Chapter 4 : หงุดหงิดเพราะเธอ-1

1445 Words
“เชี้ยยยยยย!!!” เสียงอุทานประสานเสียงกันดังขึ้นมาจากด้านหลังของฉัน และมันก็เป็นเสียงของเพื่อนพี่ธามนั่นเอง พร้อมกับพากันลุกจากโต๊ะของตัวเองแล้วย้ายมานั่งจ้องหน้าของฉันกับพี่ธามสลับกันไปมา เพื่อนของฉันก็มีอาการไม่ต่างอะไรกับพวกเพื่อนพี่ธามเลย “………..” ฉันยกมือขึ้นมากุมขมับของตัวเองทันที รับรู้ได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามทั้งจากเพื่อนของตัวเองและพวกเพื่อนพี่ธาม “เหี้ยยย... เมิงกับน้องเดรสดำเมื่อคืนเป็นผัวเมียกันตั้งแต่เมื่อไรว่ะเนี้ย!!” เพื่อนพี่ธามที่นั่งข้างฉันถามขึ้นมา “ไม่ค่อยจะอยากเสือกกันเลยนะพวกเหี้ย” เขาเองก็หันไปด่าเพื่อนของตัวเองที่พากันมานั่งอยู่ข้างๆ ฉัน “พี่ชื่อคิมหันต์นะครับ แล้วไอ้ปากหมานี่ชื่ออิฐ ส่วนนู่นชื่ออาร์ม ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ....เพื่อนสะใภ้” พี่คนที่นั่งข้างพี่ธามเอ่ยแนะนำตัวเองและยังแนะนำพี่อีกสองคนให้ฉันรู้จักด้วยพร้อมกับส่งยิ้มให้ฉัน ฉันเองก็ได้แต่ยิ้มแห้งกลับไป “ค่ะ…อายตาค่ะ… นี่เพื่อนของอายค่ะ... แตงกวา กับ น้ำหวาน” ฉันเองก็แนะนำเพื่อนให้พวกพี่ๆ เขารู้จัก “ถึงว่าเมื่อคืนมึงดูหงุดหงิดแปลกๆ ที่เห็นพวกน้องเขาในร้าน... ที่แท้ก็เห็นเมียไปเที่ยวนี่เอง แล้วยังไงวะมึง...ไหนว่าไปเยี่ยมพ่อแม่ที่เชียงใหม่ไหงกลับมาเอาเมียมาด้วย” พี่อิฐพูดไปพลางยกยิ้มมุมปากไปด้วย “หงุดหงิดเหี้ยไร กูไม่ได้หงุดหงิด!” พี่ธามจ้องตาเขียวใส่เพื่อนที่ชื่ออิฐที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉัน “เออๆ ครับๆ ไม่หงุดหงิดก็ไม่หงุดหงิด ...แล้วยังไงเล่ามา” ยังคงเป็นพี่อิฐที่พูดจายียวนไม่หยุด “เรื่องมันยาวไว้วันหลังเดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง” “เล่ามาเลยกูมีเวลาทั้งวัน ยอมโดดคาบบ่ายมาฟังเรื่องของมึงกับน้องอายตาเลย” พี่อาร์มที่นั่งเงียบมานานเอ่ยขึ้น “จริงค่ะ พวกหนูก็พร้อมโดดเรียนเหมือนกัน” ยัยแตงกวาเสริมทัพขึ้นมาอีกคน จากนั้นฉันกับพี่ธามก็มองหน้ากันแล้วก็เป็นพี่ธามที่เป็นคนอธิบายเรื่องทั้งหมดให้พวกเพื่อนๆ ฟัง แต่จะบอกว่าทั้งหมดก็คงจะไม่ใช่เพราะบางเรื่องอย่างเรื่องเหตุผลว่าทำไมพี่เขาถึงยอมแต่งงานกับฉันพี่เขาก็ไม่ได้บอกซึ่งฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน หลังจากฟังเรื่องทั้งหมดแล้วก็มีคำถามมามากมายตามมา แต่พี่ธามรีบตัดบทซะก่อนเพราะเห็นว่าใกล้จะได้เวลาเรียนของฉันแล้วเขาจึงเร่งให้ฉันรีบกินข้าวแล้วรีบไปเรียน พวกเราทั้งหมดนั่งกินข้าวด้วยกันท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมรุ่นของพี่ธามที่มองมายังโต๊ะของพวกเราที่อยู่ๆ ก็มีเด็กปีหนึ่งคณะบริหารฯ มานั่งกินข้าวกับพวกพี่เขา แต่ไม่ใครกล้าเข้ามาคุยด้วย พอกินข้าวเสร็จพวกฉันก็แยกออกมาเพื่อไปเรียนคาบบ่าย “แสบนักนะยัยตัวดีไหนบอกว่าพี่ชายไง” หลังจากที่แยกกับพวกพี่ธามแล้วยัยแตงกวาก็ท้าวเอวมองหน้าฉันพร้อมกับสายตางอนๆ ส่งมาที่ฉัน “ขอโทษนะ ... ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดเรื่องนี้หรอก แต่แค่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดีอ่ะ” ฉันตอบเสียงอ่อนเหมือนกับผู้ร้ายที่ยอมจำนน “ช่างเหอะ... ว่าแต่พี่ธามเขาแซ่บไหม หล่อขนาดนั้นอ่า” แตงกวาว่าพลางทำสายตากรุ่มกริมใส่ฉันเชิงแซว “อะไร!! ไม่รู้โว้ย!! ไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นหรอกน่า ..เมิงนิ!” ฉันรู้ว่าแตงกวามันหมายถึงอะไรจึงรีบตอบปฎิเสธออกไป ถึงเราจะแต่งงานกันแล้ว แล้วฉันเองก็ย้ายไปอยู่กับเขาแล้วแต่เราสองคนไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันหรอกนะ พี่เขาไม่ได้สนใจฉันเลยซักนิด .... พูดแล้วก็เจ็บที่อกข้างซ้ายขึ้นมาจี๊ดๆ... “อะไรวะจืดชืด!! ได้สามีหล่อลากขนาดนั้นมัวทำอะไรอยู่ทำไมไม่จับพี่เขาปล้ำไปเลย” “ไอ้แตงกวา!!” น้ำหวานดุเพื่อนที่พูดอะไรบ้าๆ ออกมา ... มันจะแก่นเซี้ยวเกินไปละ.... “ไอ้บ้า!! ใครจะไปทำแบบนั้นกัน ฉันกับเขาแต่งงานกันเพราะสัญญาของพวกพ่อแม่ ฉะนั้นจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน แล้วอีกอย่างนะพี่ธามก็ออกจะฮอตขนาดนั้นคงมีสาวๆ ตามเป็นโขยง เขาไม่มาสนใจอะไรฉันหรอก” ฉันพูดไปพลันในใจก็รู้สึกหวิวๆ ไม่รู้ทำไม “ที่พูดเนี้ยน้อยใจที่พี่เขาไม่สนใจหรือหึงพวกสาวๆ ของพี่เขากันแน่” น้ำหวานอมยิ้มมุมปากมองหน้าฉัน “จะบ้าเหรอ... ใครจะไปคิดแบบนั้น ...ไปเรียนกันเหอะเดี๋ยวสาย” ฉันรีบตัดบทแล้วเดินนำหน้ายัยพวกนี้ไปที่ห้องเรียนทันที หลังเลิกเรียน…… พอเรียนคาบสุดท้ายเสร็จฉันก็ไลน์บอกพี่ธามแล้วก็มานั่งรอเขาอยู่ใต้ตึกของคณะ อายตา :: อายเลิกเรียนแล้วนะคะ เดี๋ยวนั่งรออยู่ใต้ตึกนะคะ พี่ธาม :: อืม... ฉันยังประชุมไม่เสร็จน่าจะอีกเกือบชั่วโมง อายตา :: ถ้างั้นอายกลับเองก็ได้ค่ะ พี่ธาม :: บอกให้รอก็รอดิ อย่าดื้อมากได้ไหม!! อายตา :: เอ้า!! มาว่าอายทำไม ก็พี่ยังประชุมอยู่อายโตแล้วกลับเองได้ค่ะ พี่ธาม :: บอกให้รอก็รอ ถ้าฉันไปรับแล้วไม่เห็นเธอนะ... น่าดู!! ขู่เก่ง!! ไม่รู้ชาติที่แล้วเกิดเป็นหมารึไง ฉันเลิกคุยกับเขาแล้วก็นั่งเล่นมือถือต่อ ดีที่อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ไม่มีเรียกประชุมเด็กปีหนึ่งเพราะพวกรุ่นพี่เขาติดทำกิจกรรมกัน นั่งรอเบื่อๆ ก็เลื่อนดูไอจีไปด้วยพลันสายตาก็ไปเห็นไอจีของรุ่นพี่ปี 3 ร่วมคณะเดียวกับฉัน พี่ลูกหว้า สาวสวยดีกรีดาวมหาลัย พี่เขาโพสรูปคู่กับผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาหล่อเหลา ในรูปน่าจะเป็นร้านเหล้า ผู้ชายใส่เสื้อยืดสีขาวนั่งหันข้างส่วนพี่ลูกหว้าสวมชุดเดรสสีแดงสุดเซ็กซี่หันมายิ้มให้กล้องพร้อมกับเอียงแก้มซบกับบ่ากว้างของผู้ชายคนนั้นจากด้านหลัง ซึ่งผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่ฉันแสนคุ้นเคย ...พี่ธาม!... ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมากแถมใต้รูปยังมีคอมเม้นท์แซวอีกมากมายจากเพื่อนของพี่ลูกหว้าในเชิงที่ว่าทั้งคู่กำลังคบหากันอยู่หรือป่าว ฉันนิ่งงันไปครู่นึงรู้สึกเหมือนหัวใจมันหวิวแปลกๆ “มีแฟนแล้วมาตอบตกลงแต่งงานกับเราทำไมวะ?” พึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะมีเสียงใครบางคนเอ่ยทักขึ้นทำให้ฉันหลุดออกจากภวังความคิดของตัวเองก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินมานั่งลงตรงข้ามๆ “มานั่งเหม่อทำไมคนเดียวครับน้องอายตา” พี่ภาคิน รุ่นพี่ปี 3 สายรหัสเดียวกับฉันเดินเข้ามาทักพร้อมกับรอยยิ้มหวานอบอุ่นเหมือนกับทุกครั้ง พี่ภาคินเป็นพี่รหัสของพี่ภูผาที่เป็นพี่หรัสของฉันอีกที “อ้าวพี่คิน... ยังไม่กลับบ้านเหรอคะ?” ฉันหันไปฉีกยิ้มกว้างให้พี่เขาตามประสาคนรู้จักกัน “พี่ต่างหากที่ต้องถามเราว่าทำไมยังไม่กลับบ้าน เลิกเรียนตั้งแต่บ่ายสามแล้วไม่ใช่เหรอ นี่จะสี่โมงแล้วนะ?” พี่ภาคินยิ้มหัวเราะเบาๆ ให้กับฉัน ...คนอะไรน่ารักจังยิ้มทีโลกสดใส... พี่ภาคินเป็นผู้ชายตัวสูงราวๆ 185 ซม. ผิวขาว จมูกโด่ง ตาชั้นเดียว หล่อขาวตี๋สไตล์เกาหลีอปป้าและที่สำคัญคือสถานะโสดคร้า พี่เขาจัดว่าเป็นหนุ่มฮอตของมหาลัยฉันเลยก็ว่าได้ ยัยแตงกวาตอนที่รู้ว่าฉันเป็นสายรหัสของพี่ภาคินมันกรี๊ดลั่นเลยเพราะถึงแม้ว่ามันจะจับได้สายรหัสพี่คนอื่นแต่มันบอกว่าฉันเป็นน้องรหัสของพี่ภูผาก็แปลว่ามันมีสิทธิที่จะได้เจอพี่ภาคินได้บ่อยๆ เพราะฉันเป็นหลานรหัสของเขานั่นเอง บ้าผู้ชายซะไม่มีหละเพื่อนฉันน่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD