บทที่ 2 ( 3 )

1451 Words
“ถ้าผู้หญิงสวยแล้วนิสัยดีน่ารักล่ะ ลูกจะสนใจไหม” เธอลองหยั่งเชิงถามออกมา “แม่ถามแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ ไม่ต้องนัดผู้หญิงมาให้ผมเลยนะ” อชิระหรี่ตาแล้วถามมารดาอย่างจับผิด เพราะท่านชอบติดต่อทาบทามลูกๆ หลานๆ ของเพื่อนสนิทให้มารู้จักกับเขา จินตนาสะดุ้งแล้วพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดแล้วพูดออกมา “ปล๊าว! แม่ไม่ได้นัดผู้หญิงที่ไหนเลย ก็แค่อยากรู้ว่าถ้ามีผู้หญิงที่สวยแล้วนิสัยดีลูกจะสนใจไหมก็แค่นั้นแหละ” เธอตอบเสียงสูงแล้วหันหน้ามองไปรอบๆ อชิระมองหน้ามารดาแล้วยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขารู้ว่าท่านหวังดีอยากให้เขามีใครสักคนเข้ามาในชีวิต แต่เขาไม่พร้อมจะเรียกว่ากลัวก็ได้ เขาไม่อยากเสียใจซ้ำสองอีกที่ผ่านมาก็มีผู้หญิงเข้ามาหาเพราะฐานะและหน้าตา พูดแบบนี้จะหาว่าเขาหลงตัวเองก็ได้ แต่ที่ผ่านมามันเป็นอย่างที่คิดและพูดจริงๆ และอยู่ๆ ใบหน้าหวานซึ้งแต่แววตามีความดื้ออยู่ในตัวก็ผุดขึ้นมาในความคิด ทั้งที่เขาเคยเจอผู้หญิงคนนั้นแค่ครั้งเดียว แต่กลับจำทุกอย่างบนใบหน้านั้นได้เป็นอย่างดี “เป็นอะไรหรือเปล่ารบ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” จินตนาถามลูกชาย เพราะตอนนี้อชิระทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ดูได้จากคิ้วเข้มที่ขมวดแน่นอยู่ตอนนี้ “เปล่าครับ พอดีผมคิดเรื่องงานนิดหน่อย” เขาตอบมารดาออกไปแบบนั้นแล้วสะบัดศีรษะไปมาเพื่อให้ใบหน้าหวานที่มีลักยิ้มที่มุมแก้มหลุดไปสักที จินตนากำลังจะอ้าปากถามอีกครั้งก็มีเสียงเรียกให้เธอเข้าห้องตรวจเสียก่อน การมาพบหมอก่อนวันนัดทำให้เธอโดนซักถามและตรวจอะไรอีกมากมาย ทำให้คนที่ไม่ค่อยชอบหาหมอทำหน้าบึ้งอยู่ตลอดเวลา “แม่ไม่ค่อยได้กินยาที่หมอจัดให้ใช่ไหมครับ” อชิระถามเพราะตอนที่หมอถามมารดาก็ตอบอ้อมแอ้มเบาๆ เหมือนไม่อยากให้เขาได้ยิน “ก็กินแหละ...แต่บางทีมันก็ลืม” จินตนาพูดเสียงเบาๆ และคิดว่าท่าทางที่กำลังดุเธออยู่นั้นช่างเหมือนสามีที่เสียชีวิตไปนานแล้วไม่มีผิด อชิระไม่เพียงแต่หน้าตาคล้ายสามีเธอเท่านั้นนิสัยบางอย่างก็ถอดกันออกมาไม่มีผิด “ถ้าแม่ยังลืมอยู่แบบนี้สงสัยต้องอดเที่ยวแล้วครับ ถ้าเกิดไปน้ำตาลต่ำระหว่างไปเที่ยวจะทำยังไง” อชิระพูดแล้วอดห่วงมารดาไม่ได้ ใจจริงเขาอยากจ้างพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลท่าน เพราะเขาเคยจ้างแล้วแต่แทนที่เจ้าหล่อนจะคอยดูแลมารดากลับมาดูแลเขาแทน บางคนดูแลแบบพิเศษด้วยทำให้เขาไม่กล้าจ้างใครไปอีกเลย “ไม่ได้นะ!! รบจะมากักขังแม่ให้อยู่แต่ในป่าในเขาในบ้านไม่ได้นะ แม่เหงาตายเลย” จินตนาห้ามเสียงหลงพร้อมกับทำหน้าบึ้งอย่างไม่พอใจที่ลูกชายตัวดีจะห้ามไม่ให้เธอไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนๆ นี่ถ้าอชิระมีหลานให้เธอสักคนสองคนรับรองเลยว่าเธอจะไม่ออกไปไหนจะอยู่เล่นและเลี้ยงหลานอยู่กับบ้านตามที่ลูกชายต้องการทุกอย่าง แต่นี่ยังหาแฟนไม่ได้ความหวังเรื่องหลานช่างริบหรี่เหลือเกิน พอเห็นหน้าลูกชายที่ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจอยู่ๆ เธอก็เกิดความคิดอะไรบ้างอย่างขึ้นมา “แม่ยิ้มอะไรครับ คิดอะไรอยู่หรือเปล่า” อชิระถามอย่างสงสัย เพราะเมื่อกี้ท่านยังหน้าบึ้งอยู่เลย พอตอนนี้กลับยิ้มกว้างออกมา “ถ้าแม่อยากได้คนที่มาคอยดูแลแม่เป็นพิเศษล่ะรบจะว่ายังไง” จินตนาถาม อชิระเลิกคิ้วเข้มขึ้นเล็กน้อยแล้วมองมารดาอย่างแปลกใจ เขาก็เห็นด้วยกับความคิดนี้นะ แต่ต้องพูดตกลงกับท่านให้เรียบร้อยเสียก่อน เขาไม่อยากได้คนที่มาสร้างปัญหาให้ “แม่ไม่ได้คิดจะพาผู้หญิงมาให้ผมใช่ไหมครับ” “ไม่ใช่หรอก! แม่จะไปทำแบบนั้นได้ไงในเมื่อคนก่อนรบก็จัดการไล่คนที่ทำแบบนั้นซะกระจายไปแล้ว” จินตนารีบพูดเพราะที่ผ่านมาเคยมีคนคิดจะรวบหัวรวบหางลูกชายตัวดีเลยระแวง แต่ครั้งนี้เธอเชื่อว่าคนที่อยากได้มาดูแลต้องไม่ทำนิสัยแบบนั้นแน่นอน “ถ้าแม่ยืนยันแบบนั้นผมก็ไม่ว่าอะไร จะว่าไปก็ดีเหมือนกันที่มีคนมาคอยดูแลแม่อย่างใกล้ชิด” ไม่ใช่ว่าเขาจะผลักภาระเรื่องแบบนี้ให้คนอื่น แต่เพราะเขาเป็นผู้ชายบางครั้งก็ไม่สามารถทำอะไรแบบที่พวกผู้หญิงชอบทำกัน “จริงนะ! รบอนุญาตแล้วนะแม่จะได้หาคนที่มาอยู่เป็นเพื่อนแม่” จินตนาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และพยายามเก็บความดีใจเอาไว้ไม่แสดงออกมามากเกินไป “ครับ ผมเชื่อว่าแม่จะหาคนที่ดีมาดูแลแม่ได้เรื่องเงินเดือนผมไม่เกี่ยง แม่จัดการได้เต็มที่เลยนะครับ” ถ้ามารดามีเพื่อนแก้เหงาท่านจะได้ไม่ต้องออกไปเที่ยวข้างนอก และมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด คิดถึงตรงนี้เขาก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลท่านเท่าไร เพราะธุรกิจที่ยุ่งอยู่ทุกวันและมีปัญหาที่ต้องแก้ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาพูดคุยกับท่านมากนัก “เดี๋ยวแม่จะหาคนมาดูแลเลยนะ ถ้าได้ยังไงแล้วแม่จะส่งข่าว” จินตนาพูดและหมายมาดปั่นมือว่ายังไงเธอต้องได้คนดูแลที่ถูกใจแน่นอน เธอเชื่อว่าเมื่อเอ่ยปากอีกฝ่ายจะทำตามความต้องการของเธออย่างไม่มีข้อแม้ ++++++ “ใครโทรมาเหรอ” วีระถามภรรยาที่เพิ่งวางสายโทรศัพท์ไป “พี่จินน่ะโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้จะเข้ามาหาที่บ้านมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” นวลพรรณพูดแล้วทำสีหน้ากังวลใจจนสามีต้องเอ่ยปากพูดออกมา “อย่าเพิ่งคิดอะไรไปก่อนเลย พี่จินเคยบอกแล้วนี่ว่าเรื่องนั้นไม่จำเป็นต้องใช้คืน อีกอย่างเราก็ขายที่ดินให้ท่านไปด้วยก็ถือว่าหนี้ที่เคยช่วยก็หมดไปแล้ว” วีระพูดให้กำลังใจภรรยา เพราะตอนที่ธุรกิจของเขาแย่ก็ได้หญิงสูงวัยมาโอบอุ้มเอาไว้ ถึงแม้เขาจะขายที่ดินให้อีกฝ่ายเป็นการใช้หนี้ไปแล้ว แต่เพราะมีบุญคุณต่อกันการที่บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยมันก็น่าห่วงว่าจะเป็นเรื่องนั้น “จะไม่ให้คิดมากได้ยังไงร้อยวันพันปีพี่จินเคยโทรมาหาแล้วบอกมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยซะที่ไหนล่ะ” ถึงจะไม่มีหนี้สินต่อกัน แต่หนี้บุญคุณกลับมีมากจนเธอไม่กล้าปฏิเสธอะไรเลย “เอาน่าอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลย พรุ่งนี้เดี๋ยวก็รู้ว่าเขามีเรื่องอะไร” วีระพูดให้กำลังใจ ถึงแม้จะบอกว่าไม่กังวลแต่ก็รู้สึกวูบโหวงยังไงชอบกล เช้าวันใหม่ขณะที่ทุกคนกำลังกินอาหารมื้อเช้าซึ่งวันนี้แปลกไปกว่าทุกวัน เพราะปกติรมิดาไม่เคยตื่นมาทันเลยหญิงสาวมักตื่นแล้วรีบออกไปทำงานทันที ทำให้ทุกคนค่อนข้างแปลกใจ “วันนี้น้ำจะท่วมเมืองกาญไหมเนี่ยยัยทรายตื่นมาทันกินข้าวเช้า” นวลพรรณพูดออกมาแล้วมองไปที่ลูกสาวคนเล็ก “ทำไมวันนี้ตื่นเช้าได้ล่ะลูก” วีระถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นเดิม “ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เมื่อคืนกลับเร็วเลยตื่นเช้าไม่ดีเหรอคะที่ทรายตื่นเช้ามากินข้าวด้วยแบบนี้ เห็นทุกทีชอบบ่นว่าไม่ค่อยได้เจอหน้าเจอเฉพาะตอนขอเงิน” รมิดาเป็นคนชอบประชดคำพูดที่ออกจากปากก็มักจะเป็นแบบนี้ตลอด ทำให้ทุกคนเบื่อและเอือมระอา “คิดได้แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่ไม่เห็นหน้าเห็นตาเลย” ถ้าจะถามว่ารมิดานิสัยชอบประชดประชันเหมือนใครบอกได้ว่าถอดแบบนวลพรรณมาไม่มีผิดเพี้ยน +++++
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD