อีคอน-06 งานเลี้ยง

1267 Words
ร่างสูงกำยำซ่อนแผงอกหนาแน่นกับกล้ามหน้าท้องรอนสิบเอ็ดสวยได้รูปไว้ใต้สูท เดินกระฉับกระเฉงเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอเล็ก อีคอนในคราบดีแลนโค้งคำนับ แสดงความเคารพและขอบคุณที่เขานั้นเลือกตัวเอง แสร้งวางท่าให้ถูกมองเป็นชาวต่างชาติผู้ที่ไม่มีพิษไม่มีภัย เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ สามารถดูแลคุณหนูของบ้านได้อย่างดีชนิดที่ว่าแมลงวันก็ไม่อาจตอม เขายิงปืนเป็นตอนไหน??? เขาต่อสู้เก่งได้ยังไง??? ข้อนี้มีแต่ตามุนเท่านั้นที่รู้! ไม่ใช่เรื่องแปลก หากคนขับเรือในวันนั้นจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ดีกว่าใครอื่น เพราะถ้าเขาอยู่ในเหตุการณ์ เสียงปืนดังลั่นอยู่ในละแวกนั้นเป็นคนที่กลัวคงหลบซ่อนไม่ก็หนีไปแล้ว ไม่มีทางขับเรือออกมาเด่นๆอย่างนั้นหรอก ตามุนไม่เคยลืมมันได้เลยสักครั้ง ทุกครั้งเห็นหน้าอีคอนมักคิดถึงภาพนั้นเสมอ เด็กคนนี้ต้องไม่ธรรมดา ถึงขนาดวิ่งหนีตายฝ่ากระสุนมาติดตะคัดตัวเอง จากความเสียสละของผู้เป็นแม่ ถ้าไม่ใช่เพราะความสงสารและนับถือใจหล่อน คนที่เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้นคงไม่ยอมเอาตัวเองไปเสี่ยงเช่นนั้น เพราะเขาเองก็มีลูกเล็ก ตอนนั้นแกขายปลาอยู่ เห็นสามคนพ่อแม่ลูกวิ่งหนีอะไรมาสักอย่าง ด้วยหน้าตาตื่น ตามุนคงไม่มีทางทำเรื่องที่เสี่ยงกับตัวเองเป็นแน่ ถ้านี่ไม่ใช่โชคชะตา เลือดพลเมืองดีสูบฉีด ในหัวมีแต่คำว่าจะต้องช่วย ห้ามเพิกเฉย ‘ไอ้หนูเอ๊ย ข้าไม่รู้หรอกว่าเอ็งมาจากไหน ที่ข้าช่วยเนี่ย เพราะเห็นแก่พ่อแม่เอ็ง หัวอกเดียวกัน จะดีหรือชั่ว ยังไงก็ต้องรักลูก...’ ‘.......................’ ‘อย่าได้หลุดปากไปเล่าให้ใครฟังเชียว ไม่อย่างนั้นเขาจะกลัวเอ็ง คงคิดว่าเอ็งเป็นลูกโจร โดยเฉพาะเมียข้า เข้าใจไหม’ ในวันนั้นอีคอนไม่รู้แม้แต่นิดว่าคนที่ช่วยพูดถึงเรื่องอะไร ภาษาที่พ่นออกมาแทบไม่มีอยู่ในหัวเขา ทำได้เพียงนั่งกอดเข่าน้ำตาไหลพราก ตกใจกับเหตุการณ์ที่เจอมาหมาดๆก็เท่านั้น อีคอนกลายเป็นเด็กเก็บตัวเงียบตั้งแต่นั้น บุคลิกของเขาไม่ต่างกันเลยกับคนเป็นใบ้ ถ้าไม่ถามก็จะไม่ตอบ ถ้าไม่คะยั้นคะยอให้ตอบ ไม่มีทางที่จะได้ยินเสียงเขา ซึ่งมันก็เป็นผลดีกับตามุน แต่ก็ทำให้อึดอัดในเวลาเดียวกัน เขาต้องการให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ดีซะอีกจะได้ไม่มีใครสงสัย ให้ชาวบ้านรู้กันแค่ว่า อีคอนพลัดหลงมาเจอชาวประมง ส่วนคนเป็นเมียก็รู้แค่ว่าวิ่งหนีโจร จนหาทางกลับไม่ได้ และใช้ชีวิตปกติให้ผ่านไปในแต่ละวัน จนกว่าเขาจะเจอครอบครัวที่แท้จริง “ได้ข่าวว่าอยู่เกาะxxx มีญาติอยู่ที่นั่นรึ” ภาษาอังกฤษถูกพ่นออกมาจากปากอเล็ก ขณะเงยหน้าขึ้นมา พลางวางปากกาที่ถืออยู่ลงบนเอกสารลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินวนไปวนมารอบๆตัว ราวกับต้องการพินิจพิเคราะห์ “ครับ เป็นญาติห่างๆ” “นายไม่มีธุรกิจอะไรหรือ ถึงได้ว่างมาสมัครงานแบบนี้” “เคยอาศัยอยู่เมืองนอกครับ แต่ชอบบรรยากาศที่นี่มากกว่า เลยมาอยู่กับญาติที่นี่” “งานของฉันไม่มีอิสระ รับได้หรือ” “ครับ” “แล้วรู้ได้ยังไง ฉันประกาศหาคนดูแลลูกสาว” “เพื่อนผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของคุณหนูเมเบล ...” “อ้อ! จะบอกเพื่อนแนะนำมาว่างั้น” “ครับ ใช่..” อีคอนปั้นน้ำเป็นตัว น้ำเสียงราบเรียบ สีหน้าและแววตาจริงจัง เสมือนไม่คิดจะเป็นมิตรกับใคร กลับสร้างความพิศวาสในสายตาของผู้ว่าจ้างไม่น้อย อีคอนสัญญากับตัวเอง เขาจะไม่มีวันให้ใครเห็นรอยยิ้มของเขาเป็นอันขาด โดยเฉพาะ... แอนเจลีก้า อเล็ก ผู้สังหารพ่อแม่ของเขา จะมีก็แต่ความอำมหิตที่พร้อมจะเอาคืนได้ทุกเมื่อถ้ามีโอกาส! “นั่งลงสิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายมากกว่านี้ เกี่ยวกับลูกสาวฉัน กฎเหล็กกับเรื่องที่นายไม่ควรทำ” อเล็กผ่ายมือเชื้อเชิญ ขณะอยู่ในห้องทำงานเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบถึงอุณหภูมิสิบแปดเป็นการส่วนตัว “ครับ” ในห้องกว้างใหญ่ ถูกตกแต่งให้สมกับเป็นห้องนอนผู้หญิง เมเบลนั่งใส่ต่างหูอยู่ตรงหน้ากระจก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับความสวยของตัวเอง วันนี้เธอจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ต้องการชวนเพื่อนสมัยเรียนมัธยมมาร่วมสนุก ก๊อกๆๆ “เชิญค่ะ” สาวใช้ซึ่งถูกหล่อนวานให้เป็นคนจัดงานในค่ำคืนนี้ เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอ่อน เหลือบตามองเจ้าของห้องแวบแรกจึงจะโน้มลงศีรษะไปใหม่ ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา “คุณหนูคะ ทุกอย่างที่สั่ง เรียบร้อยหมดแล้วค่ะ” “เหลือก็แต่รอเพื่อนฉันมาใช่ไหม” “ใช่ค่ะ แล้วก็ เอ่อ...” เมเบลชะงักมือที่ถือลิปสติก หันมองคนใช้ทางบานกระจก ขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม “มีอะไร” “หน้าห้องของคุณหนู มีคนมายืนอยู่..” “ใคร?” “คิดว่าน่าจะเป็น..บอดี้การ์ดคนใหม่ค่ะ” ทันทีที่รู้เธอวางสิ่งที่ทำอยู่ชั่วคราว เพื่อไปเปิดประตูให้กับเขา “นายเหรอ เป็นบอดี้การ์ดของฉัน” พร้อมคำทักทายแรกหลังบานประตูถูกแง้ม สายตาหวานถูกแต่งแต้มกรีดวาดจนคมกริบ ชำเลืองมองร่างสูงตั้งแต่หัวจรดเท้า “ครับ” “เข้ามาสิ ฉันไม่สะดวกคุยตรงนี้” นาทีนี้อีคอนคงจะคิดเรื่องอื่นไปไม่ได้ นอกจากคำสอนของอังกูรผู้เป็นพ่อ ดังก้องเต็มสองหู ความเงียบจะสยบทุกอย่าง พอๆกับทำงานใหญ่ใจต้องนิ่ง ดวงตาคมแขกสีสนิมกวาดมองห้องนอน ไปทั่วบริเวณไม่ให้หลุดตาแม้ตารางนิ้วเดียว มองความเป็นอยู่ที่บ่งบอกให้รู้บุคคลใต้อาญัติของอเล็กสบายแค่ไหน “ชื่อดีแลนใช่ไหม” อีคอนหลุดจากภวังค์ ละสายตามายังเจ้าของเสียง “ครับ” “วันนี้ที่บ้านมีงานปาร์ตี้ รู้แล้วหรือยัง...” “ทราบแล้วครับ” “คืนนี้ตอนเที่ยงคืน หลังจากปาร์ตี้ที่นี่จบ ฉันมีแพลนจะไปสังสรรค์ต่อกับเพื่อนข้างนอก ในฐานะนายเป็นบอดี้การ์ดของฉัน รู้ใช่ไหมต้องทำยังไง” “ครับ” อีคอนยกยิ้ม ไม่คิดว่าเมเบลจะไว้ใจคนง่ายขนาดนี้ คงกะจะเอาเขาเป็นไม้กันหมา ดีเลย เพราะมันเข้าทางของเขาพอดี ถึงแม้ว่า ชั่วโมงก่อนหน้าจะมีประโยคนี้มาคั่นกลางก็เถอะ ‘กฎเหล็กที่นายไม่ควรทำมีเพียงข้อเดียว ห้ามจับเนื้อต้องตัวลูกสาวของฉัน ถ้าหากไม่จำเป็น ...’ อุดมการณ์ก่อนจะมายืนอยู่จุดนี้ แผนที่วางไว้อย่างแยบยล รวมถึงความแค้นที่สะสมมาทั้งชีวิต มีหรือ..ที่เขาจะทำตาม! “นายไปรอข้างนอกเถอะ เดี๋ยวฉันตามลงไป” อีคอนคำนับทิ้งท้ายอีกรอบ แล้วจึงจะหมุนตัวเดินออกไปตามคำสั่งหล่อนอย่างว่าง่าย เมเบลเห็นถึงกับอึ้ง พึมพำกับตัวเองเบาๆ “สรุปหมอนี่ เป็นคน หรือหุ่นยนต์กันแน่เนี่ย?”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD