“คุณอชิระจะทำอะไร ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะฉันเดินเองได้” รสิกาดิ้นไปมาหวังให้เขาปล่อย แต่นอกจากไม่ปล่อยแล้วเขายังกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีกด้วย
“เงียบปากแล้วอยู่เฉยๆ ถ้าไม่อยากให้ผมโมโหไปมากกว่านี้” อชิระพูดเสียงเข้มแล้วเดินตรงไปที่รถของตัวเองซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล
พอได้ยินที่ชายหนุ่มหน้าดุพูดก็ทำให้เธอปิดปากสนิท เพราะคิดว่าเขาโมโหที่เธอสร้างเรื่องที่อยากมาน้ำตกนี้ เพราะถ้าคนที่จมน้ำไม่ใช่เธอแต่เป็นคุณจินตนาล่ะจะทำยังไง
“ฉันขอโทษ ต่อไปฉันไม่ชวนคุณป้ามาที่น้ำตกอีกแล้ว” รสิกาพูดแล้วก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิดเลยไม่ได้เห็นสีหน้าของอชิระว่าเขาทำหน้าอย่างไร
อชิระไม่พูดอะไรนอกจากก้าวยาวๆ ไปที่รถกระบะของตัวเองแล้ววางร่างบางลงที่เบาะแล้วปิดประตูเสียงดังสนั่นก่อนที่เขาจะเดินไปพูดคุยกับมารดาจากนั้นก็กลับมาที่รถอีกครั้ง
“แล้วคุณป้าล่ะคะ” รสิกาถามเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มหน้าดุกำลังจะขับรถออกจากตรงนี้
“เดี๋ยวกลับกับมิตร ก่อนจะห่วงคนอื่นกรุณาห่วงตัวเองก่อนเถอะกลับไปถึงบ้านอาบน้ำอุ่นแล้วสระผมให้เรียบร้อยด้วยนะ ถ้าเกิดไม่สบายขึ้นมาจากที่มาดูแลแม่ผมจะกลายเป็นแม่ผมมาดูแลคุณแทน” อชิระพูดออกมาแล้วรีบขับรถไปให้ถึงบ้านโดยเร็วที่สุด โดยที่คนโดนว่านั่งน้ำตาคลอหน่วยแต่ก็ต้องรีบปิดเช็ดไม่ให้เขาเห็น
รถกระบะคันใหญ่มาจอดที่หน้าบ้านไม้ก่อนที่เจ้าของรถจะเปิดประตูแล้วเดินไปอุ้มหญิงสาวร่างบางที่นั่งนิ่งเงียบไม่พูดอะไรขึ้นไปส่งที่ห้องนอนทันที
“อาบน้ำให้เรียบร้อยด้วยนะ” พูดจบชายหนุ่มก็เปิดประตูออกจากห้องไป
“คนบ้านิสัยไม่ดี ปากก็ร้ายรู้อยู่แล้วว่าทำผิดแต่ไม่เห็นต้องพูดจาร้ายๆ ใส่กันเลย” รสิกาพูดแล้วก็น้ำตาไหลออกมาเห็นแบบนี้เธอเองก็ตกใจไม่น้อยไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พอนั่งพักหายน้อยใจหายกลัวแล้วเธอก็เดินกระแผลกเข้าไปอาบน้ำสระผม
“หนูเทียนล่ะรบ” คุณจินตนาเดินเข้ามาในบ้านแล้วเห็นลูกชายนั่งขมวดคิ้วอยู่ที่เก้าอี้ไม้เนื้อตัวยังเปียกปอน
“ผมไปส่งที่ห้องนอนเขาแล้วครับ ต่อไปผมไม่ให้แม่ไปที่น้ำตกกับรสิกาตามลำพังแล้วนะครับ” ถ้าวันนี้เขาลงไปไม่ทันจะทำยังไงแค่คิดอยู่ๆ มือก็สั่นแล้ว
“สงสัยเราจะเป็นห่วงแม่มากเกินไป” อชิระคิดในใจว่าอาการที่เป็นอยู่เพราะเป็นห่วงมารดา
“เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของหนูเทียนนะ แม่เป็นคนชวนไปกินข้าวที่น้ำตกแล้วบอกให้หนูเทียนลงไปเล่นน้ำเอง รบอย่าไปว่าอะไรน้องนะ” คุณจินตนาออกตัวทันทีเพราะรู้นิสัยลูกชายตัวเองดี
อชิระนิ่งไปนิดกับคำพูดของมารดา เขาลืมคิดไปว่ารสิกาจะรู้ได้ยังไงว่าท้ายไร่มีน้ำตกถ้าไม่มีคนบอก
“แต่ยังไงเขาก็ผิดที่ไม่ระวังตัว ถ้าวันนี้เป็นแม่ที่จมน้ำแล้วเกิดไอ้มิตรไม่ได้ยินเสียงร้องรสิกาจะช่วยแม่ขึ้นมาได้ยังไง”
“แม่ไม่ใช่เด็กเล็กที่ไม่รู้เรื่องนะรบ ที่พูดแบบนี้หมายความว่าเราว่าหนูเทียนไปแล้วใช่ไหม” คุณจินตนาหรี่ตาแล้วถามลูกชายออกมา พอเห็นท่าทางอึกอักมีพิรุธก็เดาได้ไม่ยาก
“ถ้าหนูเทียนน้อยใจไม่ดูแลแม่ต่อเราได้เห็นดีกันแน่” พูดจบเธอก็รีบเดินขึ้นบันไดไปหาหญิงสาวร่างบางทันทีทิ้งให้อชิระมองไปอย่างงงๆ ที่อยู่ๆ ตัวเองกลายเป็นคนผิดไปซะได้
คุณจินตนาเดินมาเคาะประตูห้องของรสิกาไม่นานเจ้าของห้องที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ
“ป้าขอเข้าไปหน่อยได้ไหมจ๊ะ” เธอถามแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย
“เชิญค่ะ แต่หนูยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยนะคะ” รสิกาบอกเพราะเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
“ไม่เป็นไรจ้ะ ป้านั่งรอได้หนูเทียนไปแต่งตัวเถอะ” คุณจินตนาเดินเข้าไปในห้องที่เป็นระเบียบไม่ผิดจากที่เด็กรับใช้เคยเก็บกวาดไว้เลย ห้องนี้รสิกาเป็นคนขอทำความสะอาดเองรวมไปถึงเสื้อผ้าด้วย
“ขาเป็นยังไงบ้างยังเจ็บอยู่ไหม”
“ยังเจ็บอยู่นิดหน่อยค่ะแต่เดี๋ยวก็หาย” รสิกาพูดและพนมมือไหว้หญิงสูงวัยก่อนจะพูดออกมา
“หนูต้องขอโทษคุณป้าด้วยนะคะที่ทำให้ตกใจและสร้างความเดือดร้อนให้แบบนี้”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกลูก หนูไม่ได้ทำอะไรผิดเรื่องแบบนี้ใครๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอย่าไปถือสาคำพูดของพี่เขาเลยนะ” คุณจินตนาพูดแล้วยกมือลูบศีรษะเล็กอย่างปลอบโยน
“ค่ะ” เธอไม่ถือสาคำพูดร้ายๆ นั่นหรอก แต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้ที่เขาไม่ถามไถ่มาถึงก็ว่าอย่างเดียว
“หนูเทียนนอนพักไปก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวถึงเวลาอาหารเย็นแล้วป้าจะให้คนมาตาม” คุณจินตนาพูดออกมาหลังจากเห็นท่าทางเพลียๆ ของรสิกา
ถึงเวลาอาหารเย็นเธอให้เด็กรับใช้ขึ้นไปเรียกรสิกาจะลงมากินข้าว แต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงวิ่งลงมาจากบันได อชิระเองก็อดมองไม่ได้เช่นกัน
“เจี๊ยบเป็นอะไรทำไมวิ่งลงมาแบบนั้น” คุณจินตนาถามออกมา
“คุณเทียนไม่สบายตัวร้อนจี๋เลยค่ะ” เด็กรับใช้พูดหอบๆ เธอยืนเรียกสักพักก็ไม่เห็นว่าหญิงสาวจะเปิดเลยเปิดประตูเข้าไปดูและก็เห็นว่ารสิกานอนนิ่งอยู่บนเตียงพอเธอจับตัวจะเขย่าก็ต้องตกใจเมื่ออีกฝ่ายตัวร้อนมากเลยรีบวิ่งลงมาบอกเจ้านายทันที
“เดี๋ยวฉันขึ้นไปดูเอง ส่วนเจี๊ยบเข้าไปบอกป้าแม้นให้ทำข้าวต้มให้คุณเทียนด้วยนะ” คุณจินตนาสั่งความแล้วรีบเดินไปที่ห้องนอนของรสิกา โดยมีอชิระเดินตามมาเงียบๆ อีกด้วย พอเข้าไปคุณจินตนาก็จัดการเช็ดตัวแล้วห่มผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะหันมาพูดกับลูกชายเบาๆ
“แม่ว่าโทรตามหมอทีมาดูอาการหนูเทียนหน่อยดีกว่า เผื่อดึกๆ อาการจะแย่ลงกว่านี้”
“ก็ได้ครับ แต่แม่ต้องลงไปกินข้าวกินยาก่อน ส่วนเรื่องรสิกาเดี๋ยวผมจะจัดการเอง” อชิระบอกมารดาออกมา เขาเองก็ลืมให้หญิงสาวกินยาไว้ก่อน
คุณจินตนามองหน้าลูกชายอยู่สักพัก และเธอก็เห็นความเป็นห่วงเป็นใยในแววตาของอชิระเลยพยักหน้าแล้วเดินออกมาจากห้องนอนอย่างว่าง่ายพร้อมกับรอยยิ้มกว้างอย่างสมใจ ไม่นานคุณหมอหนุ่มที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนรักของ อชิระก็มาถึงบ้านโดยมีเจี๊ยบเดินนำมาส่งถึงห้องนอนของคนป่วย
“มาแล้วเหรอไอ้ที” อชิระหันไปถามเมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามาในห้อง
“เออ ฉันเพิ่งออกเวรก็รีบตรงมาเลยว่าแต่ใครเป็นอะไรวะ” คุณหมอทีเดินตรงไปที่เตียงแล้วต้องตะลึงเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียง สายตารีบหันไปมองเพื่อนรักทันที
“ไม่ต้องมโนคิดเยอะไอ้หมอ นี่รสิกาเป็นคนที่มาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนแม่ฉันเอง” เขารู้ว่าไอ้เพื่อนตัวดีจะพูดอะไร
“รีบออกตัวก่อนเลยนะ สงสัยฉันต้องมาเยี่ยมแม่นายบ่อยๆ แล้วว่ะคนอะไรขนาดป่วยยังน่ารักเลย” เขาแกล้งพูดแหย่ใครบางคนออกมา และต้องรีบกลั้นขำเมื่อเห็นคนหน้าดุยกเท้าขึ้นสูง
“ให้มารักษาคนป่วยไม่ได้มาหม้อสาว เดี๋ยวถีบหล่นเตียง” อชิระพูดแล้วยกเท้าขู่ไปมา
คุณหมอหนุ่มหันไปดูอาการคนป่วยสักพักก็หันมาพูดกับเพื่อนรักที่นั่งคุมเชิงไม่ไปไหน
“คุณรสิกาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่เป็นไข้ธรรมดากินยาแล้วพักผ่อนสองสามวันก็หายแล้ว” หมอทีพูดและหันไปจัดยาแล้วส่งให้อชิระ
“เออขอบใจมากนะ แล้วนี่กินข้าวมาหรือยังอยู่กินด้วยกันก่อนสิ” อชิระเอ่ยปากชวนเพื่อนให้กินข้าวด้วยกัน
“ก็ดีเหมือนกันกำลังหิวเลย” ว่าแล้วสองหนุ่มก็เดินออกจากห้องนอนหญิงสาวไปทันที และเจี๊ยบก็ได้รับคำสั่งให้ขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนคนป่วย โดยที่คุณจินตนาอยู่ทักทายคุณหมอหนุ่มสักพักก็ขอตัวขึ้นมาดูแลคนป่วยต่อ
เมื่อกินข้าวและนั่งคุยกับเพื่อนสักพักคุณหมอหนุ่มก็ขอตัวกลับไปพักผ่อนอชิระเลยขึ้นมาข้างบนแล้วเดินไปเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนรสิกาอย่างเบามือแล้วเดินไปที่เตียงใหญ่ที่มีคนป่วยนอนอยู่ เขายื่นมือไปวัดไข้ที่หน้าผากแล้วต้องถอนหายใจเบาๆ เมื่อรู้ว่ารสิกาไม่ได้ตัวร้อนมากขึ้น
“ค่อยยังชั่วหน่อยนึกว่าจะตัวร้อนกว่าเดิม”
“รู้ว่าตกน้ำแทนที่จะหายากินกันไว้ก่อน มันน่าตีจริงๆ ป่วยจนได้ยัยเด็กดื้อ” เขาพูดแล้วเอามือปัดผมที่หน้าผากออกมาอย่างแผ่วเบา ทุกอย่างที่อชิระทำอยู่ในสายตาของคุณจินตนาทั้งหมด ตอนแรกตั้งใจเข้ามาดูรสิกาแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นลูกชายอยู่ในห้องนั้นด้วยเธอเลยค่อยๆ ปิดประตูเบาๆ แล้วไปดักรอเจี๊ยบว่าอย่าเพิ่งเข้าไปในห้องของรสิกา
“โธ่เอ๊ย นึกว่าจะแน่ที่แท้ก็ห่วงเขาปากแข็งขี้เก๊กจริงๆ ลูกชายฉัน” คุณจินตนาพูดแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ
++++++