ตอนที่.38เริ่มต้นรักอีกครั้ง

2115 Words
เรื่อง: ไม่มีนิยามของคำว่ารัก ภาค 1 ตอนที่. 38 เริ่มต้นรักอีกครั้ง(1) โดย: srikarin2489 “ก๊อก ๆ ๆ ” เสียงเคาะประตูห้องพักคนไข้ด้านในดังขัดจังหวะ ทำให้ปาลิดากับณิชมนหันไปดู เห็นร่างสูงโปร่งในชุดสครับสีฟ้าของแพทย์ แต่ไม่มีเสื้อกาวน์ยาวคลุมทับเปิดประตูเข้ามา หน้าตาดีคมโทนไทยแท้เดินเข้ามาหาทั้งสอง ปาลิดามองใบหน้านั้นนิ่งคิ้วขมวดนิด พยายามนึกว่าเป็นใครเธอรู้จักหรือเปล่า จะว่าแปลกหน้าก็ไม่ถึงกับแปลก แต่ไม่คุ้นเคยมาก คล้าย ๆ ว่าจะเคยเห็น มองเผิน ๆ ทีแรกนึกว่าเป็นผู้ชาย แต่พอเดินเข้ามาใกล้ถึงรู้ว่าเป็นผู้หญิง “สวัสดีน้องฟาง” ตุลยามาหยุดยืนข้างเตียงคนป่วย ทักทายก่อนด้วยสีหน้า ยิ้มแย้ม ขณะที่คนป่วยมองนิ่งครุ่นคิด “จำพี่ได้มั้ย” “เรารู้จักกันหรือคะ” “พี่ตุลไงฟาง เขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่อิน ฟางจำได้มั้ยตอนที่เราเรียนอยู่ม.4 พวกเขาตัวติดกันสามคนยังมีพี่บุษอีกคน พี่บุษไม่มาด้วยหรือคะพี่ตุล” “พี่มีธุระอยากคุยกับน้องฟาง เลยไม่ชวนบุษมาด้วย” “ให้แนนออกไปข้างนอกก่อนมั้ยคะ” “ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องลับอะไร” ยังไม่ทันจะคุยอะไรกัน พอดีกับเสียงโทรศัพท์ของณิชมนดังขึ้น จึงเดินไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าสะพายวางอยู่ตรงโซฟารับแขกเพื่อดูว่าใครโทรมา “เชิญพี่ตุลคุยกับฟางเลยค่ะ แนนขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์เรื่องงานก่อน” ณิชมนบอกแล้วเดินออกไปจากห้อง ตรงหน้าห้องพักของคนป่วยมีโซฟาไว้รับรองแขก ปล่อยให้ทั้งสองอยู่คุยกันตามลำพัง “พี่ตุลมีเรื่องอะไรกับฟางหรือคะ” “อิน พี่แล้วก็บุษพวกเราเป็นเพื่อนรักกัน อินกับบุษพวกเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนอนุบาล ส่วนพี่พึ่งมาเป็นเพื่อนพวกเขาตอนเรียนม.1” ปาลิดามองหน้าคนพูดนิ่ง รอฟังว่าตุลยาจะพูดเรื่องอะไร “เรื่องอินชอบฟาง พี่รู้ตั้งแต่ตอนเราเรียนอยู่ม.6 ก่อนเจอฟางอินไม่เคยมีแฟน ไม่เคยชอบใครมาก่อน ฟางเป็นคนแรกที่อินรัก เราเป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปีพี่ไม่เคยเห็นอินร้องไห้ ชีวิตเขาดีทุกอย่างอยู่ในครอบครัวอบอุ่น แต่ฟางรู้มั้ย เจ็ดปีกว่าที่ผ่านมา อินอยู่กับความเจ็บปวดเสียใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมฟางไม่ติดต่อกลับมา อินเคยไปตามหาฟางที่อเมริกา” ริมฝีปากอิ่มเต็มขบเม้มเข้าหากัน แววตาเสียใจกับเรื่องที่ได้รู้ “ตอนเรียนแพทย์เราอยู่ด้วยกันตลอด หลายครั้งพี่เห็นอินร้องไห้เมื่อดูรูปฟางในโทรศัพท์” “พี่ตุลจะพูดเรื่องอะไรหรือคะ” คนป่วยถามขัดเสียงขรึม “มีเรื่องอะไรบอกฟางมาเลยค่ะ” “พี่อยากให้ฟางรู้ว่าอินรักฟางมาก อย่าทรมานเพื่อนพี่อีกเลยนะ เจ็ดปีกว่ามันสาหัสมากพอแล้วสำหรับอิน แต่เขาก็เฝ้ารอให้ฟางกลับมา” “ฟางตั้งใจกลับมาหาพี่อิน” ปาลิดามองสบตาตุลยาแล้วบอกเสียงจริงจัง “เจ็ดปีกว่าไม่ได้มีแต่พี่อินที่เจ็บปวด ฟางก็เจ็บเหมือนกัน ฟางยอมรับว่าฟางผิดเอง ที่ไม่พยายามติดต่อพี่อิน ฟางคิดอะไรเยอะเกินไปห่วงแต่ความรู้สึกคนอื่น ลืม คิดถึงความรู้สึกของตัวเองกับพี่อิน ฟางจะไม่ให้เป็นแบบนี้อีก พี่ตุลไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ถ้าพี่อินเขาต้องการฟาง ฟางพร้อมอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป” ตุลยายิ้มพอใจกับคำพูด หนักแน่นแววตาจริงจังของคนป่วย “ขอโทษฝ้ายด้วยนะ ที่ต้องให้เข้ามาคุยกันในห้องทำงานของพี่” อโรชา หันไปบอกระหว่างเดินนำลดาเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่อุ้ม คุยในห้องทำงานเป็นส่วนตัวดี” อโรชาพาลดาไปนั่งยังโซฟารับแขกที่อยู่ในห้องทำงานด้วย ห้องดูกว้างขวางตกแต่งทันสมัยเรียบหรู สมกับเป็นห้องทำงานของผู้บริหารโรงพยาบาล ลดามองดูภายในห้องสายตาไปสะดุดกับกรอบรูปครอบครัวขนาดใหญ่ แขวนอยู่บนผนังหลังโต๊ะทำงานของอโรชา “เป็นหมอทั้งครอบครัวเลยหรือคะพี่อุ้ม” อโรชามองตามสายตาของลดา เป็นภาพถ่ายที่นายแพทย์อารักษ์กับอโรชาถ่ายพร้อมลูกทั้งสองในชุดแพทย์ “ใช่” แววตาของอโรชาสะท้อนถึงความสุข เมื่อมองภาพถ่ายครอบครัว “อาร์มเป็นลูกติดของพี่โอม เขามีอาร์มตอนไปเรียนต่อต่างประเทศ แม่ของอาร์มเป็นคนอเมริกันเชื้อสายจีน หน้าตาไปทางฝั่งแม่จึงดูออกจีนครึ่งไทย เขาแค่มีลูกด้วยกันแต่ไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน พออาร์มเกิดได้ไม่กี่เดือนถูกส่งกลับเมืองไทย แม่ของอาร์มเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว” อโรชาเล่าพร้อมทั้งจัดแก้วน้ำมาจัดวางให้ลดาด้วยตัวเอง ไม่ต้องการให้ใครมาวุ่นวายเวลาส่วนตัว “พี่อุ้มไม่ได้ทำงานด้านรักษาคนแล้วหรือคะ” วางแก้วน้ำแล้วอโรชาถอยไปนั่งตรงข้าม ใบหน้าระบายยิ้มสดใสเป็นพิเศษเมื่อมองสบตาลดาแม้จะไม่ได้เจอกันเกือบสามสิบปี ความคุ้นเคยความรู้สึกดี ๆ ยังคงอยู่ ทั้งรูปร่างหน้าตาของลดาไม่เปลี่ยนไปนักแม้อายุจะขึ้นเลขห้านำหน้าแล้ว ยังดูสวยสดใสไม่เปลี่ยน “พี่ไม่ได้ทำหน้าที่หมอมาหลายปีแล้ว พอมีลูกอยากเลี้ยงเขาด้วยตัวเอง ตอนอินยังเล็กยังไม่เข้าโรงเรียน พี่เอาเขามาเลี้ยงที่โรงพยาบาล ทำงานไปด้วยดูแลลูกไปด้วย พี่โอมทำห้องไว้สำหรับเลี้ยงลูกเลย อินเลยโตที่โรงพยาบาล พอเขาเข้าโรงเรียนพี่ตั้งใจขับรถรับส่งลูกเอง เลยยุติหน้าที่หมอในตอนนั้น เอามาเลี้ยงที่โรงพยาบาลพี่โอมงานเขายุ่งแค่ไหน ยังหาเวลามาเล่นกับลูกได้” แววตาคนพูดเปี่ยมไปด้วยความสุขเมื่อเล่าถึงครอบครัว พลอยทำให้คนฟังยิ้มแจ่มใสไปด้วย “ฝ้ายดีใจด้วยนะคะ ที่พี่อุ้มเจอผู้ชายที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น” “ยอมรับว่าพี่โชคดีเรื่องนี้ ทั้งที่เราแต่งงานกันเพราะแรงเชียร์ของผู้ใหญ่ แต่เราอยู่ด้วยกันราบรื่นดี พี่โอมเขาเป็นผู้ชายที่ดี” “ฝ้ายโชคไม่ดีเหมือนพี่อุ้ม แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่างน้อยฝ้ายก็มีลูกเป็นทุกอย่างในชีวิตฝ้าย” แววตาลดาแจ่มใสจนดูออกเมื่อพูดถึงลูกสาว “ลูกสาวฝ้ายเป็นเด็กน่ารักนะสวยมากด้วย หน้าตาเขาอาจจะไม่เหมือนฝ้ายมาก แต่มีส่วนคล้ายกันหลายอย่าง ครั้งแรกที่พี่เจอเขาที่โรงเรียน พี่สะดุดตรงตาเขา ตาคมกลมโตเหมือนตาฝ้ายเลย หน้าตาออกโทนไทยครึ่งจีน หมวยนิด ๆ แต่หน้าคมไม่ดูเป็นหมวยแบบจืด ๆ ” “เขาเหมือนคุณพ่อเขาค่ะ คุณพ่อของฟางเป็นลูกชายของผู้มีพระคุณ ที่ดูแลอุปการะฝ้ายกับพี่ปอหลังจากคุณพ่อคุณแม่เสีย ลูกสาวพี่อุ้มก็สวยมาก ที่น่าแปลกคือทั้งสวยทั้งหล่อในคนคนเดียว อย่างนี้เขาเรียกว่าสวยหล่อครบจบในร่างเดียว” “ตอนอินยังเล็ก เวลาพี่กับคุณพ่อเขาพาออกไปข้างนอก คนชอบเข้ามาทักว่าลูกชายน่ารักจังหล่อแต่เด็กเลย ตอนเขาเกิดมีแต่คนบอกว่าเหมือนเด็กผู้ชาย โครงหน้าคมชัดจมูกโด่งออกมาเลย มีแต่คนแซวว่าหล่อแต่เกิด เครื่องหน้าเขาคม คงเพราะมีคุณย่าเป็นลูกครึ่งฝรั่ง มีแต่คนทักว่าลูกชายหล่อ จนพี่โอมบอกให้พี่แต่งตัวให้ลูกด้วยเสื้อกระโปรง ให้ไว้ผมยาวมาตั้งแต่เล็กเลย” แววตาของอโรชาเต็มไปด้วยความสุข เมื่อเล่าถึงครอบครัว “ทั้งที่ผมยาวใส่กระโปรง ยังมีคนพูดว่าน่ารักจังจับลูกชายแต่งเป็นผู้หญิง เวลาโรงเรียนมีงานแสดง ถูกคุณครูจับแต่งเป็นผู้ชายตั้งแต่เด็กจนโต วันเวลามันผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ ใครจะคิดเมื่อเรากลับมาเจอกันอีกครั้ง ได้มานั่งคุยกันเรื่องลูก” “แม่บุญธรรมของพี่อุ้มล่ะคะ ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันพี่อุ้มบอกว่าท่านป่วย” สีหน้าอโรชาขรึมเล็กน้อยเมื่อถูกถามเรื่องนี้ “ท่านเสียตั้งแต่อินได้ขวบหนึ่ง” “ฝ้ายเสียใจด้วยนะคะ” ลดาบอกเสียงเบาแววตาเห็นใจ เห็นสีหน้าคู่สนทนาขรึมเศร้าเมื่อพูดถึงแม่บุญธรรม “เรื่องที่ลูกพี่อุ้มกับลูกฝ้ายชอบกัน สามีพี่อุ้มทราบไหมคะ” ลดาเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นสีหน้าหม่นเศร้าของอโรชา “พี่เคยคุยกับพี่โอมแล้ว เขารับได้ไม่มีปัญหาแน่นอน พี่กับพี่โอมยินดีเสียอีก ลูกรักใครเราพร้อมจะรักด้วย” “ตัวฝ้ายเองไม่มีปัญหาเหมือนกัน แต่คนที่จะมีปัญหาคือคุณพ่อของฟาง” ลดาบอกด้วยแววตาเป็นกังวล “ถึงเราจะหย่ากันหลายปีแล้ว แต่เขาเป็นพ่อของฟางยังมีสิทธิ์ในตัวลูก” “ทำไมล่ะ” “พี่วินเขาสั่งห้ามลูกไว้ ห้ามรักเพศเดียวกัน เขามีอคติความแค้นกับทอม ทำให้เขาเกลียดทอมมาก ถ้ารู้ว่าลูกรักกับผู้หญิงด้วยกันคงไม่ยอมแน่” “อินลูกพี่ไม่ใช่ทอมนะ พี่รับประกันเลยว่าลูกพี่ไม่ได้เป็นทอม” อโรชายืนยันเสียงหนักแน่น “พี่วินเขาเหมารวมค่ะ ผู้หญิงรักกันเขาเหมารวมเป็นทอมดี้หมด ตอนนี้เขายังไม่รู้ ถ้ารู้คงไม่ยอมแน่นอน” ลดาบอกด้วยแววตาเป็นกังวลเพราะรู้นิสัยอดีตสามีดี และปวินท์พร่ำบอกลูกมาตลอดเรื่องห้ามรักเพศเดียวกัน “ถ้ามีปัญหาอะไรก็ค่อย ๆ แก้กันไป เขาสองคนแยกจากกันเจ็ดปีกว่า ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งถือว่าเป็นเรื่องดี เราไม่เจอกันเกือบสามสิบปี ไม่เล่าให้พี่ฟังหน่อยหรือ ว่าชีวิตฝ้ายเป็นยังไงบ้าง พี่ไปงานเลี้ยงศิษย์เก่าแทบทุกปี ไม่เคยเจอฝ้ายเลย เพื่อน ๆ ของฝ้ายไม่เห็นไปงานเหมือนกัน” “คุณพ่อของฟางเป็นคนโคราช พอแต่งงานกันฝ้ายเลยย้ายไปอยู่โคราช ไม่เคยได้ไปงานศิษย์เก่าเลยค่ะ” อโรชาฟังอย่างสนใจเมื่อลดาเล่าเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาให้ฟัง ได้พูดคุยกันถึงเรื่องราวต่าง ๆ ช่วงที่แยกจากกัน ปาลิดาเปลี่ยนชุดคนไข้ออก มาสวมชุดของตัวเอง หมออนุญาตให้กลับบ้านได้ นั่งรอแม่ที่กำลังจัดเก็บของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าอยู่ คนป่วยได้กำลังใจดีไม่เพียงหายป่วยเร็วยังสดใสขึ้นมากด้วย “แนนบอกว่ามีลูกค้าที่บริษัทแนน อยากได้ฟางไปเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ให้หรือลูก” ลดาหันมาถามลูกสาวที่นั่งเล่นมือถือรออยู่ “ค่ะแม่ แนนจะพาฟางไปคุยกับเขาพรุ่งนี้ แม่จะว่ายังไงคะ” “ฟางโตแล้วตัดสินใจเองเลย แม่ไม่มีปัญหาอะไรหรอกแล้วแต่ฟาง” เสียงเปิดประตูห้องพักคนไข้ทำให้ทั้งสองหันไปดู เห็นอินทิราเดินยิ้มเข้ามาหาหน้าตาสดใส ไม่แพ้คนเพิ่งหายป่วย กลับมาเป็นพี่อินคนเดิมที่ปาลิดาคุ้นเคย วันเวลาผ่านไปถึงเจ็ดปีกว่านอกจากอายุที่เพิ่มขึ้นนอกนั้นยังคงเดิมแทบทุกอย่าง ความสดใสขี้เล่นอารมณ์ดีคือพี่อินที่เธอคุ้นเคย “เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย เดี๋ยวพี่ไปส่ง” “พี่อินไม่ทำงานหรือคะ” อินทิราอยู่ในชุดสครับสีน้ำเงินแต่ไม่มีเสื้อกาวน์ยาวทับอีกชั้น ผมยาวมัดรวบไว้เพื่อไม่ให้เกะกะเวลาทำงาน เผยดวงหน้าเรียวคมชัดดูทั้งสวยและหล่ออย่างน่าอัศจรรย์ใจ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสดใสและมีแววอ่อนหวานเมื่อมองสบตาปาลิดา “พี่ฝากงานไว้กับเพื่อน ไม่ต้องห่วงหรอกฟางพี่ไปส่งฟางได้ ไปค่ะคุณน้า อินช่วยถือกระเป๋าค่ะ” อินทิราหันไปบอกเมื่อเห็นลดาเก็บของเรียบร้อยแล้ว “ไม่เป็นไรน้าถือเองได้ กระเป๋าแค่นี้เอง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD