ตอนที่.25 กลับชุมพร (2)

2290 Words
เรื่อง: ไม่มีนิยามของคำว่ารัก ภาค 1 ตอนที่.25 กลับชุมพร (2) โดย: srikarin2489 บ้านสองชั้นหลังใหญ่ค่อนข้างเงียบมองหาใครไม่เห็นเลย เมื่อบุษกรเดินออกมาจากห้องพักที่แม่ของตุลยาจัดให้ เปลี่ยนชุดใหม่อาบน้ำ เรียบร้อยหน้าตาสดใส โดยไม่ต้องแต่งมากเป็นคนผิวพรรณดี ขาวเนียนสะอาด สวมชุดลำลองเสื้อกางเกงผ้ายืดใส่สบาย ผมยาวปล่อยตามธรรมชาติ บุษกรหยุดยืนอยู่ตรงส่วนที่เป็นห้องรับแขก มองหาเพื่อนทั้งสองแต่ไม่เห็น ได้ยินเสียงคุยกันดังแว่วมาจึงเดินตามเสียง ผ่านไปถึงห้องครัวกว้างขวาง เห็นแม่ของตุลยากำลังเตรียมของสำหรับทำอาหารอยู่ โดยมีแม่บ้านคอยช่วยอีกคน “ตุลกับอินล่ะคะแม่” บุษกรเดินเข้าไปหาแล้วถามแม่ของตุลยา เห็นกำลังง่วนอยู่กับของสดวางเต็มโต๊ะตัวยาว ็ “เห็นชวนกันขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปข้างนอก แม่นึกว่าออกไปด้วยกัน เห็นเงียบไปทั้งสามคนเลย ตุลเวลากลับมาเยี่ยมบ้าน เขาชอบขับมอเตอร์ไซค์ออกตะลอนไปหาเพื่อน พวกเขาไม่ชวนบุษไปด้วยเหรอลูก” “คงพากันออกไปทำอะไร ที่ไม่อยากให้บุษไปด้วยน่ะสิคะ แม่ทำอะไรคะ ทำไมอาหารทะเลเยอะแยะเลย” บุษกรมองดูของทะเลสดวางอยู่บนโต๊ะตัวใหญ่ มีทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา รวมทั้งปลาหมึกสด นอกจากของทะเลสดแล้วยังมีผักสดอีกหลายชนิดวางอยู่บนถาดใบใหญ่ ซึ่งเก็บมาสด ๆ ใหม่ “ของทะเลพวกนี้ พ่อเขาไปซื้อจากเรือชาวประมงเลยนะลูก ขึ้นมาจากทะเลใหม่ ๆ เลย พ่อเขาให้เตรียมอาหาร สำหรับเลี้ยงต้อนรับหมอจบใหม่ พ่อเขาดีใจมากเลยที่ตุลจบแพทย์ ไปทางไหนคุยอวดเขาไปทั่ว” มุกดาเล่าด้วยสีหน้าระบายยิ้มแจ่มใส มือหยิบจับของคล่องแคล่วทำงานไม่หยุด จัดแยกของทะเลให้แม่บ้านเอาไปล้างทำความสะอาดเตรียมไว้ทำอาหาร “แม่เป็นคนกรุงเทพฯแต่ต้องมาอยู่ไกลถึงชุมพร แม่รู้สึกยังไงคะ” บุษกร นั่งลงที่เก้าอี้ตัวอีกตัว ช่วยหยิบจับของระหว่างคุยกัน “ยอมรับว่าตอนแรกแม่เครียดมาก ช่วงแรกย่าของตุลเขม่นแม่นิดหน่อย เพราะท่านหมายตาผู้หญิงไว้ให้พ่อของตุลแล้ว แต่พ่อบอกว่าจะแต่งงานกับแม่คนเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ได้แต่งกับแม่จะบวชไม่ยอมสึกตลอดชีวิต ท่านเลยต้องตามใจลูกชาย” มุกดาเล่าด้วยรอยยิ้มขำ “มาเป็นสะใภ้ชุมพรแม่ต้องปรับตัวเยอะ ต้องหัดกินหัดทำอาหารใต้ก่อนรู้จักกับพ่อของตุลแม่กินอาหารใต้ไม่เป็นเลยนะ ลองกินครั้งแรกน้ำตาแทบร่วง เพราะแม่คุ้นเคยกับอาหารแบบภาคกลาง แต่ต้องพยายามปรับตัวให้ได้ มีพ่อขอตุลคอยให้กำลังใจ อดทนสู้จนเอาชนะใจย่าของตุลได้ กลายเป็นสะใภ้คนโปรด” บุษกรฟังอย่างสนใจบางครั้งพลอยยิ้มด้วย เมื่อแม่ของตุลยาเล่าเรื่องในอดีตใฟัง “มันไม่ง่ายหรอกลูก ที่จะต้องอดทนอยู่ที่นี่ให้ได้ในตอนแรก ตอนนั้นชุมพรยังไม่มีสนามบิน ต้องเดินทางด้วยรถยนต์เท่านั้น เดินทางเข้ากรุงเทพฯทีนั่งรถจนเหนื่อย ความสะดวกสบายไม่มีเหมือนทุกวันนี้ เงียบมากจนบางทีแม่ถึงกับท้อใจ ตอนมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ เล่นเอาแม่แย่เหมือนกัน แต่พ่อของตุลเขาคอยดูแลเอาใจใส่ดี ไปไหนเอาแม่ไปด้วยจะได้ไม่ต้องเหงาอยู่บ้าน จนทุกวันนี้แม่ชินและชอบความสงบเรียบง่าย กลายเป็นว่าไม่ชินกับกรุงเทพฯที่มีแต่ความรีบเร่ง” “แม่เก่งนะคะ จากบ้านที่กรุงเทพฯมาอยู่ที่นี่ได้” บุษกรมองดูแม่เพื่อนอย่างชื่นชมในความอดทนจนแกร่ง “เมื่อตัดสินใจเลือกเราต้องยอมรับให้ได้ วิธีหนี่งที่ทำให้ย่าของตุลใจอ่อนคือรีบมีหลานให้ พอมีลูกแม่ยุ่งกับการเลี้ยงลูกจนลืมเครียดลืมเหงา ที่พ่อกับแม่มีลูกด้วยกันถึงห้าคน ย่าของตุลอยากมีหลานเยอะ ๆ ท่านมีลูกแค่สองคนคือพ่อของตุลกับน้องสาว คนที่หนึ่งถึงสี่ห่างกันคนละ3ปี แต่ตุลกับตาลปีต่อปีเลี้ยงเหมือนคู่แฝดเลย แม่เป็นแม่ลูกอ่อนเลี้ยงตาล พ่อต้องเป็นคนเลี้ยงตุล ให้เขาหย่านมแม่เพราะมีน้องแล้ว ฝึกเขากินนมชงแทนโชคดีเขาชอบกินนมชง โดยเฉพาะนมกล่องชอบมาก” บุษกรยิ้มขำเมื่อนึกถึงฉายาของเพื่อน“ไอ้ตุลนมกล่อง” มันมีที่มาแบบนี้นี่เอง “ตุลเคยเล่าให้ฟัง ตอนเด็กมีกันห้าคนพี่น้องสนุกมาก” “พวกเขาสนุก แต่พ่อกับแม่หัวหมุนไปหมด โดยเฉพาะตุลไม่มีความเป็นผู้หญิงเลย คู่กัดกันเลยกับตั้ม มีตาลเป็นลูกคู่คอยช่วยพี่บางทีแม่ทั้งขำทั้งสงสารตั้ม ถูกน้องสองคนรุมแกล้ง พากันรุมกัดพี่จนพี่ร้องไห้” บุษกรพลอยยิ้มขำเมื่อนึกภาพตามมุกดาเล่า และเคยฟังสามพี่น้องเล่าเผากันเองเป็นที่สนุกสนาน “ตามตัวตามหูมีแต่รอยฟันของน้อง แต่ตั้มชอบแหย่ตุล แหย่กันไปแหย่กันมาสุดท้ายก็ทะเลาะกัน ไม่กล้าตีน้องบางทีร้องไห้มาขอให้แม่ช่วย ตอนนี้โตกันหมดแล้ว บ้านเงียบสงบลงเยอะ เห็นพวกเขาเติบโตเรียนจบไม่เกเร พ่อกับแม่ก็ภูมิใจแล้ว” มีเสียงรถมอเตอร์ไซค์วิ่งมาจอดหน้าบ้าน ทำให้บุษกรหันไปดูทางเสียง “ตุลกับอินคงกลับมาแล้ว บุษขอตัวไปหาพวกเขาก่อนนะคะ” บอกแล้วเดินตัวปลิวไปทางหน้าบ้านทันที “เธอสองคนไปทำอะไรมา” บุษกรร้องถามเสียงแข็งขณะเดินเข้าไปหาเพื่อนทั้งสอง เห็นกำลังยืนกินไอศกรีมแท่ง คุยกันอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่หน้าบ้าน เป็นบ้านปูนสองชั้นหลังใหญ่ ปลูกอยู่บนเนื้อที่กว้างขวางร่วมห้าไร่ บ่งบอกถึงฐานะเจ้าของได้เป็นอย่างดี ถึงจะมีอาณาบริเวณกว้างขวาง แต่มีรั้วรอบขอบชิดมั่นคงแข็งแรง ไม่ให้ใครรุกล้ำเข้ามาได้ง่าย ๆ รอบบ้านร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ส่วนมากจะเป็นไม้ผลอย่างต้นทุเรียน ลองกองมังคุดหรือแม้แต่สะตอ รวมทั้งผักพื้นบ้านของภาคใต้เช่นต้นเหลียง มันปู มะเดื่อฉิ่งหรือลูกฉิ่งที่ติดลูกดกอยู่ตามต้นและกิ่งก้าน เป็นต้นไม้เน้นกินผลผลิตได้ไม่ใช่แค่เป็นไม้ประดับ เป็นบ้านกึ่งสวนได้รับการดูแลดีหญ้าถูกตัดเรียบไม่รกตา “กินติมไง” ตุลยาตอบพร้อมยื่นไอศกรีมแท่งให้ดู “ฉันไม่ได้หมายถึงไอติม” บุษกรว่าเสียงแข็ง “อ้าว...แล้วแกหมายถึงอะไร” ตุลยายกไอศกรีมแท่งกัดกินต่อ “นี่ไง...ไปทำอะไรกับผมมา” ถามพร้อมจิ้มนิ้วลงบนศีรษะตุลยาเคย ไว้ผมยาวเกือบถึงกลางหลัง กลายเป็นผมสั้นทรงทูบล็อกหรือรองทรงต่ำ อินทิรา ตัดทรงเดียวกันกลายเป็นหนุ่มหล่อแพ็คคู่ ถ้าไม่ใช่คนรู้จักกันมาก่อนต้องเข้าใจว่า ทั้งสองเป็นผู้ชายจริง ๆ “อ๋อ...” ตุลยาลากเสียงยาวแล้วยิ้มแฉ่ง “พวกเรากำลังจะไปลุยศึกอินเทิร์น1 ฉันกับอินเลยตัดสินใจตัดผม เพื่อ เตรียมลุยเต็มที่ พี่รหัสฉันบอกว่างานหนักมาก หนักจนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง” “ไม่เสียดายหรือไง ไว้ผมยาวมาตั้งหลายปี” บุษกรถามด้วยสีหน้าขัดใจ มองดูเพื่อนทั้งสองแล้วเสียดายผมแทน “แค่ตัดผมจะเสียดายทำไม ใช่มั้ยอิน” อินทิรากำลังอร่อยเพลินกับไอศกรีมแท่ง จึงพยักหน้าแทนการตอบ “แค่ตัดผมแกจะอะไรนักหนาบุษ ทำยังกับเรื่องคอขาดบาดตาย” “แล้วทำไมไม่บอกฉัน” “บอกได้แกก็ไม่ตัดด้วยหรอก แกรักผมยาวของแกมาก ฉันมีญาติทำร้านตัดผมเลยให้เขาตัดให้ ตัดแล้วสบายหัวดีออก” ตุลยายกมือเสยผมตัวเอง วางมาดหล่อประกอบจนเพื่อนมองค้อน “เราสองคนหล่อมั้ยบุษ” ตุลยาเอนร่างไปกอดไหล่เพื่อนที่กินไอศกรีมแท่งอยู่แล้วยักคิ้วให้บุษกร จากสาวสวยกลายเป็นหนุ่มหล่อหน้าคม พอตัดผมสั้นแล้วดูหน้าเปลี่ยนไปทั้งสองมีโทนหน้าออกคมเข้มอยู่แล้ว คนหนึ่งคมแบบไทยส่วนอีกคนคมไปทางฝรั่ง ยิ่งตัวสูงอยู่แล้วทำให้ดูเผิน ๆ เหมือนเด็กหนุ่มมาก หน้าอกมีน้อยแทบมองไม่เห็น “เวลาทำงานจะได้สะดวก ผมยาวเดี๋ยวมัดเดี๋ยวปล่อยบางทีน่ารำคาญจริง ๆ แล้วฉันชอบผมสั้น ไปเรียนกรุงเทพฯไว้แต่ผมยาว ไว้เอาใจแม่มาหลายปี ตอนนี้ขอเอาใจตัวเองมั่ง” “อินไม่เสียดายผมเหรอ อินชอบผมยาวนะ” น้ำเสียงบุษกรอ่อนโยนลงเมื่อถามอินทิรา ทำให้ตุลยาแยกเขี้ยวให้ เวลาพูดกับตุลยา บุษกรมักใส่อารมณ์เต็มทีไม่นุ่มนวลอ่อนโยนเหมือนพูดกับอินทิรา “ตอนแรกอินไม่คิดจะตัดหรอก แต่เห็นตุลตัดแล้วท่าทางน่าสบายหัวดี ตัดได้มันก็ยาวใหม่ได้ ให้จบงานอินเทิร์นก่อนค่อยไว้ผมยาวใหม่” บุษกรทำหน้าไม่ชอบ ใจนักแต่มันเป็นสิทธิ์ส่วนตัวของเพื่อน “พรุ่งนี้เราค่อยไปนอนรีสอร์ทกัน อยู่ติดชายหาดจะได้เล่นน้ำให้สนุก” “รีสอร์ทอยู่ไกลมั้ยตุล อยากเห็นทะเลชุมพร นี่เป็นครั้งแรกที่เรามาบ้านแก” “ไม่ไกล พ่อฉันสร้างรีสอร์ทไว้ มีทั้งส่วนที่เป็นโรงแรม กับบังกะโลเป็นหลัง แกสองคนเหนื่อยมั้ย” เพื่อนสบตากันแล้วหันมาสั่นหน้า “ไปดูทะเลกันมั้ย กลับมาคงทันอาหารค่ำพอดี ส่วนเรื่องเล่นน้ำเอาไว้วันหลัง” “แกจะขับรถคันไหนไป” บุษกรมองไปทางโรงจอดรถข้างบ้าน เห็นมีรถจอดอยู่หลายคันมีทั้งรถเก๋ง รถเอสยูวีหรือรถเอนกประสงค์เจ็ดที่นั่ง รถกระบะ รวมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ แม้แต่จักรยานจอดอยู่เต็มไปหมด เป็นโรงจอดรถขนาดใหญ่จอดได้หลายคัน เตชน์พ่อของตุลยาเป็นนักธุรกิจท้องถิ่นมีฐานะดีระดับเศรษฐี “ไปด้วยไอ้นี่” ตุลยาตบมือลงบนเบาะรถมอเตอร์ไซค์ ที่เพิ่งขับมาจากข้างนอก เป็นมอเตอร์ไซค์แบบผู้หญิงสีน้ำเงินคันกลางเก่ากลางใหม่ “คันเดียวไปสามคนเลยเหรอ” บุษกรร้องถาม ตุลยาพยักหน้าแล้วขึ้นนั่งคร่อมเบาะรถหันมาถามเพื่อน “แกจะนั่งตรงไหนบุษ” “แค่รถมอเตอร์ไซค์เลือกที่นั่งได้ด้วยเหรอวะ” บุษกรมองดูเบาะรถมอเตอร์ไซค์ ด้วยสายตากังขา มันแค่เบาะยาวจะเลือกที่นั่งได้ยังไง “แกจะนั่งข้างหน้าหรือนั่งข้างหลังฉันได้ทั้งนั้น แต่ถ้านั่งข้างหน้าแกต้องก้มหน่อยจะได้ไม่บังสายตาฉัน แกตัวเล็กเตี้ยไม่บังเท่าไหร่หรอก” “ไอ้คนตัวสูง” ตุลยาหัวเราะเสียงดังชอบใจ ถูกเพื่อนร้องว่าพร้อมทั้งฟาดมือลงบนไหล่ “คิดอยู่แล้วว่าแกต้องเลือกนั่งกลาง เพื่อให้อินประกบซ้อนหลัง” ตุลยาทำเสียงเปรยขึ้น เมื่อบุษกรขึ้นนั่งซ้อนหลัง “พูดมากเดี๋ยวกัดหูขาดหรอก ขับดี ๆ ด้วยฉันอุตส่าห์เอาชีวิตเสี่ยงนั่งซ้อน มอเตอร์ไซค์แก” บุษกรคำรามขู่อยู่ข้างหู “ขึ้นมาเลยอิน ฉันจะพาซิ่งไปดูทะเลกัน” อินทิราขึ้นนั่งซ้อนหลังสุดทำให้ บุษกรนั่งกลางแทบจมหาย เพราะเพื่อนสองคนล้วนแต่สูงทั้งคู่ “อย่าขับเร็วมากนะตุล” บุษกรร้องบอก เห็นเพื่อนออกรถค่อนข้างแรงพุ่งทะยานไปบนถนน แต่ตุลยากำลังคึกสนุกบิดแรงเร็วถูกบุษกรทุบไหล่ยังไม่สนใจ อินทิราพลอยสนุกไปด้วยส่งเสียงดังกันสนุกสนาน ไม่ว่าจะขับผ่านไปทางไหนมีแต่คนหันมามอง เห็นซ้อนสามมีสาวหมวยตาโตแก้มป่อง สวมแว่นหน้าตาสวยน่ารักนั่งกลางประกบหน้าหลังด้วยหนุ่มหล่อสองคน อำเภอบ้านตุลยาเป็นอำเภอไม่ใหญ่นัก พอมีคนแปลกหน้าเข้ามาจะผิดสังเกตได้ง่ายจึงได้รับความสนใจมองตาม “ขากลับแกขับนะอิน” “โอเค...ฉันอยากขับแบบนี้มานานแล้ว จะบิดให้สะใจเลย” อินทิราร้องรับด้วยท่าทางคึกคัก “เวลากลับมาบ้านตอนปิดเทอม ฉันชอบขับมอเตอร์ไซค์เที่ยว ฉันเคยขับเข้าไปหาเพื่อนถึงในตัวจังหวัด” ตุลยาเล่าเสียงดังแข่งกับรถ ตุลยาสนุกกับการบิดเร่งเครื่องพาเพื่อนซิ่ง ส่งเสียงเป็นระยะมีอินทิราเป็นลูกคู่ จนบุษกรพลอยรู้สึกสนุก ปล่อยใจสนุกสนานกันเต็มที่ หลังจากคร่ำเคร่งกับการเรียนหนักมาถึงหกปี ลมแรงปะ ทะหน้าจนผมปลิวลู่ลม สองข้างทางมีบ้านคนเป็นระยะไม่หนาแน่น สลับกับสวนยางพารา สวนปาล์น้ำมัน ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของภาคใต้ บรรยากาศเป็นธรรมชาติ ไม่วุ่นวายเหมือนเมืองกรุงที่จากมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD