ตอนที่. 17 ก้าวต่อไป

1695 Words
เรื่อง: ไม่มีนิยามของคำว่ารัก ภาค 1 ตอนที่. 17 ก้าวต่อไป โดย: srikarin2489 ตรงบริเวณซุ้มหน้าบ้านที่ออกแบบสวยงาม มีเสาเหลี่ยมคู่กลมต้นใหญ่เพิ่มความอลังการ จุดวนกลับรถหน้าบ้านออกแบบเป็นวงรี มีสวนประดับแบบญี่ปุ่น พร้อมน้ำพุสวยงามสบายตา เวลาขับรถเข้ามาสามารถจอดหน้าตึกให้คนลงก่อนได้ หรือวนออกไปได้เลย หรือไม่ก็ขับไปจอดยังโรงจอดรถด้านข้าง เห็นยงยศยืนรออยู่ตรงหน้าตึกแล้ว อโรชาขับรถเข้าไปจอดหน้าตึกก่อน นายแพทย์อารักษ์ลงจากรถแล้วเดินไปหายงยศที่ยืนรออยู่ “มานานแล้วหรือยอร์ช” นายแพทย์อารักษ์รับไหว้ แล้วถามด้วยสีหน้า ยิ้มแย้มอารมณ์ดี “สักครู่ครับคุณอา ผมทำตามที่คุณอาสั่งไว้เรียบร้อยแล้วครับ” อินทิราลงจากรถเป็นคนสุดท้าย มองเห็นอะไรบางอย่างอยู่หน้าตึก แม้จะมีผ้าคลุมไว้แต่ดูออกว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ ทำให้รีบตรงดิ่งเข้าไปหาทันที “ใจเย็นๆ อิน” ยงยศร้องบอก รีบเข้าไปขวางหน้าไว้ก่อน เมื่อเห็นคนเป็นน้องทำท่าจะเข้าไปเปิดผ้าคลุมออก “อินอยากเห็น” บอกด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สังหรณ์ใจว่าจะเป็นของขวัญพิเศษที่บิดาบอกว่าเตรียมไว้ให้ “เออรู้...คุณอาจะไม่พูดอะไรหน่อยหรือครับ” ยงยศหันไปทางนายแพทย์อารักษ์ ที่ยืนยิ้มอยู่กับภรรยา “พ่อกับแม่ทำตามสัญญานะอิน ของที่อินอยากได้ พ่อให้พี่ยอร์ชเขาหามาให้ หวังว่าลูกจะชอบ” พอยงยศขยับตัวออก อินทิรารีบเดินเข้าไปดึงผ้าคลุมออกทันที “ว้าว...” เจ้าตัวถึงกับอุทานเสียงดังตาโต ดวงตาเป็นประกายพราวระยับด้วยความตื่นเต้นดีใจ เมื่อเห็นรถบิ๊กไบค์คันใหญ่สีดำเป็นเงาวาววับ จอดเด่นเป็นสง่าอยู่ “โห...สุดยอด” นายแพทย์อารักษ์กับอโรชา มองดูลูกสาวที่เดินวนรอบรถ วางมือลูบไล้ด้วยความตื่นเต้นปลาบปลื้มดีใจ ทำให้พ่อกับแม่พลอยยิ้มแจ่มใสไปด้วย “ชอบมั้ยลูก” “ชอบค่ะคุณพ่อ ขอบพระคุณคุณพ่อกับแม่ค่ะ” พ่อกับแม่ยิ้มเอ็นดูเมื่อลูกสาวเข้ามากราบที่อกแล้วหอมแก้ม “ไอ้ยักษ์ดำที่เอ็งอยากได้ไงอิน” “โหพี่ยอร์ช...รถคันนี้พี่ยอร์ชรักหวงมาก พี่ยอร์ชไม่เสียดายเหรอถึงขายให้อิน” “พี่รู้ว่าเอ็งชอบมันมาก พี่ยินดีมอบให้เอ็งต่อ เป็นของขวัญพิเศษสำหรับนักศึกษาแพทย์คนเก่ง ไอ้น้องรักของพี่” “ขอบคุณค่ะพี่ยอร์ช” อินทิราเข้าไปยกมือไหว้ใกล้ คนเป็นพี่ยิ้มวางมือตบไหล่นักศึกษาแพทย์หน่อยหนึ่ง ท่าทางตื่นเต้นดีใจแววตาเป็นประกายแจ่มใส เดินกลับไปดูรถต่อ ทำให้พ่อกับแม่ยิ้มดีใจไปด้วย นับตั้งแต่ปาลิดาไปอเมริกา ทำให้อินทิราเงียบเหงาไปมากแทบจะไม่ยิ้มเลย เห็นลูกกลับมาสดใสอีกครั้งทำให้พ่อแม่พลอยรู้สึกสบายใจ “ให้เอ็งอายุครบสิบแปดก่อน พี่จะพาไปทำใบขับขี่บิ๊กไบค์ ใบขับขี่ที่เอ็งมีตอนนี้ มันสำหรับมอเตอร์ไซค์ธรรมดา” “ชวนตุลไปทำด้วยนะพี่ยอร์ช ต่อไปอินกับตุลจะได้ร่วมทริปขับรถออกต่างจังหวัด ไปเที่ยวกับพี่และเพื่อนร่วมแก๊ง” ยงยศพยักหน้า เห็นคนเป็นน้องแจ่มใสมีความสุข พลอยรู้สึกสบายใจไปด้วย ถึงจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่ยงยศรักอินทิรา เสมือนน้องในไส้ เห็นตั้งแต่ยังเป็นเด็กทารกจนตอนนี้เรียนจบมัธยมแล้วกำลังจะกลายเป็นนักศึกษาแพทย์ เติบโตด้วยดีน่าภาคภูมิใจ “เย็นนี้ผมจะจัดเลี้ยงฉลอง ให้นักศึกษาแพทย์ทั้งสามคน ขออนุญาตคุณอาทั้งสองด้วยนะครับ ให้อินไปบ้านผม” “ไปเลี้ยงฉลองที่บ้านยอร์ช อาไม่ว่าอะไรหรอก” อินทิราไม่สนใจเรื่องงานเลี้ยงฉลอง มัวแต่ดีใจเห่อรถบิ๊กไบค์คันแรกในชีวิต สีหน้าเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มอิ่มเอมใจ ใฝ่ฝันมานานแล้วอยากมีรถบิ๊กไบค์เป็นของตัวเอง “เอ็งจะไปพร้อมพี่ หรือจะตามไปทีหลัง” “เดี๋ยวอินตามไป อินขอขับยักษ์ดำไปบ้านพี่ยอร์ชนะคะคุณพ่อ” นายแพทย์อารักษ์หันไปมองหน้ายงยศ ราวจะขอความเห็น “อินมันขับเก่งแล้วครับคุณอา ผมสอนมันมากับมือ คุณอาสบายใจได้ครับ” คนเป็นน้องยิ้มพอใจเมื่อยงยศช่วยรับรอง “ในเมื่อยอร์ชรับรองก็ว่าตามนั้น ถึงจะขับเก่งแล้วอย่าประมาทนะลูก พ่อเห็นว่าอินโตแล้วถึงให้อิสระ อินต้องดูแลตัวเองด้วย” “ค่ะคุณพ่อ” “ตรงไปบ้านพี่เท่านั้นนะ ห้ามออกนอกเส้นทาง เอ็งยังไม่มีใบขับขี่บิ๊กไบค์ เอ็งเป็นนักศึกษาแพทย์แล้ว ต้องรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีเรียนจนจบให้ได้เป็นแพทย์ จะได้คอยดูแลรักษาพ่อแม่รวมทั้งพี่ด้วย” อินทิรายิ้มยินดีรีบพยักหน้ารับปาก เสียงเครื่องยนต์รถบิ๊กไบค์ครางกระหึ่ม วิ่งเข้ามาในบ้านของยงยศ ทำให้ตุลยาที่เพิ่งมาถึงกำลังจะเดินเข้าไปข้างในต้องหยุดยืนดูด้วยความสนใจ ว่าใครขับบิ๊กไบค์คันใหญ่สีดำเป็นเงามันปลาบวิ่งช้าๆ เข้ามา คนขับสวมกางเกงยีนส์เสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำ ดูรูปทรงของคนขับแล้วดูคุ้นตามาก “ว้าวอิน...โอ้โหเท่เป็นบ้าเลยว่ะ” อินทิราถอดหมวกกันน็อคสีขาวออก นั่งวางมาดเท่อยู่บนเบาะรถ พร้อมส่งยิ้มสดใสให้เพื่อน “ของขวัญที่คุณพ่อกับแม่ให้ฉัน ที่ฉันสอบเข้าแพทย์ได้” “ฉันอยากได้สักคัน แต่ไม่กล้าขอพ่อกับแม่ พวกเขาหมดไปเยอะแล้วที่ส่งฉันมาเรียนกรุงเทพฯ รวมทั้งค่าเรียนกวดวิชาด้วย” “แกเรียนกวดวิชาแค่ม.4เทอมแรก หลังจากนั้นไปติวกับฉันกับบุษตลอด แกยังขอค่ากวดวิชาอีกหรือตุล” ตุลยาหัวเราะแหะ ๆ แก้เขินถูกเพื่อนว่าขัดคอ “ฉันเคยบอกพ่อว่าฉันเลิกกวดวิชาแล้ว แต่ขอไปติวกับแกกับบุษแทน เขายังจ่ายให้ตามปกติ เขาขอแค่ฉันตั้งใจเรียนอย่าเกเรก็พอ ยิ่งฉันบอกว่าจะสอบเข้าเรียนแพทย์ พ่อฉันเขาเปย์เต็มที่ เขาอยากให้ลูกเรียนหมอสักคน พี่โตเรียนกฎหมาย พี่ต้นจบนายร้อยตำรวจปีนี้ ไอ้พี่ตั้มเรียนวิศวะ ไม่มีใครยอมเรียนหมอสักคน ส่วนไอ้ตาลน้องสาวฉันพึ่งอยู่ม.6 แต่เขาตั้งเป้าจะเป็นแอร์ สำหรับฉันพวกเขาไม่ได้ตั้งความหวังอะไร พ่อกับแม่บอกว่าใครอยากเรียนอะไรตามใจเลย ขอแค่เรียนอย่าเกเร ที่ฉันเลิกเรียนกวดวิชา เพราะรู้สึกว่าติวกับแกกับบุษดีกว่าเยอะ จะไปกวดวิชาให้เสียเงินทำไม จริงปะ” ยื่นหน้ามาถามใกล้ด้วยรอยยิ้มภูมิใจ “ถ้างั้นเอาเงินค่ากวดวิชาที่พ่อแกให้ มาแบ่งฉันกับบุษใช้ด้วยสิ” เพื่อนแบมือขอไม่จริงจัง “เฮ้ย...ลูกเศรษฐีเมืองหลวงอย่างแก มาขออะไรกับลูกเศรษฐีต่างจังหวัดอย่างฉันวะ พ่อฉันรวยไม่ได้ครึ่งของพ่อแกเลย” ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะ ได้ยั่วแหย่กันเล่นตามประสาเพื่อน “พ่อกับแม่ฉันกลับชุมพรแล้ว ตอนแรกพ่อคิดจะจัดงานเลี้ยงฉลอง ที่ฉันสอบเข้าแพทย์ได้ แต่แม่ฉันเบรกไว้ก่อน แม่บอกว่าเรียนจบแล้วค่อยฉลอง กลัวฉันเรียนไม่จบจะอายเขา” “ต้องจบสิ ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน ฉันกับบุษคุยกันแล้ว เราจะเข็นแกไปด้วยให้ได้ เราสามคนต้องไปด้วยกันจนถึงฝั่ง ขอแค่แกอย่าถอดใจเป็นพอ” “ที่ฉันคิดว่าอาจจะไม่จบ เพราะฉันไม่ได้คิดอยากเรียนแพทย์ตั้งแต่ทีแรก แค่อยากตามแกกับบุษ คิดแค่นี้จริง ๆ เลยไม่มั่นใจว่าจะจบ” “เอาน่าเพื่อน ฉันกับบุษจะไม่ทิ้งแกไว้ข้างหลัง เราจะลากแกไปด้วยให้ได้ มาจับมือกันเป็นสัญญา ว่าเราต้องไปด้วยกัน” ตุลยายิ้มยินดียื่นมือไปจับตอบเมื่อเพื่อนยื่นมือมาหา “ฉันดีใจนะอิน ที่เห็นแกกลับมายิ้มได้ ตั้งแต่ฟางไปอเมริกา ฉันไม่เห็นแกยิ้มหัวเราะอีกเลย แกดูเศร้ามากจนฉันรู้สึกเศร้าไปด้วย เขาไม่ติดต่อกลับมาเลยเหรอ” เพื่อนส่ายหน้าแล้วถอนใจ สีหน้าขรึมขึ้น “เบอร์ที่เขาเคยให้ไว้ ฉันพยายามโทรไปเบอร์นี้ถูกยกเลิกใช้งานแล้ว เขาไม่ได้ให้ที่อยู่ไว้ เขาบอกว่าไปถึงที่โน่นได้ที่อยู่แน่นอนแล้วจะโทรมาบอก สุดท้าย เงียบหายไปเลย เขาไปเจออะไรใหม่ ๆ น่าสนใจ คงลืมฉันแล้วมั้ง” “ลืมได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือวะ ท่าทางเขาชอบแกเหมือนกันนะ” อินทิรายิ้มขมขื่นแววตาหม่นเศร้า “ที่ผ่านมาฉันไม่เคยถามเขา ว่าเขารู้สึกยังไงกับฉัน ฉันอาจจะรู้สึกอยู่ฝ่ายเดียวก็ได้ เขาแค่สนุกล้อเล่นกับความรู้สึกของฉัน พอได้ไปอยู่ที่อื่นเจอสิ่งใหม่ เลยเลิกสนใจ” ตุลยาได้แต่มองดูเพื่อนอย่างเห็นใจกับน้ำเสียงหม่นเศร้า สีหน้าท้อแท้กับรักครั้งแรกที่จบลงด้วยความเศร้า ทั้งที่รักนี้เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน “อย่าพูดเรื่องนี้เลย บุษล่ะ” อินทิราเปลี่ยนท่าทีใหม่แล้วมองหาเพื่อน “ตั้งแต่ฉันมาถึง ยังไม่เห็นมันเหมือนกัน เข้าไปข้างในกันเถ่อะ” สองเพื่อนรักเดินกอดคอกันเข้าไปข้างใน เพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลอง การเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ยงยศจัดให้เป็นพิเศษ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD