ถ้าย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ เธอยังจะทำแบบเดิมอยู่ไหม หญิงสาวที่มีใบหน้าราวกับตุ๊กตา รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นดูน่าทะนุถนอมตั้งคำถามกับตัวเอง หลังจากเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
ด้วยความใจลอยมัวแต่คิดถึงเรื่องในวันวาน คุณแม่ลูกหนึ่งที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์อย่าง ทรัพย์ธนิดา หรือ นิดา จึงไม่ได้ยินเสียงแจ๋วๆ ของลูกชายตัวป่วนวัยสี่ขวบครึ่ง ที่มีชื่อว่าน้องพร้อมสุข
หรือ เด็กชายมีพร้อมสุข ภัควัตภาคิน เจ้าหนูตัวจ้ำม่ำที่ใครๆ ก็พากันหลงรักและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นอภิชาตบุตร
“แม่จ๋าคับ แม่จ๋า แม่จ๋าคับ” เด็กน้อยเรียกแม่ แต่เรียกอย่างไรแม่ก็ไม่ยอมหันมอง ด้วยความฉลาดหลักแหลมเจ้าหนูหน้าหวานคล้ายเด็กผู้หญิงจึงตัดสินใจกระทำบางอย่างเพื่อเรียกสติมารดา
“อุ๊ย มาหอมแก้มแม่จ๋าทำไมครับพี่สุข” คุณแม่ได้สติเพราะแก้มนุ่มถูกขโมยความหอมไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เด็กน้อยฉีกยิ้มอวดฟันน้ำนมซี่งามหลังจากแม่หันมาสนใจตัวเอง
“ลงโทษแม่จ๋าไง แม่จ๋าไม่ฟังพี่สุขอะ” แก้มทั้งสองข้างพองลมขึ้นมาทันตาเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อสักครู่ พี่สุขอุตส่าห์เล่าอะไรไปตั้งมากมายแต่แม่ไม่ได้ยิน มันน่าน้อยใจนัก
เด็กชายมีพร้อมสุขทำปากยื่นปากยาวเพื่อให้มารดารู้ว่าตอนนี้ตนเองกำลังอยู่ในอาการงอน แม่ต้องง้อแบบด่วนๆ ส่วนคุณแม่ที่เลี้ยงลูกเองกับมือมีเหรอที่จะไม่รู้ รีบเอ่ยขอโทษขอโพยตาหนูขี้งอนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับเอามือไปลูบหัว
“แม่จ๋าขอโทษครับ พี่สุขบอกอะไรกับแม่จ๋าเหรอลูก”
“หึ งอนแล้ว งอนเยอะด้วย”
“ดีกันนะครับ เหมือนแม่จ๋าได้ยินอะไรๆ หมูเด้งนะ” เพียงแค่คำว่าหมูเด้งใบหน้าบึ้งตึงพลันหายวับไปในพริบตา เด็กแก้มกลมเหมือนซาลาเปาลืมไปเสียสนิทว่าตนเองกำลังงอนมารดาจึงรีบพยักหน้าหงึกๆ บอกแม่ด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“พี่สุขอยากไปดูน้องหมูเด้งคับแม่จ๋า”
นาทีนี้ใครบ้างไม่รู้จักเจ้าฮิปโปแคระดาวเด่นของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เด็กชายมีพร้อมสุขดวงตาเป็นประกายเมื่อคิดถึงภาพเจ้าฮิปโปเพศเมียวิ่งไปมาด้วยความซุกซนพลอยทำให้มารดายิ้มตามไปด้วย ทว่าเพิ่งไปเที่ยวกันมาเองทำให้คุณแม่ไม่ค่อยอยากพาไปเท่าไรนักเพราะคนเยอะมาก
“แต่อาทิตย์ก่อนเราเพิ่งไปเองนะครับลูก” แค่คิดถึงอากาศร้อนบวกกับจำนวนนักท่องเที่ยว แม่ก็อยากจะเป็นลม วันนั้นเธอไปกับลูกเพียงลำพังจึงค่อนข้างลำบากไม่น้อย
เนื่องจากพ่อของลูกไม่ว่างติดงานสำคัญ ส่วนพี่เลี้ยงได้ลากลับบ้านวันนั้นแม่สู้ชีวิตมากจนเกือบจะเป็นลม ไหนจะต้องสู้กับลูกชายที่มีพลังเหลือล้น สู้กับแดดของเมืองไทย สู้กับคลื่นมนุษย์และอีกอย่างต้องไปรอคิวตั้งแต่เช้า แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
“พี่สุขคิดถึงน้องหมูเด้ง แม่จ๋าคับเราไปอีกได้ไหม” แววตาเว้าวอนของลูกชายทำให้คุณแม่ใจอ่อนยวบ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนแต่เพื่อความสุขของตาหนูแม่ยอมสู้
“ได้ครับ เดี๋ยวแม่จ๋าพาไป”
“ให้คุณพ่อไปด้วย”
“แม่จ๋าว่าคุณพ่อน่าจะไปไม่ได้ครับ”
“แต่พี่สุขอยากให้คุณพ่อไปด้วย”
“คุณพ่อน่าจะไม่ว่างเราไปกันแค่สองคนได้ไหมครับ”
“ไม่เอา จะให้คุณพ่อไปด้วย”
“ต้องถามคุณพ่อก่อนครับ ถ้าไม่ว่างเราไปกันสองคนนะ”
“ไม่เอาสองคน เอาสามคนคับแม่จ๋า”
ในจังหวะที่ลูกชายกำลังงอแงเพราะอยากให้บิดาไปเที่ยวกับตนเอง ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามาอย่างเบามือ เหนือน่านฟ้า หรือ เหนือฟ้า ปรายตามองภรรยาด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ลูกชายทำให้คนเป็นเมียรู้สึกจุกในอก เวลาผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว เขาไม่คิดจะให้อภัยเธอบ้างเหรอ เธอทำผิดขนาดที่จะยกโทษให้กันไม่ได้เลยใช่ไหม
“พี่สุขจะให้คุณพ่อไปไหนครับ” บิดาที่มีหน้าตาหล่อเหลาราวกับพระเอกซีรีส์เอ่ยถามลูกชายด้วยน้ำเสียงทุ้มละมุน แววตาเต็มไปด้วยความรัก เด็กน้อยจึงผละจากแม่แล้วรีบไปเกาะขาพ่อด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะให้คำตอบด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“ไปดูน้องหมูเด้ง คุณพ่อคับพี่สุขอยากไปหาน้องหมูเด้ง”
“แต่พี่สุขเพิ่งไปเองไม่ใช่เหรอครับ”
“ก็พี่สุขคิดถึงอีก น้องหมูเด้งน่ารัก”
“ถ้าคุณเหนือฟ้าไม่ว่างไม่ต้องไปหรอกค่ะ หนูพาลูกไปเอง”
คนเป็นเมียรู้ดีว่าสามีแทบจะไม่มีเวลา หากเขาไม่สะดวกก็ไม่ต้องไปเพราะเธอดูแลลูกชายได้ เหนือน่านฟ้าละสายตาจากใบหน้าของลูกชาย แล้วกลับมาสบตาภรรยานิตินัยพร้อมกับให้คำตอบราวกับตำหนิคำพูดของเธอ
“ฉันบอกแล้วเหรอว่าไม่ว่าง อย่าตัดสินใจแทน” น้ำเสียงเคร่งขรึมของผู้ชายตรงหน้าทำให้ทรัพย์ธนิดาอดน้อยใจไม่ได้เหมือนกัน เหนือน่านฟ้าจะพูดกับเธอด้วยถ้อยคำรักษาน้ำใจบ้างได้ไหม
“หนูก็แค่เสนอทำไมต้องดุด้วย”
“คุณพ่อดุแม่จ๋าทำไม พี่สุขไม่ชอบเลย”
“เปล่าครับคุณพ่อไม่ได้ดุแม่จ๋าของพี่สุข คุณพ่อแค่บอกเอง คุณพ่อไปดูหมูเด้งด้วยดีไหมน้า” เพราะไม่อยากให้ลูกเห็นว่าพ่อกับแม่มีปัญหากัน เหนือน่านฟ้าจึงยกเอาเจ้าฮิปโปแคระมาหลอกล่อ ดูท่าจะได้ผลไม่น้อยเพราะเจ้าลูกชายถึงกับฉีกยิ้มกว้าง
“ดีคับคุณพ่อ น้องหมูเด้งน่ารัก ไปนะๆ”
“โอเคครับไปก็ไป จะไปดูสิว่าน้องหมูเด้งกับลูกชายคุณพ่อใครน่ารักกว่ากัน”
“เย่ๆ คุณพ่อใจดีที่สุด แม่จ๋าคับคุณพ่อจะไปด้วย”
“ครับลูก แฮปปีไหมครับ”
“แฮปปีคับแม่จ๋า ไปดูน้องหมูเด้ง คุณพ่อแม่จ๋าพี่สุขจะไปดูน้องหมูเด้งกัน”
“พี่สุขมาทำการบ้านให้เสร็จก่อน แม่จ๋าเห็นนะการบ้านยังไม่เสร็จเลย”
“เฮ้อ การบ้านอีกละพี่สุขไม่ชอบเลย”
เด็กชายที่มีใบหน้าละม้ายมารดามากกว่าบิดาถอนหายใจไม่ต่างจากผู้ใหญ่ ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อหันไปมองโต๊ะตัวเล็กที่มีกระดาษหลากหลายแผ่นวางอยู่บนนั้น วันนี้ทางโรงเรียนให้เด็กน้อยคัดลายมือเป็นการบ้านเอาไปส่งวันพรุ่งนี้
“ไม่ชอบก็ต้องทำครับ กลับไปทำการบ้านเลยเรา”
“คับแม่จ๋า แต่พี่สุขขอเล่นไอแพดก่อนได้ไหมคับ”
“ไม่ต่อรองค่ะลูกชาย ไปทำการบ้านให้เสร็จก่อน”
“คุณพ่อคับพี่สุขขอดูแป๊บเดียว”
“ได้ครับ ไม่เกินห้านาทีโอเคไหม”
“โอเคคับ พี่สุขรักคุณพ่อที่สุด”
สีหน้าแย้มด้วยรอยยิ้มของตัวแสบทำให้บิดารู้สึกมีความสุขจึงรีบเดินไปเปิดไอแพดให้ลูกชายด้วยความรวดเร็ว หาได้สนใจสายตาไม่พอใจของภรรยาที่กำลังมองมา
ทรัพย์ธนิดาคิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหนือน่านฟ้าตามใจลูกชายอย่างไม่มีเหตุผลจึงขอเขาคุยเป็นการส่วนตัวตรงระเบียงของห้องนอน
“มีอะไรก็ว่ามา ฉันไม่ได้ว่างเหมือนเธอ” เขาเอ่ยอย่างประชดประชันทำให้แม่บ้านฟูลไทม์สะอึกไม่น้อย ทำไมนะ ทำไมคนชอบมองว่าการเลี้ยงลูกอยู่บ้านไม่ใช่การทำงาน ต้องออกไปข้างนอกใช่ไหมถึงจะเรียกว่าทำงาน
“ว่างเหรอคะ การที่หนูอยู่บ้านเลี้ยงลูก คือว่าง?” เธอถามด้วยความโมโห หลังจากใช้นิ้วชี้จิ้มที่อกของตัวเอง
แววตาที่มีแต่ความเศร้าทำให้ผู้เป็นสามีเริ่มรู้สึกตัวว่าพูดแรงเกินไป จึงทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนหนีความรู้สึกผิดในใจ
“อย่านอกเรื่อง เข้าเรื่องที่จะพูด ก่อนที่ฉันจะอารมณ์เสีย”
“ค่ะ หนูไม่อยากให้คุณเหนือฟ้าตามใจลูกแบบนี้”
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”
“สิทธิ์ของความเป็นแม่”
“เป็นแค่แม่ของลูกเท่านั้น ไม่ใช่เมีย อย่ามาออกคำสั่ง”
เหนือน่านฟ้ากระซิบบอกด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบแววตาเย็นชาทำให้ทรัพย์ธนิดารู้สึกร้าวในอก จุกจนพูดไม่ออก ก่อนจะปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเมื่อได้ยินเขาพูดอีกประโยค
“อย่าหวังสูงนักเลย ฉันไม่มีทางรักเธอหรอก...นิดา”
ค่ำแล้วแต่ลูกชายหัวหมอกลับไม่ยอมนอน เอาแต่บอกว่าอยากดูหมูเด้ง แม่อย่างเธอก็ดันแพ้ลูกอ้อนเสียด้วย สุดท้ายจึงยอมตามใจเปิดโทรศัพท์ให้ลูกดูคลิปเจ้าฮิปโปแคระตัวกลม ที่กำลังวิ่งไปวิ่งมาด้วยความซน
เด็กชายมีพร้อมสุขยิ้มกว้างทุกครั้งที่เห็นดาราสาวหมูเด้งอ้าปากทำท่าเหมือนจะกัดพี่เลี้ยง ความสุขของลูกเหมือนยาวิเศษที่หล่อเลี้ยงหัวใจที่แตกสลายของมารดา