส์…” เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงควักเงินปึกใหญ่ออกจากเสื้อคลุมแล้วใส่ลงในตะกร้ารับบริจาค “ขอบคุณค่ะ…ว้าย!” เดิมทีตะกร้าหนักเพราะเหรียญอยู่ก่อนแล้ว พอใส่เงินก้อนเข้าไปมันหนักขึ้นแบบเท่าทวีคูณจนทำให้ร่างเล็กเกือบจะล้มทั้งยืน โชคดีที่เจมีไนน์คว้าแขนช่วยประคองไว้ได้ทัน ไม่งั้นล้มมานั่งแหมะบนตักแล้ว “ถือไหวมั้ยคะ หนักเหมือนกันนะเนี่ย” เขาถามกระซิบถาม “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวไปเปลี่ยนตะกร้าใหม่ได้ค่ะ” “โอเคค่ะ เดี๋ยวค่ำ ๆ ลุงโทรหานะคะ” ทั้งที่ลึก ๆ อยากชวนไปกินข้าวด้วยใจจะขาด ปรมารู้ในภายหลังว่าเจมีไนน์เห็นความเคลื่อนไหวจากโพสต์ในอินสตาแกรมของเธอเลยตามมาเซอร์ไพรส์อย่างที่เห็น บังเอิญมาบังเอิญกลับ…ถือว่าหายกันแล้ว “เหนื่อยมั้ยถิงเอ๊ย งานประจำก็ต้องทำ เสาร์อาทิตย์ยังต้องมาช่วยพวกเจ๊อีก” ผู้ที่ปรมานับถือเหมือนญาติผู้ใหญ่เข้ามาถามไถ่ขณะเดินกลับห้องพัก เพราะกว่าจะนับยอดบริจาคลงบัญชีเสร็จก็ปาไปเกือบห้าทุ่มแล้ว “ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ ถิงเคยทำมาตั้งหลายปี ทำต่ออีกปีจะเป็นไรไป ฮ่า ๆ” แต่พูดไปก็ทุบบ่าที่ปวดเมื่อยเหมือนเพิ่งแบกกระสอบข้าวสารไปพลาง “แล้วโครงการไปถึงไหนแล้วล่ะ” นางหมายถึงโครงการเสนอรับทุนปริญญาโท “ก็ผ่านมาครึ่งนึงแล้วค่ะ เหลือต้องแก้ไขอีกพอสมควรเลย เฮ้อ! บางทีมองคนที่ไม่ต้องดิ้นรนอะไรก็มีทุกอย่างมากองตรงหน้าแล้วย้อนมองตัวเอง…ก็ท้อนะคะ ไม่รู้ปลายทางของคนไร้ที่พึ่งอย่างถิงหรือสุดท้ายเห็นทีจะไม่พ้นที่นี่” ดวงตาหวานซึ้งปรากฏฉายแววเศร้าหมองออกมา เจ๊ไก่รู้ดีว่ามีหลายคนยื่นข้อเสนอเลี้ยงดูเธอมากมายแต่ต้องแลกกับการลดศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง “ถิงเอ๊ยชีวิตคนเราน่ะล้วนมีบททดสอบของตัวเองเสมอ ทุกคนมีจังหวะและโอกาสของตัวเอง ถิงทั้งฉลาดทั้งรักดีเหลือแค่รอเวลาเท่านั้น” นางลูบหลังมือปลอบประโลมจิตใจด้วยความเมตตาเอ็นดู คนเราจะอาภัพอะไรปานนั้น “เจ๊ขอให้บุญกุศลที่ถิงช่วยงานศาลเจ้ามาหลายปีให้ถิงได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอกแล้วประสบความสำเร็จในชีวิตสมใจต้องการนะ” “ขอบคุณค่ะเจ๊ไก่” ปรมากลั้นน้ำตาพลางบีบมือที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นเบา ๆ แล้วแยกกันเข้าห้องตัวเอง “ห้าทุ่มครึ่งแล้วลุงเจมส์คงทำงานอยู่ ไม่รบกวนแล้วกัน” ก่อนนอนเธอไม่ลืมส่งข้อความราตรีสวัสดิ์ให้เจมีไนน์ เพียงชั่วอึดใจเขาก็ส่งคลิปวีดีโอสั้น ๆ กลับมา ‘กู๊ดไนท์ค่ะถิงถิง พรุ่งนี้หลังเลิกงานไปทานข้าวกันนะคะ’ ปิดท้ายด้วยยิ้มกว้างที่มาพร้อมรอยบุ๋มน่ารัก ๆ บนแก้ม ปรมาเม้มยิ้มซุกหมอนด้วยความเคอะเขิน “ลุงเจมส์น่ารักจัง ถิงเขินแย่เลยรู้เปล่า อ๊า~” ครู่ต่อมาคนตัวเล็กทำท่าโก้งโค้งท่อนล่างเปลือยเปล่า บั้นท้ายเกร็งตึงเป็นระยะโดยมีนิ้วเล็กๆ สามนิ้วเบียดวนอยู่ในร่องสาวชุ่มฉ่ำ แจ๊บ ๆ ๆ ๆ “ถิงเขินนะคะ อ๊าง~ ลุงเจมส์ทำไมน่ารักอย่างงี้คะ ซี๊ด~” คลิปวีดีโอเมื่อครู่ถูกเปิดให้เล่นซ้ำไปซ้ำมา เสียงของเจมีไนน์ช่วยให้มโนภาพที่กำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแจ่มชัดยิ่งขึ้น หลายนาทีต่อมาปรมาบีบหัวคิ้ว กัดริมฝีปากจนเจ็บจี๊ดอย่างไม่ได้ดั่งใจ แล้วก้มมองแท่งระบายความใคร่ที่อัดกับช่องลับจนมิดด้าม ทว่าความรู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป “โอ๊ย! ซี๊ด! เสียวจังเลย ทำไมมันเสร็จสักทีเนี่ย อ๊า!” เธอลากแท่งยาวที่มันเลื่อมด้วยเมือกใสออกมา ปากถ้ำสวาทไม่กระตุกตอดอีกต่อไป แต่เม็ดเนื้อแสบแดงจากการถูด้วยปลายนิ้วนาน ๆ ปรมาถอนหายใจฟืดฟาด ปาดิลโด้เพื่อนรักลงพื้นด้วยความหงุดหงิดแล้วล้มตัวลงนอนแบบอารมณ์ค้าง ๆ “เจ็บจังโว้ย!” เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้เจอกันแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD