อีคอน -13 ข้อมูลใหม่

1602 Words
ร่างบางเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่ม ไม่เหลือเสื้อผ้าปกคลุมแม้แต่ชิ้นเดียว นอนสะอึกสะอื้น ก่อนจะหลับไปเองเพราะไม่มีใครปลอบใจ บวกกับความเหนื่อยล้าที่ถูกยัดเยียดให้ โดยที่หล่อนไม่ได้ร้องขอแม้แต่น้อย เมื่อคืนลากยาวมากระทั่งตอนนี้หกโมงเช้า เสียงหอบกระเส่าดังระงมไปทั่วห้อง หลังอีคอนตักตวงความสุขจากร่างกายหล่อนหลายครั้ง ไม่เหลือช่วงเวลาให้หล่อนได้พักเลย อีกทั้งเดินออกจากห้องไปไม่เหลียวแล ไม่มีคำพูด ไม่สนใจว่าหล่อนจะเป็นยังไง เจตนาออกไปเพราะไม่อยากให้ใครมาเห็นแค่นั้น แถมยังชี้ไปที่ขมับตัวเอง บอกเป็นนัยยะเพื่อเตือนสติว่า ..หล่อนไม่ควรโง่...หากคิดจะตุกติกไปฟ้องพ่อ อาจมีเงื่อนไขที่ทำให้รู้สึกแย่ขึ้นมาอีก เมเบลหลับไปแค่ชั่วโมงเดียว ความวิตกกังวลปนคับแค้นใจส่งผลให้หล่อนหลับไม่ลง บวกกับร่างบางตอนนี้ปวดเมื่อยไปทั้งร่าง ช้ำแดงเป็นจ้ำทุกพื้นที่ที่เขาสัมผัส บางจุดอยู่นอกร่มผ้าเสี่ยงใครต่อใครมองเห็น โดยเฉพาะจุดซ่อนเร้นโยนีหวงแหนนั้นด้วย เต็มไปด้วยกลิ่นคาวคละคลุ้งปนเลือด “ฮึก... ฉันสาบานเลยดีแลน ว่าแกจะไม่มีวันได้ข่มเหงฉันแบบนี้ไปตลอด” สาวเจ้านั่งชันขาในท่ากอดเข่า สองมือกำผ้าปูที่นอนแน่น พึมพำกับตัวเอง ทั้งที่เขานั้นไม่ได้ยิน พร้อมมีตัวช่วยระบายคือน้ำตาไหลอาบแก้มไม่ขาดสาย ร่างสูงเปลือยเปล่าช่วงบน เผยแผงอกแน่นกล้ามเนื้อเป็นมัด มีหยดน้ำเกาะเป็นเกล็ดเม็ดเล็กๆ ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่กลางห้องนอน เสมือนมีอารมณ์เครียดในใจ “ บ้าชิบ” อีคอนเสยผมเปียกชุ่มขึ้นไปแบบลวกๆ โกรธตัวเองที่ปล่อยให้อารมณ์เป็นนาย แม้คำพูดของหล่อนจะขยี้ความเคืองขุ่น ท้าทายอำนาจมืดที่อุตส่าห์ซ่อน ก็ไม่ควรปล่อยให้มันหลุดออกมาง่ายดายเช่นนี้ จนรังแกเธอ ร่างบางบนเตียงซึ่งไม่มีทางสู้ ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่ดิ้นรน ปล่อยให้กิจกรรมเร่าร้อนผ่านไปอย่างง่ายดาย แต่นั่นก็เป็นเพราะว่า หล่อนหมดแรงที่จะสู้ เหนื่อยแล้วต่างหาก! โซนสมองที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องมารู้สึกแบบนี้ สั่นคลอนความเย็นชาในใจหมดสิ้น ความเห็นใจถาโถมเข้ามาแทนที่ ให้ละอายแล้วเฝ้าถามตัวเองว่าเขายังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า ทว่า อารมณ์กำหนัดของเขา น่าแปลกที่มันยังคงอยู่ แทบไม่หายไปไหนเลย ทั้งที่ปล่อยธาราสีขุ่นผ่านแกนกายไปแล้วหลายรอบ เขากัดฟันกรอด เมื่อนึกถึงความเร่าร้อนของหญิงสาว หน้าอกอวบอิ่มที่ใครได้สัมผัสเป็นจะต้องภูมิใจในตัวเองไม่น้อย มันทั้งนุ่มนิ่ม ทั้งหอมหวาน จนห้ามใจตัวเองไม่ไหวที่จะไม่ให้ริมฝีปากได้ดูดดื่มเขาทำมันหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน หลังผงกศีรษะขึ้นมาเหลือบมอง หรือก้มลงมาเห็นเอง.... ให้ตายเถอะ! ขนาดกำลังรู้สึกผิด พอคิดถึงอารมณ์ก็พลุ่งพล่านอีกแล้ว “ไม่เอาน่า!” เขากลายเป็นคนหื่นตั้งแต่เมื่อไหร่?! ก็อกๆๆ “ ใคร! ” “ กูเอง ” จังหวะกำลังจับท้ายทอยตนเอง งุ่นง่านอยู่กับความคิดไม่ดีนั้น กลับต้องเปลี่ยนสีหน้ากะทันหัน เมื่อลูกน้องของอเล็กซ์มาเยือน สร้างความหงุดหงิดให้ต่ออีคอนไม่น้อย รีบซ่อนโทรศัพท์ในมืออย่างลนลาน เพราะเพิ่งจะแอบถ่ายภาพตอนหลับของเมเบลมา แล้วกลับมายืนปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยผ้าขนหนูหุ้มเอวผืนเดียวอย่างหมิ่นเหม่ “ครับ ผมไม่ได้ล็อค ...” “เพิ่งตื่นรึวะ” สันติ ลูกน้องคนไทย ทว่าพูดอังกฤษพอใช้ได้ เดินเข้ามายืนบังเต็มวงกบประตู เหลือบหางตามองนาฬิกาสลับกับอีคอน “ครับ” “ตื่นสายนะมึง อย่าบ่อยนักล่ะ ระวังจะพลาดงานสำคัญ นายไม่พอใจ จะไล่ออกเอาได้” “ครับ แล้วนี่พี่มาหาผม มีอะไรด่วนหรือเปล่าครับ” “มีดิ นายให้มาตามมึงเนี่ย” “ตามไปไหนครับ” “ไม่ต้องถาม รีบแต่งตัว กูมีเวลาให้มึงห้านาที” “แล้วคุณหนู? ใครจะดูแล..” “กูไม่รู้ แต่ไอ้หยินลูกน้องคนที่ทำหน้าที่นี้มันตาย นายเลยให้มึงไปแทน” “ตาย?” “เออสิวะ! อย่าถามมาก มึงคิดว่าเป็นบอดี้การ์ด ต้องเดินตามหลังผู้หญิงอย่างเดียวหรือไงวะ” กำปั้นใหญ่แข็งไปด้วยมวลกล้ามเนื้อ ถูกบีบเข้าหากันจนเป็นก้อน อีคอนอยากตะบันหน้ามันให้หงายหลังนัก แต่กลับทำได้เพียงแค่เก็บอาการ ลำบากฟันสวยที่ต้องเป็นที่ระบายขบกันเองหลายครั้ง จนเจ็บ “เร็วโว้ย!! เดี๋ยวนายก็ด่ากูอีกหรอก” “ครับๆ” แดดร้อนให้เปรี้ยง อีคอนยืนตระหง่านอยู่หน้าคฤหาสน์ ใช้จังหวะรอคอยอเล็กซ์ออกมาและตอนไม่มีใคร ลอบมองขึ้นไปยังระเบียงชั้นสองเป็นระยะยอมรับว่าวันนี้เมเบลทำเขาหัวเสียสุดๆ ในหัวของเขามีแต่ภาพเธอ ที่นอนเปลือยกาย ขยับขึ้นลงตามจังหวะของเขา “ ไง ดีแลน ยืนมองพระอาทิตย์บ่อย มันร้อนใช่ไหมวะ ฮะๆๆ” ก่อนจะละสายตาลงมองตามเสียงอเล็กซ์ที่ลอยมาแต่ไกล และตงิดใจด้วยประโยคนี้ ฟังดูเหมือนจงใจจะเหน็บเขา อีคอนเปิดประตูเบาะนั่งข้างหลังของมินิแวน พลางโน้มหน้าลงคำนับ “ขอบใจ เอ้อ! เดี๋ยวไปคันสันตินะ โทษที ที่รบกวนเอานายมาทำงานผิดตำแหน่ง” “ไม่เป็นไรครับนาย ว่าแต่เราจะไปไหนกันครับ” “ท่าเรือ ...” เสียงเรือเล็กเรือใหญ่แล่นสวนผสานเสียงกันระงม ทำใจแกร่งของอีคอนนึกถึงความหลังอีกครั้ง และสร้างความแค้นเพิ่มไปอีกเท่าตัว ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่สถานที่เดียวกับที่เขาและครอบครัวหนีตาย ทว่ามันก็บีบหัวใจไม่แตกต่าง “มีอะไรรึเปล่าวะ” อีคอนชะงัก หันไปมองตามเสียง ก็เห็นคนที่เดินมาหยุดข้างเขาคือสันติ “เปล่า..” “กูเห็นมึงมองเรือลำนั้นนานจนมันจะระเบิดอยู่แล้ว เฮอะ.. อย่าบอกนะว่ามึงอยากขึ้นไปน่ะ กระจอกอย่างพวกเรา อย่าไปหวังสูงเลย” สันติถอนหายใจยาวเหยียด อีคอนคงขี้เกียจมายืนอธิบาย แล้วบอกให้เขาตาสว่างว่าเข้าใจผิด ณ เวลานี้ สำหรับเขา เพื่อสิ่งที่ต้องการแล้ว อะไรเมินได้ก็คงต้องทำ แม้บางทีคำพูดบางคำมันจะกวนใจ จนเขาอยากจะเสยคางคนพูดหลายครั้งก็เถอะ “นายไม่ให้พี่เข้าหรือครับ” เขาหมายถึงเรือลำเลียงสินค้าลำใหญ่ ที่เต็มด้วย ตู้คอนเทนเนอร์ “จะเข้าไปทำหงอกอะไรล่ะ คนใหญ่คนโตเขาจะคุยกัน” “การเจรจาเรื่องสำคัญ ปกติต้องมีคนคุ้มกันที่ไว้ใจได้สักคนสองคน ป้องกันการหักหลัง อันที่จริงมันควรจะเป็นพี่นี่ครับ” อีคอนย้อนแสร้งทำหน้าฉงน คนฟังถึงกับเงียบ หันไปมองอย่างอื่นไม่กล้าสบตา “นั่นน่ะคุณนิรันดร์ เพื่อนสนิทนายทำงานด้วยกันมาเป็นสิบๆปีแล้ว จะมาหักหลังอะไรกัน มึงก็พูดมั่ว ระวังปากหน่อย” “ขอโทษครับ” ร่างสูงลนลานก้มหน้า “ผมปากพล่อย โปรดอย่าถือสา” “ช่างมันเถอะ เรื่องนั้นมึงไม่ต้องกังวลหรอก นายเราเขามีแบล็คดี เรื่องหักลงหักหลัง ใครคิดทำคงไม่ใช่เรื่องง่าย” “พี่พูดอย่างกับว่า เพื่อนนายเราเป็นตำรวจ “ “ชู่ววว ไอ้นี่! อย่าเสียงดังสิวะ” “เอ่อ.. โทษครับพี่” “เขากำชับนักกำชับหนา อย่าให้ใครรู้ ถ้ารู้แล้วต้องเหยียบ” อีคอนทำหน้าฉงนไม่เลิก ในหัวเขาตอนนี้มีแต่สำนวนปริศนา กำลังปะติดปะต่อเรื่องที่ได้ยินมา ทว่าข้อมูลที่ได้มันเหมือนจะไม่พอ คุมเครือซะจนเขาการันตีต่อสิ่งที่สันนิษฐานอยู่ไม่ได้ “ทำไมหรือ..” “อุบ๊ะ ไอ้นี่ กูว่ามึงตอนนี้ชักจะเสือกมากไป” “โถ่พี่ ผมไม่ได้ฉลาดเท่าพี่นี่ เพิ่งจะมาอยู่ได้ไม่นาน ใครจะไปรู้ล่ะ อีกอย่าง บอกหน่อยก็ดีนะครับ เวลาเจอเขาจังๆ ผมจะได้ระวังตัวเอง” “เออว่ะ จริงด้วย มึงเป็นบอดี้การ์ดคุณหนูนี่นะ ยังไงก็ต้องเจอบ่อยอยู่แล้ว” “ ครับ? ” “เพราะลูกชายของคุณนิรันดร์ เป็นคู่หมั้นคุณหนู” หึ.... คิดไว้ไม่มีผิด... “เขาจะมาเปิดร้านใหม่กันที่นี่อย่างนั้นเหรอครับ” อีคอนเปลี่ยนเรื่อง สีหน้าของเขากลัวสันติจะจับได้ จึงเปลี่ยนเป็นยิ้มแฉ่ง “เปิดทำซากอะไรที่ท่าเรือนี่ล่ะ โน่น มึงเห็นเรือเยื้องกับลำที่มึงมองเมื่อกี้ไหม” “ครับ เห็น” “นั่นล่ะ ของดีมีราคาอยู่ในนั้น ส่วนแบ่งกูก็ได้ทุกครั้งนะ ถ้าลักลอบผ่านน่านน้ำสากลไปได้สำเร็จ มานี่ เอาหูมึงมา กูจะบอกให้หายโง่สักที ฟังแล้วมึงเหยียบไว้ด้วยนะเว้ย “ อีคอนพยักหน้า เอียงหน้าเข้าไปใกล้ พลางเบิกตาเป็นประกายขณะได้ยิน “ @#//-* ##@--*// “ “ .............” “ฮ่าๆๆ เป็นไงล่ะ แจ่มล่ะสิ รู้แล้วก็เหยียบไว้นะโว้ย เอาไว้กูจะพามึงไปสักวัน” ก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้ามาเป็นปกติ “จริงนะพี่” “ฮ่าๆๆ ไอ้นี่ ตาเป็นประกายเชียวนะมึง เออๆ ไว้กูว่างก่อน พาไปแน่นอน รับรอง..ติดใจ” “แล้วผมจะรอนะครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD