ตอนที่ 5

1487 Words
ตอนที่ 5 “อื้อ...ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ถ้าคิดออกเมื่อไหร่แล้วอาค่อยบอกแล้วกัน” ไตรภพทำท่าคิดอยู่นาน แต่เขาคิดไม่ออกหรอก เพราะว่าแค่พูดแกล้งหลานสาวเล่นเท่านั้น “ว้า...ไม่กล้ากินเยอะเลยเนี่ย” สีหน้าของหลานสาวตัวแสบทำหน้ามุ่ยอีกแล้ว เธอวางเปลือกมังคุดลูกสุดท้ายลง แต่ไม่ได้เป็นเพราะว่าเธอกลัวคุณอาจะเก็บค่าผลไม้จากเธอแพงหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าเธออิ่มแล้วต่างหาก “อาล้อเล่น อยากกินเท่าไหร่ก็กินไปเถอะฟรีครับ” ไตรภพจับศีรษะหลานสาวโยกไปโยกมาอย่างเอ็นดู ต่อหน้าลูกน้องที่นั่งกันอยู่ตรงนี้เป็นสิบ ลูกน้องทั้งหมดต่างแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อเห็นอาการของลูกพี่ที่ดูจะมีความสุขกว่าทุกวัน เพราะไตรภพไม่เคยเล่นกับใครแบบนี้มาก่อน ปกติเขาจะเป็นคนทำงานที่ไม่ค่อยยิ้มสักเท่าไหร่ แต่ถ้าทำหน้าเข้มๆนี่ถนัดเลย “คุณอาใจดีจัง” น้ำเสียงออดอ้อนกับรอยยิ้มสดใสของหลานสาว ทำให้คุณอาหนุ่มรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก “เข้าสวนไปดูคนงานตัดทุเรียนกัน” แก้วขวัญเดินตามคุณอาของเธอเข้าไปในสวนทุเรียน แล้วเธอก็เห็นว่าเวลาที่คนงานตัดทุเรียนมันไม่ได้ง่ายเลย “โอ้โห…แขนจะหักไหมคะนั่น” แก้วขวัญรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง เมื่อได้เห็นการตัดทุเรียนของจริง ภาพที่เธอเห็นคือ มีคนคอยตัดอยู่บนต้น และมีคนอยู่ด้านล่างคอยรับ แต่มันจะไม่ยากเลย ถ้าผลไม้ที่ว่าไม่ใช่ทุเรียน ที่มีแต่หนามลูกใหญ่และหนักมาก เพราะคนที่อยู่ด้านล่างจะต้องรับให้ได้ โดยการถือกระสอบรอรับ และก็จะต้องแม่นมากๆ ถ้าพลาดโดนแขนหรือมือเข้า ก็คงจะบาดเจ็บไม่น้อย และน้ำหนักของลูกทุเรียนแต่ละลูกก็ไม่ใช่เบาๆ “เป็นไง อยากจะเป็นคนรับหรือเป็นคนตัดเลือกเอา” ไตรภพแกล้งถามหลานสาวเล่น ดูจากแขนเล็กๆของเธอแล้ว มีหวังหักตั้งแต่คิดแล้ว “คุณอาอย่าใจร้ายกับแก้วสิคะ” แก้วขวัญส่ายหน้าเบาๆ เธอขอเป็นคนดูพวกคนงานตัดดีกว่า เพราะเธอคงไม่เหมาะทั้งตัดและรับ ต้นทุเรียนก็สู๊งสูง “เป็นไงกว่าผลไม้พวกนี้จะถึงผู้บริโภคมันไม่ได้ง่ายเลย” “ค่ะ คุณอาทำสวนเหนื่อยไหมคะ” “เหนื่อยสิ” ถึงไตรภพจะมีคนงานมากมาย แต่งานทุกอย่างในสวนของเขา ไตรภพจะต้องทำเองได้หมด และทุกครั้งที่มีคนงานขาดหรือลาพักบ้าง เขาก็จำเป็นต้องมาทำหน้าที่พวกนี้แทน ไตรภพพาแก้วขวัญเดินชมสวนไปเรื่อยๆ เธอดูมีความสุขมาก ที่ได้เดินชมสวนโน้นบ้าง สวนนี้บ้าง เก็บผลไม้บนต้นชิมบ้าง บางลูกก็เปรี้ยว บางลูกก็หวาน แล้วเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงเวลาเย็นของวัน “กลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวถ้าพรุ่งนี้อยากมาอีก ก็มากับอาอีกได้” เพราะเขาจะต้องเข้าสวนทุกวัน ยกเว้นวันที่นัดลูกค้าหรือเข้าโรงงาน ทั้งสองคนคุณอากับคุณหลานกลับมาถึงบ้านก็มืดพอดี วันนี้เป็นวันแรกที่แก้วขวัญมาอยู่กับคุณอาไตรภพวันแรก เธอดูตื่นเต้นและมีความสุขมาก เธอโทรไปเล่าให้คุณพ่อของเธอฟัง ด้วยความตื่นเต้นอยู่พักใหญ่ ภายในห้องพักส่วนตัวที่คุณอาของเธอจัดไว้ให้ หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงคุณอามาเคาะประตูเรียก ให้ลงไปทานข้าวเย็น เธอจึงวางสายจากคุณพ่อของเธอ แล้วเดินตามคุณอาลงไปที่ชั้นล่างของบ้าน หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ไตรภพนั่งทำงานเอกสารเรื่องค่าแรงคนงานและรายรับรายจ่ายของสวนผลไม้ และได้เห็นว่าผลผลิตในปีนี้เป็นที่หน้าพอใจมาก ปีนี้เป็นปีที่เขาฟันกำไรมากกว่าปีอื่นๆ เพราะฝนตกต้องตามฤดูการ ผลผลิตออกมากกว่าทุกปี จึงทำให้เขาเก็บเกี่ยวผลผลิตไปขายได้มาก และยังมีสวนข้างๆอีก ที่เขาเป็นพ่อค้าคนกลางขายส่งตามท้องตลาดอีกด้วย ส่วนผลไม้เกรดเอ ไตรภพจะนำมาคัดแยก เอาไว้ส่งนอกกับเข้าโรงงานผลไม้กระป๋องที่เขานั้นมีหุ้นส่วนกับเพื่อน ส่วนแก้วขวัญเธอกลับเข้าห้องนอน จัดเสื้อผ้าเข้าตู้จนเรียบร้อย อยู่ๆเธอก็บังเอิญหันไปเจอกับอะไรบางอย่าง… “กรี๊ด! จิ้งจก… คุณอาขา…” แก้วขวัญร้องเสียงดังลั่น เธอกลัวตัวพวกนี้เป็นที่สุด ทั้งๆที่ห้องนอนของเธอก็ปิดมิดชิดดี ถึงบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านไม้แต่ก็ตีฝ้ากุผนังอย่างดี ไม่น่าจะมีตัวพวกนี้เข้ามาได้ “คุณอา! คุณอา! เปิดประตูให้แก้วหน่อยค่ะ” แก้วขวัญรีบวิ่งออกมาเคาะประตูหน้าห้องคุณอาทันที ไตรภพที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ ยังไม่ทันได้แต่งตัวเลยด้วยซ้ำ นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว ออกมาเปิดประตูให้หลานสาวในสภาพที่ยังไม่เรียบร้อย “มีอะไร” ไตรภพเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ เมื่อเห็นใบหน้าตื่นกลัวของหลานสาวอยู่ที่หน้าประตูห้อง “แก้ว…แก้วเจอจิ้งจกค่ะ” “แค่จิ้งจกนี่นะ” สำหรับที่บ้านสวนแห่งนี้แล้ว จิ้งจกตามบ้านถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับคนเมืองอย่างแก้วขวัญอาจจะยังไม่ชิน “แก้วกลัวมันค่ะคุณอา” ใบหน้าตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คุณอาหนุ่มถึงกับส่ายหน้าเบาๆ “เดี๋ยวอาไปดูให้ แต่ขออาแต่งตัวก่อนได้ไหม” บ้านหลังนี้มีแค่ไตรภพอยู่คนเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้มีแก้วขวัญมาอยู่ด้วยเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ส่วนคนงานคนอื่นๆก็กลับบ้านใครบ้านมัน “ไม่เอาค่ะ ไปตอนนี้เลย แก้วกลัว” แก้วขวัญจับแขนของคุณอาหนุ่มพยายามดึงเขาให้ออกจากห้องมา ให้ไปดูจิ้งจกในห้องของเธอให้ได้ “แต่อาโป๊อยู่” คำบอกเล่าของคุณอาหนุ่มทำให้แก้วขวัญชะงักไป เธอไม่ทันได้สังเกต ว่าคุณอาของเธอกำลังอยู่ในชุดผ้าขนหนูผืนเดียว และเมื่อเธอได้สติเธอจึงรีบสำรวจคุณอาด้วยสายตาทันที และสิ่งที่เห็นมันทำให้เธอลืมจิ้งจกตัวเมื่อกี้ไปสนิทเลย รูปร่างสมส่วนจะออกไปในทางบึกบึนหน่อยๆ ช่วงบนกล้ามแขนเป็นมัดๆหน้าอกเป็นรอนสวยสมส่วนได้รูป ผิวสีแทนเข้มกำลังดี แก้วขวัญมองจนเพลินตา ก่อนที่เสียงของคุณอาหนุ่มจะดังขึ้นอีกครั้ง “อาน่ากลัวกว่าจิ้งจกตัวเมื่อกี้อีกนะว่าไหม” ไตรภพเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างกวนๆ พูดกับหลานสาวที่กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง “คุณอาไปใส่เสื้อผ้าก่อนก็ได้ค่ะ แก้วจะยืนรอตรงนี้” แก้วขวัญไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณอาของเธอพูด ยังไงเธอก็ยังรู้สึกว่าจิ้งจกน่ากลัวกว่าคุณอาอยู่ดี ไตรภพกลับเข้าห้องไปใส่เสื้อผ้าแล้วกลับออกมาหาหลานสาวตัวเล็กที่ยืนรออยู่ที่หน้าห้องอีกครั้ง “ไหนพาอาไปดูซิ” แก้วขวัญเดินทำท่ากลัวๆพาคุณอาเข้าห้องไปดูจิ้งจกตัวนั้น แล้วก็เห็นว่ามันยังเกาะอยู่ที่เดิม “นั่นค่ะ ตัวนั้น อี๋…” ไตรภพไล่จับจิ้งจกตัวนั้นด้วยมือเปล่าของเขา เพียงเวลาไม่นานนัก เขาก็ไล่จับมันจนได้ จากนั้นก็โยนมันทิ้งลงหน้าต่างไป “แล้วมันจะกลับมาอีกไหมคะ” แก้วขวัญถามขึ้นอย่างกลัวๆ เพราะถ้ามีตัวพวกนี้อยู่ในห้องของเธอ เธอคงนอนไม่หลับแน่ๆ “ปิดหน้าต่างให้ดีๆ มันคงเข้ามาไม่ได้แล้วแหละ” เพราะห้องค่อนข้างปิดมิดชิดและแน่นหนา แต่ถ้าปิดไม่ดี ไอ้ตัวพวกนี้มันก็อาจจะเข้ามาได้ “ขอบคุณนะคะ” “นอนซะนะ ถ้ามีอะไรก็ไปเรียกอาได้ไม่ต้องเกรงใจ” “ค่ะ ฝันดีนะคะคุณอา” “ครับ ฝันดีนะครับเด็กน้อย” ทันใดนั้นประตูหน้าห้องของแก้วขวัญ ก็ถูกปิดลงด้วยมือใหญ่ คนตัวเล็กที่กำลังจะอ้าปากพูด ว่าเธอไม่ใช่เด็ก แต่ก็พูดไม่ทันเสียแล้ว เพราะประตูหน้าห้องถูกปิดลงซะก่อน ทำให้แก้วขวัญอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น “ไหนบอกว่าแก้วโตแล้วไง แล้วทำไมถึงพูดแบบนี้นะ” แก้วขวัญก้มมองหน้าอกตัวเองอีกครั้ง แล้วคิดว่า…เมื่อไหร่มันจะโตสักทีนะ เธอถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ แล้วเดินกลับไปที่เตียงนอนนุ่มๆ พลางคิดอะไรเพลินๆจนเผลอหลับไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD