ในครั้งที่เธอหาที่พึ่งไม่ได้จึงตัดสินใจเอาเรื่องราวความน่าสยองที่เกิดในบ้านมาเล่าให้รุ่นพี่ที่ทำงานฟัง พร้อมกับบอกว่าให้หาคนมาช่วยหน่อยเพราะเธอหมดที่พึ่งแล้วจริงๆแม้กระทั่งพระสงฆ์ละแวกบ้านที่ไปขอความช่วยเหลือก็ยังปฏิเสธมา
แล้วพอเมื่อเช้านี้ทันทีที่เรื่องลี้ลับของเธอรู้เข้าถึงหูกรรมการสาวท่านหนึ่ง ท่านก็เรียกเธอเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวพร้อมกับแนะนำให้มาติดต่อที่ร้านหนังสือ
"แม่หยาบุ๊ค แซ่บมาก ของดีบอกต่อ"
ท่านบรรยายสรรพคุณต่างๆนาๆโดยเฉพาะความเก่งกาจของพ่อหมอรูปหล่อและทุกครั้งที่พูดถึงพ่อหมอพรายดวงตาของกรรมการสาวท่านนั้นจะเลื่อนลอยชวนฝันเหมือนกับที่เธอกำลังประสบอยู่ในตอนนี้
ลัดดายืนเหม่อมึนงงและก็ยิ้มหวานไปด้วย ในบางจังหวะร่างบางของเธอที่อยู่ในชุดพนักงานออฟฟิตก็โงนเงนราวกับต้นไม้ที่ไหวตามแรงลม
"ไอ้พรายหยุด มึงจะใช้เสน่ห์พร่ำเพื่อไม่ได้"
เสียงจอหม่องตะโกนมาจากเบาะหลังของรถเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ลงมาเนื่องจากหน้าที่ที่เหลือเป็นของพ่อหมอพราย
คนร่างสูงหน้าหวานถึงกับจิปากอย่างเบื่อหน่ายแล้วยกมือขึ้นมาดีดนิ้วตรงหน้าลูกค้าสาว
ความรู้สึกมึนงงวิงเวียนหวิวๆใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหายไปหมดสิ้นพร้อมกับเสียงดีดนิ้วนั้น
จากที่เคยสงสัยในคราแรกว่าจะคุ้มค่าจ้างหรือไม่ตอนนี้เธอเริ่มตระหนักแล้วว่า แค่เขามองตาเขาก็เอาทุกอย่างไปจากเธอได้แน่นอน
ปากบางชมพูนั้นยิ้มจางๆแต่มีเสน่ห์ก่อนจะพยักหน้าส่งสัญญานให้เดินตามมาโดยมีเสียงของจอหม่องที่คอยกำกับมาจากรถ
"อย่าลืมซ้ายนำถ้าทำถูกต้องมันจะไม่เห็นเรา"
เริ่มจากเธอใช้มือซ้ายเปิดประตูรั้วจากนั้นก็ก้าวเท้าซ้ายเข้าในบริเวณบ้าน ตอนนี้มันเป็นเวลาห้าทุ่มถ้าเป็นตามที่จอหม่องบอกฤกษ์ดีของเธอได้หมดลงแล้ว พ่อหมอร่างสูงเดินผ่านที่จอดรถไปรอเธออยู่ที่หน้าประตูไม้แล้วชี้นิ้วไปที่ลูกบิด ทั้งลานหน้าบ้านมีแสงไฟเพียงดวงเดียวคือตรงหน้าประตูที่พ่อหมอพรายยืนรออยู่และนอกจากเสียงลมแล้วก็ไม่มีเสียงอะไรอีกเลย
ในจังหวะที่เธอจะล้วงมือเข้ากระเป๋าถือเพื่อหากุญแจ
"ซ้าย"
เสียงชายร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาเตือนมาอย่างแผ่วเบา
ลัดดาเป่าลมออกจากปากทันที เกือบไปแล้ว เธอนึกขอบคุณเขาในใจ
สิ่งแรกที่เห็นหลังจากก้าวเท้าซ้ายเข้ามาคือห้องรับแขกที่มีเพียงโซฟายาวสีเทากับโต๊ะส่วนพื้นก็จะเป็นกระเบื้องลายดอก และทางด้านซ้ายจะเป็นห้องนอนเธอเรียกว่าเข้าบ้านมาก็เจอห้องนอนเธอเลย ถัดจากห้องนอนก็จะเป็นบันใดขึ้นชั้นสองและพอมองเลยเข้าไปในส่วนท้ายของบ้านก็จะเป็นโซนครั้วซึ่งมีโต๊อาหารสีน้ำตาลพอเลยไปหน่อยก็จะเป็นเค้าท์เตอร์สำหรับประกอบอาหารอันเป็นที่เกิดเหตุ เรียกได้ว่าแค่เธอเปิดประตูห้องนอนมาก็จะเห็นเหตุการณ์ได้เลย
ตึง ตึง ตึง ๆ ๆ
เสียงฝีเท้าหนักๆวิ่งลงบันใดมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจนเธอผวากายไปเบียดกับใหล่ของพ่อหมอร่างสูงที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ข้างๆ ตาคมออกฟ้าคู่นั้นมองน้องชายของเธอวิ่งสี่ขาเสียงดังเข้าไปที่ครัวอย่างไร้ความรู้สึก
"ถ้าเราพูดมันจะได้ยิมไหม"
ลัดดากระซิบถามเขาแบบแทบจะไม่มีเสียง สายตาอันเย็นชาของพ่อหมอหันมาทางเธออีกครั้งจนเธอต้องรีบหลบตาหนีเนื่องจากกลัวว่าจะต้องมนต์อีก
เขาโน้มตัวลงมาพร้อมกับปากบางชมพูนั้นกระซิบเข้าที่ข้างใบหูจนลัดดาสัมผัสได้ถึงไอเย็นประหลาด
"ไม่ ได้ ยิน"
เพียงแค่นั้นขาของเธอก็อ่อนวูบ ขนตั้งแต่หน้าแข้งไล่ขึ้นมาจนถึงกลางลำตัวลุกชัน ตามมาด้วยอาการเสียวแปลบที่ท้องน้อยก่อนที่จะต้องหุบขาอ่อนเข้าหากันอย่างลืมตัวพร้อมกับอาการใจสั่นเต้นไม่เป็นจังหวะ
"ไอ้พรายมึงอย่าใช้เสน่ห์เล่นซิวะ เดี๋ยวก็โดนแม่หยาลงโทษหรอก"
เสียงตะโกนจากนอกบ้านดังมาอีกครั้ง
พ่อหมอร่างสูงถอนหายใจพร้อมดีดนิ้วและเช่นเดิมอาการดังกล่าวหายไปหมดสิ้น
ลัดดารู้ชัดแล้ว ไม่ว่าผลของการไล่ผีร้ายจะออกมายังไงแต่คืนนี้เธอก็ไม่อาจรอดพ้นเงื้อมมือพ่อหมอหน้าหวานแน่
'ไหนๆจะพลีกายแล้วอย่างน้อยต้องช่วยครอบครัวให้ได้ก่อน'
เธอบอกกับตัวเองพร้อมกับจะใช้มือขวาตบที่หน้าอกเพื่อเตือนสติไม่ให้หวั่นไหวไปตามมนต์เสน่ห์ของหมอพรายที่เฝ้าคุกคาม
"ซ้าย ใช้ มือซ้าย"
แต่เสียงแผ่วเบาเป่าเข้าใบหูเธออีกครั้งและครานี้เธอถึงกับล้มลงไปนั่งพับเพียบกับพื้นอย่างอ่อนแรง ความรู้สึกร้อนลุ่มวูบวาบแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายพร้อมกับความรู้สึกเปียกแฉะที่บางส่วน
เธอคิดว่าถ้าเขาแค่เปาลมใส่หูอีกครั้งเดียวเธอคงเสร็จโดยที่ยังไม่ทันเห็นขอบเตียงด้วยซ้ำ
"ไอ้พราย..กูเตือนมึงแล้วนะ ทำงานโว้ยยยยยย"
"เออ กูรู้แล้ว"
เหมือนว่าพ่อหมอร่างสูงก็จะรำคาญคู่หูหนุ่มล่ำที่คอยตะโกนเตือนมาครั้งแล้วครั้งเล่า
"แปปเดียวเสร็จ"
เขาพูดด้วยนำเสียงราบเรียบพร้อมกับเหลือบมามองเธอซึ่งแน่นอนว่าคราวนี้ลัดดารีบเบือนหน้าหนีทันทีเธอไม่กล้าสบตาเขาอีกแล้ว ชายร่างสูงในเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์เดินไปทางครัวด้วยท่าทางสบายๆราวกับจะไปเปิดน้ำในตู้เย็นกิน ส่วนตอนนี้น้องชายของเธอกำลังนั่งยองๆคุ้ยขยะกินอยู่บนเคาท์เตอร์ครัว
มือซ้ายถือถังมือขวาหยิบขยะเข้าปาก ทั้งเศษอาหารเปลือกผลไม้และอื่นๆสุดแต่จะล้วงเจออะไร เรียกได้ว่ากินไม่เลือก เด็กชายผมรองทรงสูงหน้ากลมออกเชื้อจีนคล้ายเธอ ลัดดามองน้องชายตัวเองที่ตอนนี้ผิดปกติขั้นสุดจากนั้นก็มองด้านหลังขอหมอผีร่างสูงที่เธอจ้างมาในราคาแพงและต้องจ่ายมากกว่าเงิน เธอได้แต่หวังว่าเขาจะมีดีมากกว่าอาคมที่ใช้เชิงชู้สาวเท่านั้น
ร่างสูงหน้าหวานใช้มือซ้ายหยิบกระทะเชฟร่อนขนาดเหมาะมือขึ้นมาถือไว้ ซึ่งลัดดามั่นใจว่าเขาไม่ได้จะเอามันไปประกอบอาหารแน่
ผั้วะ !! พอเข้าถึงระยะก็ฟาดโดยไม่ลังเล
ป่องไม่ใช่คนร่างใหญ่อะไรนักร่างเล็กนั้นหงายท้องร่วงลงจากเค้าท์เตอร์ทันทีแต่ก็ยังไว้ลายของอาถรรพ์ร้ายที่สิงอยู่ในตัวมันแยกเขี้ยวขู่คำรามเสียงดังด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวผิดมนุษย์มนา
ฮื่อออ...กรี๊ดด...กึกๆๆๆๆ ...!!
มันเป็นเสียงขู่ของอะไรบางอย่างดังก้องสะท้อนในห้องครัวและมันไม่ใช่เสียงจากสัตว์ แต่เหมือนเสียงจากอะไรบางอย่างที่เคยมีชีวิต ตอนแรกเป็นเสียงแหบต่ำในลำคอก่อนที่จะกลายเป็นเสียงแหลมสูงจนเหมือนจะทะลุแก้วหูพร้อมด้วยอาการกระโดดสี่ขากระทืบพื้นอย่างไม่พอใจ มันแยกเขี้ยวหันซ้ายหันขวาพยายามมองหาสิ่งที่ทำร้ายมัน
ผัวะ!!!!
หน้าแข้งแบบเน้นๆประเคนเข้าที่กลางลำตัวจนมันกระเด็นไปติดเค้าท์เตอร์ และก็อีกผัวะ!!!หน้าแข้งซ้ายข้างเดิมซ้ำมาอีกครั้ง
แต่มันก็อึดเหลือทนมันผลักตัวขึ้นยืนและแยกเขี้ยวคำราม แต่เหมือนพ่อหมอหน้าหวานจะรอจังหวะนี้อยู่แล้ว เขายิ้มมุมปากนิดนึงก่อนที่ฝ่าเท้างามๆจะย่ำเขาที่ใบหน้าของครึ่งคนครึ่งลิง
"ป่อง พี่ ขอ โทษ"
ลัดดาพูดได้แค่นี้จริงๆ
เธอจ้างเขามาในราคาสามหมื่นบาทรวมเรือนร่างเพื่อมากระทืบน้องชายตัวเอง บางทีถ้าแบบนี้จ้างวินหน้าหมู่บ้านจะถูกกว่าด้วยซ้ำแถมไม่ต้องเสียตัวด้วย
ตอนนี้เธอได้แต่ภวานาให้ผีห่าที่สิงในน้องเธอนั้นออกไปซะ ไม่งั้นน้องชายเธอคงอ่วมตีนแน่นอน
แต่แล้วพรายหน้าหวานก็ได้ทำสิ่งที่คู่ควรกับคำว่าหมอผี เขาใช่เข่าสองข้างกดที่ไหล่ของลิงผีในร่างเด็กมอปลาย มือซ้ายล้วงกระปุกขี้ผึ้งแล้วจี้ลงหน้าผากของลิงผีในร่างคน พร้อมร่ายคาถาราคาสามหมื่นบาทบวก
“นะมะหะเวทัง ปิตาปิสาจัง วิปปะชะยันตุ อักขะระมัตถัง วิสุทธิกัมมัง ปะวัตตันตุ
นิสสังสัยัง ภูตะพาเณนะ วิปะเรตานัง ตัมหิ ฐาเน อันตะระธายะ อัตตะโน วาสัง คัจฉันตุ
พุทธะคุณัง ธัมมะคุณัง สังฆะคุณัง ปะติฏฐิตัง สัพพะทุกขา วินาสันตุ
สัพพะอัปปะมังคะลา วินัสสันตุ สัพพะภะยัง วินาสันตุ
สัพพะโรคา วินาสันตุ”
ตามมาด้วยเสียงดังฟู่.....พร้อมกับควันจางๆที่พุ่งออกทางหูตาจมูกปากและหน้าผากตรงที่นิ้วโป้งจี้อยู่
พ่อหมอหน้าหวานหันมายักคิ้วให้เธอเพื่อแสดงให้เห็นถึงฝีมือปราบผีอันร้ายกาจ ตอนนี้น้องชายเธอนอนแน่นิ่งไปแล้วถึงเธอจะไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอาคมหรือหน้าแข้งก็ตาม
พรายร่างสูงลุกขึ้นยืนแล้วถอดเสื้อยืดออกเผยให้เห็นกล้ามและรอยอักขระที่มีพอประมาณ ใบหน้าหวานนั้นบุ้ยไปทางห้องนอนเธอเพื่อย้ำเตือนว่า
ถึงเวลาต้องจ่ายค่าจ้างแล้ว
..................................................................
บนเตียงนอนขนาดสามฟุตครึ่งซึ่งมันเป็นเตียงที่เหมาะกับการนอนคนเดียวแต่ถ้าจะทำกิจกรรมอย่างอื่นก็พอไหว ผ้าปูที่นอนสีชมพูบนเตียงอันฟูนุ่มและผ้าห่มสีเดียวกัน ลัดดาสาวหมวยผิวเปล่งปรั่งขาวเนียนไร้อาภรณ์ปิดกายนางซุกตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนนั้น แสงไฟเหลืองอ่อนจากโคมไฟทรงลมที่หัวเตียงเผยให้เห็นใบหน้ากลมที่กำลังกลั้นยิ้ม
พรืด.. นางเผลอหลุดขำออกมาอย่างเสียมารยาทหน่อยๆ
บริเวณอีกฝั่งของเตียง ชายหน้าหวานกำลังนั่งกุมขมับหันหลังให้ลูกค้าสาว ใบหน้าหวานหล่อเหลานั้นกลัดกลุ้มครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างหนักหน่วง
"ฮ่าๆ พรืด...." ลัดดาหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้งแล้วพูดต่อ
"พี่คาดหวังกับเรามากนะพราย
มีแต่คนบอกว่าเราเด็ดอย่างนั้นอย่างนี้ พี่ก็เลยคาดหวัง"
จากนั้นก็มีเสียงกลั้นหัวเราะก่อนที่จะพูดอีก
"แต่.....ทำไมน้องชายเรามันปวกเปียกเหลือเกิน ไม่ใช่ซิไม่ใช่ปวกเปียกแต่ใช้การไม่ได้เลยต่างหาก"
และนี่เองเป็นเหตุที่ทำให้พ่อหมอหน้าหวานนั่งกลัดกลุ้มจนไม่กล้าหันไปสู้หน้าลูกค้าสาว เขาคิดอย่างไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรกับน้องชายของเขากันแน่
ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฮี่ ๆ ๆ ๆ ๆ...............
ในระหว่างที่คิดหาคำตอบก็มีเสียงหัวเราะที่แหลมก้องและกังวาลดังขึ้นด้านหลังเขา มันดังขึ้นเรื่อยโดยไม่ยอมหยุด จนเขาเริ่มสงสัยว่าลูกค้าหน้าหมวยจะมีความสุขอะไรได้ขนาดนั้น
อย่างน้อยเขาก็พึ่งช่วยครอบครัวเธอไว้จึงหันกลับไปด้วยความโมโห
แต่สิ่งที่ได้เห็นกลับเป็นลัดดานอนเล่นโทรศัพท์หันหลังให้เขาอยู่
ฮี่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงหัวเราะอันเย้ยหยันดังขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้เขารู้แล้วว่ามันดังขึ้นอยู่ในหัวเขาเพียงลำพังและก็รู้ด้วยแล้วว่าเป็นเสียงของใคร และก็พร้อมกับที่เขาคิดได้
เสียงตะโกนจากนอกบ้านก็ดังมาอีกครั้ง
"กูบอกมึงแล้วจะถูกแม่หยาลงโทษ ฮ่า ๆ ๆ"