ในขณะทำหน้าที่เป็นพลขับ แผนชั่วร้ายก็เกิดขึ้นในความคิดเขา ชายหนุ่มเหลือบตาจากท้องถนนไปมองข้างทาง เมื่อเห็นป้ายทางเข้าก็หักพวงมาลัยเข้าไปในทันที
ม่านรูด
อีคอนอุ้มร่างบางวางไว้บนเตียงอย่างเบามือ หลังเช็คอินกับพนักงานเสร็จ รอเปิดเครื่องปรับอากาศให้เย็นฉ่ำ ตรวจสภาพห้องเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งด้วยความเย็นของอุณหภูมิ และมีผ้าหุ้มเนื้อเนียนเพียงชุดเดรสบางๆแค่ตัวเดียว ผ้านวมซึ่งพับอยู่ปลายเท้าจึงถูกดึงขึ้นมาห่มให้ด้วยมือเขา
สาวเจ้าซุกตัวอยู่ใต้ผ้านวมหนาผืนนั้นอย่างไม่รู้สึกรู้สา ความเมาจนขาดสติทำให้เธอหลงลืม ขนาดปรือตาขึ้นมาเห็นหน้าเขาแล้วรอบหนึ่ง ยังคงหลับต่อราวกับไม่มีอะไรขึ้น ยิ่งเปิดทางให้ร่างสูงทำตามแผนอย่างง่ายดาย
หลังตั้งกล้อง เขายังมีอารมณ์ที่จะเดินออกไปคาบซิการ์เพื่อพ่นควันให้พวยพุ่งแล้วจางหายจนแล้วจนเล่า เหมือนไม่ได้ช่วยให้เขาดีขึ้นแม้แต่น้อย กลับกันแผนร้ายนั้นยังตราตรึงอยู่ในหัว ประหนึ่งถูกฝังตายเอาไว้แบบไม่มีทางขุดเจอ คิดไตร่ตรองวนไปวนมา
จะจัดฉากหรือทำจริงดี
แต่เมื่อหันไปเห็นขาเรียวขาวเนียนที่โผล่ออกมาจากผ้าห่ม ชายชุดเดรสเลิกขึ้นเกือบจะถึงแก้มก้น สิ่งที่อุตส่าห์คิดก็มลายหายไปทันที อีคอนเท้าสะเอวส่ายหน้ายกยิ้ม คาดไม่ถึงการเมาของสาวสวยผู้นี้จะลดสัญชาตญาณตัวเองลงจนหมด ถึงขนาดเอาตัวเองไม่รอด
“หึ นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกสินะ กับการทำตัวแบบนี้”
ฉะนั้นหากเขาทำจริงๆขึ้นมา คงไม่เป็นอะไรกระมัง
อีคอนใช้ดวงตาสีสนิมมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ริมฝีปากหยักได้รูปค่อยๆโค้งยกขึ้น แสดงออกถึงความพึงพอใจ ถือวิสาสะเดินเข้าไปใกล้แล้วทรุดตัวลงไปนั่งข้างๆ ก่อนถอดเสื้อตัวเองออก เขาไม่ทำในสิ่งที่ต้องการในทันที แต่เลือกที่จะนั่งมองด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยแทน ราวกับไตร่ตรองอีกรอบ
กระทั่งเวลาผ่านไปพอสมควร เมเบลตื่นขึ้นมาจากความฝัน เนื่องจากทนความหนาวต่อไปไม่ไหว อุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศต่ำอย่างนี้ ขนาดคนเมาที่ว่าเต็มไปด้วยความร้อนระอุ เลือดสูบฉีดพลุกพล่านยังต้านทานไม่ไหว เกือบจะสร่างเมา แล้วถ้าปกติจะขนาดไหน!
เธอพลิกตัวขยับเข้ามาใกล้ร่างข้างๆอย่างลืมตัว หวังพึ่งพาไออุ่น ซึ่งนั่นทำให้อีคอนที่นอนคิดอะไรเพลินๆ หลุดจากความคิดก้มต่ำลงมามอง สายตามองเธอขณะกำลังหลับสนิทคราวนี้เปลี่ยนไป เสมือนไม่หลงเหลือความแค้น แต่ไม่ได้แปลว่าจะใจอ่อน แผนของเขายังคงต้องเดินต่อ ถึงแม้เสี้ยวหน้าด้านข้างในตอนหลับใหลเสมือนเด็กน้อยไร้พิษภัยก็ตาม
ชายหนุ่มรอให้ร่างนั้นหลับลึกอีกครั้ง ถึงจะขยับตัวเองเปลี่ยนจากท่านั่งพิงหัวเตียง เป็นเอนตัวนอนหงายลงข้างกัน แล้วตวัดแขนกกกอด ก่อนจะดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมคนทั้งคู่ และเผลอหลับไปด้วยกัน รอกระทั่งเช้า เมื่อหญิงสาวเริ่มร่างกายขยับ ถึงจะกลับมาทำตามแผน
“ตื่นแล้วหรือ ..”
“ดีแลน!” เมเบลผุดลุกขึ้นกะทันหัน หายง่วงในทันที “นายมาอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่สิ....นี่ไม่ใช่ห้องฉัน นายพาฉันมาที่ไหนกัน?”
“ไม่ไกลจากบ้านมากหรอกครับ คุณหนู”
เขาเอ่ยเสียงเรียบ ไม่มีทีท่าสะทกสะท้าน ก้าวขาลงจากเตียงมายืนตระหง่านหน้าตาเฉย ทันทีที่คนบนฟูกเห็นร่างเกือบเปลือยของเขาดวงตาถึงกับขยายกว้าง
“นี่นาย..ทำอะไรฉัน?”
เขาอยู่ในลักษณะกางเกงขายาวสีดำในตัวเดียว โชว์แผ่นหลังเปลือยเปล่าที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ และขากำยำที่เต็มไปด้วยขนแข้งดกดำ
“แล้วคิดว่าทำอะไร นี่คุณจำอะไรไม่ได้เลยหรือครับ”
“ฮะ?” ดวงตาขยายกว้างมากขึ้นไปอีก “นี่อย่าบอกนะว่า..”
“เมื่อคืนคุณเอาแต่เอ่ยปากชมผม พอมารู้ว่าจำอะไรไม่ได้แบบนี้ ก็เสียใจแย่สิ”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น สาวเจ้าโกรธจนเนื้อเต้น ชี้หน้าเขาปากสั่น
“กะ..แก!” มันสนุกก็ตอนเธอเชื่อสนิท มองคนตรงหน้า หน้าตาตื่น ก่อนเลิกผ้านวมที่ห่มกายตัวเองออก และทันทีเห็นกล้องบนขาตั้งวางตระหง่านอยู่ปลายเตียงก็ยิ่งดิ้นพล่าน “กรี๊ด!! แก! แก! ฮือๆ แกทำอะไรฉันเนี่ย”
“อยากเปิดดูไหมครับ” ยิ่งเขายั่วโทสะโดยการเดินไปหากล้อง จับมันขึ้นมาดึง SD Card ออก ก็ยิ่งทำให้เธอดิ้นพล่านเข้าไปใหญ่ “ดูว่าตัวเองเร่าร้อนขนาดไหนตอนที่อยู่บนเตียง”
นาทีนั้นหญิงสาวแทบหยุดหายใจ มองคนหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ อ้าปากพูดพะงาบๆ เขาทำแบบนี้กับเธอทำไมกัน
“ทำไมถึง.. นี่ฉันไปทำอะไรให้แก ห๊ะ!”
“จุๆๆ อย่าพูดคำหยาบกับสามีตัวเองแบบนั้นสิครับ”
“นะ นี่! หยุดนะ อย่ามาพูดแบบนั้นกับฉันนะ”
ยิ่งฟังยิ่งขยะแขยง อีกนิดสาวเจ้าจะอาเจียน ยิ่งตอนเห็นเขาทำหน้าเพ้อฝันก็ยิ่งแล้วใหญ่ ความโกรธของเธอในตอนนี้อยากถลาเข้าไปขย้ำหน้าเขา ฉีกเนื้อเขาเป็นชิ้นๆ
“ถ้าอย่างนั้นให้ผมพูดยังไง ในเมื่อเป็นอย่างนั้นจริงๆ คนที่เอ่อ..แบบเมื่อคืนกันแล้ว เขาไม่ได้เรียกว่าผัวเมียกันหรอกเหรอครับ”
“.....!!!”
“คุณร้องเรียกชื่อผมไม่หยุดเลยรู้ไหม แถมยังคุมเกมเองด้วย ไม่เชื่อผมจะเปิดกล้องให้ดู..”
“อร๊ายยย นี่! หยุดนะฉันจะฟ้องพ่อ”
ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นอีคอนถึงกับเงียบและแน่นิ่งไป แต่ใช่เป็นการสลดหรือมีสตินึกคิดว่าตนได้ทำผิดไปแล้วไม่ เขารู้อยู่แล้วหล่อนจะต้องพูดแบบนี้
“ฟ้องพ่อ?..หรือครับ” แต่เป็นการเว้นวรรคจากอารมณ์ที่คาดไม่ถึง ก่อนเปลี่ยนเป็นขำ “เอาเลยครับ เอาเลยสิ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าคนทั้งโลก รวมถึงพ่อของคุณเห็นคลิปนี้จะเป็นยังไง”
หัวใจเมเบลหล่นตุบ เต้นระทึกชนิดที่ว่าถ้าไม่สูดลมเข้าปอดให้ลึกและพ่นออกมาให้เร็วอาจจะทำให้ตายได้ หญิงสาวกำลังจะหมดสติ ถึงได้เอาแต่จ้องเขาเขม็งและเงียบกริบไป อวัยวะทุกส่วนแน่นิ่งมีเพียงริมฝีปากเท่านั้นที่สั่นระริก
“นาย ทำแบบนี้ทำไม? ต้องการอะไร?”
ก่อนน้ำตามากมายจะพากันเอ่อล้นออกมาอาบสองแก้ที่ชาวาบทำให้ไม่รู้สึกถึงน้ำตาที่ร้อนฉ่าในตอนนี้
ชายหนุ่มอึ้งไปอึดใจหนึ่ง เขาเองก็ใช่จะเป็นคนเลวโดยสันดาน เห็นเช่นนี้แล้วกลับรู้สึกอึดอัด เพราะกำลังหลอกใช้ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย แถมเหยื่อที่อยู่ตรงหน้าก็เหมือนจะอ่อนแอปวกเปียก ไม่สมควรจะถูกรังแก หากแต่โชคร้ายที่เกิดมามีพ่อคนเดียวกันกับคนที่เป็นศัตรูกับเขา
แต่ชั่วพริบตาเขาก็กลับเคร่งขรึมหน้านิ่งยิ่งกว่าเก่า ถึงจะมีความเห็นใจอยู่เป็นนิจ แต่ยืนยันไม่มีทางที่จะล้มเลิกยุติแผนร้ายนี้กลางคันแน่ เธอจะต้องตกเป็นเหยื่อของเขา และเป็นสะพานทอดให้เขาเดินข้ามไป เพื่อทวงทุกอย่างที่เป็นของเขากลับคืนมา ต่อให้สิ่งที่ทำอยู่นี้จะไม่ยุติธรรมกับเธอก็ตาม
“เรื่องนั้น วันนึงคุณจะรู้เอง”
เขาไม่อยากอธิบายอะไรมาก ผู้หญิงขี้โวยวายอย่างหล่อน พูดอะไรไปก็คงต้องเปลืองน้ำลายเปล่า
“ได้ไงกัน..” หญิงสาวชะงัก แววตาของคนตรงหน้าราวกับมีอะไรบ้างอย่างซ่อนอยู่ ที่เธอเองก็เดาออกมาทันทีไม่ได้ “บอกฉันมาตอนนี้ ฉันอยากรู้ตอนนี้”
“แน่ใจเหรอ?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง แค่นหัวเราะ เป็นครั้งแรกที่เขามองหล่อนด้วยสายตาเย้ยหยัน “ก็คง..อยากจะเป็นผัวของคุณละมั้ง”
เมเบลกลั้นหายใจ พยายามควบคุมอารมณ์โกรธไม่อยากจะโวยวายอีก เพราะการทำเช่นนั้นมันทำให้เธอเหนื่อย แต่กระนั้นก็ใช่ว่าเรื่องง่าย อุ้งมือบางถึงได้กำผ้านวมแน่น จ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง ที่กำลังเก็บอุปกรณ์ซึ่งเพิ่งจะถ่ายความอนาจารมาเข้าที่
“เอาเรื่องนี้มาขู่คิดว่าฉันจะกลัวเหรอ”
หล่อนเอ่ยถามเสียงต่ำ ขณะมองเขาสวมสูทเป็นสิ่งสุดท้าย
“หึ” อีคอนแค่นหัวเราะ ก้มลงพับแขน ท่าทางของเขาไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด กลับกันยังยักไหล่แบบไม่ยี่หระเลยด้วย “คนอย่างคุณที่ชอบสร้างภาพเป็นชีวิตจิตใจนะหรือ จะไม่กลัว ผมจะบอกให้ กล้องของผมชัดมากนะ มากถึงขนาดที่สามารถส่องอะไรต่อมิอะไรของคุณจนคุณต้องเอาปี๊บคลุมหัว ไม่ก็ฆ่าตัวตายจากโลกนี้ไปเสีย”
“นี่!”
“เชื่อผมเถอะ คุณอย่าต่อต้านผมเลยดีกว่า เพราะมันไม่มีประโยชน์หรอก สู้คุณทำตามที่ผมบอกแบบดีๆ รับรองเลยจะไม่มีใครตาย นอกจากพ่อของคุณ”
“อะไรนะ... เกี่ยวอะไรกับพ่อฉัน?”
ชายหนุ่มช้อนตาขึ้น กระชับเสื้อผ้าให้เข้าที่ พลางเดินมาบีบปาก สาวเจ้านิ่วหน้าด้วยความเจ็บ แต่ก็ยังอวดดีจ้องหน้ากับเขาอย่างท้าทาย อีคอนกัดฟันกรอด
“เกี่ยวแน่นอน” กดเสียงต่ำ “นั่นแหละตัวต้นเหตุของเรื่องนี้”
ใช้ท้องนิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบจนแก้มเธอยู่แล้วผลักออกไป ยกยิ้มกับผลงานของตัวเองที่ทำแก้มทั้งสองข้างของเธอช้ำเป็นรอยได้ ไม่นานกลับต้องแปรเปลี่ยนเมื่อสาวเจ้าก้มหน้าร้องไห้สะอื้น
“ฮึก..บ้าจริง”
น่าเสียดายที่เธอไม่เห็นแววตานั้น พอเงยหน้าขึ้นมาเขาก็เปลี่ยนเป็นอย่างเก่า คือเย็นชาเสมือนว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย
“ใส่เสื้อผ้าซะ เราจะต้องกลับกันแล้ว เมื่อกลับไปถึงรู้ใช่ไหมจะต้องทำยังไง”
สำหรับเธอในตอนนี้เขาไม่ใช่บอดี้การ์ด
แต่เป็นซาตานที่จงใจจะทำร้ายกันต่างหากล่ะ!