วันที่ 26
“เห้อ...”
“นั่งถอนหายใจอยู่ได้นะทิชา”
“ก็ฉันไม่อยากกลับนี้หน่า”
“ลาออกแล้วมาหางานทำที่ไทยดีมั้ย”
“ที่ตลาดแกยังว่างสักตำแหน่งมั้ยล่ะ”
“ระดับแกซะอย่าง ต่อให้ไม่ว่างฉันก็จะรับ”
“โอเคดีล” เพื่อนสาวช่วยกันแพคกระเป๋าเดินทางให้ทิชา
สองอาทิตย์ผ่านไปไวจัง อีกแค่สองวันเพื่อนคนเดียวที่เธอเหลือก็จะไม่อยู่ใกล้ๆ อีกแล้ว
“ฉันไม่อยู่แล้วแกจะคุยกับใคร”
“ก็ไม่เห็นต้องคุยกับใคร แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบวุ่นวายกับใครอยู่แล้ว”
“แต่แก! จะไหวเหรอ”
“ไหวสิ! ผ่านมาตั้งขนาดนี้แล้วนะเว้ย พ่อตายฉันยังผ่านมาได้ กะแค่เพื่อนบินไปทำงานที่ต่างประเทศแค่นี้เองนะ”
หมับ!
“หมวย...” ทิชาโผล่กอดเพื่อนรัก
หมวยรู้ดีว่าทิชาไม่ได้หมายความถึงเรื่องที่เธอบินกลับไปทำงานที่แคนนาดาแต่หมายความว่าเธอจะอยู่ยังไงในช่วงรอวันหย่าตามลำพังต่างหาก
ไม่มีใครที่หมวยสามารถปรับทุกข์ได้อีกแล้ว
“แก...อย่าทำแบบนี้สิ” หมวยพยายามหักห้ามอารมณ์เศร้า
เธอต้องเข้มแข็งเท่านั้นและเข้มแข็งอย่างเดียว ไม่มีพื้นที่ให้ความอ่อนแอเข้ามาแทรก
“ตอนที่ฉันเศร้าฉันมีแกเคียงข้างตลอด”
“เอาน่า...ถ้าฉันไม่ไหวจริงๆ ฉันจะโทรหาแกแล้วกันนะ” หมวยเป็นฝ่ายปลอบใจทิชา
เพื่อนคนนี้มีเรื่องให้เสียใจไม่กี่อย่าง เช่นเกรดตก ถูกพ่อแม่ว่าและก็อกหักเลิกกับแฟนเท่านั้นแหละ การที่หมวยอยู่ข้างๆ ทิชาในยามที่เธอเศร้าก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
วันที่ 27
“อเมริกาโน่ร้อนเพิ่มช็อตค่ะ”
“ได้เลยครับคุณวิรรร”
“ชลก็...” วิรรรเป็นอีกหนึ่งลูกค้าขาประจำที่แวะมาซื้อกาแฟทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์
วันนี้เองก็นัดเด็กๆ มาติวที่คาเฟ่นี้ เพราะบรรยากาศดีแถมเจ้าของร้านก็น่ารักเสมอ
“เดี๋ยวผมไปเสิร์ฟที่โต๊ะนะครับ”
“ก็ได้ค่ะ” วิรรรมองหาโต๊ะว่างๆ วิวดีๆ และสายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่นั่งจิบกาแฟไปด้วยเล่นมือถือไปด้วยคนนั้น
ที่คาเฟ่ของสายชลมีมุมหนึ่งไว้นั่งมองบรรยากาศด้านนอกที่จำลองเป็นสวนสีเขียวขนาดย่อมและมีธารน้ำตกสายน้อยๆ
บอกได้เลยว่ามุมนั้นเป็นมุมที่ดูดีที่สุดของร้านในตอนนี้เลยก็ว่าได้
“ตรงนี้ว่างมั้ยคะ”
“เชิญครับ” ชายหนุ่มคนนั้นละสายตาจากหน้าจอเพราะถูกรบกวนจากนั้นเขาก็ผายมือไปที่เก้าอี้ตัวว่างๆ
เขาเองก็กลายมาเป็นลูกค้าประจำเช่นกันและชอบที่ตัวเจ้าของร้านไม่ต่างกับวาวาเลย
“ไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลย เพิ่งมาครั้งแรกเหรอคะ”
“ถ้ามีโอกาสก็จะมาบ่อยๆ ครับ คุณมาบ่อยเหรอ”
“ค่ะ วาเพิ่งจะเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ ก็เกือบเดือนแล้วมั้งค่ะ”
“อ้อ เหรอครับ” ชายหนุ่มตอบรับเท่านั้น
เธอไม่ใช่คนที่เขาตามหาและก็ไม่มีอะไรอยากรู้เกี่ยวกับเธอแล้ว
พฤกษ์อาศัยมานั่งร้านสายชลเพื่อสังเกตการณ์ หมวยบอกว่าชลเป็นฝ่ายนอกใจและขอเลิกกับเธอก่อนจึงคิดว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะกำลังวนเวียนอยู่ในชีวิตของสายชลอยู่ด้วยตอนนี้
แล้วจะมีที่ไหนให้นั่งสังเกตการณ์ได้อีกในเมื่อวันๆ หนึ่งน้องเขยเอาแต่อยู่ที่คาเฟ่
“กาแฟได้แล้วครับคุณวาวา”
“ขอบคุณมากค่ะคุณสายชล” วาวาพูดจากับเจ้าของร้านอย่างสนิทสนมราวกับจะบอกอีกคนว่าเธอคุ้นเคยกับเขา
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยนะวาวาเอ๊ย...!!
“ชล! ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
“เฮียจะกลับแล้วเหรอ”
“อืม! ว่าจะแวะไปดูหมวยต่อ”
“โอเคครับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาตบบ่าสายชลเบาๆ แล้วก็ละตัวจากไป
“ใครเหรอชล” หนุ่มร่างใหญ่โต สูงกว่าสายชลมาก เขาดูมีเสน่ห์ร้ายกาจและท่าทางฤทธิ์เดชเยอะน่าดู
“เฮียพฤกษ์! พี่ชายหมวย” ผู้ชายที่วิรรรมานั่งด้วยก็คือพี่ชายของหมวยนั่นเอง
ไม่แปลกใจหรอกที่ใครๆ จะไม่รู้จักหน้าค่าตาพี่ชายของหมวย พี่น้องบ้านนี้ไม่สนิทกัน ขนาดเขาเองที่เป็นน้องเขยก็แทบไม่ได้เจอหน้าพฤกษ์
วันที่ 28
“อะแก”
“อะไรอีก”
“ของขวัญวันเกิดล่วงหน้า”
“เพื่อ...?” ทิชาหิ้วของฝากจากแคนนาดาให้หมวยหลายอย่างมาก ก่อนกลับก็ยังมีของขวัญวันเกิดอีกชิ้น
“ก็หลังวันเกิดแกมันก่อนวันหย่านี้หน่า...” ทิชาพูดอ้อมแอ้ม
ใครจะฉลองวันเกิดได้ในเมื่อวันต่อมาต้องไปหย่ากับผัว ถ้าการหย่าครั้งนี้หมวยเป็นฝ่ายเต็มใจที่จะหย่าเจ้าตัวก็คงไม่เศร้า
“แล้วไงล่ะแก นั่นก็หมายความว่าเรื่องนี้มันใกล้จะจบแล้วไง”
“ไม่ต้องเศร้านะหมวย...”
“อืม! จะวันเกิดหรือวันหย่ามันก็วันธรรมดาๆ วันหนึ่งแหลเนาะ มีค่าเท่ากัน มียี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากันไม่เห็นต่างกันตรงไหนเลย” คนพูดพยายามไม่เศร้าทั้งที่เศร้าโคตรๆ
เธอเอาสมาธิทั้งหมดจดจ่อกับวันที่ต้องไปเซ็นเอกสารลงนามการหย่าจนลืมไปว่าก่อนหน้านั้นคือวันเกิดอายุครบยี่สิบเก้า
“เดี๋ยวฉันส่งตัวแทนมาฉลองด้วยเอามั้ย”
“ใคร”
“พี่ทัศน์ไง”
“โอ๊ยแก! ไม่เอาหรอก” หมวยไม่ได้สนิทกับทิวทัศน์จนถึงขั้นมานั่งฉลองวันเกิดด้วยกัน แล้วมันก็แปลกๆ อยู่นะที่จะนั่งเป่าเทียนวันเกิดกับทิวทัศน์สองคน
“ดีกว่านั่งเหงาคนเดียวนะเว้ย”
“ไม่เหงาหรอกน่ะ จริงๆ” เพราะความรู้สึกในวันนั้นคงไม่ใช่อารมณ์เหงาแน่ๆ
สนามบิน
“เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ ยายอ้วนจอมคลั่งหมูปิ้งของพี่”
“พี่ทัศน์! ยังไม่เลิกแกล้งน้องอีกนะ”
“โอ๋ๆ โชคดีนะทิชา ถึงแล้วส่งข้อความหาพี่ด้วย”
“โอเค” หมวยปล่อยให้สองพี่น้องร่ำลากันและการเดินทางกลับไปทำงานที่ต่างประเทศคราวนี้ก็มีพ่อแม่พร้อมญาติๆ มาส่งทิชาเหมือนเช่นเคย
ในฐานะคนนอกอย่างเธอก็ได้แต่ยืนอยู่ห่างๆ เพราะไม่อยากเข้าไปขัดเวลาของเหล่าบรรดาสมาชิกในครอบครัวของเพื่อน
“หมวย...”
“อืม...”
“ฉันฝากดูแลพี่ทัศน์ด้วยนะ”
“ฮะ” หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อทิชาฝากฝังพี่ชายไว้กับเธอให้ดูแลส่วนเจ้าตัวดุน้องสาวแก้เขิน
“พูดอะไรน่ะเรา”
“ก็ทำหน้าที่เป็นแม่สื่อให้ไง”
“ยายหมู” ทิวทัศน์เอ็ดน้องสาว
ดูท่าทิชาจะเป็นใจเปิดทางให้ทิวทัศน์เดินหน้าจีบหมวยได้เต็มที่
“นั่นสิแก! พูดเล่นอะไรไม่เข้าท่าเลยนะ”
“ฉันพูดเล่นซะที่ไหนล่ะ พี่ทัศน์เขาน่ะชอบ...” ทิชามองหน้าพี่ชายแต่ทิวทัศน์ส่งสัญญาณห้ามไว้ เวลานี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไรที่จะเปิดตัวว่าเขาเริ่มสนใจหมวย
“อะๆ ชี้ช่องให้แล้วไปสานต่อเองแล้วกันนะพี่ทัศน์”
“ยัยหมู” ทิวทัศน์ขยี้หัวน้องสาว
เขาเอ็นดูในความน่ารักและเก่งรอบด้านของหมวยแต่ก็ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะจีบมาเป็นแฟนสักหน่อย ค่อยๆ ศึกษาเรียนรู้นิสัยใจคอกันไปเรื่อยๆ หากทุกอย่างมันลงตัว เขาก็ไม่ได้รังเกียจที่หมวยเคยผ่านแต่งงานมาแล้ว
หากเราคือเนื้อคู่กันและกันจริงเดี๋ยวธรรมชาติก็จัดสรรให้เองแหละ ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบ คบหากันแบบพี่น้องก็ไม่ได้แย่และไม่อึดอัดใจต่อกัน เพราะถ้าหากสุดท้ายแล้วเราไม่สามารถไปต่อกันในฐานะแฟนได้
___________________
📍 #90วัน จากคน(เคย)รัก อัพตอนใหม่ทุกวันเวลา 20.00 น.
เรามานับถอยหลังไปด้วยกันนะคะ