ค่ำนั้นฝนโปรยลงเบา ๆ เสียงหยดน้ำกระทบหลังคาไม้เก่าจนเกิดเสียง ติ๋ง…ติ๋ง ลากยาวชวนให้หัวใจหน่วง เมธาวีนั่งหลังตรงอยู่ตรงโต๊ะกลางบ้าน ไฟสลัวจากโคมตั้งโต๊ะส่องให้เห็นฝุ่นละอองลอยอยู่ในอากาศเหมือนสปอร์ของความทรงจำ เธอเหลือบมองนาฬิกา — เกือบเที่ยงคืนแล้ว แกรก…แกรก…— เสียงฝีเท้าเบาเหมือนเด็กวิ่งภายในบ้านดังขึ้นบนพื้นชั้นสอง ไม้เก่าลั่นทีละแผ่นเหมือนใครกำลังเล่นซ่อนหา เมธาวีขนลุกซู่ เธอหยิบไฟฉายสั่น ๆ ในมือ ก่อนยืนขึ้นช้า ๆ “ใครอยู่ข้างบน…” เธอพึมพำเบา ๆ เหมือนถามตัวเองเสียมากกว่า เมื่อเดินขึ้นบันได เสียงฝีเท้าเงียบลงทันที ราวกับรู้ตัวว่าเธอตามมาแล้ว เธอฮึดหายใจลึกก่อนใช้มือดันประตูห้องเก็บของ เอี๊ยน… บานประตูส่งเสียงครางราวกับไม่อยากให้เปิด ภายในห้องเงียบชื้นและเย็นสะท้าน แม้ข้างนอกจะอับฝน แต่ภายในกลับเหมือนอากาศจากอีกโลกหนึ่ง ไฟฉายส่องไปใกล้กองของเก่า—ตุ๊กตาหมีเย็บแผลบนใบหน้า, ลูกแก้วสีซีด

