. เรื่อง: ไม่มีนิยามของคำว่ารัก ภาค 1
ตอนที่.11 เดทแรก
โดย: srikarin2489
ภายในห้องน้ำของโรงเรียนค่อนข้างเงียบ ใกล้ถึงเวลาเข้าเรียนภาคบ่ายแล้ว นักเรียนที่เข้ามาทำธุระส่วนตัวออกไปเข้าห้องเรียนเกือบหมด ปาลิดากำลังก้มล้างมือในอ่างตามลำพัง พอเงยหน้าขึ้นมองกระจกตรงหน้าแทบสะดุ้ง เมื่อเห็นพี่ม.6คนดังยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง ไม่รู้เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ได้ยินเสียงเลย
“พี่อิน...มาเงียบ ๆ ตกใจรู้มั้ย” หันไปร้องว่าทำหน้างอ
“ฟางตกใจเหรอ” ทำหน้าเหมือนจะเสียใจ แต่แววตายิ้มพราวขำ
“เป็นผีหรือไง ทำตัวแวบไปแวบมา”
“อยากคุยกับฟางตาลำพัง ถึงต้องมาตอนไม่มีใครอยู่ด้วย”
“พี่อินมีเรื่องอะไร” ถามพร้อมยกมือกอดอกรอฟัง
“วันเสาร์นี้ไปเที่ยวกันมั้ย” ถามไม่เต็มเสียงนัก เหมือนจะไม่มั่นใจเมื่อสบตาคมกลมโตของน้องม.4 ที่มองนิ่งอยู่
“เที่ยว” ทวนคำเลิกคิ้วนิดเป็นเชิงถาม อินทิรายิ้มประจบพยักหน้า
“ชวนฟางออกเดทเหรอ” ปาลิดายิ้มขำ เมื่อเห็นคนชวนยิ้มทำท่าเขิน ขยับเนคไทตัวเองไปมาแก้เขิน
“ถ้าใช่ ฟางจะไปมั้ย” ถามเสียงอุบอิบไม่เต็มเสียง กลัวถูกน้องม.4ปฏิเสธ
“จะพาฟางไปเที่ยวที่ไหน”
“เออ...ไปเที่ยวไหนดีหว่า” พึมพำแล้วทำท่าคิดหนัก
“อะไรกันพี่อิน มาชวนฟางไปเที่ยวแต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน วันหยุดพี่อินไปดูหนังเดินห้างหรือเปล่า” คนชวนยิ้มจืดยกมือเกาหัวคิดหาที่เที่ยวไม่ออก ไม่ได้เตรียมที่เที่ยวมาก่อน เพราะไม่มั่นใจว่าน้องม.4จะตอบตกลงหรือเปล่า แค่มาลองชวนดู
“พี่ไม่ชอบไปเดินห้าง นานๆไปกับเพื่อนทีหนังก็ไม่ชอบดู วันหยุดตอนเด็กพี่ชอบไปเล่นที่โรงพยาบาล พอขึ้นม.ปลายไม่ค่อยได้ไป พี่ชอบอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน ฝึกทำข้อสอบเก่าทบทวนให้ตัวเองพร้อม หรือไม่ก็ไปบ้านพี่ยอร์ชหรือที่ร้าน ไปดูพี่ยอร์ชแต่งรถบิ๊กไบค์ ร้านพี่ยอร์ชมีรถบิ๊กไบค์เยอะ พี่ชอบรถบิ๊กไบค์มาก ตอนนี้กำลังหัดขับอยู่ ในอนาคตต้องมีเป็นของตัวเองสักคัน” สีหน้าคนเล่าแจ่มใสดวงตาสีน้ำตาลเข้ม เป็นประกายเมื่อพูดถึงเรื่องที่ชื่นชอบ
“พี่อินชอบรถบิ๊กไบค์เหรอ”
ปาลิดาทำหน้าประหลาดใจ เพราะบิ๊กไบค์เป็นรถคันใหญ่ไม่น่าจะเหมาะกับผู้หญิง พี่ม.6พยักหน้าแล้วยิ้มตาเป็นประกาย
“ฟางอยากไปเที่ยวที่ไหน บอกมาเลยพี่จะพาไป”
“ไม่รู้สิ ฟางยังไม่ค่อยคุ้นกับกรุงเทพฯ เอางี้...ไปดูรถที่ร้านพี่ยอร์ชก็ได้” เมื่อเห็นอีกฝ่ายชอบจึงเสนอเอาใจ
“ได้เลย พี่จะพาฟางไปรู้จักกับพี่ยอร์ช เขาเป็นเพื่อนพี่ชายพี่เป็นพี่ของบุษเพื่อนพี่ด้วย พี่รู้จักเขามาตั้งแต่วันที่พี่เกิด เขาเป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่งของพี่”
“กริ๊งง”
เสียงสัญญาณเข้าเรียนภาคบ่ายดังขึ้น ได้ยินทั่วถึงแม้กระทั่งในห้องน้ำเสียงยังชัดเจน
“ฟางไปก่อนนะ เดี๋ยวแนนกับเพื่อนจะรอ” อินทิรามองตามร่างน้องม.4
ด้วยรอยยิ้มสดใสดีใจ ที่น้องม.4รับคำชวนยอมไปเที่ยวด้วย
ตรงบริเวณที่ทางโรงเรียนจัดให้รถผู้ปกครอง และรถรับส่งนักเรียน มาจอดรับนักเรียนได้ รถติดขัดหนาแน่นเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นในช่วงเช้า และตอนเย็นหลังโรงเรียนเลิก พอนักเรียนแตกออกมาจากในโรงเรียนจึงดูจอแจวุ่นวาย แต่ละคนรีบเร่งไปขึ้นรถของตัวเอง มีรถวิ่งเข้าออกอยู่ตลอดเวลา บางคนติดเครื่องรถไว้รอเลย เนื่องด้วยอากาศร้อนต้องเปิดแอร์
ปาลิดารีบมาขึ้นรถที่แม่ติดเครื่องรออยู่ มือหนึ่งหิ้วกระเป๋านักเรียนอีกมือถือขวดน้ำ อากาศร้อนจัดจนเหงื่อซึม พอลูกขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยลดาออกรถทันที เพื่อให้รถคันอื่นต้องการที่จอดจะได้เข้ามาจอดแทนได้
“คุณพ่อโทรหาฟางหรือยัง” ลดาขับรถค่อนข้างช้าตามคันข้างหน้า ไม่ได้หันไปทางลูกสาว รถเยอะมากต้องจดจ่อในการขับ
“โทรแล้วค่ะ คุณพ่อบอกว่าจะมาค้างที่คอนโดสามวัน ค่ำนี้คุณพ่อจะพาฟางกับแม่ไปทานอาหารข้างนอก”
“ฟางไปกับคุณพ่อสองคนได้มั้ย วันนี้งานแม่ยุ่งเหนื่อย”
“แต่ฟางอยากให้แม่ไปด้วย นะคะแม่ เราจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าไงคะ นาน ๆ คุณพ่อจะมาอยู่กับเรา”
ลดาละสายตาจากถนนเบื้องหน้า หันไปมองหน้าลูกสาวแวบหนึ่ง เห็นลูกมองอยู่แล้วด้วยแววตาอ้อนวอนขอร้อง ปวินท์มาหาเธอกับลูกไม่บ่อยนัก แค่เห็นพ่อมาหาลูกก็ดีใจแล้ว เธอรู้ว่าลูกรักพ่อแม้พ่อจะไม่ค่อยอยู่ด้วยก็ตาม
“นะคะแม่”
“ก็ได้” ริมฝีปากอิ่มแย้มยิ้มพอใจเมื่อแม่รับปาก ดวงตาคมกลมโตดำขลับเช่นเดียวกับแม่ผู้ให้กำเนิด เปล่งประกายสดใสขึ้นมาทันที
“คุณพ่อจะพาเราไปทานอาหารญี่ปุ่น เป็นร้านที่คุณพ่อเคยพาไปครั้งหนึ่ง ตอนเราย้ายมาอยู่กรุงเทพฯใหม่ ๆ อาหารอร่อยฟางชอบ คุณพ่อใจดีจังเลย” ท่าทางดีใจมีความสุขของลูกทำให้ลดายอมตามใจ ไม่อยากให้ลูกเสียใจ
“แม่คะ...วันเสาร์นี้ฟางขอไปเที่ยวนะ”
“ไปกับเพื่อนหรือลูก”
“เอ้อ...พี่อินเขาชวนฟางไปเที่ยว” ซื่อนั้นสะดุดความรู้สึกจนลดาขมวดคิ้วนิด รู้สึกว่าลูกจะพูดถึงซื่อนี้บ่อยในระยะหลัง
“พี่อินเหรอ ใช่คนที่เต้นลีลาศคู่กับฟางมั้ย”
“ค่ะ” ลดามองใบหน้ายิ้มเขินของลูกสาว
“แม่อนุญาตมั้ยคะ” ถามเสียงเบากลัวแม่ไม่อนุญาต
“อนุญาต” ปาลิดายิ้มดีใจแววตาเป็นประกายจนดูออก ทำให้คนเป็นแม่ยิ้มเอ็นดู
“พี่อินคนนี้เขาเป็นคนยังไง คงจะเป็นลูกคนรวย” ถามเสียงเรื่อย ๆ ตามองถนนเบื้องหน้า สลับกับมองกระจกข้างซ้ายขวา
“เขาก็...ตอนยังไม่สนิทกัน ฟางคิดว่าเขาคงมาดเยอะขี้เก๊ก เขาเป็นดาวโรงเรียนมีแต่คนชอบเขา แต่พอสนิทกันแล้ว เขาเป็นคนขี้เล่นอารมณ์ดีตลกในบางครั้ง” ทั้งสีหน้าแววตาเป็นประกายแจ่มใส จนผิดสังเกตเมื่อพูดถึงรุ่นพี่ม.6
“ครอบครัวเขาเป็นหมอกันทั้งบ้าน พี่อินจะสอบเข้าเรียนแพทย์ คุณพ่อเขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนGPH แม่น่าจะรู้จัก” ลดาพยักหน้ายอมรับว่ารู้จัก เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ซื่อดัง
“คุณแม่พี่อินขับรถมารับมาส่งพี่อินเอง ท่านสวยมากเลยค่ะแม่ พูดเพราะดูใจดีด้วย สักวันแม่คงได้เจอรู้จักกับคุณแม่ของพี่อิน”
“เศรษฐีร่ำรวยมากอย่างนั้น ไม่รู้เขาจะอยากรู้จักกับแม่หรือเปล่า แม่แค่คนธรรมดา แต่ยินดีจะรู้จักด้วยถ้าเขาไม่ถือตัว”
“ท่านดูใจดีมากเลยค่ะแม่ สักวันฟางจะแนะนำให้แม่รู้จักกับท่าน” ลดายิ้มรับเมื่อลูกสาวหันมาบอก
รถบิ๊กไบค์จอดเรียงรายอยู่ภายในร้าน เป็นร้านใหญ่พอสมควร จำหน่ายรถบิ๊กไบค์หลากหลายรุ่น หลายยี่ห้อเน้นรถมือสองเป็นหลัก ตั้งแต่ราคาเบาๆ ที่คนทั่วไปจับต้องได้จนถึงราคาแพง รถส่วนใหญ่ได้มาจากการประมูล เอามาทำการปรับปรุงตรวจเช็คสภาพ แล้วขายต่อเพื่อทำกำไร มีรถจอดให้ลูกค้าได้เลือกดูหลายสิบคัน ถูกคัดสรรมาอย่างดี รวมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ ธรรมดาด้วย
“พี่ยอร์ช...อินมา”
ยอร์ชหรือยงยศเจ้าของร้าน เป็นคนหนุ่มวัยยี่สิบปลายจวนสามสิบ กำลังยืนดูลูกน้องตรวจเช็คสภาพรถบิ๊กไบค์ที่ประมูลมาได้ ลูกน้องอีกคนเดินเข้ามาบอกถึงหลังร้าน ตรงโซนตรวจเช็คสภาพรถและซ่อมบำรุง มีลูกน้องกำลังช่วยกันตรวจเช็คสภาพรถอยู่สองคน รถประมูลมาได้จะถูกนำมาตรวจเช็คสภาพก่อนจำหน่ายต่อ
“อินมามันแปลกตรงไหน มันมาประจำของมันอยู่แล้ว”
“พาสาวมาด้วย” ยงยศถึงกับหูผึ่ง หันไปทางลูกน้องทันที
“มันพาสาวมาด้วยเหรอ” ลูกน้องพยักหน้า แล้วชี้มือไปทางหน้าร้าน
“สวยน่ารักมากเลยพี่ยอร์ช ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน สงสัยจะเป็นคนพิเศษของอินถึงพามาที่นี่”
“พวกเอ็งทำงานไปก่อน ทำให้เรียบร้อยนะโว้ย อย่าให้ลูกค้ามาตำหนิทีหลังได้” ยงยศกำชับลูกน้องแล้วรีบเดินออกไปหน้าร้าน
“อิน” ร้องทักก่อนตัวเดินไปถึง เห็นอินทิรายืนดูรถอยู่กับเด็กสาวหน้าตาไม่คุ้นคนหนึ่ง หน้าตาดีสวยน่ารัก
“พี่ยอร์ช” อินทิราหันมายิ้มให้ เมื่อยงยศเดินเข้าไปหา
ร่างสูงโปร่งสวมกางเกงยีนส์ทรงหลวม เสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีกรมท่า รองเท้าผ้าใบสไตล์ง่ายๆ ผมเริ่มยาวซึ่งเจ้าตัวตั้งใจจะกลับมาไว้ผมยาวเหมือนเดิม มองเผินๆ เหมือนเด็กหนุ่มมากกว่าจะเป็นผู้หญิง
“ว่างหรือถึงมาร้านพี่ได้ แล้วพาใครมาด้วย” ยงยศมองดูเด็กสาวแปลกหน้าอย่างสนใจ
“น้องคนนี้พี่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพื่อนหรืออิน” ยงยศหันไปถาม คนเป็นน้องเห็นทำท่ายิ้มเขินแต่ยังไม่ตอบ
ร่างผอมบางสูงแค่ใบหูของอินทิรา สวมกระโปรงยีนส์สั้น เสื้อยืดคอปกแขนกุดสีขาว ดูสดใสสวยน่ารักสมวัยหน้าตาไม่ได้แต่งอะไรมากมาย ปากทา
สีอ่อนด้วยวัยที่เป็นเด็กรุ่นสาว ผิวพรรณสดใสอิ่มเอิบแต่งแค่นี้กลับดูดีมากแล้ว แปลกใจที่เห็นอินทิราพามาด้วย ปกติไม่เคยพาใครมาที่นี่ยกเว้นตุลยาซึ่งเป็นเพื่อนสนิท
“พี่ยอร์ชนี่ฟางซื่อจริงปาลิดา เป็นน้องม.4ที่โรงเรียน ฟางนี่พี่ยอร์ช
ยงยศที่พี่เล่าให้ฟัง”
“ทำไมพาน้องเขามาที่นี่ล่ะอิน” หันไปถามคนเป็นน้อง หลังจากรับไหว้ จากปาลิดาแล้ว
“เอ็งนี่ก็แปลก แทนที่จะพาน้องเขาไปเที่ยว ไปเดินห้างดูหนังกินขนมกลับพามาร้านมอเตอร์ไซค์” คนเป็นน้องทำหน้าจืด
“พี่ยอร์ชก็รู้อินเป็นคนไม่ชอบเที่ยว ไม่คล่องเรื่องนี้เหมือนตุล ถ้าจะพาฟางไปเที่ยวโรงพยาบาลมันดูแปลก ๆ ”
ยงยศสังเกตเห็นสายตาอินทิรา เวลามองปาลิดาดูสดใสจนรู้สึก ได้ เจือด้วยแววแปลกๆ ด้วยวัยที่มากกว่าอินทิราถึงสิบปี ทำให้พอมองอะไรออก รู้จักคุ้นเคยกับอินทิรามา ตั้งแต่อีกฝ่ายยังเป็นเพียงเด็กทารก รู้ดีว่านิสัย ใจคอเป็นยังไง นี่เป็นเรื่องผิดปกติ ที่อินทิราพาเด็กสาวแปลกหน้ามาหา
“เอ็งไปดูเขาทำรถข้างในไป พี่ขอคุยกับน้องฟางก่อน” อินทิรามองหน้ายงยศ แล้วหันไปทางปาลิดาทำท่าลังเล
“พี่อินไปเถ่อะ ฟางอยู่คุยกับพี่ยอร์ชได้”