บทที่ 6 ( 3 )

1237 Words
“ถ้ายังไม่ครบผมจะได้เปลี่ยนเป็นเอารถหกล้อของที่รีสอร์ทไปแทนแล้วครับ” อชิระพูดแล้วต้องชะงักเมื่อเห็นหญิงสาวร่างบางที่วันนี้ดูแปลกตาไปจากทุกวัน เพราะมัวตะลึงทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงเรียกของมารดา “รบได้ยินที่แม่พูดไหมเนี่ย” จินตนาเรียกลูกชายโดยใช้เสียงดังมากกว่าเดิม “คะ ครับเมื่อกี้แม่ว่าอะไรนะ” อชิระละสายตาจากหญิงสาวร่างบางแล้วถามมารดาอีกครั้ง “แม่ถามว่าเรียบร้อยดีไหม ทั้งเครื่องยนต์และยาง” เธอส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ “เรียบร้อยดีครับ แล้วแม่ล่ะครับขนของหมดยัง” คนหล่อยังปากดีไม่เปลี่ยน “หมดแล้วย่ะ” จินตนาพูดแล้วสะบัดค้อนใส่ลูกชายหนึ่งทีแล้วหันไปพูดกับหญิงสาวร่างบาง “เดี๋ยวหนูเทียนนั่งด้านหน้ากับพี่เขานะ ป้าขอนั่งหลังจะได้ยืดขาสบายๆ หน่อย” “ได้ค่ะ” รสิกาพูดแล้วประคองหญิงสูงวัยให้เข้าไปนั่งในรถ ที่จริงเธอก็ตั้งใจจะนั่งหน้าอยู่แล้วถึงแม้จะไม่อยากนั่งใกล้ผู้ชายปากร้ายเท่าไร ถ้านั่งหลังคงไม่เหมาะสมและอาจจะหมียักษ์กัดไปตลอดทางก็ได้ เมื่อนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้วอชิระก็พูดขึ้นมา “ถ้าพร้อมแล้วออกเดินทางเลยนะครับ” เขาหันไปพูดกับมารดาและต้องยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงท่านร้องอย่างดีใจ “เย้! ออกเดินทางไปหาหาดทราย สายลม หนุ่มหล่อกันดีกว่า” จินตนาพูดเสียงดังออกมา ทำให้ลูกชายต้องส่ายหน้าไปมาเรื่องเที่ยวสำหรับมารดาถึงไหนถึงกัน ระหว่างทางทั้งสามคนก็จอดแวะปั๊มให้หญิงสูงวัยได้พักยืดขาเดินไปมาบ้าง ไม่ว่าจะแวะปั๊มไหนจินตนาก็เล่นซื้อของกินมันทุกครั้งที่จอด ส่วนรสิกาก็อดตื่นเต้นไม่ได้เพราะนานแล้วที่ไม่ได้มาเที่ยวทะเลแบบนี้ “รบกินขนมปังกระเทียมไหมน่าจะเข้ากับกาแฟดีนะ” จินตนาถามลูกชายที่กำลังขับรถอยู่ “หนูเทียนถือให้พี่เขาทีนะจ๊ะ” เธอส่งถุงขนมปังกรอบหน้ากระเทียมให้หญิงสาวร่างบาง ซึ่งรสิกาก็รับมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “นี่คะ” เธอยื่นถุงไปตรงหน้าของชายหนุ่ม อชิระหันมามองเล็กน้อยแล้วพูดออกมา “ไม่เห็นหรือไงว่าผมขับรถอยู่ หยิบป้อนผมทีละชิ้นหน่อย” คำพูดของอชิระทำให้เธอต้องหันไปมองหน้าอย่างตกใจ “หนูเทียนป้อนพี่เขาทีนะขับรถมือเดียวมันอันตราย” จินตนาพูดแล้วยิ้มน้อยๆ พร้อมกับคิดในใจว่า “รู้จักอ้อนสาวแล้วลูกชายฉัน เยี่ยมมากอย่างนี้แม่ปลื้ม!” สงสัยกามเทพอย่างเธอต้องทำหน้าที่ให้มากขึ้นซะแล้ว เพราะรสิกายังดูนิ่งๆ อยู่เลย ส่วนลูกชายเธอดูมีอาการมากขึ้น ในที่สุดทุกคนก็มาถึงเกาะเสม็ดแม้จะเหนื่อยและเมื่อยจากการเดินทาง แต่สองสาวต่างวัยก็ยังมีรอยยิ้มกว้างอยู่ตลอด ส่วนผู้ชายคนเดียวของทริปนี้อย่างอชิระไม่ได้รู้สึกอะไรกับการขับรถทางไกลแบบนี้เพราะเขาขับรถทุกวัน “ตารบจองห้องพักดีมากเลย แม่ชอบมากจ้ะ” จินตนาหันมาพูดกับลูกชายที่กำลังช่วยพนักงานถือกระเป๋าตามเข้ามา บ้านพักที่อชิระเลือกเป็นวิลล่าซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเสม็ดตกแต่งด้วยไม้สักและผ้าไหมไทยให้ความเรียบง่าย แต่มีความหรูหราอยู่ในตัวอย่างพอเหมาะ มีระเบียงส่วนตัวและมีสระว่ายน้ำส่วนตัวให้อีกด้วย หรือถ้าอยากว่ายน้ำกับคนอื่นตรงส่วนกลางก็ให้บริการเช่นกัน ด้านหน้ามองเห็นทะเลเรียกว่าเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเลสีฟ้าใสแล้ว บรรยากาศโดยรอบให้ความโรแมนติกเป็นอย่างมาก “หนูเทียนนอนกับป้าได้ใช่ไหมจ๊ะ” จินตนาถามเพราะมันมีสองห้องนอนเท่านั้นเอง “ได้ค่ะไม่มีปัญหา” รสิกาตอบหลังจากที่ชื่นชมความสวยงามตรงหน้า ต้องยอมรับเลยว่าชายหนุ่มร่างสูงเลือกที่พักได้ดีมาก ไม่คิดว่าหมียักษ์อย่างอชิระจะมีรสนิยมเหมือนกัน “ถ้าอย่างนั้นแม่เข้าไปพักผ่อนก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวเย็นๆ เราค่อยไปเดินเล่นที่ริมหาดกัน” อชิระพูดแล้วมองหน้าหญิงสาวร่างบางและต้องแอบยิ้มเมื่อเห็นท่าทางมีความสุขและดีใจเหมือนเด็กๆ ของรสิกา หลังจากที่สองสาวต่างวัยเข้าไปพักในห้องแล้วอชิระก็เดินเข้าไปในห้องพักของตัวเองและโทรศัพท์ถามไถ่เรื่องงานจากพนักงาน การที่เขาเลือกที่พักแบบนี้เพราะจะได้มาดูด้วยว่าการบริการที่นี่เป็นยังไงจะได้เอาไปปรับใช้ที่รีสอร์ทและโรงแรมของเขาบ้าง ระหว่างที่กำลังนั่งคิดเรื่องงานอยู่สายตาก็หันไปเห็นคู่หูต่างวัยของมารดาเดินอยู่แถวหน้าบ้าน “จะไปไหนของเขา” อชิระพูดกับตัวเองแต่สองขากลับก้าวเดินตามหญิงสาวร่างบางไปห่างๆ “นี่เราเดินตามผู้หญิงคนนี้ทำไมเนี่ย” เขาถามหลังจากที่เดินตามหลังรสิกามาได้สักพักแล้วหญิงสาวก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดิน และเขาก็ต้องรีบหลบเมื่อเห็นว่ารสิกาเดินไปทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้ริมหาด อชิระเองก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่หญิงสาวนั่งมากนัก ท่าทางการเป็นธรรมชาติที่รสิกาแสดงออกตั้งแต่วันที่เขาได้เจอเธอครั้งแรกมันทำให้เขาเลิกระแวงสงสัยว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแผนของมารดา เพราะเจ้าหล่อนไม่ได้เข้าหาเขาเลยตรงกันข้ามหญิงสาวมักหนีไม่ยอมอยู่ใกล้ ยิ่งรสิกาถอยห่างเหมือนไม่อยากอยู่ใกล้เขายิ่งอยากแกล้งถึงได้พูดจาจิกกัดอยู่บ่อยครั้ง อีกฝ่ายไม่เคยพูดตอบโต้แต่ใช้วิธีมองด้วยหางตาและยกยิ้มเยาะมีความสุขสะใจเวลาที่เขาโดนมารดาดุ การต่อต้านเล็กๆ น้อยๆ มันสร้างสีสันให้เขามีรอยยิ้มขึ้นมาได้บ้าง แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้เขาหงุดหงิดคือหนุ่มทนายหน้าตี๋คนนั้น เหตุการณ์วันนั้นเขาเองก็ตกใจไม่น้อยที่ตัวเองมีอาการแบบนั้น เขายังหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไรเขาถึงปัดแก้วลงพื้นไปแบบนั้น ยิ่งตอนที่รสิกาไม่สบายเขาทำงานไปห่วงไปกลัวว่าหญิงสาวจะตัวร้อนมากขึ้นทั้งๆ ที่อีกฝ่ายอาการดีขึ้นแล้วก็ตามทำให้ช่วงสองสามวันที่รสิกาไม่สบายเขากลับบ้านเร็วขึ้นและแอบเข้าไปในห้องนอนของคนป่วยทุกวันอีกด้วย “คุณอชิระมานั่งทำอะไรตรงนี้คะ” เสียงหวานๆ ถามขึ้นเรียกสติและความคิดของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี “ทำไม?? เขาติดป้ายว่าห้ามผมมานั่งเล่นตรงนี้หรือไง หรือคุณคิดว่าผมเดินตามคุณมา...มโนไปไกลนะ” อชิระพูดรัวออกมา เขามัวแต่นั่งคิดอะไรเพลินๆ เลยไม่รู้ว่ารสิกาเห็นและเดินเข้ามาหาตั้งแต่เมื่อไร +++++
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD