ตอนที่1 ไปต่อ
ชีวิตของคุณหนูที่ภายนอกน่าอิจฉาจนใครต่อใครต่างก็อยากมีชีวิตแบบเธอ แต่จะมีใครรู้บ้างว่าเบื้องหน้าที่แสนสวยงามกลับมีเบื้องหลังที่แสนน่าเวทนาจนเธออยากเป็นแค่คนธรรมดาเพื่อแลกกับความสุข
“ออนเดอะร็อคแก้วหนึ่ง” เสียงเข้มของชายหนุ่มที่ทิ้งตัวนั่งเก้าบาร์ขวามือของเธอดังขึ้นสั่งเครื่องดื่มในเลานจ์หรูของโรงแรมแห่งหนึ่ง
“.....” แต่หญิงสาวกลับไม่ได้สนใจสิ่งใดและนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของตัวเองต่อไป
“เอามาอีกแก้ว” เสียงของคนข้างๆ ดังเข้าหูของเธอหลังจากเขาพึ่งรับแก้วไปไม่กี่วินาที แต่มันก็ยังไม่ได้ทำให้หญิงสาวอย่างเธอสนใจอีกเช่นเคย
กระทั่งคำสั่งเดิมๆ ดังขึ้นซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องทำให้เธออดหันไปมองหน้าคนข้างกายตัวเองอย่างอดอยากรู้ไม่ได้ว่าคอเขาทำจากทองแดงหรือยังไงถึงได้กระดกเหล้าเพียวๆ อย่างต่อเนื่องง่ายดายเหมือนดื่มน้ำเปล่าแบบนี้
สายตาหยาดเยิ้มของเธอมองคนตรงหน้าหลังจากหันไปมองอย่างพอเห็นเค้าหน้าของเขาได้ชัดเจนในระดับที่มากพอสมควรถึงแม้ว่าร่างกายเริ่มจะถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์ครอบงำเรื่อยๆ แต่เธอก็ยังมีสติพอรับรู้ทุกอย่างรอบตัว โดยเฉพาะใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มข้างกายที่เขาหันมาสบตากับเธอหลังจากรู้ตัวว่าเธอหันไปมองเขา
ผู้ชายที่มีโครงหน้าชัดเจนแบบฉบับผู้ชายอวดสันกรามอย่างโดดเด่น คิ้วเข้มดกได้รูปราวกับคนเจ้าชู้ ดวงตาคมเฉี่ยวมีความดุดันจนยากจะสบตาด้วยนานๆ จมูกโด่งสันยาวตรงลงมารับกับปากบางเฉียบเหมือนคนไร้หัวใจ พอเหมาะกับสีหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ความรู้สึกตรงข้ามกับดวงตาดุดันนั่น
มีคนหล่อเหลาขนาดนี้อยู่ใกล้ตัวเธอด้วยหรอกเหรอ ชีวิตนี้ก็คิดว่าเจอสังคมที่ค่อนข้างกว้างขวางพอตัวเห็นคนหล่อเหลามากมาย แต่ทำไมคนนี้กลับดึงดูดสายตาได้อย่างยากจะละสายตาหนีได้ทั้งที่แววตาคู่นั้นดูไม่น่าสบตาด้วยนานๆ เลย
“ไปต่อไหม” น้ำเสียงทุ้มเรียบของเขาเอ่ยขึ้นชักชวนเธอในประโยคแรกอย่างตรงไปตรงมา
“ไปต่อเหรอ” น้ำเสียงเลื่อนลอยติดจะไม่ค่อยเข้าใจของ วาห์ หรือ วิวาห์ ดังขึ้นทวนถามคนตรงหน้าออกมา
“อืม” เขาตอบรับสั้นๆ
“ไปสิ” ไม่รู้ว่าเพราะความมึนเมาของแอลกอฮอล์ แสงสี หรือใบหน้าและน้ำเสียงของเขากันแน่ทำให้เธอตอบรับออกไปอย่างไม่ค่อยเข้าใจตัวเอง สติที่หยั่งรู้แต่กลับไม่มีความยับยั้งช่างใจในสิ่งที่คิดและพูด
เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็หันไปพูดบางอย่างกับพนักงานก่อนกระดกเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวสูงโดยไม่พูดพร่ำ และเธอก็ลุกขึ้นเดินตามราวกับกำลังถูกสะกดจิตไปแล้ว
ลิฟท์พาเธอไปยังชั้นๆ หนึ่งที่ไม่ใช่ด้านล่างสุด การไปต่อไม่ได้ออกจากโรงแรมแต่ตรงไปยังโถงทางเดินที่มีบานประตูมากมายบ่งบอกว่าเป็นห้องพักของแขกในโรงแรม กระทั่งมีพนักงานกำลังเร่งฝีเท้าตามมาและเปลี่ยนเป็นผู้นำไปเปิดประตูห้องบริการลูกค้าอย่างมีระดับ
ภายในห้องหรูหราของโรงแรมตอนนี้เหลือเพียงเธอกับเขาสองคน เธอมองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกที่รับรู้ทุกอย่าง คิดได้ทุกอย่าง เพียงแต่ราวกับแยกแยะไม่ได้ว่าตัวเองต้องเลือกอะไรระหว่างเดินเข้าไปยังเตียงกว้างหลังนั้นหรือเดินออกจากห้อง
เธอยากจะยับยั้งสิ่งที่รับรู้และเลือกเดินตรงไปยังเตียงกว้างไม่ลืมโยนกระเป๋าทิ้งบนโซฟาพร้อมกับหันกลับมาเพื่อดูหน้าผู้ชายอีกคนให้ชัดๆ ท่ามกลางความสว่างของแสงไฟสีขาวภายในห้อง
“อื้อ!” ไม่ได้ให้เธอคิดอะไรไปมากกว่าคำว่าไปต่อทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างไม่ต้องพูดพร่ำเมื่อร่างสูงตรงหน้าก้าวตามหลังเธอมาพร้อมกับกระชากเธอเข้าไปบดจูบอย่างไม่ค่อยอ่อนโยนเท่าไหร่ แต่หลังจากลิ้นสากของเขาส่งเข้ามาในโพรงปากพร้อมกลิ่นเหล้าแรงๆ ผสมกับกลิ่นลมหายใจเฉพาะแต่ละบุคคล มันกลับเป็นเหมือนสิ่งปลุกเร้าอีกด้านของจิตใจเธอได้อย่างดี
สุดท้ายก็กลายเป็นร่างกายควบคุมสติอย่างง่ายดายเมื่อเธอยกมือขึ้นกอดคอแกร่งของเขาไว้พร้อมกับเริ่มตอบรับจูบเขาอย่างที่เขาชักนำ ทำอย่างรับรู้ว่าตอนนี้ปราการที่ปกปิดร่างกายของเธอกำลังถูกปลดเปลื้องอย่างไม่คิดขัดขืน
ตุบ! รู้ดีว่าตอนนี้กำลังนอนเปลือยกายต่อหน้าชายแปลกหน้า แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกอับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย สายตากลับมองฝ่ามือใหญ่นั่นที่กำลังไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีขาวของเขาอย่างไม่ช้านักจนมันถูกสลัดออก
ร่างแกร่งกำยำปรากฎในสายตาของเธอ กล้ามเนื้อที่เป็นคลื่นลอนแบ่งช่องตั้งแต่อกลงมาถึงหน้าท้องมันช่างดูน่าสัมผัสอย่างยากจะหักห้ามใจเธอจริงๆ
“.....” ดวงตาหยาดเยิ้มมองต่ำลงไปตามการกระทำของเขาหลังจากพิจารณาร่างกายส่วนบนจนพอใจก็พบกับส่วนกลางกายที่ไม่มีกางเกงปกปิดไว้ แท่งเนื้อที่มันผงาดอยู่ตรงหน้าพร้อมกับขนาดที่เหมือนจะรวบกำด้วยมือเดียวไม่พอ
เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับการสำรวจของเธอปล่อยให้เธอมองจนกว่าจะพอใจระหว่างที่เขาจัดการกับเสื้อผ้าจนหมดทุกชิ้นโดยไม่ลืมหยิบเครื่องป้องกันออกจากกระเป๋าเงินมาฉีกและสวมใส่มันลงไปในความแข็งชันที่พร้อมใช้งานอย่างง่ายดายเพียงการจูบและมองร่างอรชรเย้ายวนบนเตียงตรงหน้า
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็พาตัวเองขึ้นเตียงไปคร่อมหญิงสาวไว้ทำให้เธอได้สบตากับเขาอีกครั้ง สายตาที่จนถึงตอนนี้มีเพียงระรอกของความร้ายกาจออกมาบางเบาให้รับรู้แต่รวมๆ เมื่อมองทั้งใบหน้าของเขากลับยังดูเหมือนไร้ความรู้สึก
“อ๊ะ!” เธอร้องขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งตัวหลังจากเขาแยกขาของเธอออกกว้างพร้อมกับส่วนหัวของสิ่งนั้นที่กดจ่อลงมาทำให้สติกลับมาส่วนหนึ่งเมื่อพานพบความเจ็บปวด
และการกระทำนี้ของเขาก็ทำให้ใบหน้าและแววตาของเขาแปรเปลี่ยนไปไม่น้อยเช่นกัน ความเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกก่อนหน้านี้กลับทำให้สายตาของเขาหรี่ลงพร้อมกับสันกรามที่ขบกันแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนถึงขมับกับการบีบรัด
กายแกร่งที่เคยแข็งพร้อมใช้งานอยู่แล้วกลับแข็งเขื่องขึ้นหนักกว่าเดิมจนเขาปวดหนึบเมื่อถูกความแน่นขนัดตรงหน้าบีบรัดส่วนหัวไว้ทั้งจากร่องของเธอและความเกร็งพร้อมๆ กัน ซึ่งมันทำให้เขายากจะทานทนจนเกร็งสะโพกแกร่งแล้วตอกกระแทกมันลงไปเต็มกำลัง
สวบบ!!!