ปัง ปัง ปัง
“กรี๊ดดดดดด แม่ แม่ อย่าา” เสียงกรีดร้องที่คนเป็นแม่ได้ยินแล้วแทบขาดใจ แม้เลือดในกายจะไหลไม่หยุดสิ้นไร้เรี่ยวแรงปกป้องลูกสาวสุดที่รักได้อีกต่อไป แต่เพราะความเป็นแม่ก็ยังพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายคลานไปหาลูก
“ฉันไม่อยากทำแบบนี้เลย ให้ตายสิ จัดการให้เรียบร้อยแล้วลากเด็กนั่นมา”
“ยะ อย่า”
ปัง!
“แม่”
กระสุนนัดสุดท้ายปลิดชีพของผู้เป็นแม่ ร่างอันไร้วิญญาณนอนแน่นิ่ง เสียงกรีดร้องของนานาไม่อาจทำให้วิญญาณของแม่กลับเข้าร่างได้ เจ็บกว่านั้นคือไม่มีโอกาสได้เข้าไปกอดลาเพราะนี่คือครั้งสุดท้ายที่จะได้ร่ำลา
นานาถูกพาตัวมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ ภายในห้องใต้ดินมีเด็กสาวถูกขังอยู่ก่อนหน้าแล้วอีกจำนวนหนึ่ง
สภาพเหม่อลอยของนานาไม่ต่างจากทุกคนที่อยู่มาแล้วก่อนหน้า ชะตากรรมของแต่ละคนคงไม่ต่างจากเธอสักเท่าไหร่
“เธอคือเด็กใหม่สินะ” คฤหาสน์หลังนี้ไร้ทางออกสำหรับพวกเธอ พวกเธอไม่ได้ถูกจับมาเพื่อเป็นทาส เหตุผลมันน่ากลัวกว่านั้น งานที่พวกเธอต้องทำก็คือถูกส่งตัวเข้าไปเป็นสะใภ้ตระกูลดังเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจและชื่อเสียงรวมถึงอำนาจของคนที่จับพวกเธอมา
“ใช่” นานาตอบกลับทั้งๆ ที่น้ำตายังนองหน้าอยู่
“ชื่ออะไร เราชื่อปลาทอง”
“ปลาทองเหรอ”
“ใช่”
“เรา ชื่อ นานา” แม้กำลังเสียสติและไม่อยากเปิดปากคุยกับใครแต่เธอก็ไม่อยากเสียมารยาท ตอนนี้พวกเราคือผู้ร่วมชะตากรรม เหตุการณ์ก่อนหน้าทำร้ายสภาพจิตใจของเธอมาก เป็นการสูญเสียที่เธอจะไม่มีวันลืมเด็ดขาด ในใจแหลกสลายไม่มีชิ้นดี
“ชื่อน่ารักจัง” เป็นคำชมที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม แม้จะเป็นรอยยิ้มที่ไม่ค่อยสดใสนัก
“แม่เราตั้งให้น่ะ”
“ชื่อเรา พ่อก็เป็นคนตั้งให้ พ่อชอบเลี้ยงปลามากๆ โดยเฉพาะปลาทอง”
“โดนจับมานานหรือยัง” นานาเอ่ยถาม
“เมื่อวาน พรุ่งนี้ก็จะถูกส่งขึ้นตึกใหญ่แล้ว” น้ำเสียงสิ้นหวังและแววตากังวลของเพื่อนใหม่ทำให้นานาเองก็วิตกไม่แพ้กัน
โจนาธานฉากหน้าคือเศรษฐีใจบุญชอบรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ช่วยเหลือครอบครัวยากจน และเด็กสาวที่ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียนต่อ ใครต่อใครก็ยกย่องให้เขาเป็นพ่อพระ เป็นที่พึ่งของเด็กๆ ในยามทุกข์ยาก ความดีที่ทำถูกตีแผ่จนดังไกลไปทั่วโลก ไม่มีอะไรมาฉุดโจนาธานลงจากตำแหน่งพ่อพระใจบุญได้
เบื้องหลัง โจนาธานทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ทรัพย์สิน ชื่อเสียงและพลังอำนาจที่ไม่มีใครมาโค่นล้มเขาลงได้
เด็กสาวที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัวมาอยู่คฤหาสน์แห่งนี้ล้วนไม่เต็มใจทั้งนั้น บางคนต้องสูญเสีย อย่างเช่นนานาที่พยายามปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองและผู้เป็นแม่จนเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น
“ต้องแต่งงานจริงๆ เหรอ” นานาถามเพราะอยากรู้
“ใช่ กับใครก็ไม่รู้”
“หนีไม่ได้เหรอ” ปลาทองส่ายหน้ารัว หากคิดหนีก็จะไม่ได้ออกจากที่นี่อีกเลย
“ทางรอดเดียวของเรา คือแต่งงานยอมทำตามที่ตาแก่นั่นต้องการ” นานาพยักหน้าแล้วยกมือปาดน้ำตาบนแก้มออก
“แล้วต้องแต่งกับใคร”
“ไม่รู้หรอก จะได้เห็นหน้าก็ก่อนวันแต่งแค่ไม่กี่วัน”
“ขอให้เจอคนดีนะปลาทอง” เรื่องฐานะคงถูกคัดกรองมาแล้วอย่างดี เรื่องนิสัยคงต้องคาดเดากันต่อไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ นานากำลังหาทางหลุดพ้นหนีไปจากที่นี่ให้ไกลแสนไกล
“นานาด้วยนะ”
3 ปีต่อมา
“เธอใช่มั้ย ของเล่นชิ้นใหม่ของฉัน” ปากคาบบุหรี่ชายตามองเล็กน้อยแล้วหันไปพ่นควันสีขาวโดยไม่ได้นึกถึงกลิ่นที่น่าเวียนหัวสำหรับใครบางคน
“ไม่ใช่ค่ะ”
“หืม”
“ฉันเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณค่ะ คุณหิรัญ” ก้อนเนื้อด้านซ้ายเต้นรัวแต่หญิงสาวก็หาได้หวาดหวั่นผู้ชายตรงหน้าที่กำลังจะหาเรื่องเอาเปรียบ ทั้งน้ำเสียงและคำพูดกำลังบ่งบอกว่าเกลียดเธอมากขนาดไหน
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำหน้าที่ให้สมตำแหน่ง”
“ได้สมใจคุณแน่นอนค่ะ” หิรัญกัดกรามแน่น นึกแค้นในใจที่คำพูดของเขาไม่สามารถทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้ารู้สึกสะท้านได้เลยสักนิด
“ระวังไว้ก็แล้วกัน ไม่ใช่ตัวเธอ แต่เป็นหัวใจของเธอ” ประโยคนั้นของชายหนุ่มทำให้ลมหายใจของเธอเริ่มติดขัด แต่เพราะไม่อยากแสดงอาการจึงพยายามข่มความรู้สึกนั้นเอาไว้ ไม่อยากให้เขาได้ใจครั้งต่อๆ ไปความลำบากจะทยอยมาเยือนอยู่เรื่อย ๆ แน่นอน
แต่ก็คงแค่วันนี้เท่านั้น
“หัวใจของฉันแข็งแรงพออยู่แล้วค่ะ”
“เชิญบ่าวสาว ถึงเวลาเข้าพิธีหมั้นแล้วค่ะ”
“แล้วฉันจะคอยดู”
วันเกิดในปีที่ 18 ของเธอคือต้องเข้าพิธีวิวาห์กับมาเฟียหนุ่มผู้ทรงอิทธิพล ร่ำรวยทั้งเงินทองและพลังอำนาจ เพื่ออิสระเธอจึงต้องยอม ชีวิตของนานาไม่เหลืออะไรแล้วแม้แต่ความเป็นตัวเอง
คฤหาสน์ ควินซ์
“นายครับกลับเข้าห้องหอเถอะครับ ทิ้งนายหญิงให้อยู่คนเดียวแบบนั้น”
“เป็นห่วงก็ไปอยู่เองสิ” ลูกน้องคนสนิทอึกอักพูดไม่ออก เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยือกเย็นไร้เยื่อใยของเจ้านาย
“นายครับ”
“รินเหล้าต่อ แต่งให้แล้วยังจะเรื่องมากอีก นอนคนเดียวคืนแรกคงไม่ตายหรอกมั้ง” สองนิ้วคีบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกครั้ง ไฟสีแดงลุกโชนปลายมวนบ่งบอกได้ถึงความเครียดที่มีอยู่ในตอนนี้ เขาเกลียดการคลุมถุงชนและเกลียดผู้หญิงคนนั้นรวมถึงครอบครัวของเธอด้วย
“แต่ว่านายครับ นายก็รู้ว่านายหญิงต้องแต่งงานกับนายเพราะอะไร”
เพล้ง!
“ถ้ามึงยังไม่หยุดพล่ามถึงยัยนั่น สมองมึงได้ไหลออกมากองบนพื้นแน่” ไม่ว่าเพราะอะไรอย่างเดียวที่คนพวกนั้นต้องการก็คืออำนาจเท่านั้น
แก้ววิสกี้แตกละเอียดเป็นเศษเล็กแหลมกระจายเต็มพื้น ลูกน้องคนสนิทต้องรีบแจ้งแม่บ้านให้เข้ามาทำความสะอาดโดยทันที
“เสียอารมณ์ฉิบหาย”
“ไม่ดื่มต่อแล้วเหรอครับ”
“อยากให้กูกลับห้องนักไม่ใช่เหรอ” เขาโยนก้นบุหรี่ทิ้งแล้วสะบัดตัวลุกเดินออกจากตรงนั้นทันที
แกร็ก!
“ทำอะไร” ภาพตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มตกใจเล็กน้อย
เจ้าสาวที่เขาไม่ต้องการนอนจมกองเลือดในชุดแต่งงานสีขาวแบรนด์ดังโดยข้างๆ มีคัตเตอร์อันเล็กวางอยู่ด้วย
“ฉันกำลังจะตาย”
“ทำไมไม่ไปตายที่อื่น”
“เพราะที่อื่น ฉันไม่เคยมีโอกาสได้ทำแบบนี้ยังไงล่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ภาพชายหนุ่มเริ่มเลือนรางรวมถึงแรงหายใจที่กำลังแผ่วลงอย่างช้าๆ ด้วย
“หึ ยัยโง่ ฉันแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอไปได้ยังไงวะ”
“เพราะฉัน ไม่อยากรักคุณล่ะมั้ง” เรี่ยวแรงทั้งหมดไหลออกไปพร้อมกับเลือดในกาย เปลือกตาของเธอปิดลงสนิททำให้ชายหนุ่มรีบปรี่เข้าไปจับชีพจร
“นานา ให้ตายสิวะ นานาได้ยินมั้ย ใครอยู่ข้างนอกบ้าง”
“ครับนาย” ลูกน้องคนสนิทรีบวิ่งขึ้นมาด้านบนทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกหาของเจ้านาย
“เอารถออก เร็วสิวะ! “
“คะ ครับ”
“เธอกำลังคิดทำอะไร นานา จะหนีปัญหาง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง”
____________________