ตอนที่.33กลับจากอเมริกา(2)

2303 Words
เรื่อง: ไม่มีนิยามของคำว่ารัก ภาค 1 ตอนที่. 33 กลับจากอเมริกา (2) โดย: srikarin2489 ณิชมนร้องเรียกเพื่อนเสียงดังดีใจ โบกมือให้เมื่อเห็นปาลิดาเข็นกระเป๋าเดินทาง ที่วางซ้อนกันอยู่บนรถเข็นสองใบใหญ่และหนึ่งใบเล็ก เดินออกมาพร้อมกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ปาลิดายิ้มดีใจโบกมือตอบ แล้วรีบเดินเข้ามาหาเพื่อน ทั้งสองเข้าสวมกอดกันด้วยความดีใจและคิดถึง “ขอต้อนรับกลับเมืองไทย” ปาลิดายิ้มรับแจ่มใส เมื่อเพื่อนบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เราเจอกันครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว เจอกันครั้งนี้ฟางยังสวยเหมือนเดิม” ณิชมนกวาดสายตามองทั่วร่างเพื่อนและญาติแล้วเอ่ยปากชม “แนนก็สวยขึ้นเยอะ” “เราเลยมาชมกันเอง แต่มันเป็นเรื่องจริงล่ะนะ” สองเพื่อนรักหัวเราะคิกคักให้กัน “มาถึงเมืองไทยแล้ว ฟางอย่าลืมโทรไปบอกคุณย่าด้วยนะ ท่านสั่งแนนไว้ บอกว่าถ้าฟางมาถึงแล้วให้โทรไปบอกท่านด้วย” ปาลิดายิ้มพยักหน้ารับ “ไป...ไปขึ้นรถ คืนนี้นอนบ้านแนนก่อนนะ ไม่เจอกันตั้งปีมีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะแยะ คุยแต่ทางโทรศัพท์ไม่จุใจ สงสัยคืนนี้ไม่ต้องนอนคุยกันทั้งคืนเลย” ปาลิดาได้แต่ยิ้ม เมื่อณิชมนบอกเสียงสดใส วางมือโอบไหล่พาเดินไปด้วยกัน ปาลิดาเปลี่ยนจากสาวน้อยวัยสิบห้า กลายเป็นสาวเต็มตัว สูงกว่าเดิมเล็กน้อย หน้าตาไม่ต่างจากเดิมมากนักเพียงแต่ดูเป็นสาวขึ้น ผมยาวตรงสีน้ำตาลเข้มยาวถึงกลางหลัง แต่งหน้าอ่อนแต่ทาปากสีแดงสด ผิวพรรณขาวเนียนกระจ่างใส เรียกว่าโตเป็นสาวเต็มตัวแทบไม่เหลือเค้าเด็กมัธยม ชุดเดินทางเป็นเบลเซอร์สีครีมทับเสื้อยืดสีเทาพอดีตัว สวมกางเกงยีนส์ทะมัดทะแมงรองเท้าผ้าใบหนังเข้าชุดกัน “ตอนนี้ขับรถเองแล้วหรือแนน” ปาลิดาหันไปถามเพื่อนหลังจากขึ้นมานั่งบนรถรัดเข็มขัดเรียบร้อยแล้ว “แนนเรียนจบทำงานแล้วนี่นา คุณพ่ออนุญาตให้ขับได้ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย” ณิชมนบอกพร้อมขับรถออกจากที่จอด ณิชมนกลายเป็นสาวสวยน่ารักสดใส หน้าตาละม้ายคล้ายปาลิดาบ้าง แต่ณิชมนดูจะช่างพูดกว่าร่าเริงมีชีวิตชีวา เวลาอยู่ด้วยกันณิชมนมักเป็นฝ่ายคุย ปาลิดาชอบที่จะเป็นฝ่ายฟังเพื่อนคุย ทำให้ทั้งสองเป็นมากกกว่าเพื่อน “ฟางก็ขับรถเก่งนะ ตอนแนนไปหาฟางที่อเมริกา ฟางขับรถพาแนนไปเที่ยว ตอนนั้นสนุกมากเลย แต่ขับรถในกรุงเทพฯหงุดหงิดง่ายเพราะรถติดมาก” ณิชมนหันมาเน้นคำว่ามากจนเพื่อนยิ้ม “กี่ปีนะที่ฟางไปอยู่อเมริกา” “เจ็ดปีกว่า เมืองไทยเจริญขึ้นเยอะเลยนะแนน” ปาลิดามองออกไปนอกหน้าต่างรถ เห็นสภาพบ้านเมืองขณะรถวิ่งผ่านดูผิดตาไปมาก มีตึกใหม่ เกิดขึ้นในทุกครั้งที่ได้กลับมาเมืองไทย บนถนนหนทางเต็มไปด้วยรถเหมือนเดิม การจราจรติดขัดไม่เคยเปลี่ยน กลับติดหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ “แนนเห็นทุกวัน เลยไม่ค่อยรู้สึกอะไร รู้แต่ว่ารถติดมาก” หันมาเน้นคำว่ามากอีก “เรื่องที่เราคุยกันทางโทรศัพท์ ก่อนฟางจะมาเมืองไทย ฟางจะว่ายังไงแนนรอคำตอบอยู่นะ” “เรื่องถ่ายโฆษณาน่ะเหรอ” พอดีรถคันข้างหน้าชะลอ ทำให้ณิชมน ต้องชะลอตาม จึงหันมาพยักหน้ากับเพื่อนได้ “แนนยังไม่ได้ตกลงกับเจ้าของสินค้าใช่มั้ย” “ยัง ฟางยังไม่ได้ให้คำตอบแนนเลย บอกแต่ว่าขอคิดดูก่อน เจ้าของสินค้าเป็นลูกค้าบริษัทแนน เขาอยากได้นางแบบหน้าใหม่หน้าไม่ซ้ำ เขาหามาสักพักแล้วแต่ยังไม่ได้คนถูกใจ พอแนนเอารูปฟางให้เขาดู เขาถูกใจมากบอกว่าคนนี้เหมาะเลย ฟางสวยผิวดีเหมาะกับสินค้าของเขา ว่าไงสนใจมั้ย ลองดูหน่อยนะ” ปาลิดาทำท่าครุ่นคิดอยู่อึดใจก่อนตอบ “น่าสนใจเหมือนกันนะ ฟางเรียนจบแล้วยังไม่ได้ทำงานอะไรจริงจัง ลองดูก็ได้แนนอุตส่าห์หางานให้” ณิชมนหันมายิ้มพอใจกับคำตอบของเพื่อน “ฟางจะลองกลับมาอยู่เมืองไทยดู แม่กับลุงปอให้อิสระในการตัดสินใจ ไปอยู่อเมริกาเจ็ดปีกว่า ฟางเคยกลับเมืองไทยไม่กี่ครั้ง ทุกครั้งมาแบบรีบมารีบกลับ ไม่ได้ไปเที่ยวหรือไปหาเพื่อนๆ เลย” “ถ้างั้นก็ยินดีต้อนรับกลับมาอยู่เมืองไทย” ปาลิดายิ้มตอบ เมื่อเพื่อนหันมาบอกด้วยรอยยิ้มสดใส “เพื่อน ๆ เป็นยังไงกันบ้าง คงลืมฟางหมดแล้วมั้ง ฟางมาเรียนด้วยแค่ ปีเดียว” “ไม่ลืมหรอก พวกเขายังถามถึงฟางอยู่เรื่อย ๆ แนนจะนัดเจอเพื่อนสักวัน เลี้ยงต้อนรับฟางกลับมาอยู่เมืองไทย” ปากคุยกับเพื่อนแต่ไม่เสียสมาธิในการขับรถ ถึงจะไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนแต่รถยังเยอะ ณิชมนขับรถคล่องมากทีเดียว “ตั้งแต่จบม.6มา แนนยังติดต่อกับรุ่นพี่อยู่หรือเปล่า” “รุ่นพี่คนไหน” เพื่อนหันมาทำหน้าสงสัยถาม “ก็...คนที่แนนเป็นFcเบอร์หนึ่งของเขา” ปาลิดาพยายามควบคุมสีหน้าน้ำเสียงให้ปกติ เมื่อพูดถึงอินทิราทั้งที่ในใจเต้นตึกตักแม้แค่เอ่ยถึงยังรู้สึกใจเต้นแรงผิดปกติ “พี่อินเหรอ ฟางยังจำพี่อินได้เหรอ ฟางมาเรียนที่กรุงเทพฯแค่ปีเดียว แล้วไปอยู่อเมริกาตั้งเจ็ดปีกว่า” “จำได้ เห็นแนนชอบเขามากเลยจำได้” ณิชมนหัวเราะเบา เมื่อนึกถึงตัวเองในตอนเรียนมัธยม “ตั้งแต่พี่อินจบม.6ไป แนนไม่เจอพี่อินอีกเลย” ดวงตากลมโตฉายแววผิดหวัง เมื่อเพื่อนบอกอย่างนั้น “พี่ชายเพื่อนแนนคนหนึ่ง เขาเรียนแพทย์ที่เดียวกับพี่อินรุ่นเดียวกันด้วย พี่อินไปอยู่ที่ไหนมีแต่คนชอบเขาเยอะแยะ ตอนเป็นนักศึกษาแพทย์มีคนมาชอบเขาเยอะ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่ผู้หญิงจะเยอะกว่าผู้ชาย” “เขามีแฟนหรือยัง” ปาลิดาถามเสียงเบา แววตาหวั่นใจกลัวคำตอบที่จะได้รับ “เท่าที่รู้มายังไม่มีนะ แต่นั่นมันเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนี้แนนไม่รู้เหมือนกัน” แววตาของคนถามมีร่องรอยผิดหวังเป็นกังวล เมื่อได้รับคำตอบไม่แน่ชัดจากเพื่อน อยากรู้ข่าวคราวแต่ไม่กล้าเอ่ยปากถามตรง ๆ “พี่ชายเพื่อนแนนไปเป็นหมออินเทิร์นอยู่ต่างจังหวัด เวลาแนนไปหาเพื่อนเลยไม่เจอเขา พี่อินคงเป็นหมออินเทิร์นอยู่ต่างจังหวัดเหมือนกัน เรียนจบหกปี แล้ว ต้องไปเป็นหมออินเทิร์นใช้ทุนอีกสามปี นี่พึ่งทำงานได้แค่ปีกว่าเท่านั้น” ณิชมน เล่าโดยสายตามองถนนเบื้องหน้า ไม่เห็นว่าสีหน้าเพื่อนดูหม่นเศร้าไป แววตามีร่องรอยผิดหวัง “ตอนฟางโทรมาบอกว่าจะกลับเมืองไทย แนนเลยขอคุณน้ากับพี่เนตรลาพักร้อน จะได้พาฟางตะลุยเที่ยวให้สนุกไปเลย” ณิชมนเปลี่ยนเรื่องคุย หันมาบอกเสียงสดใส “ฟางเคยบอกว่า สนใจอาหารสตรีทฟู้ดส์ใช่มั้ย” “ใช่ เห็นเขารีวิวกันเยอะ ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว บอกว่ามีสตรีทฟู้ดส์อร่อย ๆ เยอะแยะในกรุงเทพฯ” “ใช่ เมืองไทยของกินเยอะมาก เยอะจนกินไม่ไหว” “อยากกินทุเรียนด้วย อยู่ที่โน่นมันแพงกินทีไม่จุใจ ฟางตั้งใจมากินทุเรียนที่เมืองไทยให้สะใจเลย อาหารผลไม้ที่ไหนก็สู้ของไทยไม่ได้” “ได้เลย แนนจะพาฟางไปตะลุยกินทุกอย่างที่ฟางอยากกิน แนนเป็นทุเรียนเลิฟเวอร์เหมือนกัน ถ้างั้นเตรียมท้องไว้รอเลย” ทั้งสองหันมายิ้มแจ่มใสให้กัน กับแผนการตะลุยกินตะลุยเที่ยว ต้อนรับปาลิดากลับมาอยู่เมืองไทย หลังจากไปอยู่อเมริกานานถึงเจ็ดปีกว่า ณิชมนรับปาลิดามาจากสนามบิน แวะเอากระเป๋าส่วนหนึ่งไปเก็บไว้ที่คอนโดมิเนียม ซึ่งเคยเป็นที่พักของปาลิดากับแม่ และกลับมาเมืองไทยรอบนี้ยังพักที่เดิม แล้วมาบ้านของณิชมน หลังจากปาลิดาไปไหว้ทักทายกับพ่อแม่และคุณย่าของณิชมนแล้ว หิ้วกระเป๋าเดินตามเพื่อนขึ้นไปยังห้องนอนบนชั้นสองของตึกหลังใหญ่ “วันนี้ฟางนั่งเครื่องมาไกล พักผ่อนก่อนพรุ่งนี้แนนจะพาไปตะลุยกินสตรีทฟู้ดส์ โอเคนะ” ปาลิดายิ้มพยักหน้า ณิชมนพาเพื่อนเข้ามาในห้องนอนส่วนตัว “ฟางพักบ้านแนนก่อน รอให้อาฝ้ายมาถึงอีกคนค่อยไปอยู่คอนโด แล้ว อาฝ้ายจะตามมาวันไหน” ณิชมนหันมาถามเมื่อเข้ามาในห้องนอนแล้ว “มะรืนนี้ แม่รู้ว่าฟางอยากกลับเมืองไทยเร็ว ๆ เลยบอกให้ฟางกลับก่อน แม่เขายังเคลียร์ธุระไม่เสร็จ” ปาลิดาเอากระเป๋าไปวางบนเตียงก่อน “ตามสบายเลยนะฟาง ห้องนอนแนนก็เหมือนห้องฟาง หยิบของใช้ได้ทุกอย่างไม่ต้องเกรงใจ” ณิชมนยืนอยู่ข้างเตียงนอนกว้างขนาดหกฟุตผายมือบอกเพื่อน ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ภายในห้องตกแต่งสีหวานสดใสออกไปทางโทนสีชมพูสมกับเป็นห้องนอนหญิงสาว “คุณแม่สั่งแม่ครัว ให้ทำอาหารของชอบของฟางเป็นพิเศษ เพื่อต้อนรับฟาง โดยเฉพาะเมนูผัดผักรวมกุ้งสดของชอบของฟาง รวมทั้งเมนูกุ้งอย่างอื่นด้วย” ปาลิดายิ้มสดใส ทุกคนในครอบครัวของณิชมนดีต่อเธอไม่เคยเปลี่ยน “คุณป้าใจดีจัง จำได้ด้วยว่าฟางชอบอะไร” “คุณแม่เขารักฟางเหมือนลูกคนหนึ่งเลย เขาเคยบอกแนนว่า เขารู้สึกว่าตัวเองมีลูกสาวคนเล็กสองคน คุณแม่เล่าว่าเราสองคน เคยเปลี่ยนกันดูดนมแม่ฟางดูดนมคุณแม่ของแนน ส่วนแนนดูดนมแม่ของฟาง” “เรื่องนี้แม่เคยเล่าให้ฟางฟังเหมือนกัน” ปาลิดานั่งลงบนเตียงมองดูภายในห้องนอนด้วยความรู้สึกคุ้นเคย เวลากลับมาเมืองไทยเธอมักจะมาค้างกับเพื่อนที่นี่เป็นประจำ คุ้นเคยเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง “ตามสบายเลยนะฟาง แนนขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อน” ปาลิดายิ้มให้เมื่อเพื่อนหันมาบอกก่อนเดินไปหยิบชุดจากในตู้เสื้อผ้าแล้วเข้าห้องน้ำ ปาลิดา เปิดกระเป๋าตัวเองหยิบชุดออกมาวางเตรียมไว้เปลี่ยนหลังอาบน้ำ ลุกเดินอ้อมเตียงไปที่โต๊ะตั้งโคมไฟข้างเตียง เพื่อจะวางโทรศัพฺท์กับกับกระเป๋าสะพายข้างใบกะทัดรัด เห็นกรอบรูปวางอยู่ เป็นรูปถ่ายของณิชมนยืนคู่กับอินทิราทั้งคู่สวมเครื่องแบบนักเรียนมัธยมปลาย ใบหน้าคนในรูปยิ้มกว้างแข่งกับณิชมนทำให้ปาลิดา ถึงกับชะงัก เอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปนั้นมาดูใกล้ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไป “พี่อิน” พึมพำเบา วางมือแตะตรงใบหน้าของคนในรูปแผ่วเบา มองหน้านั้นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย น้ำตาซึมคลอออกมา นานถึงเจ็ดปีกว่าที่ไม่ได้เจอหรือรู้ข่าวคราว มีแต่ความรู้สึกคิดถึงที่อัดแน่นจนล้นอยู่ในใจ นี่เป็นเหตุผลสำคัญทำให้เธอตัดสินใจกลับเมืองไทยเมื่อเรียนจบ กลับมาเพื่อมาหาคนที่เธอไม่เคยลืมเลย แม้จะหวั่นใจว่าอีกฝ่ายอาจลืมไปแล้ว “แนนอาบน้ำเสร็จแล้ว ฟางจะใช้ห้องน้ำต่อตามสบายเลย” ณิชมนเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำสวมชุดลำลองอยู่กับบ้าน เป็นเสื้อกางเกงผ้าเนื้อนิ่มทรงหลวมสบาย ร้องบอกเพื่อนที่ยืนดูรูปอยู่ ปาลิดารีบปัดน้ำตาตัวเองทิ้งรวดเร็วไม่ต้องการให้เพื่อนเห็น แล้ววางกรอบรูปไว้ที่เดิม พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติหันไปยิ้มกับเพื่อน “ฟางมานอนที่ห้องแนนหลายครั้ง แต่ไม่เคยเห็นรูปนี้เลย” “อ๋อ...” ณิชมนมองดูรูปแล้วยิ้ม เดินเข้ามาหา “เมื่อเดือนที่แล้ว แนนค้นรูปเก่า ๆ ดูแล้วเจอรูปนี้ เลยเอาไปให้เขาขยายพร้อมใส่กรอบให้ ไม่เจอพี่อินนานเจ็ดปีกว่าแล้ว ป่านนี้ไม่รู้พี่อินเป็นยังไบ้าง พี่อินคือรักแรกของแนน” ณิชมนหยิบกรอบรูปขึ้นดู ใบหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้มสดใสเมื่อมองใบหน้าของคนในรูป ทำให้ปาลิดาได้แต่ยิ้มขำ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีณิชมนยังดูหลงใหลคลั่งไคล้รุ่นพี่คนนี้ไม่เปลี่ยน และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ปาลิดาไม่กล้าถามข่าวอินทิราจากณิชมน รู้ว่าเพื่อนชอบรุ่นพี่คนนี้มากกลัวว่าจะทำให้เพื่อนเสียใจ “ฟางไปอาบน้ำดีกว่าไป ใกล้ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว” ปาลิดาพยักหน้าเดินไปหยิบเสื้อผ้าตัวเองเพื่อเข้าห้องน้ำ “คิดถึงพี่อินจังเลย ไม่รู้เราจะได้เจอกันอีกมั้ย” ณิชมนพึมพำกับคนในรูปก่อนวางกรอบรูปไว้ที่เดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD