ตอนที่ 60 — ตัวคั่นเวลาหรือหัวใจ

1269 Words
ตอนที่ 60 — ตัวคั่นเวลาหรือหัวใจ เสียงเปียโนคลอเบา ๆ ในร้านอาหารฝรั่งสไตล์ยุโรป แสงไฟสีอุ่นจากโคมแก้ว สะท้อนหิมะขาวที่โปรยอยู่ด้านนอก พายณรีย์นั่งตรงข้ามคนิน มือเรียววางอยู่บนโต๊ะข้างแก้วไวน์ที่ยังไม่ถูกแตะ คนินมองเธอเงียบ ๆ นานจนพายเริ่มรู้สึกถึงแรงสายตานั้น เธอหลบตา มองออกไปทางหน้าต่าง ที่มีไอหิมะเกาะอยู่ >“คุณพาย...” เสียงของคนินทุ้มต่ำ แผ่วเบา แต่ชัดเจน >“ผม ...ผมอยากถามเรื่องคุณนาริตะ...” พายรีบพูดแทรกขึ้นทันที >“พายไม่อยากพูดถึงเขาแล้วค่ะ” เธอเงยหน้ามองเขา น้ำเสียงหนักแน่นกว่าที่คนินคาดไว้ >“ความสัมพันธ์ระหว่างพายกับเขา... จบลงไปนานแล้วค่ะ” คนินนิ่ง พายสูดลมหายใจลึก แล้วพูดต่อด้วยเสียงเรียบแต่มีแรงสั่นในอก >“นาริตะ....พยายามติดต่อพายมาตลอด หลายเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่เพราะเขารักพาย...” “เขาเพียงแค่เสียศูนย์ เพราะผู้หญิงที่เขารักจริง ๆ — เอมิกะ — เธอเลือกไปคบกับนักธุรกิจต่างชาติ” เธอหัวเราะเบา ๆ อย่างขมขื่น >"พายไม่อยากกลับไปอยู่ในวังวนแบบนั้นอีกแล้ว คนที่เลือกจะจากไปวันนั้น.. ... ก็ไม่ควรย้อนกลับมาเมื่อสูญเสียใครอีกคน” บรรยากาศบนโต๊ะเงียบลงอีกครั้ง มีเพียงเสียงลมหิมะข้างนอกที่กระทบกระจกเบา ๆ คนินมองเธออย่างเข้าใจ แต่ในแววตานั้นมีบางอย่างที่คล้ายกับความกลัว เขาวางช้อนในมือลงช้า ๆ แล้วเอ่ยเสียงแผ่ว >“แล้วผมล่ะครับ...?” >“ตอนนี้... ผมกำลังเป็น ตัวคั่นเวลา ของคุณอยู่หรือเปล่า” พายชะงัก เงยหน้าขึ้นสบตาเขา หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบได้ยิน คนินพูดต่อ น้ำเสียงตรงและจริงจัง >“ผมรู้ว่าคุณยังมีเรื่องในใจ.. ยังไม่พร้อมจะเริ่มใหม่...ก็ได้ ผมเข้าใจ...” >“แต่ผมแค่อยากรู้... ว่าทุกครั้งที่คุณหันมามองผม มันคือเพราะคุณรู้สึก... หรือเพราะอยากให้ใครบางคนเห็น” พายนิ่งไปนาน ความเงียบในระหว่างนั้นหนักเสียยิ่งกว่าเสียงใด เธอก้มหน้าลง มองฝ่ามือตัวเอง ก่อนจะพูดช้า ๆ >“คุณคนิน...พาย..อยากบอกว่า ... พายยังไม่แน่ใจ...แต่ทุกครั้งที่อยู่ใกล้คุณ หัวใจมันเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว... แบบนี้จะเรียกว่าอะไรดีคะ..?” แววตาคนินอ่อนลงทันที เขายิ้มบาง ๆ — รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ และความอ่อนโยน >“ผมไม่ต้องการคำตอบตอนนี้หรอกครับ” >“แค่รู้ว่าคุณไม่โกหกหัวใจตัวเอง... ผมก็พอใจแล้ว” พายเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ในดวงตาคู่นั้นสะท้อนภาพของชายที่เธอไม่แน่ใจ ว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือคนที่กำลังจะกลายเป็นมากกว่านั้น หิมะข้างนอกยังคงโปรยบางเบา แต่ภายในร้าน กลับอุ่นขึ้นอย่างประหลาด เธอเอื้อมมือแตะขอบแก้วไวน์เบา ๆ เสียงกระทบของแก้วสองใบ บอกความรู้สึกที่คำพูดไม่อาจแทนได้ >“เพื่อความรู้สึก... ที่มันอาจจะชัดเจนในสักวันนะคะ” คนินยกแก้วขึ้นจิบไวน์ พลางสบตาเธออย่างลึกซึ้ง >“ครับ..ผมจะรอ..” ___ ตอนที่ 61 — เงาในบ้านที่ว่างเปล่า เสียงนกร้องแผ่วเบานอกหน้าต่างเช้าวันอาทิตย์ ไม่ได้ปลุก “ไทน์” ให้ลุกจากเตียงอย่างทุกวัน ผ้าม่านในห้องยังคงถูกปิดแน่น เหลือเพียงแสงแดดสีจาง ๆ ที่ลอดเข้ามาเป็นเส้นบาง ๆ ตัดผ่านอากาศที่นิ่งงัน บนโต๊ะเขียนหนังสือยังมีโน้ตสั้น ๆ จากพี่สาว วางค้างไว้ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น -“ดูแลตัวเองด้วยนะไทน์ ..”- ตัวอักษรลายมือพี่สาวนั้น กลับเป็นสิ่งเดียวที่ยังทำให้เขายิ้มได้ในตอนตื่น ถึงอย่างนั้น... รอยยิ้มนั้นก็จางหายอย่างรวดเร็ว ตลอดสามวันมานี้ ไทน์แทบไม่ออกจากห้อง เขานอนตื่นสาย กินข้าวเพียงนิดหน่อย และใช้เวลาเกือบทั้งวันบนหน้าจอคอม ราวกับอยากให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้น จนถึงวันที่พี่สาวกลับมา ในครัวของบ้านหลังเดิม “แม่อารีย์” ยืนพับผ้าอยู่ข้างโต๊ะอาหาร ข้าง ๆ มี “ป้าพา” พี่สาวของเธอที่ยังอยู่กับบ้านนี้ มาหลายสิบปี กำลังชงชา แม่อารีย์ถอนหายใจยาว เธอมองบันไดที่ทอดขึ้นไปยังชั้นสอง ด้วยแววตาอ่อนล้า >“ไทน์ไม่ลงมากินข้าวอีกแล้ว... ตั้งแต่พายไปญี่ปุ่น เขาก็แทบไม่พูดกับใครเลย” ป้าพาวางแก้วชาเบา ๆ ก่อนพูดอย่างระมัดระวัง >“ไทน์เขาติดคุณพายมาก ตั้งแต่เล็ก ๆ พายเป็นเหมือนทั้งพี่ ทั้งแม่ ทั้งเพื่อน... เวลาเขามีอะไรในใจ ก็จะคุยกับพายคนเดียว” แม่อารีย์เงียบ ไม่ตอบอะไร มือที่กำลังพับผ้าชะงักไปเล็กน้อย ก่อนวางผ้าผืนนั้นลงบนโต๊ะ >“ฉันก็พยายามจะเข้าใจเขานะพี่พา แต่บางที... เขาก็ทำเหมือนฉัน เป็นคนแปลกหน้าในบ้านตัวเอง” ป้าพาพยักหน้าอย่างเข้าใจ >“เอาน่า...พายไปไม่นานหรอก.. เดี๋ยวกลับมา ไทน์ก็คงดีขึ้นเอง” แม่อารีย์ยิ้มบาง ๆ แต่ในแววตานั้นกลับแฝงความเศร้า เธอวางผ้าในมือ แล้วตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไป เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง >“ไทน์... ลูก แม่ทำข้าวไว้ให้แล้วนะ กินหน่อยสิ” เงียบไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงเสียงหายใจเบา ๆ จากในห้อง แม่อารีย์เคาะอีกครั้ง >“ พี่พายเขาฝากแม่ให้ดูแลลูกนะ...” เสียงเปิดประตูดังขึ้นกระทันหัน “ไทน์” ยืนอยู่ตรงนั้น — ผมยุ่งเหยิง ใบหน้าอิดโรย ดวงตาแดงเรื่อราวกับอดนอน >“ฝากแม่เหรอครับ?” เสียงเขาเย็นเยียบ >“พี่พายฝากแม่ดูแลผมงั้นเหรอ? แม่แน่ใจเหรอครับว่าแม่ ‘ดูแล’ ผมเป็น?” แม่อารีย์ชะงัก คำพูดที่เตรียมไว้กลืนหายไปในลำคอ ไทน์กำมือแน่น ดวงตาเริ่มร้อนผ่าว >“ตั้งแต่ผมจำความได้... แม่ไม่เคยอยู่บ้านเลย แม่อยู่แต่กับคนอื่น อยู่แต่กับงาน!..ก็แค่นั้น” น้ำเสียงเขาเริ่มสั่น แต่กลับไม่อาจหยุดพูดได้ >“แม่ไม่เคยเห็นผมเลยใช่ไหมครับ ... แม่เห็นผมแค่เป็น ‘ลูกคนเล็ก’ ที่ต้องอยู่ในกรอบ ต้องไม่สร้างปัญหา...” >“แต่แม่ไม่เคยรู้เลยว่าผมรู้สึกยังไง!” แม่อารีย์ยืนนิ่ง ดวงตาเริ่มพร่าด้วยน้ำตา เธอก้าวเข้าไปใกล้ลูกชาย แต่ไทน์ถอยหลังทันที >“อย่าเข้ามาใกล้ผม... ผมไม่อยากฟังคำปลอบใจจากแม่... ครั้งเเล้วครั้งเล่า” เสียงประตูปิดดัง ปัง! แม่อารีย์ยืนอยู่หน้าห้องนั้น มือสั่นเล็กน้อย ก่อนเอ่ยออกมาแผ่วเบา “ไทน์..แม่... ขอโทษนะลูก ... แม่อาจจะช้าไปหน่อย...” เธอเอามือแตะประตูเบา ๆ >“แต่แม่อยากเริ่มใหม่กับลูกจริง ๆ” ไม่มีเสียงตอบ มีเพียงเสียงสะอื้นของผู้เป็นแม่ ที่ค่อย ๆ จางไปในความเงียบของบ้าน ห้องทั้งบ้านเงียบสนิท เหลือเพียงเสียงนาฬิกาเดินไปเรื่อย ๆ แต่ในใจของคนเป็นแม่และลูก — เวลากลับเหมือนหยุดนิ่งอยู่ที่ “ความไม่เข้าใจกัน” มานานหลายปี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD