ตอนที่1 คำขอร้อง

1725 Words
ตอนที่1 คำขอร้อง มะลิวัลย์นั่งทำหน้าวิตกกังวลเมื่อนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของคุณหญิงผกาแก้ว ที่จู่ๆ คุณหญิงก็มาขอร้องให้เธอช่วยเหลือถ้าเป็นอย่างอื่นเธอคงไม่คิดมากขนาดนี้แต่ทว่าคำขอร้องของผู้มีพระคุณคือการให้เด็กสาวแต่งงานกับบุตรชายคนเดียวของหญิงวัยกลางคน เด็กสาวพอรู้มาว่าคุณหญิงผกาแก้วมีลูกชายคนนึงซึ่งเธอเคยเห็นเพียงไม่กี่ครั้งในตอนนี้ผู้ชายคนนั้นไปเยี่ยมบิดาของคุณหญิงผกาแก้ว เรียกได้ว่าเด็กสาวไม่สนิทชิดเชื้ออะไรเลยสักนิดแต่ทว่าพอได้ยินคำขอร้องของผู้มีพระคุณเธอก็แทบไม่กล้าปฏิเสธออกไป สิ่งที่หญิงวัยกลางคนทำให้เธอกับยายของเธอมันมากจนมะลิวัลย์ยอมตกลงที่จะทำตามที่คุณหญิงต้องการ แต่ในเวลานี้คนตัวเล็กกลับมานั่งเครียดอยู่คนเดียวอย่างอดไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะยอมรึเปล่าหรือถ้ายอมเธอก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะมีความสุขไหมถ้าต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก “เฮ้อ มะลิแกเลือกทางที่ถูกต้องแล้วสิ่งที่คุณหญิงทำให้แกชาตินี้ก็คงตอบแทนไม่หมด”อีกอย่างคำพูดของคุณหญิงผกาแก้วไม่ใช่มีเพียงแค่นั้นถ้าเธอแต่งงานกับบุตรชายของหล่อน มะลิวัลย์ก็ไม่ต้องหยุดเรียนอย่างที่เคยคิดเอาไว้ เด็กสาวยังคงได้เรียนต่อจนจบ ไหนจะปีหน้าที่เธอต้องขึ้นมหาลัยแล้ว ความฝันที่เด็กสาวอยากเรียนในคณะในฝันอยากทำงานในสายที่จบมาจะได้มีเงินเลี้ยงดูหญิงชราต่อไปเธอจึงตอบตกลงคุณหญิงผกาแก้วทันที เช้าของอีกวัน มะลิวัลย์มาเฝ้าหญิงชราเฉกเช่นเคยเธอนั่งอ่านหนังสือไปด้วยเพราะช่วงนี้ถึงไม่ได้ไปเรียนที่โรงเรียนแต่เธอก็ต้องเรียนออนไลน์อยู่ดี การอ่านหนังสือเป็นที่สิ่งที่สำคัญมากถ้าหากว่าเธออยากจะเข้ามหาลัยที่ใฝ่ฝันเอาไว้ เอี๊ยด เสียงเปิดประตูเข้ามาในห้องพักฟื้นที่คุณหญิงผกาแก้วจัดไว้ให้กับยายแวว ก่อนที่คนตัวเล็กจะหันหน้าไปมองที่ประตูพอเห็นว่าเป็นผู้มีพระคุณเด็กสาวก็รีบยกมือไหว้ทักทายทันที “ทำอะไรอยู่จ๊ะหนูมะลิ สะดวกคุยกับฉันหน่อยไหม?” “หนูอ่านหนังสืออยู่ค่ะ สะดวกคุยค่ะคุณหญิง”มะลิวัลย์บอกออกไป ทั้งสองเดินลงมาโซนอาหารในโรงพยาบาลของเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนที่คุณหญิงผกาแก้วจะพูดบอกว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉันคุยกับลูกชายแล้วทางนั้นคงไม่ปฏิเสธอะไรที่มาวันนี้ฉันอยากถามหนูว่าหนูเต็มใจจริงๆ ใช่ไหมหนูมะลิ?”ถึงเธออยากให้บุตรชายแต่งงานเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายอาลัยอาวรณ์อดีตคนรักที่เคยทอดทิ้งไปแต่ทว่าเธอก็อยากได้ยินจากคนตัวเล็กอีกครั้งว่าเต็มใจที่จะแต่งงานกับบุตรชายของเธอจริงๆ เด็กสาวก้มหน้าลงก่อนจะตอบออกไปอย่างไม่คิดอะไรมากเพราะเรื่องนี้เธอไตร่ตรองเอาไว้แล้ว “ค่ะ มะลิเต็มใจ”พอได้ยินอย่างนั้นคุณหญิงผกาแก้วก็ยิ้มออกมา เธอไม่ใช่พวกที่แบ่งชั้นวรรณะอะไรถึงมะลิวัลย์เป็นเด็กที่ยากจนแต่มารยาทเรียบร้อยการกตัญญูรู้คุณมันทำให้เธอนึกเอ็นดูเด็กสาวตรงหน้านี้ไม่น้อย “ต่อไป หนูมะลิเรียกฉันว่าแม่นะจ๊ะเพราะตอนนี้หนูเป็นสะใภ้ของโขมศิริกุลแล้ว”คำพูดของหญิงวัยกลางคนมันทำให้เด็กสาวตื้นตันใจไม่น้อย คำว่าแม่ที่เธอปรารถนาที่จะเอ่ยออกมาตลอดในชีวิตในวันนี้มีคนมาบอกให้เธอเรียกว่าแม่แล้ว “มะ แม่ คุณแม่”เด็กสาวอดน้ำตาซึมออกมาไม่ได้ คุณหญิงผกาแก้วเห็นท่าทางของว่าที่ลูกสะใภ้ก็นึกเอ็นดูมากขึ้นกว่าเดิมเธอลุกขึ้นไปโอบกอดร่างบางเอาไว้แน่น “ต่อไปแม่คนนี้จะดูแลหนูเองนะจ๊ะ ลูกสะใภ้ของแม่”อ้อมกอดที่อบอุ่นนั้นทำให้เด็กสาวรู้สึกมีความสุขไม่น้อย เธอเคยได้ยินโบราณว่าการที่มีสามีดียังไม่ดีเท่ามีแม่สามีดี การที่ได้เป็นสะใภ้ของคุณหญิงผกาแก้วอาจจะเป็นเรื่องดีในชีวิตเธอก็ได้ แต่ทว่าใครเลยจะรู้ว่าการที่เธอแต่งงานกับคณากรมันคือการพาตัวเองเดินลงสู่นรกดีๆ นี่เอง เพราะหลังจากที่เธอได้เจอหน้าว่าที่สามีพอเดินทางกลับมาชายหนุ่มก็ดีไม่พอใจทันทีที่คนเป็นแม่จับเขาให้แต่งงานกับเธอ “ผมไม่แต่งกับยัยเด็กนี่ คุณแม่คิดอะไรอยู่ครับถึงให้ผมแต่งงานกับเด็กที่ยังไม่จบมัธยมปลาย ผมไม่อยากได้เมียเด็ก!”สายตาดุดันของคณากรมองมาทางคนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งก้มหน้าตัวสั่นไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาเลยสักคำ “กร ทำไมต้องขึ้นเสียงใส่น้องด้วยมาถึงก็โวยวายใส่แม่แบบนี้เลยเหรอฮะ?”เสียงหญิงวัยกลางคนเอ่ยถามบุตรชายอย่างไม่พอใจ ทันทีที่คณากรกลับมาถึงก็โวยวายต่อว่าพาดพิงไปยังเด็กสาวต่างๆ นาๆ “ผมไม่แต่งยังไงก็ไม่แต่ง!” “ต้องแต่ง แม่ไม่ยอมถ้ากรไม่แต่งแม่จะยกมรดกทุกอย่างแบ่งให้หนูมะลิและมูลนิธิจะไม่ให้กรแม้แต่แดงเดียว!”ชายหนุ่มได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งไม่พอใจผู้หญิงคนนี้ทำอะไรกับแม่ของเขาถึงได้มีความคิดแบบนี้ “คุณแม่ครับ!” “แม่อายุเยอะขึ้นทุกวันทำเพื่อแม่แค่นี้ไม่ได้หรอกร หรือว่ากรยังอาลัยอาวรณ์ผู้หญิงคนนั้นอยู่อีก?” “ไม่ใช่เพราะวิเวียน!” “ถ้าไม่ใช่ก็แต่งงานกับหนูมะลิ!”คณากรได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เขาคงปฏิเสธไม่ได้สินะ ชายหนุ่มหันหน้าไปมองคนตัวเล็กอีกครั้ง เด็กคนนี้ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรแต่ติดตรงอย่างเดียวคืออายุของเขาและเธอคนนี้ พอมานับเขาอายุแล้วห่างกันถึงสิบสี่ปีเชียวนะ เกิดมาชาตินี้คณากรไม่คิดว่าตัวเองต้องมาแต่งงานกับคนอายุห่างจากเขาได้มากขนาดนี้ “ยังไงแม่ก็ให้ผมแต่งให้ได้ใช่ไหมครับ?” “ใช่ ถ้าไม่ใช่คนนี้แม่ก็ไม่ต้องการใครมาเป็นสะใภ้อีก”ไม่รู้เด็กคนนี้มีดีอะไรถึงไม่ให้แม่ของเขาหลงขนาดนี้ ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วเขาก็คงขัดใจมารดาไม่ได้สินะไม่สู้แต่งไปก่อนค่อยต่างคนต่างอยู่ “แต่งก็แต่ง”คุณหญิงผกาแก้วได้ยินคำพูดของบุตรชายก็ยิ้มดีใจออกมาทันที เธอรู้ดีว่าคณากรรักเธอมากคงยอมทำเพื่อเธออยู่แล้ว “กรลูกแม่ แม่ดีใจที่สุดเลยที่ลูกยอมแต่งงานกับหนูมะลิ”หญิงวัยกลางคนเข้ามากอดบุตรชายก่อนจะส่งยิ้มมาให้คณากร “แม่จะรีบหาฤกษ์หายามลูกชายแม่จะได้เป็นฝั่งเป็นฝาสักที” “แต่ผมมีข้อแม้”ชายหนุ่มพูดขึ้นทำให้คุณหญิงผกาแก้วขมวดคิ้วเข้าหากันทันที “ข้อแม้อะไรลูก?” “ผมจะไปอยู่ที่เชียงใหม่หวังว่าแม่จะไม่ห้ามผม เพราะผมวางแพลนว่าจะทำธุรกิจกับเพื่อนที่นั้น”อยากให้แต่งก็จะแต่งแต่เขาจะไม่อยู่ที่นี่แน่นอน ดีเสียอีกจะได้ไม่ต้องอยู่กินอะไรกับเด็กใจแตกนั้น “ก็ได้เดี๋ยวแม่จัดการเรื่องโรงเรียนให้หนูมะลิเอง ส่วนหนูมะลิไปอยู่เป็นภรรยาพี่เขาไม่ตองห่วงทางนี้นะจ๊ะแม่จะดูแลให้เป็นอย่างดี” “อะไรนะคะหนูต้องไปที่นั้นเหรอคะ?” “นั่นสิแม่ จะให้หนูมะลิอะไรของแม่ไปกับผมทำไมเรียนอยู่นี้ก็ดีอยู่แล้ว”เป็นครั้งแรกที่มะลิวัลย์เห็นด้วยกับคณากรเธอพยักหน้าตามชายหนุ่มทันที “มีอย่างที่ไหนผัวไปทางเมียไปทาง ไม่รู้แหละถ้าลูกอยากไปอยู่ที่นั้นก็ต้องเอาหนูมะลิไปด้วย”ให้มันได้แบบนี้สิ คณากรถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มากนักอุตส่าห์คิดแผนไว้ได้แม่ของเขาก็ดักเอาไว้ทุกทางเลย “งั้นก็แล้วแต่แม่เลยแล้วกันครับ”คณากรเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยล้า อย่างน้อยมาคิดอีกที่ไปด้วยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเขาจะจัดการให้ยัยเด็กนั่นรีบร้องขอแยกทางกับเขาเลยคอยดู “ดีมากลูกชายแม่ งั้นเดี๋ยวแม่เข้าครัวทำอาหารต้อนรับลูกชายกลับมานะ หนูมะลินั่งคุยกับพี่เขาไปก่อนนะลูก”เด็กสาวจะอ้าปากเรียกคุณหญิงผกาแก้วก็เดินหายไปเสียแล้ว คนตัวเล็กถึงทำได้เพียงก้มหน้าลงเหมือนเดิม ความเงียบปกคลุมอยู่นานมะลิวัลย์ได้ยินแต่เสียงถอนหายใจของคนร่างสูงจากที่ได้ยินก็คงจะเดาไม่ยากว่าผู้ชายคนนั้นไม่พอใจเธออยู่มาก ชายหนุ่มจับจ้องมาที่ร่างเล็กก่อนจะส่ายหัวไปมา เด็กสมัยนี้คิดยังไงกันกับการที่จะแต่งงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลายด้วยซ้ำ “อายุแค่นี้คิดอยากมีผัว อดใจไม่ไหวเลยรึไงยัยเด็กบ้า!”น้ำเสียงดุๆ ของคณากรเอ่ยออกมาทำเอาหญิงสาวที่นั่งอยู่สะดุ้งขึ้นมาทันที “บอกฉันมาทำไมถึงต้องแต่งงานกับฉัน อายุแค่นี้แทนที่จะตั้งใจเรียนอยากมีผัวขนาดนั้นเลยเหรอฮะ?” “ปะ เปล่านะคะ”น้ำเสียงสั่นเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา “เปล่าอะไร เห็นๆ อยู่ว่าเธออยากแต่งงานกับฉันจนตัวสั่นขนาดไหน แต่จำเอาไว้นะการที่จะเป็นเมียฉันมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกอย่ามาร้องไห้หนีกลับก่อนก็แล้วกัน!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD