เรื่อง: ไม่มีนิยามของคำว่ารัก ภาค 1
ตอนที่.22 นักศึกษาแพทย์(3)
โดย:srikarin2489
ภาพของสามพี่น้องเข้าสวมกอดทักทายกันด้วยความคิดถึง ทำให้อินทิรากับบุษกรยืนดูอยู่พลอยยิ้มรู้สึกดีไปด้วย ตุลยานัดเจอกับพี่ชายและน้องสาว เป็นร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ในช่วงเย็นของวันอาทิตย์มีลูกค้าเต็มร้าน
เป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมาก ลูกค้านั่งทานกันอยู่มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติมากับเพื่อนคนไทย เสียงค่อนข้างดัง บ้างกำลังปิ้งย่างบ้างกำลังเลือกตักของสดเพื่อไปนั่งปิ้งย่างทานที่โต๊ะ เป็นร้านที่เหมาะมาทานเป็นกลุ่มหมู่คณะสังสรรค์กัน
“สวัสดีค่ะพี่ตั้ม” ตั้มหรือเตชิตรับไหว้จากเพื่อนน้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ท่วงท่าการยิ้มพูดคุย หน้าตาละม้ายคล้ายกับตุลยามากแม้แต่ส่วนสูงยังไล่เลี่ยกัน เตชิตตัวหนาใหญ่ผิวเข้มกว่าน้องสาวแต่ไม่เข้มเท่าพ่อ
“ไม่เจอว่าที่คุณหมอหลายเดือน สบายกันดีใช่มั้ย”
“เราสบายดีค่ะพี่ตั้ม แต่เหนื่อยหน่อยเรียนหนักอ่านหนังสือเยอะ นอนน้อยอีกหน่อยคงเป็นหมีแพนด้า” บุษกรบอกด้วยรอยยิ้มเพลีย ๆ
“ฝึกไว้จะได้ชิน พอจบเป็นหมอแล้วต้องเหนื่อยกว่านี้เยอะ พี่มีเพื่อนเป็นหมอสองสามคน บ่นกันอื้อเลยว่างานหนักเหนื่อยมาก”
เตชิตเน้นคำว่ามาก ด้วยการลากเสียงจนเพื่อนน้องอมยิ้มขำ อินทิรากับบุษกรคุ้นเคยกับพ่อแม่พี่ ๆ และน้องสาวของตุลยาทุกคน
“สวัสดีค่ะพี่บุษพี่อิน ไม่เจอกันนานขอตาลกอดทักทายหน่อย”
ตุลยามองดูน้องสาวเข้ากอดทักทายกับเพื่อนทั้งสอง ตอนกอดบุษกรไม่มีอะไร แต่พอกอดอินทิราจะเห็นว่าตวิษากอดกระชับแน่นเป็นพิเศษ ยิ้มกว้างตาเป็นประกายจนดูออก
“น้องสาวแกกอดอินซะแน่นเลยนะ แทบจะสิงร่างอินอยู่แล้ว” บุษกรมองภาพตวิษากอดอินทิราเขม็ง แล้วเอนร่างไปพูดใกล้เพื่อน ทำให้ตุลตาได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อน
ตวิษาเป็นน้องสาวคนเล็กของครอบครัว รูปร่างสูงโปร่งเตี้ยกว่าตุลยาเล็กน้อย สวยคมหน้าตาดีไม่แพ้พี่ สามคนพี่น้องหน้าตาคล้ายกันแต่ตุลยาจะดูขาวกว่าพี่ชายกับน้องสาว ตวิษาผิวออกโทนขาวแต่ไม่ขาวจัด ผิวเนียนสวยเหมือนพี่ รูปร่างมีทรวดทรงอก เอว สะโพกแบบผู้หญิงเด่นชัดกว่าตุลยา ตุลยาแค่พอมีไม่เว้าไม่โค้งมากเหมือนน้องสาว อกเล็กแทบมองไม่เห็น พอ ๆ กับเพื่อนคู่หูอย่างอินทิรา แต่เจ้าตัวกลับชอบที่รูปร่างตัวเองเป็นแบบนี้
“วันนี้พี่ขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงน้อง ๆ ทุกคน อยากกินอะไรไปตักมาปิ้งย่างตามชอบ ส่วนเครื่องดื่มอยากดื่มอะไรสั่งเลยเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจนาน ๆ เราได้เจอกันที ทุกคนโตแล้วดื่มได้ พอบอกว่าดื่มได้เต็มที่ยิ้มตาใสเลยนะไอ้ตุล” ตุลยาได้แต่ยิ้มเมื่อพี่ชายหันมาว่า
ทุกคนแยกย้ายไปเลือกตักของสด มีให้เลือกมากมายหลายอย่างทั้งเนื้อ หมู ปลา ซีฟู้ดส์ ขนมหวาน ผลไม้จัดวางให้ลูกค้าเลือกตักตามต้องการ เป็นร้านใหญ่ลูกค้าหนาตา เนื่องด้วยเป็นวันหยุด ร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่มีโต๊ะว่างเลย มีกระทั่งลูกค้านั่งรอโต๊ะว่างอยู่หน้าร้านอีกหลายคน เสียงค่อนข้างดังซึ่งเป็นบรรยากาศปกติของร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง
เมื่อกลับมารวมกันที่โต๊ะอีกครั้ง มีจานใส่ของสดวางเต็มโต๊ะ มีเตาย่างให้สองเตาเป็นเตาย่างเนยกับกระทะย่าง เตชิตเปิดขวดเบียร์รินใส่แก้วแล้วแจกจ่ายน้องกับเพื่อนน้อง
“มาชนแก้วฉลองกันหน่อย” เตชิตชูแก้วขึ้นเพื่อ ให้น้องกับเพื่อนน้องยกแก้วมาชนด้วย
“เอ้าชน” อินทิรากับบุษกรดื่มไม่เก่งแต่พอดื่มได้เวลาต้องสังสรรค์
“ท่าทางพี่น้องบ้านนี้ จะดื่มเก่งนะอิน” บุษกรเอนร่างไปพูดใกล้เพื่อน อินทิรากำลังคีบของสดวางลงในกระทะปิ้งย่าง มองดูสามพี่น้องยกแก้วเบียร์ดื่มรวดเดียวครึ่งแก้ว แม้แต่ตวิษาน้องเล็กดูดื่มเก่งไม่แพ้พี่
“ฉันดื่มเป็นเพราะใครรู้มั้ย เพราะไอ้พี่ตั้มนี่แหละ เวลามันอกหักจากสาวทีไรมันชอบซื้อเบียร์มาดื่ม แล้วบังคับให้ฉันดื่มเป็นเพื่อน มันฝึกน้องสาวให้เป็นนักดื่ม” เตชิตหัวเราะชอบใจเมื่อถูกน้องสาวแฉ เวลาหัวเราะสไตล์เดียวกับน้องสาวเลย
“ใช่...ตอนแรกพี่บังคับให้มันดื่มด้วย แต่ตอนหลังมันแย่งพี่ดื่ม” ตุลยาเป็นฝ่ายหัวเราะบ้างเมื่อถูกพี่ชายแฉกลับ
“แล้วมันก็ขยันอกหัก ไอ้ใจง่ายเห็นสาวสวยถูกใจรักหมด อกหักเดือนละครั้งก็ว่าได้ ถ้าเห็นมันกลับมาบ้านพร้อมเบียร์ รู้เลยมันอกหักอีกแล้ว ไอ้พี่ตั้มมันเจ้าชู้ แอบส่องสาวเป็นมาตั้งแต่เรียนประถม มีแฟนมานับคนไม่ถ้วน”
“อินกับบุษรู้มั้ย ไอ้ตุลมันบอกพี่ว่า อกหักบ่อยๆ ก็ได้นะหนุกดี” ตุลยาหัวเราะจนตัวโยก กับคำว่าของพี่ชาย
“พี่ตั้มเขาหาเรื่องดื่มอ้างแต่เรื่องอกหัก พอพี่ตุลไม่อยู่เขามาชวนตาลดื่มเป็นเพื่อนแทน” เตชิตหัวเราะอีกเมื่อถูกน้องสาวทั้งสองช่วยกันรุมแฉวีรกรรม
“พี่ชายฉันนะอิน มันฝึกน้องสาวให้เป็นนักดื่ม”
“อินกับบุษคงไม่รู้ว่า ไอ้สองตัวนี่มันแสบมากเลยนะ “ อินทิรากับบุษกร ได้แต่ยิ้มเมื่อเห็นสามพี่น้องแย่งกันพูด แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องว่าผูกพันแน่นแฟ้นรักกันดี
“ตอนไอ้ตุลยังเรียนอยู่ที่ชุมพร พี่กับมันเป็นคู่กัดทะเลาะกันทุกวัน อายุห่างกันแค่สามปี มันเรียกพี่ว่าไอ้พี่ตั้ม ไม่รู้ใครบอกให้มันเรียกแบบนี้” ตุลยายิ้มขำเมื่อพี่ชายหันมาว่า
“ตอนมันยังเป็นเด็กทารก พี่เป็นผู้ช่วยแม่เลี้ยงมัน ด้วยการนั่งไกวเปลให้ เวลาแม่เขามีงานต้องทำ พี่จะช่วยไกวเปลให้น้องนอน มันแสบตั้งแต่ยังเป็นเด็กทารก พี่ต้องนั่งไกวเปลตลอดวางมือไม่ได้ ทั้งที่เห็นว่ามันหลับแล้วนะ พอพี่ลุกจะไปเล่นบ้างมันแหกปากร้องทันที ต้องนั่งไกวเปลให้มันนอนหลับสบาย จนแขนล้าไปหมด” ตุลยาหัวเราะกับเรื่องที่พี่ชายเล่า
“พี่มีกล้ามแขนตั้งแต่เด็กเลยนะ” ตุลยาทำเสียงแซวพี่ชาย
“เรียกว่าต้องนั่งไกวอยู่แบบนั้นแหละ พอมีไอ้ตาลอีกคนไกวสองเปลเลยทีนี้ นั่งอยู่ตรงกลางไกวเปลน้องสองเปล พวกมันช่างทรมานพี่ได้” แม้ปากจะว่าน้อง แต่แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อกัน
“พอมันโตมาหน่อย ต้องพามันเล่นให้ขี่หลังขี่คอ เวลาขี่คอมันชอบจับหูพี่แล้วบิดเล่น บิดยังกับบิดแฮนด์มอเตอร์ไซค์ พี่กลายเป็นพี่เลี้ยงของไอ้ตุลไปเลย พอมีไอ้ตาลเพิ่มมาอีกคน มันสองคนช่วยกันรุมแกล้งพี่ จำได้ตอนนั้นไอ้ตาลพึ่งคลานเป็นเดินยังไม่ได้ พี่กับไอ้ตุลทะเลาะกัน มันร้องบอกให้ไอ้ตาลช่วย ไอ้ตาลคลานอย่างเร็วเข้ามางับที่ขาพี่ มันยังเดินไม่เป็นเลยรู้จักช่วยพี่มันแล้ว” เตชิตออกลีลาประกอบการเล่าจนน้องสาวทั้งสองกับอินทิราและบุษกรได้หัวเราะกันอีก
“เราทะเลาะกันบ่อยด้วยเรื่องไร้สาระ พี่ยอมรับว่าบางครั้งพี่เป็นฝ่ายไปแหย่มันก่อน ไอ้ตุลมันเคยยอมใครซะที่ไหน มันก็ห้าวตอบโต้คืน จะเข้ามาชกพี่แต่ชกไม่ถึง มันตัวเล็กกว่าพี่เอามือดันหัวมันไว้ ไอ้ตาลพุ่งเข้าชาร์จด้วยการกำช้างน้อยพี่แล้วดึง โอ้พระเจ้า...” สามคนพี่น้องหัวเราะกันจนน้ำตาเล็ด แย่งกันเล่าถึงเรื่องราวในวัยเด็ก อินทิรากับบุษกรพลอยขำไปด้วย
“พี่ร้องไห้ร้องขอชีวิตเลย”
“ไอ้พี่ตั้มหน้าเขียวหมด” ตุลยาบอกเสริมกลั้วหัวเราะ
“ถ้าพี่เป็นหมันของใช้งานไม่ได้ จะโทษมันสองคนนี่แหละ เวลาสู้กันมันชอบเล่นจุดตาย ทะเลาะกับไอ้ตุลทีไรพี่ต้องระวังช้างน้อยตัวเองให้ดี ไม่งั้นจะถูกไอ้ตาลจัดการทุกที ถูกมันดึงช้างน้อยเจ็บจนพี่เก็บไปฝันร้าย” ตวิษาหัวเราะร่วนเมื่อพี่ชายหันมาว่า
“ไอ้ตาลมันจอมซุ่ม ตอนทะเลาะกับไอ้ตุลไม่เห็นมันนะ เผลอแป๊บเดียวมันชาร์จเข้ามาช่วยพี่มันแล้ว”
“ตุลเล่าว่าเวลาทะเลาะกัน เขาจะกระโดดขี่หลังพี่ตั้มแล้วกัดหู”
“มันชอบมากเลยนะบุษเรื่องกัดหูพี่ สู้ไม่ได้กระโดดขี่หลังกัดหูทุกที ต้องระวังไอ้ตาลด้วยที่เข้ามาช่วยรุมกัดพี่ มันหมาบ้าทั้งพี่ทั้งน้อง พี่ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะพ่อสั่งห้ามเด็ดขาด ไม่ให้ตีน้องไม่งั้นโดน แต่ไม่บอกพวกมันว่าไม่ให้รังแกพี่ พวกมันเลยสนุกรุมแกล้งพี่” ตุลยากับตวิษาได้แต่หัวเราะเมื่อพี่ชายเล่าถึงวีรกรรมความแสบในวัยเด็ก
“ตอนเด็กทะเลาะกันทุกวัน พอโตแล้วพี่ถึงรู้ว่าพี่รักมันสองคนมาก ตอนตุลมาเรียนกรุงเทพฯใหม่ ๆ พี่นอนร้องไห้คิดถึงมัน จนพี่คิดจะย้ายมาเรียนต่อม.ปลายที่กรุงเทพฯ”
“อย่าไปเชื่อไอ้พี่ตั้ม มันไม่ยอมย้ายมาหรอกมันกำลังติดสาว ตามจีบลูกสาวผอ.โรงเรียน” เตชิตหัวเราะเสียงดังเมื่อน้องสาวยื่นหน้ามาว่าใกล้
“วันเวลามันผ่านไปเร็วนะ ไม่อยากเชื่อว่าตอนนี้มันเป็นนักศึกษาแพทย์ ในจำนวนพี่น้องห้าคน ไอ้ตุลหัวดีเรียนเก่งสุดแต่ติดขี้เกียจ มันไม่เคยอ่านหนังสือล่วงหน้าก่อนสอบเหมือนคนอื่น วันสอบมันแค่อ่านระหว่างไปโรงเรียน แค่นี้มันก็ได้ที่1แล้ว” ตุลยายกมือกอดอก ยิ้มรับกับคำพูดของพี่ชาย
“ใช่พี่ตั้ม ไอ้ตุลมันจอมขี้เกียจเลย บุษกับอินต้องคอยควบคุม แต่ยอมรับว่ามันเป็นคนหัวดีจำเก่ง”
“พี่ตุลเขาได้เพื่อนดี เพราะพี่บุษกับพี่อินทำให้เขาเป็นคนดีขึ้น ตอนอยู่ชุมพรเกเรจนพ่อกับแม่ปวดหัว เพราะเกเรมากเลยถูกแม่หลอกล่อให้มาเรียนที่ในกรุงเทพฯเพื่อดัดนิสัย พี่ตุลเป็นตัวแสบของบ้าน”
การดื่มกินเป็นไปด้วยความสนุกสนาน สามพี่น้องผลัดกันเล่าเรื่องวีรกรรมความแสบในวัยเด็กให้ฟัง ได้ยิ้มหัวเราะกันจนตัวโยกน้ำหูน้ำตาเล็ด บุษกรกับอินทิรายิ้มหัวเราะเป็นระยะฟังสามพี่น้องเผากันเอง ท่าทางจะแสบทั้งสามคน มีชีวิตในวัยเด็กที่สนุกสนานทำให้รักผูกพันกันมาก
“แกชอบอินหรือตาล”
ตุลยายื่นหน้าไปถามน้องสาว เมื่อเห็นตวิษามองตามร่างอินทิราขณะเดินไปเข้าห้องน้ำพร้อมบุษกร ดวงตาของตวิษาเป็นประกายสดใส บ่งบอกถึงความพึงพอใจที่มีต่ออินทราเด่นชัด
“พี่อินเขาหล่อมากเลย ทั้งหล่อทั้งสวยเห็นแล้วใจจะละลาย” พึมพำบอกพี่เหมือนจะเพ้อ
“เจอครั้งแรกตอนตาลอยู่ม.3พี่อินอยู่ม.4 ตอนนั้นว่าหล่อสวยแล้วนะ ดูตอนนี้สิหล่อมาก” ตุลยาหันไปมองหน้าพี่ชายแล้วได้แต่ทำตาปริบ ๆ ที่เห็นน้องสาวทำท่าชื่นชอบหลงใหลอินทิราจริง ๆ เตชิตส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มขำกับท่าทางเพ้อของน้องสาว
“ระวังจะถูกไอ้บุษมันหยุมหัวเอานะ บุษมันหวงอินมาก” ตุลยาบอกเสียงเรียบ ยกขวดเบียร์ขึ้นรินใส่แก้วตัวเองกับพี่ชาย
“พี่อินเขาชอบพี่บุษหรือเปล่า”
“ชอบแบบเพื่อน บุษรักฝ่ายเดียว”
“แล้วพี่ตุลไม่เสียใจเหรอ เพราะพี่ตุลชอบพี่บุษนะ” ตุลยายักไหล่ดูไม่กังวลหรือเดือดร้อนใจ ที่รู้ว่าบุษกรชอบอินทิรามาก
“ไม่ ถ้ากับอินพี่ไม่ว่าอะไรหรอก แล้วแต่บุษเขา”
“นี่มันรักสามเส้าเราสามคนหรือไง” เตชิตขัดขึ้น
“แกชอบบุษแต่บุษชอบอิน แล้วอินชอบใครหรือเปล่า”
“เจ้าของหัวใจอยู่อเมริกาโน่น”
“ถ้างั้นก็รักสามเส้าเราสี่คนน่ะสิ”
“คงงั้น” ตุลยาพยักหน้ายอมรับกับคำว่าของพี่ชาย