ส้มแผ่น เด็กสาวอายุสิบแปดปีเธอเป็นลูกค้าประจำของร้านชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นมาตั้งแต่สมัยประถมจนมหาลัย เธอเป็นคนที่อ่านหนังสือทุกชนิดแต่ที่จะชอบเป็นพิเศษคือนิยายเกย์นิยายผู้ใหญ่และไม่ใช่แค่นิยายรวมถึงการ์ตูนด้วยยิ่งติทเรทก็ยิ่งชอบ เธอมักให้คำจำกัดความว่า
หนังสือเปิดโลกชวนฝันเสริมสร้างจิตนาการกระตุ้นการเรียนรู้ และหลายครั้งเธอคิดว่าควรบรรจุหนังสือเหล่านี้ไว้ในหลักสูตรการศึกษาด้วยซ้ำหรืออย่างน้อยก็ควรจัดให้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาก็ยังดี
และทุกครั้งที่เธออ่านก็จะมองพรายหน้าหวานสลับกับจ่อหม่องสุดล่ำทุกครั้งไป ซึ่งไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ว่าทั้งสองเป็นคู่จิ้นของเธอ
เพียงแต่ตาสระอิของเธอในวันนี้มันก้าวไปอีกขั้นส้มแผ่นมองทั้งสามด้วยรอยยิ้มกว้างและชวนฝัน พร้อมโครงกับเรื่องที่พุดในหัวแล้วก็พูดออกมา
"โขยกรักสองเกย์ร้าย"
"ประตูท้ายไม่เฟี้ยวอยากเลี้ยวประตูหน้า"
"ซ้ายก็กดขวาก็กอด"
"เราสามคนคอนโดสามชั้น"
"พอเลย !!!"
ชายร่างสูงหน้าหวานตะโกนเสียงดัง ส่วนลัดดาสาวออฟฟิตหน้าหมวยนางแทบอยากจะวิ่งออกหลังร้านด้วยความอาย
"แฮะ ๆ ๆ"
ส้มแผ่นยกมือเกาหัวพร้อมหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องสนุก
"หนูก็แค่เอาหนังสือมาคืน แต่ไม่รู้ว่าพวกพี่.......กำลังจะ"
"ก็บอกว่าร้านปิดแล้ว"
"รู้....หนูไม่กวนพี่หรอกแค่จะบอกว่าพรุ่งนี้จะมาเริ่มทำงานที่ร้านแล้วนะ"
"เฮ้ย!"
คนที่เคยมีน้ำเสียงราบเรียบเย็นชาถึงกับตกใจจนกระปุกขี้ผึ้งที่ถืออยู่ในมือร่วงกับพื้นจากนั้นก็หันไปมองจอหม่องเหมือนขอคำตอบ
"พี่จอหม่องรับหนูแล้ว"
เด็กสาวร่างเล็กหน้ากลมแก้มป่องรีบตอบดักคอมาแทน
"อะไรวะไอ้หม่อง"
"ก็..แม่หยาบอกให้รับ"
"ใช่แม่หยาบอกให้รับหนู"
เสียงสดใสรีบยืนยันมาอีกทีถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าแม่หยาเป็นใครหรือมีตำแหน่งอะไรในร้านนี้เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านเธอเคยได้ยินแต่ชื่อแต่ไม่เคยได้พบเจอ แต่เมื่อดูจากชื่อร้านแล้ว แม่หยาบุ๊ค คงจะเป็นเจ้าของร้านแน่นอน
ชายร่างสูงผู้เย็นชาถอนหายใจออกมาอีกครั้งแล้วไม่กล่าวอะไรออกมาอีก
"วันนี้หนูแค่เอาหนังสือมาคืน แล้วจะถามด้วยว่าพี่จอหม่องด้วยจะให้หนูมากี่โมง"
จอหม่องมองหันมามองหน้าพรายหน้าหวานเพื่อขอความเห็นแต่คนตาออกฟ้ากลับมองเมินไปทางอื่นเหมือนจะให้เขาตัดสินใจเอง
"เอาเป็นว่าส้มจะมากี่โมงก็ได้แต่วันนี้กลับไปก่อนพวกพี่มีธุระต้องทำ"
"อ๋อ.......ค่าาาาา"
ตอนนี้ตากลมของนางเริ่มยิ้มเป็นสระอิอีกครั้ง จากนั้นเด็กสาวร่างเล็กก็คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับชูมือขึ้นทั้งสองข้างแล้วโน้มตัวไปลงข้างหน้าก้มกราบลงกับพื้นเหมือนกับการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าพื้นเมือง
"ชาบู......"
"หนูขอชาบูพี่สาวคนสวยในความกล้าหาญที่กล้าทำตามแรงปารถนาอันเล่าร้อน ขอให้พี่บรรลุนิพานด้วยเทอญญญญญ
สาาาาคุ๊..........."
นางก้มกราบแนบพื้นอยู่อย่างนั้นโดยไม่ยอมลุกขึ้นจนพรายร่างสูงต้องหิ้วคอลากออกจากร้านและในจังหวะที่ประตูกำลังจะปิดลงก็มีเสียงแว่วๆแทรกเข้ามาจนได้ยินถึงหลังร้าน
"หนูช่วยพี่ทำโอลี่แฟนได้นะ หนูเป็นตากล้องให้ได้"
'โคตรรั่ว'
ลัดดาหน้าหมวยคิดในใจพลางส่ายหน้าพร้อมกับเริ่มติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยเพื่อจะได้ไม่มีใครมาเข้าใจผิดได้อีก
"เริ่มกันเลยไหม"
จอหม่องหันไปถามคนร่างสูง ชายหน้าหวานนั้นไม่ตอบแต่พยักหน้ารับมาพร้อมกับหยิบหนังสือจากชั้นมายืนเปิดอ่านอย่างไม่สนใจอีกครั้ง
"วันกับเดือนที่เกิดส่วนปีไม่ต้อง"
เสียงทุ้มของหนุ่มล่ำถามเป็นการเป็นงานแล้วเอื้อมมือไปหยิบไวท์บอร์ดจากหลังตู้หนังสือที่อยู่ใกล้
"ยี่สิบหก กุมภาค่ะ"
"อายุ"
"ยี่สิบห้า"
ตาเรียวลึกละสายตาจากไว้ท์บอร์ดขึ้นมามองอย่างจริงจังเชิงตำหนิ
"ตอบตามจริงครับเดี๋ยวดวงเคลื่อนแล้วจะซวยกันหมด"
"สามสิบค่ะ"
จากนั้นก็ถามอะไรมาอีกหลายอย่างพร้อมกับขีดเขียนลงกระดานไวท์บอร์ดไปด้วย ใช้เวลาอยู่ครู่ก็สรุปออกมาให้ฟัง
"ราศีมีน ธาตุน้ำ วันนี้วันพฤหัสแถมดวงยังมีดาวพฤหัสเกื้อหนุน ตอนนี้สองทุ่มสี่สิบ ฤกษ์อธิบดีเบื้องหลัง สามทุ่มเก้านาทีเวลามงคล เตรียมตัวกันได้
อ่อ...อันนี้ต้องจำไว้ให้ดี
พราย พราย ไอ้พรายเว้ย ฟังด้วย"
ในช่วงท้ายเป็นการเรียกคนหน้าหวานที่กำลังยืนพิงตู้อ่านหนังสือให้หันมาสนใจ
"ไม่ว่าจะทำอะไรให้ก้าวเท้าซ้ายนำก่อนเสมอ ส่วนสีมงคลสีส้มหรือเหลืองอ่อน แต่สีส้มดีกว่า รถคุณสีอะไร"
"ดำค่ะ"
ลัดดาหน้ากลมตอบกับแบบงงๆ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าการปราบผีจะต้องมีการดูฤกษ์ดูยามด้วย
"ย้ำอีกครั้งนะ ก้าวเท้าซ้ายก่อนเสมอ"
จากนั้นหนุ่มล่ำผู้หล่อเข้มก็เอื้อมมือควานหาอะไรบางอย่างบนหลังตู้หนังสือที่อยู่ใกล้
"เดี๋ยวเอานี่ไปติดรถ"
มันเป็นสติ๊กเกอร์ขนาดเท่ากล่องดินสอที่มีข้อความว่า รถคันนี้สีส้ม จากนั้นทุกย่างก้าวก็จะมีเสียงของจอหม่องกำกับอยู่เสมอชนิดตั้งแต่ลุกขึ้นยืน
"ก้าวซ้ายครับ"
พอออกประตูร้านก็
"ก้าวซ้ายครับ"
หรือแม้แต่ตอนจะก้าวขึ้นรถ
ลูกค้าสาวมองกระโปรงหน้ารถของเธอที่ตอนนี้มีสติ๊กเกอร์สีส้มติดอยู่พร้อมข้อความว่ารถคันนี้สีส้ม แต่ก่อนเธอเคยมองรถที่ติดข้อความอันย้อนแย้งแบบนี้ด้วยความขบขันโดยคิดเสมอว่าจะทำแบบนี้ให้ได้อะไร แต่พอเรื่องแบบนี้ได้เกิดกับตัวเองถึงกับขำไม่ออก
"ก้าวเท้าซ้ายขึ้นรถนะ"
เสียงจอหม่องกำกับมาอีกครั้งและก็เป็นพรายหน้าหวานที่ก้าวเท้าซ้ายขึ้นรถฝั่งข้างคนขับเป็นคนแรก คนร่างสูงท่าทางเย็นชานั้นทำตามคำสั่งของจอหม่องอย่างเคร่งครัดเหมือนจะรู้มือกันเป็นอย่างดีและเมื่อเห็นแบบนี้เธอก็ยิ่งต้องทำตามไปด้วยถึงแม้จะไม่รู้ว่ามันจะช่วยเรื่องนี้ได้ยังไง
จากเวลาสามทุ่มเก้านาทีลัดดาพาขับรถลัดเลาะมายังหมู่บ้านของเธอที่อยู่ย่านพุทธมณฑลสายสาม มันเป็นหมู่บ้านที่อยู่มานานพอควรจึงต่างกับหมู่บ้านสมัยใหม่ บ้านเธอเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นที่อยู่ท้ายหมู่บ้านด้านหน้าตัวบ้านมีที่พอจอดรถได้หนึ่งคันและด้านข้างเป็นต้นมะม่วงใหญ่ที่พอให้ร่มเงาได้
และเช่นเคยจอหม่องเริ่มดูฤกษ์ยามอีกครั้ง
"สี่ทุ่มห้าสิบ"
พร้อมยกมือขึ้นมาใช้นิ้วโป้งแตะที่ปลายนิ้วก้อยก่อนแล้วไล่ไปยังนิ้วนางนิ้วกลางจนไปจบที่นิ้วชี้เหมือนพวกซินแสที่คำนวนฤกษ์ยาม
"ยังพอมีเวลา ฤกษ์อธิบดีเบื้องหลังมีถึงห้าทุ่ม เท้าซ้ายก่อนเสมอ ไม่ว่าทำอะไร
เฮ้ย เฮ้ย !! ไอ้พรายตื่น"
แขนล่ำกล้ามแน่นของจอหม่องผลักเข้าที่หัวของคู่หูหน้าหวานที่นั่งคอพับตั้งแต่ออกรถ ลัดดาหน้าหมวยมองคนที่เธอว่าจ้างด้วยความรู้สึกเสียดาย
'เงินสดสามหมื่นรวมทั้งเรือนร่าง ฉันไม่น่าไปหลงหน้าตาอันหล่อเหลาแบบนั้นเลย'
คนร่างสูงใช้สองมือจัดผมที่ปรกหน้าให้เริ่มแสกกลางตามเดิมก่อนจะหันซ้ายหันขวาเหมือนจะงงๆอยู่หน่อยๆที่มาถึงแล้ว
"ถึงแล้วนี่"
"ก็เออ มึงทำงานได้แล้ว เวลาเหลือน้อยแล้ว"
พ่อพรายหน้าหวานเอี้ยวตัวบิดขี้เกียจก่อนที่จะเปิดประตูลงจากรถ จนจ่อหม่องร้องเสียงหลง
"เท้าซ้ายโว้ยยย"
เท้าขวาของพ่อหมอหน้าหวานชะงักก่อนจะแตะพื้นเพียงนิดเดียว
"เออกูลืม"
เขาพูดออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาแล้วก็หันใบหน้าอันหล่อเหลามาทางลูกค้าหน้าหมวยที่กำลังมองเขาอย่างหมดศรัธทา จากนั้นเขาก็ก้าวนำเธอลงไปด้วยขาข้างซ้ายก่อน
เธอมองเขาจากด้านหลังด้วยความรู้สึกที่เหมือนตัวเองโง่อย่างบอกไม่ถูกที่หลงเชื่อคำโฆษณาที่อวดอ้างเกินจริง เธอมองชายร่างสูงหน้าหวานที่กำลังยืนหน้าประตูรั้ว ตอนนี้เขากำลังยกมือขึ้นปิดปากหาวหวอดๆ
ตาคมสีฟ้ากับใบหน้าอันแสนหวานหันมาสบกับตาชั้นเดียวของเธอแล้วพูดออกมาสั้นๆ
"เตียงสปริงหรือเตียงยางพารา"
ทันทีที่มองตางามคู่นั้นความรู้สึกหวิวๆมึนงงและเวียนหัวก็กลับมาอีกครั้ง
เธอตอบกลับไปด้วยสติสัมปะชัญญะที่เหลืออยู่เพียงเศษเสี้ยวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและล่องลอย
"เตียงสปริงจ๊ะพ่อพราย"