จะช่วยยังไงดี

1533 Words
เสียงหอบถี่ของลมหายใจบ่งบอกให้รู้เจ้าของกำลังเหนื่อย เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ ประหนึ่งผีเสื้อราตรีได้รับความกลัวอย่างรุนแรง และมีบาดแผลหลากจุดส่งผลให้เจ็บติดตัวมา สาวเจ้าไม่สนใจแผลฉีกขาดหรือถลอก เหตุทำให้เลือดซึมออกมา ติดชุดเดรสเบาบางสีขาวยาวคลุมเข่าหวังใส่นอนสบาย แต่กลับวิ่งวุ่นหาทางหนีรอดอย่างรีบเร่ง หวังหลุดพ้นจากเขตแดนอเวจี ที่ระยะทางนั้นไกลมากพอควร น่าแปลกในยามนั้น ขณะเธอวิ่งกลับไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่นเลยนอกจากตัวเธอเอง แถมความมืดมิดปกคุลมหนาแน่นจนกลายเป็นอุปสรรคสร้างความน่ากลัวให้มากยิ่งขึ้น เลี่ยงจินตนาการไม่ได้ หากไม่พบสิ่งมีชีวิตบริเวณนั้น แต่มีสิ่งไม่มีชีวิตล่ะ จะทำอย่างไร? มดตะนอยเดินไปข้างหน้า บางครั้งก็เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาสะเปะสะปะแล้วแต่สัญชาตญาณของเท้า เมื่อเจอทางแยกให้ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก้อนเนื้อข้างซ้ายเธอเต้นถี่ รัว และเร็ว ประหนึ่งกลองชุดหนักเข้าไปทุกที และยิ่งเพิ่มทวีคูณก็ตอนสายตาแพ่งเล็งไปยังเบื้องหน้า กับปลายทางที่เห็นแสนจะริบหรี่ “ทำไงดี..” สาวเจ้าพึมพำด้วยความสิ้นหวัง ที่นี่กว้างขวางเกินกว่าที่คิด เดินทางตั้งไกลกลับไม่พบอะไรเลยนอกจากต้นไม้ขนาดเล็กใหญ่เรียงรายตามกัน มิหนำซ้ำเดินกลับไม่ได้ด้วย หนีไม่พ้นติดอยู่ในสภาวะกลับไม่ได้ ไปไม่ถึง มดตะนอยเริ่มรู้สึกขาล้าและแสบทรวงอกก็ตอนเดินไปอีกสิบก้าว การหายใจเริ่มติดขัด ลำคอแห้งตีบและเจ็บราวกับมีดทิ่มแทงตอนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไป ใช่ เธอขาดน้ำ หิวโหยเสมือนไม่ได้ดื่มมานานหลายวัน ขาคู่เริ่มชะลอพลันหยุดก็ตอนได้ยินเสียงประหลาด สาวเจ้าฝ่าความมืดมองหาสิ่งนั้น สวบ สวบ สวบ ซึ่งคล้ายเสียงของคนเดินออกมาจากที่ไหนสักที่ ก่อนจะขึงตาก็ตอนเห็นเจ้าของเสียงโผล่มาจากมุมมืด เขามีรูปร่างสูง และเมื่อยิ่งเข้ามาใกล้ ดวงตาคู่นั้นก็ยิ่งเบิกกว้างมากขึ้น เนื่องจากเธอกับเขาเคยพบเจอกันมาแล้วครั้งหนึ่ง..ที่มหาลัย แต่แล้วไม่ทันได้ขยับปาก ร่างของเธอกลับเรียกความเป็นธรรมเสียก่อน มันหมดฤทธิ์และทรุดลงไปกลางคัน “นาย..” สิ่งสุดท้ายที่ได้สัมผัสทันตาจะปิดลงก็คือท่อนไม้ที่คล้ายแขน และกลิ่นน้ำหอมบางเบาโชยมาจากตัวเขา “คราวนี้ไม่ได้เก็บแต่หนังสือแฮะ” ในขณะเดียวกัน สงครามกำลังก้มมองภาพนั้นบนหน้าจอโทรศัพท์แล้วเห็นไม่มีอะไรน่าห่วง จึงทำการปิดล็อคหน้าจอลงทันที บวกกับการถูกจับตามองด้วยคนตรงข้ามกัน “พักนี้งานยุ่งหรือคะสก็อต โอลีเห็นคุณเครียดๆ” หล่อนเลิกคิ้วสูง จังหวะเขาเหลือบตาขึ้นมา วางโทรศัพท์ในมือไว้บนโต๊ะ แสดงท่าทางฟึดฟัดให้กับการเสียมารยาท ที่เดินเข้ามาเงียบๆจงใจจะจับผิดของเธอ “ค่อนข้าง แต่ไม่มาก” ก่อนยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ เตรียมจัดการอาหารตรงหน้าที่ยกมาเสิร์ฟเมื่อไม่นานมานี้ แต่ดูเหมือนโอลีเวียจะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ หล่อนผละมือบางออกจากไหล่แกร่ง เดินนวยนาดไปนั่งลงฝั่งตรงข้าม หลังขอตัวไปห้องน้ำระหว่างรอให้อาหารมาเสิร์ฟ “ปีนี้คุณกลับบ้านแม่ตั้งหลายครั้ง ที่นั่นมีอะไรแปลกไปอย่างนั้นเหรอคะ” พลางเปิดประเด็นแรก ที่ เป็นคำถามที่ทำให้เขาชะงัก ละสายตาจากจานมาสบตาหล่อน สีหน้าแฝงความไม่พึงพอใจอยู่ภายในอย่างชัดเจน เขาไม่อยากตอบ เพราะหล่อนมักจะถามต่อในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ชอบหาเรื่องทะเลาะ และบทสรุปคือหล่อนจะต้องโวยวาย สิ่งนั้นไม่สำคัญเท่ากับประเด็นที่ว่าเขามักจะต้องหัวเสียก่อนทุกครั้งไป เมื่อเริ่มการสนทนากับหล่อนได้ไม่ถึงห้านาที “นิดหน่อย” จากนั้นจึงจะก้มลงกินต่อ ไม่สนใจหล่อนอีก เขารู้โอลีเวียเป็นยังไง ถึงจะเป็นผู้หญิงที่มอบสถานะพิเศษให้ และเคยลึกซึ้งกันถึงขั้นมอบความรัก ทว่าพักหลังๆ มักเป็นหล่อนที่สร้างปัญหาให้กับเขา เกิดความฉุนเฉียวไม่สบายใจอยู่เสมอ หนักถึงขนาดไม่ไว้วางใจเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว หญิงสาวเห็นอย่างนั้นจึงเปลี่ยนเรื่อง เมื่อเห็นเขาเริ่มหงุดหงิดเพราะคำถามอันสั้นของหล่อน และไม่อยากให้สิ่งที่ต้องการถูกทำลายภายในพริบตา “ทานเสร็จ พาโอลีไปช็อปหน่อยได้ไหมคะ พอดีกระเป๋าแบรนด์ที่โอลีอยากได้ออกคอลเลคชั่นใหม่ โอลีอยากได้มันเป็นกลุ่มแรก” โอลีเวียยิ้ม หลังประโยคยาวของหล่อนสามารถเรียกความสนใจของเขาให้เหลือบตาขึ้นมาจากชามอาหารได้ “เรื่องแค่นี้เองโอลี คุณอยากได้อะไรก็แค่บอกผม ผมจะให้ลูกน้องไปหามาให้ ไม่เห็นต้องลำบากไปเดินเลือกเองเลย” ทว่า กลับต้องหุบยิ้มทันควัน เมื่อได้ยินคำพูดคล้ายเป็นการขัดขวางทางน้ำเชี่ยว หล่อนวางช้อนลงกระแทกจานก่อนจะนั่งกอดอก “ทำไมคะสก็อต การที่โอลีจะได้ควงคุณเดินไปเดินมานานๆที ให้ใครต่อใครได้อิจฉาเล่น มันทำให้คุณหายใจไม่ออกนักเหรอ” “ผมไม่ถนัดการอวด หรือทำให้ตัวเองกลายเป็นจุดเด่น คุณก็รู้” “สก็อตคะ” “ผมเป็นใคร อยู่ในสถานะสมควรไปเดินเป็นจุดสนใจหรือเปล่า” แต่คนอย่างหล่อนคงทำตามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้นัก หากคนตรงหน้าคือมาเฟียใจร้อน ที่พยายามจะใจเย็น กดอารมณ์ข่มความโกรธได้ดีที่สุด คนเช่นนี้เมื่อถึงจุดระเบิดคงพังย่อยยับไม่เป็นท่า หล่อนจึงเบือนหน้าไปทางอื่น เบ้ปากเหมือนจะร้องไห้แทน “ก็เป็นแฟนโอลีไงคะ..” การกระทำนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงเรียกความใจอ่อนจากสงครามได้ไม่น้อย ทว่าตอนนี้เขาทำเพียงถอนหายใจพรืด แล้วยื่นการ์ดทองที่มีวงเงินสูงให้กับหล่อนแทน “ผมเอง ก็หวังว่าคุณจะได้เป็นไปนานๆ” จากนั้นจึงจะลุกจากโต๊ะแล้วเดินออกไปแบบไม่สนใจหล่อนอีก ปล่อยสาวเจ้านั่งน้ำตาคลออยู่คนเดียว หรี่ตาลงมองสิ่งที่เขาเลื่อนมาให้ ก็ตอนแผ่นหลังเขาลับตาไปไกลแล้ว เขาคงไม่เข้าใจ อันที่จริงหล่อนไม่ได้ต้องการเงินของเขามากไปกว่าเวลาของเขา.. เช้าวันต่อมา.. การหลับยาวนานเกินพอดีปลุกให้เธอตื่น สาวเจ้าค่อยๆปรือตาขึ้นมาพบกับแสงวันใหม่ ความเงียบสงัดจนได้ยินเสียงเครื่องใช้ไฟฟ้าทำให้ต้องถอนหายใจพรืด ทางด้านมดตะนอย เธอกลับมาอยู่ที่เดิมอีกแล้ว คุกที่อุตส่าห์ลงทุนหนีแทบเป็นแทบตาย แต่บทสรุปสุดท้ายคือความพยายามสูญเปล่า “เฮ้อ ให้ตายเถอะ พระเจ้าเขาไม่รักฉัน..” เธอบ่นอุบพร้อมสีหน้าสลด ก่อนหันข้างกลับมาแล้วพบว่าใครคนหนึ่งยืนอยู่ O.O มดตะนอยถ่างตากว้าง เขาอยู่ในท่ามือไพล่หลัง “นาย” “อืม” ร่างสูงพยักหน้าทันทีที่เธอเรียกชื่อ สายตาที่ทอดมองเป็นสายตาของมีคำถาม “ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ” “ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถามคุณ” คาร์สทอดมองเธอราวกับไม่อยากจะเชื่อ จะได้เห็นเธอคนนี้ นักศึกษาที่มีใจรักการอ่าน ชอบหอบมันพะรุงพะรังเกินตัวจนมันตกหล่นเกลื่อนพื้น และเมื่อไม่นานเขาเป็นคนเก็บมันขึ้นมา แลกกับดินสอของเขาหายไปแท่งหนึ่ง “ฉันถูกลักพาตัวมา เอ่อ.. ใครคนหนึ่งที่ฉันไม่เคยรู้จัก” ดวงตาคู่ใสประหนึ่งกระจกช้อนมองมาที่คาร์ส ในนั้นเต็มไปด้วยความโปร่งใส และงุนงงในเวลาเดียวกัน ก่อนขึงขึ้น “นายยังไม่บอกฉันเลย ทำไมนายมาอยู่ตรงนี้ ตรงหน้าฉัน?” “ที่นี่เป็นที่ทำงานของผม” “คะ?” คาร์สพยักหน้า ขณะสายตายังคงจับจ้องเช่นเดิมอยู่ ภายในหัวกำลังครุ่นคิด เมื่อหลายปีก่อนเขาคือหนึ่งในสมาชิกอัลฟา ที่มีสถานะเป็นลูกน้อง ได้ถูกเลือกให้ทำภารกิจเป็นสายลับในคราบนักเรียนแลกเปลี่ยน จวบจนนักศึกษาอย่างที่เธอเห็น เพื่อสอดส่องศัตรู ใครบางคนที่จะนำทางไปสู่หัวหน้าแก๊งหนึ่งซึ่งเคยทรยศและหักหลังเจ้านาย ทว่าตอนนี้กลับไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่ทำ จะไม่เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้ใครในอนาคต อาทิเช่นหญิงสาวตรงหน้าจะไม่ติดร่างแหไปด้วย คาร์สถอนหายใจแผ่ว หลับตาลงอย่างสิ้นหวังพลางยื่นมือสากที่เคยจับอาวุธก่อนจะจับหนังสือไปทาบลงบนกระหม่อมทุยอย่างเบามือ ความอ่อนโยนแผ่ออกมาทางรูขุมขน ความเอ็นดูส่งผ่านแววตาคู่ครั่นคร้ามนั้น “ผม.. จะช่วยคุณยังไงดี”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD