บทที่ 2 ( 4 )

1409 Words
“วันนี้แม่กับพ่อจะไปร้านกี่โมงคะ” รสิกาที่นั่งเงียบมานานเอ่ยปากถามออกมา ท่านทั้งสองชะงักไปนิดแล้วเป็นนวลพรรณที่พูดออกมา “วันนี้แม่กับพ่อมีธุระอาจจะเข้าบ่ายๆ หน่อยเทียนก็เข้าไปดูแลร้านก่อนก็ได้ บ่ายๆ ค่อยไปดูร้านอื่น” “ได้ค่ะ เดี๋ยวเทียนไปดูร้านเอง” ถึงจะสงสัยว่าบิดามารดามีธุระอะไร แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามเพราะรู้ว่าถ้ามีเรื่องอะไรบิดาจะเป็นคนมาเล่าให้ฟังอยู่แล้ว “ธุระอะไรเหรอแม่” เป็นรมิดาที่ถามออกมาด้วยความอยากรู้ “เรื่องของผู้ใหญ่เด็กๆ ไม่ต้องรู้หรอก ว่าแต่เราเถอะรีบกินจะได้รีบไปทำงาน” นวลพรรณพูดปัด เพราะยังไม่รู้ว่าเรื่องที่จินตนามาพูดคุยเป็นเรื่องอะไร รมิดาหน้างอง้ำอย่างพอใจเพราะเธอเองก็อยากรู้ว่าธุระที่ว่ามันคืออะไร เธอนั่งกินข้าวอยู่สักพักก็วางช้อนแรงๆ แล้วพูดขึ้นมา “ทรายไปทำงานก่อนนะ” พูดจบเธอก็หยิบกระเป๋าใบหรูที่เอาบัตรเครดิตเงินผ่อนไปซื้อมาแล้วเดินออกจากบ้านไปที่รถของตัวเอง “งั้นหนูก็ไปร้านเลยนะคะ ถ้ามีอะไรก็โทรไปหาหนูไดเลย” รสิกาพูดแล้วอดเป็นห่วงท่านทั้งสองไม่ได้ เพราะหน้าตาที่ดูเครียดๆ นี่แหละที่ทำให้เธอรู้สึกว่าธุระที่ว่ามันต้องเป็นเรื่องที่น่าหนักใจไม่น้อย “ขับรถดีๆ นะลูก” วีระพูดและยิ้มให้ลูกสาวคนโตที่ขยันทำงาน และเป็นเด็กดีไม่เคยทำอะไรให้น่าห่วง จะห่วงก็มีเรื่องเดี๋ยวคือยังไม่มีใครมาดูแลลูกสาวเขาสักที ปีนี่รสิกาก็อายุสามสิบปีแล้ว แต่ไม่เคยมีแม้แต่คนรักหรือให้ความสนิทสนมกับผู้ชายคนไหนเลย จะมีแค่ชายหนุ่มที่ชื่อกานต์เป็นทนายความอนาคตไกล เขาเคยถามว่าความสัมพันธ์เป็นยังลูกสาวเขาบอกว่าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันมานาน ถ้าจะเป็นคนรักก็คงเป็นไปนานแล้ว เขาก็ได้แต่หวังว่ารสิกาจะเจอผู้ชายที่รักและดูแลลูกสาวเขาได้ดี หลังจากที่รสิกาออกจากบ้านไปได้แค่สิบนาทีแขกที่นัดหมายไว้ก็มาที่บ้าน นวลพรรณและวีระเดินออกรับหญิงสูงวัยที่รถด้วยตัวเองทันที “สวัสดีค่ะ/ครับพี่จิน” ทั้งสองพนมมือไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อม “สวัสดีจ้ะ ขอโทษด้วยนะที่นัดฉุกละหุกแบบนี้” จินตนาพูดพร้อมกับมองไปรอบๆ บ้านที่หลังใหญ่ที่สุดที่ในโครงการ “ไม่เป็นไรค่ะ เชิญพี่จินเข้าบ้านก่อนดีกว่าค่ะ” นวลพรรณพูดเชื้อเชิญหญิงสูงวัย “บ้านน่าอยู่ดีนะ ต้นไม้เยอะดีจังนี่พี่ไม่ได้มาหาพวกเรานานแล้วเนอะ” จินตนามองไปรอบอย่างชื่นชม เพราะเธอเองก็ชอบต้นไม้ ไม่น่าเชื่อว่าบ้านในเมืองจะปลูกต้นไม้ได้เยอะแบบนี้ “พอดีผมเอาปลูกยามว่างน่ะครับ ส่วนพวกดอกไม้กับผักสวนครัวก็เป็นความคิดของยัยเทียนเขา” วีระเล่าให้หญิงสูงวัยฟัง ข้างบ้านฝั่งหนึ่งเป็นกระถางดอกไม้ชนิดต่างๆ ที่มีหลายสิบต้นส่วนด้านหลังบ้านก็มีแปลงผักสวนครัวเล็กๆ น้อยๆเอาไว้ทำกับข้าวกินได้ จินตนาได้ยินชื่อหญิงสาวหน้าหวานก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่มาพูดเรื่องนี้ที่บ้านนี้ “แล้วหนูเทียนไปไหนซะล่ะ ฉันไม่เคยเจอหน้าเลยว่าแต่เรามีลูกกี่คนนะ” “มีลูกสาวสองคนค่ะ ชื่อเทียนกับทรายค่ะ” นวลพรรณตอบ แต่ในใจนึกอยากให้หญิงสูงวัยพูดธุระเสียที “แล้วลูกๆ ไปไหนกันหมดล่ะ” จินตนาถามด้วยความอยากรู้ “ยัยเทียนออกไปดูร้านแล้วค่ะ ส่วนยัยทรายก็ออกไปทำงานที่โรงงาน...แล้วค่ะ” นวลพรรณตอบและต้องเงียบไปเมื่อรุ้งเดินเข้ามาเอาน้ำมาให้แขก รุ้งเองพอทำหน้าที่เสร็จก็ปลีกตัวออกไปอย่างรู้หน้าที่ “งั้นเหรอเสียดายจังที่ไม่ได้เจอ” “พี่จินธุระอะไรกับพวกเราเหรอคะ” ในที่สุดเธอก็ถามออกมาก่อนด้วยอยากรู้และร้อนใจ “พี่ขอพูดตรงๆ เลยนะพี่อยากจะให้ลูกสาวเราคนไหนก็ได้ไปคอยดูแลที่บ้าน ช่วงนี้อาการกำเริบบ่อยเจ้าลูกชายตัวดีก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน เลยอยากได้คนไปอยู่เป็นเพื่อนจะเอาคนนอกมาอยู่ด้วยก็ไม่ค่อยไว้ใจเท่าไร” เธอพูดและไม่เจาะจงว่าอยากได้ใครเพราะอยากรู้ว่าทั้งสองคนจะจัดการยังไง เพราะก่อนมานี่เธอก็จัดการให้คนสืบเรื่องราวของคนในบ้านไว้เรียบร้อยแล้วว่าลูกสาวทั้งสองคนของวีระและนวลพรรณเป็นยังไง เจ้าของบ้านหันมามองหน้ากันอย่างขอคำปรึกษา เพราะถ้าให้รสิกาไปใครจะดูแลร้านทุกวันนี้ลูกสาวคนโตก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการดูแลร้านทั้งหมด ส่วนรมิดาจะให้ไปดูแลหญิงสูงวัยคงจะทำไม่ได้ เพราะเจ้าตัวเคยพูดไว้ว่าดูแลใครไม่เป็นและไม่ชอบดูแลใครด้วย “คือเรื่องนี้พวกเราต้องขอคุยกับลูกก่อนน่ะค่ะ เพราะยัยเทียนก็ต้องดูแลร้านส่วนยัยทรายก็มีงานที่ต้องทำทุกวันเหมือนกัน” นวลพรรณพูดแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะไม่กล้าตัดสินใจแทนลูก “ได้ พี่ก็ไม่ได้มาบังคับเอาคำตอบวันนี้หรอก พี่ให้เวลาสามวันถ้าได้เรื่องยังไงก็โทรไปบอกแล้วกันนะ” จินตนาพูดและยิ้มให้ แต่มีความกดดันทั้งคู่อยู่ในตัวด้วย “ขอบคุณพี่จินมากนะคะที่ให้เวลาพวกเรา ถ้ายังไงได้เรื่องแล้วนวลจะโทรไปบอกนะคะ แต่ยังไงลูกของนวลคนใดคนหนึ่งต้องไปอยู่ดูแลคุณน้าแน่นอนค่ะ” จะพูดปฏิเสธก็ทำไม่ได้ เพราะหญิงสูงวัยมีบุญคุณกับเธอมากมายนัก พอได้ยินคำพูดของเจ้าของบ้านก็ทำให้เธอยิ้มอยางพอใจ จริงๆ เธอเจาะจงเลยก็ได้แต่ไม่อยากให้หนูเทียนถูกสงสัยว่าทำไมถึงอยากได้หนูเทียนไปแทนลูกสาวคนเล็กของคู่นี้ “ถ้าหนูเทียนไปอยู่กับพี่ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องงานที่ร้านนะ เพราะพี่จะให้หนูเทียนมาคอยดูแลร้านด้วยมีบางวันที่ต้องมีเข้าเมืองมาหาหมอด้วยอยู่แล้ว อยู่แต่ในป่าก็เหงาเหมือนกัน ส่วนหนูทรายก็แล้วแต่เขาเลยจะลาออกจากงานก็ได้เพราะพี่มีเงินเดือนให้จะเรียกเท่าไรก็ได้ไม่เกี่ยงจ้ะ” จินตนาพูดบอกออกมา “ขอบคุณพี่จินมากนะคะที่เมตตาครอบครัวนวล ถ้ายังไงนวลจะส่งข่าวไปนะคะ” นวลพรรณพนมมือไหว้หญิงสูงวัย และคิดว่าเธอก็ไม่ได้เสียอะไรมากมายสงสัยคืนนี้ต้องเรียกคุยซะแล้ว “ถ้ายังไงพี่ขอกลับก่อนนะ แล้วจะรอฟังข่าวดีนะจ๊ะ” หญิงสูงวัยพูดแล้วลุกเดินกลับไปที่รถที่คนขับรถจอดรออยู่ก่อนแล้ว เจ้าของบ้านเดินมาส่งแขกอย่างมีมารยาทและรอจนรถตู้คันใหญ่เคลื่อนตัวออกไป “จะให้ใครไปดีล่ะงานนี้” นวลพรรณหันมาถามสามีอย่างขอความคิดเห็น “คืนนี้ค่อยคุยกับลูกแล้วกัน แต่พี่มีคำตอบอยู่ในใจแล้วนวลเองก็คงรู้ว่าจะต้องส่งใครไป” วีระพูดแล้วเดินเข้าบ้านไปทิ้งให้ภรรยายืนคิดอยู่คนเดียว นวลพรรณยืนคิดว่าถ้าถามตัวเองเธอก็อยากให้รมิดาไปดูและหญิงสูงวัย เพราะเงินเดือนที่จินตนาจะให้คงมากกว่าเงินเดือนพนักงานโรงงานแน่นอน แต่ก็อย่างที่รู้รมิดาดูแลใครไม่เป็นขนาดพ่อแม่เวลาไม่สบายยังแทบไม่เคยดูแลเลย ถ้าให้รสิกาไปใครจะดูแลร้านล่ะ เธอกับสามีก็แก่แล้วความคิดอาจก็ไม่ทันคนรุ่นใหม่หรอก ++++++
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD