หนังสือนิยายเรื่อง...EVAN KYLER
(เรื่องที่ 2 ของซีรีส์ 3 หนุ่มตระกูล ไคเลอร์)
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของผลงาน หากผู้ใดละเมิด จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้สูงสุด
คำเตือน!
นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน หากมีเนื้อหา ชื่อหรือสถานที่ไปตรงหรือพาดพิงกับผู้ใด มิวก็กราบขออภัยมา ณ. โอกาสนี้ด้วยนะคะ
ความเกี่ยวโยงของ 3 ซีรีส์
1 อเลกซานโดร ซานเดอร์ และ เชคาริก เบนเนโต้ ซี สองหนุ่มแห่งฟีนิกซ์ที่อายุมากสุด และเป็นที่นับถือของทุกๆ คนในสามกลุ่ม
2 อีเดน ไคเลอร์, แพททริกสัน โรคาซานเดอร์, แดเนียล (เสกสรร) ร็อฟเวลล์ และคาเรนเทีย บาร์เลนเซนต์ ทั้ง 4 หนุ่ม เป็นเพื่อนร่วมรุ่นและทำธุรกิจร่วมกัน
3 อีวาน ไคเลอร์, ออร์แลนโด้ โรคาซานเดอร์, คารอส (เพชรดนัย) ร็อฟเวลล์ และ คริสเตียนโน่ บาร์เลนไทน์ ทั้ง 4 หนุ่มเป็นเพื่อนร่วมรุ่นและทำธุรกิจร่วมกัน
4 เจคอป โรคาซานเดอร์ และ ไรอันต์ เบนเนโต้ ซี เป็นเพื่อนร่วมรุ่น และเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่ชอบแกล้งกันมาตั้งแต่เด็ก
5 เซน น้องเล็กเด็กที่สุดในสามกลุ่ม
(จะรันอายุตามของเรื่องที่เขียนนะคะ)
1 >>> ซีรีส์ อ้อมกอด 5 หนุ่ม R&R
1. พี่ใหญ่ของตระกูลโรคาซานเดอร์ แพททริกสัน อายุ 39 ปี
2. พี่รอง ออร์แลนโด้ อายุ 37 ปี
3. น้องเล็ก เจคอป อายุ 33 ปี (ยังไม่ได้แต่งงาน)
4. พี่ใหญ่ของตระกูลร็อฟเวลล์ แดเนียล (เสกสรร) อายุ 39 ปี
5. น้องเล็ก คารอส (เพชรดนัย) อายุ 37 ปี
2 >>> ซีรีส์ 3 พี่น้องตระกูล Kyler
1. พี่ใหญ่ของตระกูล อีเดน อายุ 39 ปี
2. พี่รอง อีวาน อายุ 37 ปี (ยังไม่ได้แต่งงาน)
3. น้องเล็ก เซน อายุ 25 ปี (เรียนปริญญาโท)
3 >>> ซีรีส์ 5 หนุ่มแห่ง Phoenix
Phoenix 1. Alexsandro Sander อายุ 41 ปี สูง 195 ซม. เจ้าของสายการบิน ซานเดอร์ แอร์ไลน์
Phoenix 2. Cristiano Barlentine อายุ 37 ปี 190 ซม. เจ้าของบ่อน้ำมันรายใหญ่ของตะวันออกกลาง
Phoenix 3. Ryan Bennato Z อายุ 34 ปี 193 ซม. เจ้าของบริษัทส่งออก-นำเข้ารายใหญ่
Phoenix 4. Chacarick Bennato Z อายุ 41 ปี สูง 191 ซม เจ้าของสโมสรฟุตบอลและเจ้าของสนามแข่งรถ
Phoenix 5. Carentia Barlensent อายุ 39 ปี สูง 192 ซม. เจ้าของบริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์รายใหญ่และมีหุ้นในกาสิโนอีกสิบแห่ง
EP. 1
เจ้ากรรมนายเวร
หมายเลข 1 และ 2
บริษัท Kyler Diamond
“ท่านประธานมาแล้ว!”
ทันทีที่ได้ยินเสียงของเพื่อนพนักงานดังแว่วเข้ามาในลิฟต์ เมลานี เด็กสาวอายุ 22 ปี สูง 165 น้ำหนัก 48 กิโลกรัม ใบหน้าจิ้มลิ้ม งดงาม ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม คิ้วสวยได้รูปรับกับจมูกที่โด่งนิดๆ ริมฝีปากอิ่มหยักสวยรูปกระจับ ผมยาวสีดำเงาถูกมัดรวบเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวเข้ารูปนิดๆ กับกระโปรงสีดำทรงเอเหนือเข่า และร้องเท้าคัทชูสีครีมอ่อน รีบกดจิ้มนิ้วรัวๆ ไปยังแป้นพิมพ์ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อให้ประตูลิฟต์ปิดลงและทยานขึ้นไปให้ไวที่สุด เพราะกลัวว่า...
“จะรีบไปไหน?” อีวาน ไคเลอร์ ในวัย 36 ปี บุตรชายคนรองของอีธานกับมาดามอังศนา สูง 190 เซนติเมตร น้ำหนัก 75 กิโลกรัม รูปร่างเพอร์เฟกต์สมบูรณ์แบบเฉกเช่นท็อปโมเดลระดับโลก ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม นิ่งขรึม ยากเกินจะคาดเดาอารมณ์ได้ ค่อยๆยกยิ้มที่มุมปากขึ้นนิดๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์อย่างรวดเร็ว ทันก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง
“เอ่อ...สวัสดีค่ะท่านประธาน พอดีดิฉันลืมของ...” เมลานียกมือไหว้อีกฝ่ายด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก เตรียมจะเอื้อมมือไปกดเปิดประตูลิฟต์ออก เพราะไม่อยากจะขึ้นลิฟต์ไปกับเขาสองต่อสอง
“เธอคิดเหรอว่าฉันจะยอมให้เธอออกไป” อีวานรีบขยับตัวเข้าไปยืนขวาง แล้วปล่อยให้ลิฟต์ทยานตัวขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตึกเช่นเดิม ก่อนจะดึงผู้ช่วยเลขาคนสวยเข้ามากอด
“ปล่อยค่ะ ที่นี่ที่ทำงาน” เมลานีเอ่ยเตือนและผลักร่างสูงที่พยายามจะซุกไซ้ต้นคอของเธอออก แถมมือของเขายังล้วงเข้าไปลูบๆ คลำๆ ที่ต้นขาด้านในอย่างไม่รู้จักอาย ดีที่ในลิฟต์ตัวนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่งั้นล่ะก็...เธอได้อับอายแน่ๆ
“หึ! ทำอย่างกับไม่เคยโดนฉันเอาในที่ทำงาน” อีวานต่อว่าพร้อมกับจ้องมองแม่กระต่ายน้อยที่ขยับตัวหนีไปอยู่ชิดติดผนังของลิฟต์ด้วยสายตาเหยียดๆ
“...” เมลานีได้ฟังก็ถึงกับสตั๊นไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาเช่นนี้ จะสามารถพูดจาหยาบคายออกมาได้หน้าตาเฉย
“อะไร พูดความจริงรับไม่ได้งั้นเหรอ?” อีวานเอ่ยเยาะคนที่ทำท่ารังเกียจตน ทั้งๆ ที่ก็ชอบในสิ่งที่ตนทำอยู่ทุกครั้ง
“อ๊ะ! อย่าค่ะบอส” เมลานีร้องห้ามอย่างตกใจที่อยู่ๆ ก็ถูกเขาดึงเข้าไปกอดอีกครั้ง
“วันนี้เธอใส่ชุดชั้นในสีอะไรมา” อีวานกระซิบถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่า
“อย่าค่ะ” เมลานีพยายามจะผลักร่างสูงให้ออกห่างอย่างใจคอไม่ดี เพราะมือของเขากำลังเลื้อยเข้าไปในใต้กระโปรงของเธออีกครั้ง
“เธอเคยห้ามฉันได้ด้วยเหรอเมล” อีวานถามอย่างรู้สึกขัดใจที่แม่กระต่ายน้อยผลักตนออกเป็นครั้งที่สอง
ติ้ง!
“สวัสดีค่ะบอส อ้าว! เมลก็ขึ้นลิฟต์มาด้วยเหรอ?” อรพิน เลขาใหญ่ วัย 41 ปี เอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ตกใจนิดๆ เพราะเจ้านายของเธอไม่รู้เป็นอะไร ช่วงหลังๆ มามักจะเก็บอาการไม่อยู่เอาซะเลย
“คือว่า...” เมลานีกำลังจะเอ่ยแก้ตัว แต่ก็ถูกพูดแทรกขึ้นซะก่อน
“เขาวิ่งตามผมเข้ามาในลิฟต์ครับคุณอร ช่วยตักเตือนให้หน่อยแล้วกัน” อีวานต่อว่าด้วยสีหน้านิ่งๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องทำงานของตัวเอง
“ค่ะ” อรพินขานรับเบาๆ อย่างแอบขำในใจกับท่าทีของผู้เป็นนาย ‘เฮ้อ...บอสนะบอส แสดงละครเก่งจริงๆ’
“สวัสดีค่ะบอส” ประภัสสร ผู้ช่วยเลขาสาว วัย 28 ปี รูปร่างหน้าตาดี แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าและของใช้แบรนด์เนม เป็นหญิงสาวที่มีระดับเพราะมาจากครอบครัวที่ฐานะร่ำรวย แถมมารดาก็ยังเป็นเพื่อนเก่าของมาดามอังศนา เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ท่านประธานใหญ่ด้วยรอยยิ้มหวานระรื่นเหมือนเช่นทุกวัน พยายามข่มความขุ่นมัวในใจเอาไว้ แม้ว่ามันแทบจะระเบิดออกมาก็ตาม
“สวัสดีครับ” อีวานรับไหว้ก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องทำงาน
คลิก!
ทันทีที่ประตูห้องทำงานของท่านประธานปิดลง ประภัสสรก็หันไปเล่นงานเด็กใหม่ด้วยสีหน้าเอาเรื่อง “นี่ไม่รู้หรือไงว่าห้ามพนักงานขึ้นลิฟต์มากับท่านประธาน”
“ป่าน! เธอเป็นแค่ผู้ช่วยเลขานะ กลับไปทำงานซะ” อรพินเอ่ยเตือนผู้ช่วยเลขาที่ไหนเลยเธอจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแอบชอบผู้เป็นนาย ถึงขั้นยอมมาสมัครงานเป็นผู้ช่วยเลขา เพื่อที่จะได้เจอะเจอและอยู่ในสายตาของผู้ชายที่แอบหลงรัก
“ค่ะคุณอร” ประภัสสรขานรับก่อนจะกลืนความเจ็บใจเอาไว้ข้างใน ‘หึ! รอฉันได้เป็นคุณนายไคเลอร์ก่อนเถอะ คนแรกที่ฉันจะจัดการไล่ออกคือแก อีอร!’
“เมลชงกาแฟไปให้บอสที” อรพินบอกพนักงานใหม่ ก่อนจะเดินไปหยิบเอกสารมาตรวจดูความเรียบร้อย
“เอ่อ...” เมลานีเหลือบมองผู้ช่วยเลขาคนเก่า ก่อนจะทำหน้าไม่ถูก เพราะอีกฝ่ายเคยเอ่ยย้ำกับเธอหลายครั้ง ว่าจะเป็นคนชงกาแฟไปให้ท่านประธานเอง
“ให้ป่านทำเถอะค่ะ” ประภัสสรหันไปบอกหัวหน้าอย่างร้อนรุ่มหัวใจ
“ทำไมไม่รีบไปทำงานตามที่ฉันสั่งกันฮะ” อรพินหันไปตอกกลับด้วยสีหน้าตึงๆ
“ค่ะ / ค่ะ” ประภัสสรกับเมลานีขานรับด้วยสีหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะรีบไปจัดการงานตามที่หัวหน้าสั่ง
5 นาทีต่อมา...
เมลานีที่ชงกาแฟเสร็จ ก็ยกใส่ถาดใบเล็กเข้าไปเสิร์ฟให้ท่านประธาน พร้อมกับยกมือขึ้นเคาะที่ประตูห้องเบาๆ
ก๊อกๆ
“เชิญ” คนที่อยู่ข้างในเอ่ยขานรับ
“กาแฟค่ะบอส อ๊ะ!” เมลานีเปิดประตูห้องออก แล้วรีบเดินเข้าไปด้านในอย่างไม่รอช้า ก่อนจะตกใจที่พอประตูห้องปิดลง ก็ถูกคนที่แอบซ่อนอยู่ จู่โจมด้วยการเข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง
“เธอเป็นของของฉัน” อีวานบอกพร้อมกับกดริมฝีปากของตัวเองลงที่ต้นคอของสาวเจ้าอย่างอดใจไม่ไหว
“...” เมลานีถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งเนื้อทั้งตัว จะดิ้นหนีหรือผลักไสก็ไม่ได้ เพราะถือถาดใส่กาแฟร้อนอยู่
อีวานยกยิ้มก่อนจะก้มลงหอมที่แก้มนวลเบาๆ ก่อนจะกลั้นใจผละออก แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตัวเอง พร้อมกับบอกกำหนดการของงานให้อีกฝ่ายทราบ “เดี๋ยวสิบเอ็ดโมงออกไปตรวจงานกับฉัน เตรียมตัวเอาไว้ด้วยล่ะ”
“ให้คุณป่าน...” เมลานีที่เดินตามไป แล้วยกแก้วกาแฟลงวางบนโต๊ะ กำลังจะขอเปลี่ยนตัว เพราะเธออึดอัดกับสีหน้าท่าทีของรุ่นพี่เป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่ออกไปคุยงานข้างนอกกับเขา หรือแม้กระทั่งชงกาแฟเข้ามาให้ที่ห้องทำงาน ก็มักจะมีเอฟเฟ็กต์กลับมายังเธอเสมอ
“ฉันจะพาเธอไปเอาที่เพนต์เฮาส์” อีวานบอกออกไปตรงๆ พร้อมกับจ้องมองใบหน้างดงามนิ่งอย่างเริ่มจะอารมณ์เสียขึ้นมานิดๆ
“ค่ะ” เมลานีขานรับเสียงอ่อนอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแกล้งอ้างว่าจะพาเธอไปคุยงานข้างนอก แต่จริงๆ แล้วเขาจะพาเธอไปทำเรื่องอย่างว่าที่เพนต์เฮาส์ของตัวเอง
“ออกไปได้แล้ว ถ้าไม่ได้เรียกไม่ต้องเข้ามาอีกนะ ฉันจะทำงาน” อีวานบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นเพื่อเข้าไปทำงานออกแบบชุดเครื่องเพชรคอลเลกชันใหม่ต่อจากที่ทำค้างเอาไว้เมื่อวาน
“ค่ะบอส” เมลานีขานรับก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างไว ขณะที่ภายในใจมีคำพูดเป็นร้อยเป็นพัน แต่ว่ามันไม่อาจจะเอื้อนเอ่ยออกมาให้ใครรับฟังได้ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเจ้ากรรมนายเวรหมายเลข 1
คลิก! ทันทีที่เปิดประตูออกมาได้เพียงสองก้าว เมลานีก็ต้องเผชิญหน้ากับเจ้ากรรมนายเวรหมายเลข 2 ที่กำลังจ้องมองเธอด้วยสายตาขวางๆ
“พรุ่งนี้ไม่ต้องเสนอหน้าเลยนะ” ประภัสสรเอ่ยเตือนคนไม่รู้จักฟังด้วยสีหน้าตึงๆ
“ค่ะ พรุ่งนี้ต่อให้หัวหน้าบอก คุณป่านก็เข้าไปเสิร์ฟกาแฟเลยนะคะ” เมลานีตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่มๆ
“หึ! ทำเป็นกะแดะขึ้นลิฟต์มากับบอส แล้วยังมาทำปากดีอีก” ประภัสสรต่อว่าที่อีกฝ่ายกล้าพูดประชดเธอ นี่หากเป็นสาวใช้ที่บ้านล่ะก็ จะตบให้หน้าคว่ำไปเลย
คลิก! เสียงประตูห้องห้องรับรองที่ดังขึ้น เปรียบดั่งเสียงระฆังช่วยชีวิตของเมลานี
“เชิญคุณเมลที่ห้องรับรองหน่อยค่ะ” อรพินบอกจบก็เดินกลับเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
“ค่ะหัวหน้า” เมลานีขานรับและเตรียมจะออกเดินตาม
“ชิ! เจอสวดยาวแน่” ประภัสสรเอ่ยเยาะเย้ยขึ้นอย่างสะใจ เพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องถูกเรียกเข้าไปตักเตือนที่บังอาจขึ้นลิฟต์มากับเจ้านาย
“รีบๆ ปริ้นงานนะคะ บอสต้องใช้ก่อนสิบเอ็ดโมงค่ะ” เมลานีหันไปเอ่ยกำชับด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“อย่ามาสั่งฉัน” ประภัสสรตอกกลับอย่างโมโห
“งั้นก็ไม่ต้องทำหรอกค่ะ เวลาโดนด่าอย่างน้อยก็ต้องโดนด้วยกัน ขอตัวก่อนนะคะ” เมลานีบอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องรับรองและปิดประตูห้องตามหลังอย่างไว
“ปากดีนะนังนี่” ประภัสสรสบถด่าตามหลังอย่างหัวเสียที่ตัวเองต้องมาถ่ายเอกสารการประชุมแทนพนักงานใหม่