อีคอน-07 หน้าที่

1405 Words
​คฤหาสน์รูปลักษณ์คล้ายปราสาท ตอนกลางวันดูสวยยังไง ยามราตรีกาลยิ่งสวยกว่านั้น ขอบสระกว้างใหญ่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟระย้าสีสันสดใส เล็กใหญ่คละปะปนกันตามความเหมาะสมอย่างตระการตา บทเพลงตอนนี้เพิ่มความกระตือรือร้นให้กับแขกที่มาได้มาก อีกทั้งยังเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับเจ้าภาพได้อีกเท่าตัว เมื่อหล่อนอยู่ในชุดเดรสสีดำกำมะหยี่ที่รัดรูป สร้างความกร้าวใจให้เพื่อนผู้ชายสมัยมัธยมได้ไม่น้อย แปดสิบเปอร์เซ็นต้องคิดว่าคุ้มที่ตัดสินใจมาร่วมงาน แม้รอบๆจะดูน่าอึดอัดปนชวนขนลุกก็เถอะ เนื่องจากอาเล็กพ่อของหล่อนขนลูกน้องมากกว่าสิบคนเดินอยู่ทั่วงาน “เมเบลโตขึ้นสวยเป็นบ้าเลยว่ะ” “ใช่ สมัยมัธยมไม่เท่านี้นะ แล้วดูตอนนี้ดิ วู้..” สารพัดคำติฉินไปในทางลบฟังแล้วไม่ได้เสริมสร้างบารมีให้แก่ผู้หญิงนัก พวกเขาหารู้ไม่ว่าไอ้ฝรั่งที่ยืนนิ่งมือกุมผสานกันเสมือนนายประตูบอลตอนนี้ มันได้ยินชัดเต็มสองหู แถมยังฟังภาษาไทยออกทุกคำด้วย เพียงแต่เขามีท่าทีนิ่งเฉยก็เท่านั้น เลี่ยงที่จะให้คิดไม่ได้เลยว่า งานเลี้ยงนี้ราวกับถูกจัดขึ้นมาให้ผู้ชายมาดูตัวเอง อีคอนยกยิ้ม ดวงตาสีสนิมมองหัวไหล่กลมมนขาวเนียนนั่นแล้วคิดลบไม่ต่าง ความรู้สึกไม่ได้จะปกป้องสาวเจ้าแต่อย่างใด กลับกันเหมือนจะดูแคลนอยู่ในใจด้วย เนื่องจากหล่อนแต่งตัวเหมือนจะมาล่อไอ้เข้ มากกว่าสังสรรค์กับเพื่อน ในนิตยสารที่เขาซื้อมาวันก่อน แค่เพื่อจะมาศึกษาความเป็นมาและนิสัยใจคอ ไม่คิดว่าโชคจะเข้าข้างเจอบทสัมภาษณ์ของหล่อน เกี่ยวกับเรื่องรับสมัครคนดูแล ส่งผลให้อีคอนคิดแผนชั่วร้ายหวังจะแก้แค้นครั้งนี้ ตัดสินใจฝึกยิงปืนพร้อมการต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างจริงจัง โดยมีตามุนเป็นผู้สนับสนุนอีกแรง ถึงแม้ตามุนจะไม่เห็นด้วยในทีแรกหลังรู้ข่าวก็ตาม แต่ความไม่เป็นธรรมกับชีวิตอีคอนส่งผลให้แกต้องยอมทั้งหมด อย่างน้อยก็แก้แค้นให้กับพ่อแม่ ตลอดระยะเวลาที่เขาเป็นชาวประมง มีสถานการณ์หลายอย่างมาทดสอบจิตใจ จากชีวิตไม่เคยอดอยากปากแห้ง พ่อแม่ของเขามีเงินเป็นถุงเป็นถัง สมบัติมากมายใช้ทั้งชาติไม่มีหมด สามารถปรนเปรอให้เขาอย่างต่อเนื่องไม่ขาด อยู่ๆกลับมาตกอับซะอย่างนั้น เป็นใครก็คงรับได้ยาก อีกทั้งคนที่แย่งของๆเขาไปเป็นคนเดียวกันกับที่ทำลายครอบครัว “มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ นายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว” เมเบลมาตั้งแต่เมื่อไหร่เขาไม่ทันเห็น รู้ตัวอีกทีหล่อนมายืนกอดอกอยู่ข้างๆ ราวกับมองเขาอยู่นานแล้ว พร้อมกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากกายหล่อนโชยมาแตะจมูก ปฏิเสธไม่ได้น้ำหอมกลิ่นนี้กระตุกใจของเขาให้สั่นไหวไม่เบา “ยืนเซ่ออยู่ทำไม ฉันไม่ให้นายไปชุดนี้หรอกนะ” “ไปไหนครับ” “อะไรกันก็คุยกันแล้วนี่ ว่าจะไปต่อที่อื่น นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะ หรือนายลืม...” คิ้วสวยเลิกขึ้นสูง สีหน้าบึ้งตึง แสดงออกถึงความไม่พึงพอใจเขา อีคอนหลุบตาต่ำลอบถอนหายใจ “เปล่าครับ ผมไม่ได้ลืม ผมหมายถึงคุณจะให้ผมพาคุณไปที่ไหน” “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเหอะ เดี๋ยวก็รู้เองแหละ ฉันจะรออยู่แถวนี้” ทันทีที่หล่อนออกคำสั่งกรามของเขาก็ขึ้นเส้น ความร้อนฉ่าข้างในเต้นพล่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ยากสุดคือเขาจะต้องข่มมันไว้ไม่ให้หลุดออกมา “ไปไหมคะ พี่อาทิตย์” “แน่ใจเหรอเมเบล ว่าคุณท่านจะอนุญาต” นั่นเพราะหล่อนไม่ได้ยืนอยู่กับเขาตามลำพัง แต่มีใครอีกคนหนึ่ง ซึ่งเขาไม่รู้จักเดินมาสมทบด้วย เสร็จจากงานนี้คงจะต้องไปสืบข้อมูลเพิ่มขึ้น หมอนี่ไม่ได้อยู่ในคลังเอกสารของเขา เพราะดูท่าทางจะไม่ใช่บุคคลธรรมดา ครอบครัวมันอาจจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเกี่ยวกับการตายของพ่อแม่เขา “เมเบลมีบอดี้การ์ดไปด้วยค่ะ รับรองคุณท่านของพี่อาทิตย์ไม่กล้าขัดใจแน่นอน” ทันทีที่หล่อนพูดจบ เขายิ้ม พลางเขย่าหยอกเย้าปลายคางมน “พี่เชื่อแล้วว่าเมเบลอยากไปจริงๆ” “ก็จริงน่ะสิ พี่อาทิตย์คิดว่าเบลล้อเล่นหรือ” “เปล่าสักหน่อย ถ้าอย่างนั้นก็ได้เลย เราไปกัน” สถานที่บันเทิง อโคจรหนักในสายตาอีคอน ร่างสูงเอาแต่ยืนนิ่งไม่สนใจใครนอกจากผู้หญิงตรงหน้า ไม่คิดว่าเมเบลจะกล้ามาสองต่อสองกับผู้ชายแบบนี้ คนที่ชื่ออาทิตย์นั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงสนิทกัน แลดูหล่อนจะไว้ใจมาก ส่วนเมเบลสภาพในตอนนี้เธอกำลังเมาอย่างหนัก สังเกตจากการโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามเสียงเพลง ลำแขนเรียวโอบรอบคอผู้ชาย ประเด็นหลักคือเขาจะต้องดูแลหล่อนอย่าให้คลาดสายตา ทั้งที่ตอนนี้มันช่างไร้สาระสำหรับเขา หล่อนทำตัวไร้ค่าซะจนเขาเริ่มรู้สึกขยะแขยง! กระทั่งจวนเวลาผับใกล้ปิด อีคอนถึงรู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรต่อ เขาบิดขี้เกียจจากการยืนท่าเดียวเป็นเวลานานหลายชั่วโมง เดินเข้าไปหาคนทั้งคู่เพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง คือการแยกพวกเขาที่กำลังนัวเนียออกจากกัน “ขอโทษครับ ที่จะต้องขัดจังหวะ ถึงเวลาที่คุณเมเบลต้องกลับบ้านแล้ว” อาทิตย์ชะงักหันมามองหน้า ขมวดคิ้วยุ่งเหยิง “เดี๋ยวฉันไปส่งเองก็ได้ นายไม่ต้องหรอก” อีคอนแค่นยิ้ม จ้องหน้าอาทิตย์อย่างเอาเรื่อง “ไม่ได้ครับ ส่วนนี้คือหน้าที่ของผม” “มึงนี่ยังไง ก็บอกว่าเดี๋ยวกูไปส่งเอง” อีกฝ่ายเริ่มฉุน เพราะไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะขณะกำลังเข้าได้เข้าเข็ม ทว่าคงไม่รู้กำลังทำคนฟังฉุนกว่า เขาเดินเข้าไปผลักไหล่คนเมา โดยไม่พูดไม่จาสักคำ อาทิตย์สีหน้าถอดสี คิดไม่ถึงลูกจ้างอย่างเขาจะกล้าทำอะไรแบบนี้กับแขกของเจ้านาย “เฮ้ย อะไรวะ” “ถ้าขืนคุณยังรั้น มันอาจจะยิ่งกว่าผลัก ผมรับรองเลย” ทันทีที่อีคอนเค้นเสียง หมัดที่เตรียมจะพุ่งใส่หน้าเขาก็ถูกง้างค้างไว้ ราวกับเวลาหยุดเดิน คนเมาชะงักไม่กล้าทำอะไรต่อนอกจากยืนอ้ำอึ้ง ชายหนุ่มจึงใช้โอกาสนั้นลากเมเบลออกมา ไม่สนใจอาทิตย์ ที่ตกอยู่ในสภาพเมาไม่ต่างแม้แต่จะพาตัวเองเดินให้ตรงยังยาก แต่กลับอาสาจะไปส่งเจ้านายของเขา “ฉาน ยาง ม่าย.. อยากกลับ อื้อ~” เสียงยานคางฟังไม่ได้ศัพท์พ่นออกมาจากปากคนเมา ในขณะขายังเดินตามแรงฉุดกระชาก ปรับเปลี่ยนมาทำตัวไม่มีกระดูกภายหลังก็ตอนมาถึงลานจอดรถ มือบางพยายามดันอกหนาของเขา เพื่อให้ตัวเองหลุดจากพันธนาการ ที่ใช้วงแขนเพียงข้างเดียวหนีบหัวหล่อนเอาไว้ เพื่อบังคับเดิน “นี่ปล่อยฉันน้า” เสียงอู้อี้โวยวายพยายามต่อต้านทำอีคอนชักรำคาญ ขืนเธอยังดื้อดึงไม่ยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีอย่างนี้ เกิดเขามีบันดาลโทสะขึ้นมาจะไม่รับประกันถึงความปลอดภัยของหล่อน อาจจะร้ายแรงถึงจมูกหักเพราะถูกเขาศอก ไม่ก็หลังหักเพราะถูกเขาจับโยน “หยุดดิ้น แล้วก็ขึ้นไป” เขาเปิดประตูรถใช้ขายันค้างไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งดันร่างหล่อน บังคับให้เข้าไปโดยไม่ลืมจะเอามือจับขอบประตูกันหัวหล่อนชน ไม่นานด้วยความเมาและเหนื่อยล้ากับแรงฉุดยื้อที่ต่างกันระหว่างเขาและเธอ ทำหญิงสาวหยุดดิ้นชั่วคราวราวกับหมดฤทธิ์ อยู่ในท่านอนหงาย แต่ไม่วายที่จะกวนประสาท “นาย...มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน” เขาไม่ตอบ แต่เลือกที่จะประจำหน้าที่คนขับแล้วบึ่งรถออกไปจากจุดเดิมด้วยความเร็วแทน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD