บทนำ

1857 Words
บทนำ  ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หญิงสาวใบหน้าเศร้าจ้องมองร่างหหญิงชราที่นอนแน่นิ่งอยู่ในห้องพักฟื้นหลังจากที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จออกมา มะลิวัลย์กุมมือของผู้เป็นยายด้วยความรู้สึกเจ็บปวดแทน ถ้าหากว่าเธอแบ่งความเจ็บปวดมาได้ หญิงสาวจะไม่ปฏิเสธเลยสักนิดเพราะชีวิตของเธอมีเพียงยายที่เป็นญาติคนเดียวของเธอที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้  มะลิวัลย์นับแต่จำความได้เธอก็อาศัยอยู่กับยายมาตลอด เพราะพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุเมื่อสิบห้าปีก่อน ในตอนนั้นเธอยังไม่ทันสามขวบดีด้วยซ้ำ ตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ขาดความรักหรือความอบอุ่นเพราะผู้เป็นยายของเธอมอบทั้งความรักความอบอุ่นให้แก่เธอเสมอมา เพราะเหตุนี้มลิวัลย์ถึงรักหญิงชราคนนี้มาก มากจนสามารถทำทุกอย่างเพื่อจะให้ยายของเธอได้รับรักษาจากโรงพยาบาลดีๆ  "เป็นไงบ้างจ๊ะหนูมะลิ ยายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาบ้างรึยัง?"เสียงอ่อนโยนเอ่ยถามออกมาทำให้หญิงสาวหันหน้าไปมองก่อนจะยกมือสวัสดีหญิงวัยกลางคนดูมีฐานะ  "ยังเลยค่ะคุณหญิง"เธอเอ่ยบอกออกไปด้วยแววตาแสนเป็นห่วงผู้เป็นยายที่ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วก็ยังไม่รู้สึกตัวเลย  "ไม่ต้องห่วงนะยังไงยายแววก็ต้องหายดี ฉันไปคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ของยายหนูมะลิมาแล้ว คุณหมอบอกว่าอาการตอนนี้ของยายหนูพ้นวิกฤตแล้วเหลือแต่พักฟื้นสักระยะก็หายดีแล้ว"มะลิวัลย์ยกมือไหว้ขอบคุณผู้มีพระคุณอีกครั้ง เพราะคุณหญิงผกาแก้วถึงทำให้เธอมีทางรักษายายแบบนี้ หญิงวัยกลางคนมองเด็กสาวมารยาทอ่อนหวานด้วยรอยยิ้ม เขารู้จักสองยายหลานนี้มานานเพราะครอบครัวเธออาศัยอยู่บ้านหลังเล็กข้างๆ บ้านคุณพ่อของเธอ ยามที่กลับไปเยี่ยมคุณพ่อก็มักจะเห็นสองยายหลานเสมอ  ด้วยคำบอกเล่าของคนเป็นพ่อว่าเด็กสาวคนนี้นิสัยดีแถมรู้คุณคน ไม่เคยนอกลู่นอกทางตั้งใจเรียนเวลาว่างก็มารับจ้างทำงานในสวนของชายชราบ่อยครั้ง เพราะแบบนี้คุณหญิงผกาแก้วจึงนึกเอ็นดูในตัวของมะลิวัลย์ พอรู้ว่ายายของเด็กสาวป่วยหนักต้องรีบเข้ารักษาเธอก็ไม่รีรอรีบยื่นมือเข้ามาช่วยทันที  "ขอบคุณนะคะคุณหญิงที่ช่วยหนูกับยายสิ่งที่คุณหญิงทำให้หนู หนูไม่เคยลืมเลยหนูจะตอบแทนบุญคุณคุณหญิงที่ช่วยเหลือหนูนะคะ ไม่ว่าจะเป็นงานในบ้านหรืออะไรที่คุณหญิงต้องการหนูทำได้หมด"หญิงสาววัยแรกแย้มเอ่ยออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง สำหรับเธอแล้วหญิงวัยกลางคนคนนี้เป็นเสมือนเจ้าชีวิตเธอก็ว่าได้  คุณหญิงผกาแก้วอมยิ้มออกมาให้กับความรู้คุณคนของเด็กสาว ก่อนเธอจะมีความคิดบางอย่างขึ้นมาในหัว คุณหญิงผกาแก้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักใจกับความคิดของเธอในตอนนี้มันจะดูเห็นแก่ตัวไปไหมที่เธอจะขอร้องให้เด็กสาวคนนี้แต่งงานกับลูกชายเธอ แต่ทว่าอีกใจก็ไม่กล้าพูดออกไปเพราะเด็กสาวตรงหน้านี้ยังเด็กนักอายุห่างจากบุตรชายของเขาอยู่หลายปี  "มะลิ"ไม่ทันที่หญิงวัยกลางคนจะเอ่ยอะไรออกมาเสียงของยายแววก็ดังขึ้นมาเสียก่อน พอเด็กสาวเห็นว่ายายของตนรู้สึกตัวก็ดีใจจนน้ำตาไหลออกมา ร่างเล็กรีบขยับเข้าไปหาร่างของหญิงชราทันที  "ยาย มะลิอยู่นี้จ๊ะยาย ยายเจ็บยายปวดตรงไหนบอกมะลินะจ๊ะ"หญิงสาวส่ายหน้าไปมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือมาลูบศีรษะของหลานสาวอย่างอ่อนโยน "ยายไม่เป็นอะไรแล้วแค่เห็นหลานยายก็หายเจ็บหายปวดเลย"มะลิวัลย์สะอื้นไห้ออกมาก่อนจะกอดร่างของผู้เป็นยายอย่าง ๆ เบา ๆ เธอไม่อยากคิดว่าถ้าชีวิตนี้ของเธอไม่เหลือหญิงชราคนนี้แล้วเธอจะเป็นยังไงต่อไป  ณ เชียงใหม่ ร่างสูงโปร่งของคณากรที่ย่างกายเข้ามาในร้านอาหารของครอบครัว ในตอนนี้ชายหนุ่มมาดูแลสาขาที่เชียงใหม่อันที่จริงที่นี่ไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงแล้วแต่ที่ชายหนุ่มยับอยู่ที่นี้เพราะยังไม่อยากกลับไปที่บ้าน กลับไปทีไรเขาก็ต้องมานั่งฟังคำพูดของคนเป็นมารดาทุกครั้งว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน ด้วยอายุที่มากขึ้นทุกวันไม่แปลกที่คุณหญิงผกาแก้วจะเป็นห่วงบุตรชายเรื่องนี้ แต่ผู้ชายอย่างคณากรไม่เคยคิดอยากจะมีบ่วงคล้องคอเพราะชีวิตในตอนนี้เขารู้สึกว่าก็ดี ไม่ต้องผูกมัดอยากทำอะไรก็ทำเพราะสำหรับเขาคำว่ารักมันไร้สาระที่สุด สายตาคมเข้มจ้องมองกรอบรูปที่คว่ำหน้าเอาไว้ก่อนที่มือหนาของชายหนุ่มจะจับสิ่งนั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง แววตาของคณากรจ้องมองรูปภาพนั้นด้วยความรู้สึกต่าง ๆ นา ๆ ผู้หญิงยิ้มหวานที่อยู่ในรูปตือแฟนเก่าของเขาเอง วิเวียน ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเขานั้นยกหัวใจทั้งดวงให้กับเธอคนนี้ แต่ทว่าความรักของเขาก็เหมือนสิ่งไร้ค่าเมื่อจู่ๆ หญิงสาวก็ขาดการติดต่อเขาไปหาเธอที่บ้านก็พบกับความว่างเปล่าเธอและครอบครัวย้ายไปอยู่ที่ไหนเขาก็ไม่อาจรู้ได้ ในหัวของชายหนุ่มมีคำถามมากมายว่านี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมหญิงสาวจู่ๆ ก็หายไปไม่แม้แต่จะโทรมาหาเขานอกจากข้อความสั้นๆ ที่ส่งมาว่าขอเลิกกับเขาและบอกว่ากำลังจะแต่งงานกับผู้ชายอีกคน สิ่งที่เกิดขึ้นมันสร้างความเจ็บปวดให้แก่ชายหนุ่มไม่น้อย  "หึ! ผู้หญิงทุกคนมันก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละไอ้กร!"เขาพูดพร้อมเก็บกรอกรูปนั้นเอาไว้ในลิ้นชักไม่อยากจะเห็นใบหน้าผู้หญิงคนนั้นอีก  "คุณกรค่ะ มีลูกค้าบอกว่าเป็นเพื่อนคุณกรมาที่ร้านคะ"พนักงานเข้ามาบอกชายหนุ่มทำให้คณากรนึกแปลกใจไม่ได้ว่าใครกันมาหาเขา ร่างสูงโปร่งรีบเดินออกไปทันทีพอเห็นหน้าณพวัฒน์รอยยิ้มของคณากรก็เผยออกมาทันที  “ไอ้ณพ สบายดีนะไม่ได้เจอกันนานเลย”  “สบายดี มึงล่ะเป็นไงบ้างพอย้ายมาอยู่ที่นี่ไม่ได้เจอกันเลย”  “ก็ดี ตามประสาเอ่อนั้นเมียมึงเหรอ?”คำพูดของผู้ชายทั้งสองทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ยิ้มทักทายให้เพื่อนของชายหนุ่ม   “อืม นี่เอยเมียกูส่วนคณากรเพื่อนพี่สมัยเรียน”  “สวัสดีค่ะ”หญิงสาวยกมือสวัสดี คณากรรับไหว้ก่อนจะเชิญเพื่อนเก่าไปนั่งที่โต๊ะสั่งให้พนักงานเอาน้ำมาเสิร์ฟก่อนจะนั่งพูดคุยกันตามประสาเพื่อนเก่า   “นี่มึงมาทำอะไรที่นี่ว่ะ?”  “มาง้อเมีย โอ๊ยเอยพี่เจ็บนะตีมาได้”ณัชชายกมือมาตีแขนณพวัฒน์ที่พูดออกไปแบบนั้น ท่าทางของสองสามีภรรยาอยู่ในสายตาของคณากร เขาอดไม่ได้ที่จะขำออกมา เมื่อก่อนที่เคยเรียนด้วยกันณพวัฒน์ไม่เคยแลตามองผู้หญิงคนไหนไม่ว่าจะฝรั่งหรือเอเชียเขาก็ไม่เคยสนใจเลย แต่พอมาเจอกันอีกครั้งกลายเป็นว่าณพวัฒน์แต่งงานไปก่อนเขาเสียอีก   “แล้วพี่จะพูดแบบนั้นไปทำไมกันคะ”หญิงสาวทำหน้ามุ่ยก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง   “ก็คนกันเองทั้งนั้น อย่าถือสานะอารมณ์คนท้องก็งี้ล่ะ”คณากรได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้างออกมา   “ดีใจด้วยนะเว้ย ไม่คิดว่าจะเป็นมึงคนแรกที่มีเมียมีลูกก่อน ยินดีด้วยนะครับน้องเอย”  “ขอบคุณค่ะคุณคณากร”  “แล้วมึงล่ะ เมื่อไหร่จะแต่งงานกับแฟนวะชื่ออะไรนะวิเวียนไหม?”ทันทีที่เอยชื่อผู้หญิงอีกคนสีหน้าของคณากรก็เปลี่ยนไปทันที ทำให้ณัชชาที่นั่งอยู่ข้างๆ สะกิดชายหนุ่มไม่ต้องพูดต่อ ณพวัฒน์หันมามองหญิงสาวก่อนจะทำหน้าไม่เข้าใจก่อนคนตัวเล็กจะหยิกขาชายหนุ่มให้มองไปยังเพื่อนของเขาที่ยังทำหน้าเงียบไป  “เอ่อ กูขอโทษนะไม่รู้วะ”  “ไม่เป็นไร อีกอย่างมึงไม่ผิดเสียหน่อยกูกับวิเวียนไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว คือว่าเธอไปมีผู้ชายคนใหม่ส่วนกูก็ทำงานไม่มีเวลาไปหาที่ไหนหรอก”  “มึงโอเคนะ”ที่ณพวัฒน์ถามแบบนี้เพราะรู้ดีว่าคณากรรักวิเวียนมากขนาดไหน นึกว่าแต่จะแต่งงานกันไปแล้วทีไหนได้กลับเลิกรากันไปนานแล้ว   “อย่าทำหน้าแบบนั้นนานๆ เจอกันอยากกินอะไรก็เลี้ยงเอง”เขาควักมือเรียกพนักงานให้มาหาที่โต๊ะก่อนจะยื่นเมนูให้สองหนุ่มสาว  “ไม่ต้องเลี้ยงกูตั้งใจมาอุดหนุน”ณพวัฒน์หันไปพูดคุยกันหญิงสาวก่อนจะเลือกอาหารในเมนู ร้านของคณากรเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในเรื่องของรสชาติที่อร่อยไม่เป็นลองใคร ยิ่งครอบครัวของคณากรสืบสายมาจากผู้ดีเก่าทำให้อาหารของร้ายชายหนุ่มเป็นต้นตำรับจากชาววัง   หลังจากที่สั่งอาหารไปหลายอย่างสองเพื่อนเก่าก็นั่งพูดคุยกันต่อ โดยที่ณัชชาไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยเพราะพอได้ยินเรื่องสมัยเรียนของณพวัฒน์เธอก็อดที่จะขำเขาไม่ได้ เพราะจากคำพูดของคณากรนอกจากเรียนแล้วณพวัฒน์ก็ไม่สนใจใครเลย จนมีบางครั้งคนเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นเกย์   “คุณกรครับ คุณหญิงโทร.มาครับ”เสียงพนักงานหยิบโทรศัพท์ที่สั่นอยู่มาให้เจ้านายหนุ่ม คณากรเอ่ยปากขอตัวก่อนจะไปรับสายของคนเป็นแม่ พอเดินกลับมาสีหน้าบอกบุญไม่รับของเขาก็เผยออกมาอย่างชัดเจน   “เป็นไรไปวะ?”ณพวัฒน์เห็นสีหน้าเพื่อนก็อดถามไม่ได้   “แม่กูให้กลับบ้านไปแต่งงานวะ ไม่รู้เอาเด็กที่ไหนมาให้กู บอกถ้าไม่แต่งไม่ยกมรดกให้อีก ครั้งนี้เหมือนเอาจริงด้วย”สีหน้าเซ็งของคณากรเผยออกมาทำให้ณพวัฒน์ตบบ่าเพื่อนอย่างปลอบใจ   “กูว่ามึงลองไปคุยกับแม่ก่อนดีไหมอาจจะไม่ถึงขนาดนั้นก็ได้”  “รู้จักแม่กูน้อยไปน่ะสิ”คณากรบ่นออกมาอย่างหัวเสียเพียงแค่เขาไม่ยอมแต่งงานมารดาอย่างคุณหญิงผกาแก้วก็จัดหาผู้หญิงมาให้เขาเสียแล้ว แค่คิดก็อยากจะบ้าตาย          
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD