bc

Twisted Embrace อ้อมกอดที่บิดเบี้ยว

book_age18+
24
FOLLOW
1K
READ
family
HE
opposites attract
drama
tragedy
like
intro-logo
Blurb

ในโลกนี้... ไม่มีอะไรอันตรายไปกว่าอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความรักแคท เติบโตมาภายใต้การดูแลของ มากาเร็ต แม่ผู้รักเธอมากเกินกว่าใครจะจินตนาการได้ในสายตาของผู้คนรอบข้าง แคทคือหญิงสาวที่โชคดี ที่มีแม่ผู้คอยปกป้องและห่วงใยทุกฝีก้าวแต่ใครจะรู้ว่า… เบื้องหลังรอยยิ้มของแม่ มีบางสิ่งที่ บิดเบี้ยวและผิดปกติอย่างน่ากลัว เมื่อแคทพบรักกับ แดเนียล ชายหนุ่มผู้เปรียบเสมือนแสงสว่างในชีวิตของเธอมากาเร็ตก็ยังคงเป็นแม่ที่ดี  ยินดีกับความสุขของลูกสาวจนกระทั่ง... ทุกสิ่งรอบตัวแคทเริ่มพังทลายเพื่อนสนิทของเธอค่อย ๆ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยข้อความลึกลับและคำโกหกที่ถูกกระซิบผ่านเงามืดอ้อมกอดของแม่ที่เคยอบอุ่น กลับกลายเป็นกรงขังที่ไร้ทางออก และเมื่อประตูห้องใต้ดินเปิดออก... แคทก็ได้พบกับ ความจริงที่เกินกว่าฝันร้ายใด ๆ จะจินตนาการถึง "Twisted Embrace" จะนำคุณเข้าสู่โลกที่ ความรักกลายเป็นพันธนาการและอ้อมกอดที่ควรให้ความปลอดภัย กลับเป็นกับดักที่รัดแน่นจนหายใจไม่ออก เมื่อทุกก้าวย่างของชีวิตถูกควบคุมเมื่อความรักกลายเป็นกับดักที่ไม่อาจหลบหนีและเมื่อ แม่ คือคนสุดท้ายที่เธอควรไว้ใจ คุณพร้อมหรือยัง... ที่จะสัมผัสกับ อ้อมกอดที่บิดเบี้ยว และค้นพบความจริงที่อาจทำให้คุณไม่กล้า หันหลังกลับไปมองใครอีกเลย เปิดหนังสือเล่มนี้แล้วคุณอาจพบว่า…อ้อมกอดที่คุณเคยคิดว่าปลอดภัยที่สุด อาจกลายเป็น ฝันร้ายที่ไม่มีวันสิ้นสุด

chap-preview
Free preview
บทที่1 รักที่มีแต่แม่
แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างของคอนโดหรูแห่งหนึ่ง แคทเธอรีน ฮอลโลเวย์ หญิงวัย 40 ปี ยืนอยู่หน้ากระจก มองเงาสะท้อนของตัวเอง เธอประสบความสำเร็จในชีวิต มีบ้าน มีเงิน มีงานที่มั่นคง ชีวิตของเธอเป็นไปตามที่แม่คาดหวังทุกอย่าง “ลูกของแม่เก่งที่สุด” เสียงของมากาเร็ต ฮอลโลเวย์ยังคงอบอุ่นเสมอ มากาเร็ตเป็นทุกอย่างของเธอ แม่ผู้เสียสละ แม่ผู้ยอมลำบากเพื่อเลี้ยงเธอมาเพียงลำพัง ตั้งแต่จำความได้ เธอกับแม่ก็มีแค่กันและกันเสมอ อดีตที่ยากลำบาก มากาเร็ตเป็นหญิงแกร่ง ทำงานเป็นแม่บ้านพาร์ทไทม์ รับจ้างทำความสะอาดบ้านคนอื่น เพื่อหาเลี้ยงลูกสาวตัวน้อย เธอจำได้ดีว่า แม่เหนื่อยแค่ไหน “แคท วันนี้แม่ได้เงินมาไม่มากนะ เราต้องประหยัดอีกวัน” แคทพยักหน้ารับเสมอ ไม่เคยบ่นหรือเรียกร้องอะไร เธอเข้าใจว่าแม่ทำดีที่สุดแล้ว ความทรงจำเกี่ยวกับขนมปัง ครั้งหนึ่งตอนอายุ 9 ขวบ แคทเดินผ่านร้านขนมปัง ได้กลิ่นหอมโชยออกมาจากหน้าร้าน เธอหยิบเงินเหรียญสุดท้ายซื้อขนมปังชิ้นหนึ่ง พอได้กัดคำแรก... รสชาติหอมหวานละมุน มันเป็นสิ่งที่อร่อยที่สุดที่เคยกิน เธอรีบกลับบ้านด้วยความตื่นเต้น รีบบอกแม่ว่า “แม่! แม่ต้องลองขนมนี้นะ! อร่อยมากเลย!” เธออยากให้แม่ได้ลอง อยากให้แม่ได้ชิมรสชาติที่เธอเพิ่งค้นพบ และเพราะยังเป็นเด็ก เธอเสนอขึ้นมาด้วยความไร้เดียงสา “แม่... ทำไมแม่ไม่ลองทำขนมแบบนี้ขายล่ะ?” เธอแค่คิดว่า ถ้าแม่ทำขายได้ เราจะได้กินขนมนี้ฟรีทุกวัน แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นสิ่งที่เธอไม่คาดคิด…แม่ร้องไห้ มากาเร็ตสะอื้นไห้ เธอลูบหัวลูกสาวเบาๆ แล้วพูดว่า “แม่มันโง่ แคท... แม่ขอโทษที่หาเงินให้ลูกไม่ได้ แม่ขอโทษ...” วันนั้นแคทไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงร้องไห้ แต่เธอเรียนรู้ว่า... อย่าพูดอะไรที่ทำให้แม่เสียใจอีกเลย วัยเรียนที่แสนหนักหนา เมื่อแคทโตขึ้น เธอรู้ว่าการเงินในบ้านเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้เสมอ ตอนอยู่มัธยม เธอใช้เงินกู้เพื่อการศึกษา แต่แทนที่จะใช้จ่ายเพียงค่าเล่าเรียน เงินบางส่วนต้องถูกแบ่งมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน “เราต้องเอาเงินมาก่อน แคท เดี๋ยวค่าเทอมค่อยหาทางทีหลัง” แต่ไม่ว่าจะลำบากยังไง แม่ก็ไม่เคยให้ แคทอดอยาก บางครั้งแม่ก็ไปหาเพื่อนบ้าน ให้เขาใช้ซักผ้า ช่วยงานเขาเพื่อแลกกับอาหาร บางมื้อ ซึ่งเพื่อนบ้านก็ใจดีเรียกไปกินข้าวอยู่บ่อยครั้ง ทำให้แม่กับลูกสามารถประหยัดเงินได้มากเลยทีเดียว มีอยู่ครั้งหนึ่งแม่ทำกับข้าวไว้บนโต๊ะ แคทนั่งรอกินข้าว แต่แม่ก็ไม่มา เพราะแคทเดินไปหาแม่ที่บ้านเพื่อนบ้าน กลับเจอแม่นั่งกินข้าวกับเขา ทำให้แคทโกรธแล้วกลับมาร้องไห้ จนแม่ต้องมาขอโทษแล้วปรับความเข้าใจกันว่าที่แม่ไปกินข้าวกับเขาเพราะต้องการให้แคทกินกับข้าวที่บ้านอิ่ม แล้วมีเหลือไว้กินสำหรับมื้ออื่น เธอไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองขาดอะไร เพราะเธอรู้ว่าแม่อยู่ตรงนี้เสมอ เกือบไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย เมื่อจบมัธยม แคทเกือบไม่ได้เรียนต่อ “ แคท ทำไงล่ะลูก แม่ไม่มีเงินเลย ถ้าเราไม่มีเงิน แคทมาเป็นแม่บ้านเหมือนแม่มั้ย “ คำพูดนั้นทำให้แคทร้องไห้ แทบทั้งวันทั้งคืน เธอไม่มีเงินส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัย แต่โชคดีที่มีคนรู้จักให้ยืมเงิน เธอจึงได้เข้าเรียน เธอเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่การเรียนของเธอเต็มไปด้วยความกดดัน เธอไม่ได้เรียนเพราะอยากมีความรู้ แต่เพราะต้องรีบจบ รีบทำงาน รีบหาเงิน “ แคทเรียนสนุกไหมลูก ตั้งใจเรียนนะไม่ต้องคิดมากเรื่องเงิน ขาดเหลืออะไรให้บอกแม่ แม่จะหามาให้จนได้ แม่รักลูก ทั้งชีวิตของแม่มีแต่ลูก “ “ หนูจะตั้งใจเรียนนะคะแม่ จะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง อยากเรียนจบเร็วๆ จะได้เลี้ยงแม่ “ ในช่วงที่แคทอยู่ในโรงเรียน เธอมักจะจับตาดูข่าวสารธุรกิจและแนวคิดใหม่ ๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เธอเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าเสมอด้วยความอยากรู้ เมื่อซื้อเสื้อผ้าชิ้นใหม่ เธอจะตั้งคำถามกับเจ้าของร้านว่า “สินค้าชิ้นนี้มาจากไหน? เริ่มต้นอย่างไร?” เธอจดบันทึกทุกคำตอบไว้ในสมุดเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋า เปรียบเสมือนการสะสมเมล็ดพันธุ์ของความคิดที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น แคทรู้ดีว่าเธอมีความฝันที่จะสร้างธุรกิจของตัวเอง แม้ในช่วงเวลานั้นเธอยังไม่มีทุนและไม่มีผู้ร่วมทีม เธอเพียงแต่เก็บข้อมูลและศึกษารายละเอียดของสินค้าทุกชิ้นที่เธอพบเจอ หวังว่าวันหนึ่งเธอจะได้ใช้ความรู้เหล่านี้มาเปลี่ยนแปลงชีวิต แต่ความเป็นจริงกลับมาบอกเธอว่า แม้ความตั้งใจและความขยันหมั่นเพียรจะมีมากแค่ไหน หากไม่มีทุนและการสนับสนุน เธอก็ยังคงต้องอยู่กับความฝันที่ยังไม่สามารถกลายเป็นจริงได้ ในที่สุด แคทต้องยอมรับว่าเส้นทางธุรกิจนั้นไม่ง่ายสำหรับคนที่เดินคนเดียวโดยปราศจากทรัพยากร เธอเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ด้วยความภาคภูมิใจในตัวเอง แม้ว่าในเวลานั้นเธอไม่อาจนำมันไปสู่การปฏิบัติได้ แต่เธอก็มั่นใจว่าความรู้ที่สะสมไว้จะเป็นแสงสว่างให้เธอในวันหนึ่ง วันนั้นที่ความพยายามของเธอจะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ ที่แท้จริงในชีวิต. เธอเชื่อว่า เมื่อจบออกไป ชีวิตจะดีขึ้นและเธอก็เรียนจบคณะพยาบาลศาสตร์ พยาบาลที่ทำงานหนักเพื่อสร้างชีวิต หลังจากเรียนจบ พยาบาลศาสตร์ แคทได้งานที่ โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ในฐานะพยาบาลวิชาชีพ เงินเดือนเริ่มต้น ไม่ถึงสองพันปอนด์ต่อเดือน (~ไม่กี่หมื่นบาท) ซึ่งแทบไม่พอสำหรับชีวิตในเมืองใหญ่ แต่แคทไม่เคยหวังให้ชีวิตง่าย เธอรู้ว่าหากต้องการอนาคตที่มั่นคง เธอต้อง ทำงานหนักขึ้น “ อดทนนะแม่ หนูทำงานแล้ว หนูจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น “ “ แค่นี้ แม่ก็ดีใจแล้วลูก อย่าหักโหมนะลูก แม่เป็นห่วง “ เธอเริ่ม ขึ้นเวรดึก เวรเช้า เวรต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ค่าล่วงเวลา เงินที่หามา เธอไม่ได้ใช้ฟุ่มเฟือยเลยสักนิด ทุกบาททุกสตางค์ถูกจัดสรรให้กับสองสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ แม่ – เธอส่งเงินกลับบ้านทุกเดือน แม้ว่าแม่จะไม่ได้ร้องขอ แต่เธอรู้ว่าแม่ต้องการมัน บ้านหลังแรก – หลังจากทำงานได้ 1 ปี เธอใช้เงินเก็บ ดาวน์บ้านหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่ง เป็น บ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล “แม่... หนูซื้อบ้านแล้วนะ!” “จริงเหรอลูก? แม่ภูมิใจในตัวลูกที่สุดเลย” มากาเร็ตพูดเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอเบ้า แคทรู้ว่าบ้านหลังนี้ ไม่ใช่แค่ความฝันของเธอ แต่มันคือสิ่งที่แม่อยากให้เธอมีมาตลอด ช่วงกลางอาชีพ:การทำงานหนักและการต่อสู้เพื่ออนาคต แคทยังคงทำงานพยาบาลต่อไป เธอรู้ว่า เงินเดือนจากการเป็นพยาบาลเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เธอไปไกลกว่านี้ได้ เธอเริ่มมองหา “ช่องทางทำธุรกิจ” ทุกวันที่ทำงานในโรงพยาบาล เธอเห็น ผู้สูงอายุจำนวนมากที่ต้องการการดูแล หลายคน ไม่มีครอบครัว หรือมีลูกที่ทำงานยุ่งจนไม่มีเวลามาดูแลพวกเขา เธอเริ่มคิดว่า... “ถ้าฉันสามารถดูแลพวกเขาได้แบบที่ฉันดูแลคนไข้ในโรงพยาบาลล่ะ?” ช่วงอายุ35 : การเริ่มต้นธุรกิจบ้านพักผู้สูงอายุ หลังจากทำงานพยาบาลมานานกว่า 15 ปี เธอตัดสินใจ เปิดบ้านพักผู้สูงอายุ เป็นของตัวเอง บ้านหลังแรกที่เธอซื้อ ถูกรีโนเวทเป็นสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ เธอไม่ได้มองว่ามันเป็นแค่ธุรกิจ แต่มันคือ “บ้าน” สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการความอบอุ่น ภาพของบ้านพักผู้สูงอายุของแคท บ้านพักของเธอเป็นสถานที่เงียบสงบ ตกแต่งในโทนอบอุ่น มีสวนเล็ก ๆ สำหรับให้ผู้สูงอายุได้นั่งเล่นรับแดดอ่อน ๆ พนักงานของเธอประกอบไปด้วย พยาบาลที่คอยดูแลเรื่องสุขภาพ นักกายภาพบำบัดสำหรับการฟื้นฟู เจ้าหน้าที่ดูแลที่ช่วยอำนวยความสะดวก กิจวัตรประจำวันในบ้านพัก ช่วงเช้า – มีกิจกรรมออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ หรือการเดินเล่น ช่วงกลางวัน – มื้ออาหารที่จัดอย่างดี มีโภชนาการครบถ้วน ช่วงบ่าย – มีกิจกรรมเสริม เช่น วาดภาพ ฟังเพลง อ่านหนังสือ ช่วงเย็น – พยาบาลจะคอยตรวจสุขภาพ และช่วยเหลือด้านยา ความรู้สึกของแคทที่มีต่อธุรกิจนี้ แม้ว่าเธอจะไม่ต้องขึ้นเวรหนักแบบเมื่อก่อนแล้ว แต่เธอยังทำงาน ดูแลคนสูงวัยด้วยใจ เธอเดินตรวจบ้านทุกวัน คอยพูดคุยกับลูกค้า และใส่ใจทุกรายละเอียดเหมือนที่เคยทำกับแม่ “ฉันดูแลพวกเขา เหมือนที่ฉันดูแลแม่” แม้แม่ของเธอจะยังอยู่ แต่เธอรู้ดีว่า วันหนึ่งแม่อาจจะต้องการสถานที่แบบนี้เช่นกัน เธอไม่เคยลืมว่า เพราะแม่ เธอถึงมาไกลได้ขนาดนี้ ปัจจุบัน: ฐานะดีขึ้น และคำสัญญาที่เธอไม่เคยลืม ตอนนี้แคท อายุ 40 ปี เธอมีทุกอย่างแล้ว บ้าน รถ เงินทอง “ลูกทำได้แล้วนะ แคท แม่ภูมิใจในตัวลูกที่สุด” มากาเร็ตมักพูดแบบนี้เสมอ ทุกครั้งที่เธอซื้อของมาให้แม่ ทุกครั้งที่เธอพาแม่ไปทานอาหารดี ๆ แม่จะยิ้มอย่างมีความสุข เธอทำให้แม่มีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว เธอรู้ว่า สิ่งที่เธอทำคือการตอบแทนแม่ และเธอก็ไม่เคยลืมคำที่แม่พูดเสมอ... “ลูกเกิดมาเพื่อแม่ เรามีกันแค่สองคน ถ้าลูกทิ้งแม่ไป... แม่จะอยู่ยังไง?” “ แม่จำไว้นะ หนูไม่มีวันที่จะทิ้งแม่ เราจะอยู่ด้วยกัน ตลอดไป “

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ผี-ซ่อน-ศพ

read
1K
bc

พิษรักร้าย (Toxic Love)

read
92.8K
bc

The Feline Diamond เพชรแมวลวง

read
1K
bc

ห้อง(ไม่)ว่างให้เช่า

read
1K
bc

สาปเคหาสน์

read
1K
bc

เถ้ารักสีกุหลาบ

read
1K
bc

เรือนแค้นรัก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook